คบ 13 ปี แต่ง 3 วัน มีเหตุต้องเลิกเพราะโดนนอกใจ

หลังจากรวบรวมความกล้ามานาน ก็คิดว่าอยากจะตั้งกระทู้นี้ไว้เป็นอุทาหรณ์และเป็นกำลังใจให้กับคนที่เกิดปัญหาในชีวิตคู่ค่ะ
เริ่มเรื่องคือเราเริ่มคุยกะแฟนมาตั้งแต่ปี 2 แต่เริ่มคบกันจริงจังตอนเรียนจบ เพราะรับปากพ่อแม่ไว้ว่าอยากตั้งใจเรียนไม่เขวกับเรื่องความรัก
เค้าเป็นเพื่อนของเพื่อน บังเอิญได้เจอกันตอนไปเที่ยวเค้าท์ดาวน์ปีใหม่ แต่ตอนนั้นต่างคนต่างมีคนคุยอยู่แล้ว เลยไม่ได้พัฒนาความสัมพันธ์ไปมากกว่านี้ จนวันนึง ต่างคนต่างโสดสนิท เพื่อนเลยมาบอกว่าเค้ามาขอเบอร์เราจากเพื่อนนะ เราจะให้มั้ย ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่มีคนคุยแล้วด้วย เลยให้เบอร์ไป จากนั้นเค้าก็โทรหาเราทุกวัน จนเริ่มนัดเจอ ไปกินข้าว ดูหนังกัน แต่ยังไม่เป็นแฟน จนเราเรียนจบ เราไป work and travel ที่อเมริกา 3 เดือน ช่วงนั้นเค้าเมลล์มาหาตลอดและให้สร้อยพร้อมจี้เราไว้เส้นนึง ให้เราใส่ไว้ แล้วคุยกันไว้ว่ากลับมาถึงจะเริ่มคบเป็นแฟน

กลับถึงไทยเราก็เริ่มทำงานเลย พอเริ่มทำงาน เราก็งานหนักมาก กลับบ้านดึกทุกวัน เสาร์อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็แทบจะทำตลอด แต่ก็ได้เจอกันบ้างเวลาที่ได้หยุด คบกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่หวือหวา แต่แฮปปี้ดีมาตลอด จนช่วงชีวิตช่วงนึง เราย้ายกลับไปทำงานใกล้บ้านที่ต่างจังหวัด นั่นเป็นที่มาของการนอกใจครั้งแรก..

ช่วงย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด มีเวลาว่างมากมาย เลยเที่ยวเล่น กิน กะเพื่อน และครอบครัวมาเที่ยวหาบ้าง ทำให้เราละเลยไม่ได้สนใจแฟน โทรมาไม่ค่อยได้รับสาย ไม่ค่อยได้โทรกลับ แต่เค้าก็ยังติดต่อมาตามปกติ มีมาหาบ้างเดือนละครั้ง แต่พอผ่านไปซักพักแค่ไม่กี่เดือน เราก็เบื่อ เพราะงานไม่มีอะไรเลย สบายและว่างจนเรารู้สึกไม่มีค่า เลยเริ่มหางานใหม่ที่กรุงเทพ และสมัครงานองค์กรอิสระแห่งหนึ่งไว้ขำๆ จนสุดท้ายตัดสินใจกลับกรุงเทพเพราะได้งานบริษัทญี่ปุ่นแห่งนึง ทำได้แค่ 3 เดือนก็สอบติดองค์กรอิสระที่เคยไปสอบทิ้งไว้ แล้วด้วยความที่ที่บ้านเป็นข้าราชการหมดเลยอยากให้เราไปทำที่นั่น พอเราย้ายงานอีกรอบด้วยความที่กลับบ้านเร็ว พอว่างก็เลยเล่นโทรศัพท์เยอะ แล้วบังเอิญมีเหตุให้ไปจับโทรศัพท์แฟนโดยบังเอิญ เลยเห็นไลน์อันนึงเด้งขึ้นมา เราไม่เคยเช็คโทรศัพท์แฟน ไม่เคยเช็คไลน์หรือเฟซ เลยไม่เคยเห็นความผิดปกติอะไรเลย จำได้ลางๆว่าเราเข้าไปอ่านแชทของแฟนกะผู้หญิงคนนี้ เจอว่าผู้หญิงส่งรูปใส่แค่เสื้อกล้ามบางๆกางเกงขาสั้นอยู่บนที่นอนมาให้ และข้อความแบบหมาหยอกไก่ หยอดกันไปมา เราถามแฟนว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เค้าหน้าเสียไปแล้วบอกว่าไม่มีอะไร เราเลยบอกว่าไม่มีได้ไง ทั้งออดอ้อน ทั้งส่งรูปเอ็กซ์ๆมาให้ ตอนนั้นเราโกรธมาก เค้าขอโทษ แต่เราขอเลิกตอนนั้นเลย สุดท้ายเค้ามาสารภาพว่าเป็นเพื่อนของเพื่อน ผู้หญิงมีแฟนอยู่แล้ว และเค้าแค่เหงา เลยมีโทรหาหรือนัดเจอกันบ้าง เราบอกเค้าว่าเรารับไม่ได้เรื่องไม่ซื่อสัตย์ เรื่องนอกใจ ถึงวันนี้ไม่มี แต่อนาคตใครจะรู้ ถ้าเราจับไม่ได้ก่อน ครั้งนั้นเค้าตามง้อเราเกือบเดือน มาร้องไห้ขอโทษ ให้แม่เค้ามาคุยกะเรา ว่าให้เรายกโทษให้เค้า สุดท้ายเราใจอ่อน เรากลับไปคบกะเค้าต่อ เพราะเราคิดว่าเรามีส่วนผิดที่ไม่สนใจเค้า จนทำให้เค้าต้องไปกิ๊กกะผู้หญิงคนอื่น แต่เราคาดโทษไว้ว่าอย่าทำอีกเป็นครั้งที่ 2 เพราะเราจะไม่มีวันให้อภัยเค้าอีกแล้ว เราเตือนเค้าว่าความซื่อสัตย์คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการคบกัน เราขอเค้าแค่นี้ เพราะตั้งแต่คบกันมา ต่อให้มีคนมาจีบเราอีกกี่คน เราก็ไม่เคยมองใครเลย ไม่เคยให้โอกาสหรือความหวังกับใครทั้งนั้น เพราะเราให้เกียรติแฟนเราทั้งต่อหน้าและลับหลัง เค้ารับปากว่าจะไม่ทำอีก เราจึงกลับไปคบกะเค้าต่อ..

ช่วงที่คบกันต่อก็ปกติดี มีความสุข เค้าเป็นมากกว่าแฟนไปแล้ว ผูกพันธ์กันมากขึ้น จนเหมือนคนในครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง ญาติเค้า เลยเริ่มถามเรื่องแต่งงาน แฟนบอกว่าขอเก็บเงินให้ได้ล้านนึงก่อน มีรถ หน้าที่การงานพร้อมกว่านี้ค่อยไปขอเรากับที่บ้าน ช่วงนี้ก็เลยบ้างานเก็บเงินกันทั้งคู่ ลืมบอกว่าแฟนเราทำงานเป็นเซลล์ เลิกงานไม่เป็นเวลา เร็วบ้าง ดึกบ้าง วันไหนมีพาลูกค้าไปกินดื่มก็จะบอกเราตลอด ส่วนเราด้วยหน้าที่การงานและความรับผิดชอบที่โตขึ้น เราทำงานเลิกดึกทุกวันอย่างเร็ว 3 ทุ่ม อย่าช้าเที่ยงคืนกว่า แฟนเคยบ่นว่าบ้างานเกินไปรึเปล่า ทำจนป่วยเลิกงานแล้วเค้าต้องพาไปหาหมอที่โรงพยาบาล เราเลยบอกเค้าว่าเราขอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ตรงนี้เพื่อไปต่อยอดที่อื่นก่อนนะ อดทนอีกนิดเดียว หลังแต่งงานเราจะลาออก ช่วงเวลาที่เราทำงานที่บริษัทนี้ (บริษัทญี่ปุ่น) เราแทบไม่เคยได้กลับไปกินข้าวเย็นพร้อมแฟนเลย เค้าเคยบ่นว่าเค้าเหงา เราก็คุยกะเค้าด้วยเหตุผลเดิมคือ ขอเก็บประสบการณ์เพื่อไปอัพตำแหน่งและเงินเดือนที่ใหม่ (เราเงินเดือนเยอะกว่าแฟนประมาณนึง แต่แฟนมีค่าคอมมิชชั่นที่ได้เป็นก้อนใหญ่บ้าง แต่ไม่ทุกเดือน) เราแพลนงานแต่งกะแฟนไว้แล้ว เราเลยวางเป้าหมายเรื่องการเงินและการงานมากขึ้น เผื่อถ้ามีลูกจะได้ไม่ลำบาก เราอยากเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะไหว แต่ก็นั่นแหละ เรากะแฟนเริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น ช่วงเตรียมงานแต่งเราใจร้อน ส่วนเค้าเย็นจนไม่กระตือรือร้นจัดเตรียมอะไรเลย และเริ่มกลับบ้านดึกขึ้นเรื่อยๆ..

ช่วงก่อนงานแต่งประมาณ 1 เดือน เค้าอ้างว่าไปดื่มกับลูกค้าทุกวัน กลับตั้งแต่ 3 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืนเป็นปกติ มีไปรับเราบ้างถ้าเราเลิกงานช่วงเค้าจะกลับบ้านพอดี แต่ส่วนใหญ่เวลาที่เรากลับดึก เค้าจะให้เรากลับเอง โดยอ้างว่ารถติดบ้างล่ะ (เราทำงานแถวสีลม) อ้างว่าไม่อยากสนับสนุนให้เรากลับดึกบ้างล่ะ มีครั้งนึงที่น้อยใจมากๆ คือพี่ที่สนิทให้น้องชายเค้าขับรถมาส่งเราที่หน้าปากซอยเพราะเลิกงานดึกมากๆ และแฟนเราไม่ยอมไปรับ พอถึงปากซอยด้วยความเกรงใจเราเลยให้น้องและพี่เรากลับเลย เดี๋ยวเราให้แฟนมารับ พี่เลยยอมจอดให้เราลงแล้วกลับบ้าน วินาทีที่เราลงรถ เราโทรหาแฟน บอกว่าพี่เรามาส่งหน้าปากซอยแล้วนะ คำถามที่แฟนถามเราคือ ให้เดินมารับไหม ตอนนั้นเที่ยงคืนกว่า และซอยเปลี่ยวมาก เราทั้งกลัวทั้งโกรธแฟน ว่าเค้าควรเป็นห่วงเราบ้างนะ เราเลยตอบกลับไปว่าแล้วแต่ แล้วเราก็วางสายและเก็บมือถือใส่กระเป๋าและเดินต่อเพื่อกลับหอพัก เดินไปเรื่อยๆถึงไปเจอแฟนช่วงกลางซอย เราเหนื่อย เราล้า เรากลัว และเราโกรธแฟน เราเลยไม่คุยกับเค้าอีกเลยจนถึงหอพัก ต่างคนต่างแยกย้ายกันอาบน้ำนอน ช่วงนั้นเราเลยเริ่มนอยว่าเค้าไม่ค่อยใส่ใจเราและเรื่องเตรียมงานแต่งเท่าไหร่เลย 

หลังจากวันนั้น เค้าเริ่มดื่มหนัก และกลับบ้านดึกขึ้นเรื่อยๆ มีคืนนึงเค้ากลับตี 4 วันนั้นเราเลิกงานแล้วกลับมารอเค้าที่บ้าน 4 ทุ่มกว่าเค้าโทรมา เสียงดูเมาๆ แล้วบอกว่าอยู่กะเพื่อนที่ตลาดนัดรถไฟนะ เราถามว่าจะกลับกี่โมง เค้าบอกว่าใกล้ละ เราก็รอ รอจนถึงเที่ยงคืนกว่าเลยโทรไปถามว่าจะกลับรึยัง เค้าบอกว่าอีกแป๊บนึง เราเลยรอต่อจนถึงเกือบตี 2 เราเริ่มง่วงนอนแล้วเราเลยโทรหาอีกที เค้าตัดสายเราทิ้ง เราโทรซ้ำอีก2-3 สาย เค้าก็ไม่รับ และไม่โทรกลับ เราเลยไลน์ไป เค้าอ่านแล้วพิมพ์กลับมาว่าพอดีมีปัญหานิดหน่อย ยังไม่สะดวกรับสายนะ เราเป็นห่วงเค้ามาก เริ่มลนลานละว่าเค้าเป็นอะไรรึเปล่า โดนใครทำร้ายหรือมีเรื่องทะเลาะวิวาทมั้ย เลยโทรหาแม่เค้า บอกว่าติดต่อเค้าไม่ได้ ให้แม่ช่วยโทรหน่อย ผ่านไปซัพัก แม่เค้าโทรกลับมาว่าติดต่อแฟนไม่ได้เหมือนกัน ให้เราแต่งตัวและไปตลาดรถไฟกับแม่เค้า เราเลยรีบไปหาแม่เค้าที่บ้าน แต่บอกแม่ว่าตลาดรถไฟร้านเหล้าเยอะมาก ต่อให้ออกไปก็คงหาไม่เจอ เราเลยนึกได้ว่าโน้ตบุ๊คเค้าน่าจะมีเบอร์เพื่อนที่ทำงานเค้าอยู่ในอีเมลล์ เพราะเพื่อนเค้าเท่าที่เรารู้จักเราอินบ็อคเฟซบุ๊คไปถามหมดแล้วว่ามีใครอยู่กะแฟนเรามั้ย หรือรู้มั้ยว่าเค้าอยู่กะใคร คำตอบคือ ไม่มีใครรู้ พอเราได้เบอร์เพื่อนสนิทเค้าจากอีเมลล์ เราเลยโทรหาเค้า ตอนนั้นเป็นเวลาตี 2 กว่า เพื่อนแฟนตกใจ เค้าบอกว่าแฟนเราออกจากออฟฟิศตั้งแต่เลิกงานแล้ว ไม่รู้ว่าไปกับใคร แต่เดี๋ยวเค้าช่วยโทรถามน้องอีกคน และช่วยโทรหาแฟนเราให้ สุดท้ายติดต่อแฟนเราได้ และบอกกับเพื่อนเค้าว่ากำลังกลับบ้าน เราคุยกะเพื่อนแฟนช่วงที่รอเค้ากลับบ้าน ซึ่งถ้าเค้าอยู่ตลาดรถไฟจริงๆ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเค้าควรถึงบ้านแล้ว ปรากฏว่าเค้าถึงบ้านเกือบตี 4 เราโกรธและง่วงจนเราไม่คุยกับเค้า พอเค้ามาถึง เราเลยเดินกลับห้องพักเราเลย เค้าเดินมาพูดว่าขอโทษนะพอดีมีปัญหาจริงๆ พูดแค่นี้เราก็เดินหนีกลับห้องเรา (อยู่หอพักเดียวกันแต่คนละห้อง) ส่วนเค้าก็กลับห้องเค้า เรานอนไม่หลับทั้งคืน ทั้งเป็นห่วง ทั้งโมโห กะว่าค่อยเคลียร์วันถัดไป เพราะเราต้องตื่นไปทำงานแต่เช้า เราต้องนอน แต่สรุปเราก็นอนไม่หลับ วันนั้นทั้งวันเราก็เลยเบลอเพราะไม่ได้นอน และรีบกลับบ้านมาเคลียร์เรื่องเมื่อคืน สุดท้ายมาถึงบ้าน เค้าอ้างกะเราว่าเมื่อคืนเพื่อนเค้าเมาจนทำร้ายตัวเอง เค้าต้องใช้แขนและมือจับเพื่อนเค้าไว้เลยไม่สะดวกรับโทรศัพท์ เราเลยเทศนาเค้าไปยกนึงว่าสิ่งที่เค้าทำเมื่อคืนแย่มากนะ สำหรับเราและแม่เค้าที่เป็นห่วงเค้ามาก กระวนกระวายจนเกือบออกไปตามหาเค้าตอนตี2 และให้เค้ารู้จักเลือกคบเพื่อนด้วย พวกที่ทำตัวแบบนี้ จะพาเค้าเสียการเสียงานนะ รวมทั้งเดือดร้อนมาถึงเราที่ต้องอดนอนรอเค้ากลับบ้านอีก เราคาดโทษเค้าไว้อีกทีว่าถ้าทำแบบนี้อีกเราจะไม่แต่งงานกับเค้า เพราะวุฒิภาวะเค้าไม่พร้อมเป็นทั้งสามีและพ่อที่ดีเลย เค้ารับปากเราว่าจะไม่ทำอีก เราเลยยกโทษให้..

มาถึงวันก่อนวันที่จะขับรถไปต่างจังหวัด(จัดงานแต่งต่างจังหวัด) เรานัดเค้าไว้ว่าจะออกจากกรุงเทพช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ เพราะเค้ามีประชุมช่วงเช้า และเราอยากเคลียร์งานก่อนลายาวช่วงงานแต่ง คืนนั้นเค้าโทรมาบอกว่าต้องมีพาลูกค้าไปกินนะ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เตือนว่าอย่ากลับดึกเกินนะเพราะพรุ่งนี้ต้องขับรถทางไกลประมาณเกือบ 10 ชั่วโมง เค้ารับปากเรา เราก็เลยไม่ได้ตามอีกและเลิกค่ำเหมือนทุกที กลับถึงบ้าน 4 ทุ่มกว่า เราก็รอเค้ากลับบ้านตามปกติ จนถึงเที่ยงคืน เราเลยโทรตามว่าอยู่ไหนแล้ว จะกลับบ้านรึยังดึกแล้วนะ เค้าบอกเราว่ามากินก๋วยเตี๋ยวอยู่ เพราะหิว เราเลยถามว่าอยู่ที่ไหน เค้าบอกร้านก๋วยเตี๋ยวแถวอะไรซักอย่าง(เราลืม) สิ้นเสียงเค้าเราได้ยินเสียงผู้หญิงลอยเข้ามาว่า "นอนรอผัวอยู่ที่บ้าน" พร้อมกับเสียงหัวเราะของผู้หญิงอีกหลายคน เราฉุนกึกขึ้นมา เลยถามแฟนว่าอยู่กะใคร แฟนบอกว่าอยู่กับลูกค้า เราก็ถามย้ำว่าลูกค้าผู้หญิงหรือผู้ชาย แฟนบอกว่าผู้ชาย เราเลยบอกว่าเราได้ยินเสียงผู้หญิงนะ แฟนก็อ้างว่าเสียงแฟนลูกค้าอีกที เราไม่โอเค แต่เราไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เลยบอกแฟนว่ารีบกลับละกันดึกมากๆแล้ว แฟนรับปากว่ากินก๋วยเตี๋ยวเสร็จจะกลับ ช่วงที่วางสายแฟนไป เราโทรหาเพื่อนแฟนอีกรอบ เราถามเค้าว่าได้ไปกะแฟนเรามั้ย เค้ากลับดึกอีกแล้ว และเล่าเรื่องเสียงผู้หญิงที่เราได้ยินให้เพื่อนเค้าฟัง เราบอกเพื่อนแฟนเราว่าเราไม่โอเค คนไม่รู้จักกันพูดแบบนี้ใส่กันได้ด้วยเหรอ แถมหัวเราะกันคิกคักอีก เราไม่โอเคมากๆ ยิ่งบอกเป็นแฟนลูกค้า คือทำไมเค้าไม่ให้เกียรติเราเลย เพื่อนแฟนบอกว่าคิดมากไปมั้ง อาจหูแว่วไรงี้ แต่เซ้นส์เราบอกว่าเราได้ยินไม่ผิด และมันมีอะไรแปลกๆ กว่าที่เราคิด สุดท้ายคืนนั้นเค้ากลับถึงบ้านเกือบตี 4 และแน่นอนเราโกรธมากจนยังไม่คุยกะเค้าเหมือนเดิม..

เช้าถัดมา เราต้องลางานเพราะเราไปไม่ไหว ส่วนแฟนไปประชุมที่บริษัทช่วงเช้า เราโทรไปบอกเค้า ว่าเราไม่ไปแต่งงานแล้วนะ ที่เค้าเคยรับปากเราไว้ว่าจะไม่ทำตัวแบบนี้อีก เค้าผิดคำพูด เค้าขอโทษแล้วบอกว่าเมื่อวานจำเป็นต้องไปจริงๆ และเค้าจะไม่ทำแบบนี้อีกหลังแต่งงาน เค้าสัญญา เราเลยฮึบความโกรธทั้งหมดไว้ และคิดว่าจะให้อภัยเค้าอีกซักครั้ง เพราะเรากำลังจะแต่งงานแล้ว และเพื่อนเค้าอีก 2 คนก็จะติดรถเราไปงานแต่งเราที่ต่างจังหวัดด้วย เราเลยพยายามเคลียร์อารมณ์และใจของตัวเอง จนตกบ่ายก็ขับรถไปต่างจังหวัดกัน 

ช่วงงานแต่งขอ skip ไปเลย แฮปปี้ดี แขกฝั่งพ่อและแม่เราเยอะมาก เนื่องด้วยเป็นข้าราชการทั้งคู่ เลยวุ่นวายกะการรับแขกจนเหนื่อย มีพาเพื่อนเที่ยวนิดหน่อย แล้วกลับกรุงเทพกัน (ยังไม่จดทะเบียนเพราะตั้งใจจะกลับมาจดที่กรุงเทพ) วันที่ 3 ของชีวิตหลังแต่งงาน กำลังดำเนินไปเหมือนจะดี..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่