พิจารณา ตรึกตรอง เห็นชอบในทุกเวลา(เดินตามทาง รูป-นาม ความเชื่อ ของใครอยู่)

เดินตามพระพุทธรูป(พระพุทธเจ้า) ภายใต้กฎไตรลักษณ์ ชรา-มรณะ ระลึกตั้งจิต
1.ไม่เปิดตากว้าง หลงเพลินติดในโลกภพ3 รูป-นาม สัญญา สัญชาตญาณจอมเทพบุญ/มารทุกข์บาป
เทวดา/มาร ผี/ปีศาจ เปรต/อสุรกาย คน/สัตว์ หมุนตามวัฏสงสาร อุปาทานขันธ์5 สังโยชน์5 อนุโลม12 เจตสิกอกุศล14
2.ไม่หลับตาลึก หลงเพลินในโลกพรหม รูป-นาม ปิติ สุขบุญ สงบกุศล ในรูป/อรูปฌาน ญาณหยั่งรู้ รูป/อรูปพรหม
สังโยชน์6-10 เจตสิก13 มีอยู่ในโลกภพ3ของจอมเทพ/มาร และโลกนิพพานของพระพุทธเจ้า/อริยจิตบุคคล สงฆ์ โพธิสัตว์

0.รูปดวงตานอก-นามตาใน กำหนดรู้ตามทุกขอริสัจ4 กำหนดละทุกขสมุทัยอริยสัจ โสดาบัน
(ทานละส่วนที่สุดโต่ง2 รูปกาม-นามความรู้สึกอารมณ์ สุขสบายบุญ/โกรธหลงเครียดซึมเศร้าทุกข์ลำบากบาป ใน/นอกฌาน)
รักษาศีล ละให้เบาบาง สกิทาคามี ละได้หมด อนาคามี นามสมาธิชอบ-รูปพูดทำเลี้ยงชีพชอบ(นามจิต-รูปใจสงบอยู่)
ศีลรักษาไม่ให้เกิดอีกส่วนที่สุดโต่ง2อีก ด้วยขันติ กรุณา มุทิตา อุเบกขา ญาณ ปัญญา วิชชา หมุนตามธรรมจักรฯ
ปฏิโลม12 จนรู้แจ้งตามนามทุกข์นิโรธอริยสัจ-รูปร่างกาย เดินตามปฏิบัติตามทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ให้เจริญอยู่สืบไป
สงบรูปกาย-นามเจตสิก จิต ความรู้สึกอารมณ์ ความเชื่อความเห็นในโลกภพ3 พรหมโลก ให้ง่ายเร็ว แม้เกิดชรา-มรณะอยู่
อนุโมทนา สาธุ คือ รักษาความรู้สึกอารมณ์ ให้ยินดี(ปีติ)สุขบุญ สงบกุศล เพื่อความเจริญยิ่งๆ ในการดับทุกข์อยู่สืบไป
ตามเจตสิกกุศล25 รูปดวงตา-นามสติ ทานละ ศีลสงบ สมาธิ กรุณา มุทิตา อุเบกขา ญาณ ปัญญา วิชชา บารมีของพระพุทธเจ้า