
Bikram: Yogi, Guru, Predator
เรื่องลับของปรมาจารย์โยคะร้อน
เชื่อว่าบางคนอาจจะเคยสังเกตเห็นรูปภาพชายหนุ่มหุ่นดีในท่าทางกำลังเล่นโยคะตามป้ายโฆษณาของสถานที่สอนโยคะต่างๆ เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าเขาหรือใคร และทำไมถึงต้องใช้รูปภาพของชายคนนี้เพื่อเรียกความสนใจของผู้ที่ต้องการเล่นโยคะด้วย นั่นก็เพราะว่าเขาคือปรมาจารย์ด้านโยคะที่อาจจะเรียกได้ว่า โด่งดังที่สุดในโลก ก็ว่าได้ เขาคือเจ้าของแบรนด์ Bikram เฟรนไชส์สอนโยคะร้อนที่มีสาขาไปทั่วทุกมุมโลก ปรมาจารย์ที่มีลูกศิษย์เยอะแยะเต็มไปหมดโดยกระจายไปในหลายๆแห่งทั่วโลก แต่เรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นระหว่างครูกับศิษย์ก็เกิดขึ้นเมื่อมีลูกศิษย์บางคนฟ้องร้องเขาในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ปรมาจารย์โยคะที่ถูกพูดถึงอยู่นี้ก็คือ บิกราม เชาดรี
ในเริ่มแรก บิกราม เชาดรี อาศัยอยู่ในอินเดีย เขาเป็นนักเพาะกายมาก่อน แต่เมื่อประสบอุบัติเหตุจนทำให้ไม่สามารถเล่นเพาะกายต่อได้ เขาจึงหันเหไปเล่นโยคะแทนเพราะต้องการให้ตนเองหายจากอาการบาดเจ็บ จากนั้นมาเขาก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ของโยคะ และเมื่อเขาเดินทางไปอเมริกา ชีวิตของเขาก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เส้นทางอาชีพสอนโยคะของเขารุ่งเรืองถึงขีดสุด คนดังต่างแห่มาลงเรียนเป็นจำนวนมาก รายการทีวีให้ความสนใจเรื่องของเขา และผู้เรียนบางคนก็มาเรียนเพื่อที่จะไปเปิดสอนโยคะเองโดยใช้ชื่อ Bikram ที่น่าเชื่อถือนี้นั่นเอง
หนังสารคดีเรื่องนี้เริ่มต้นด้วยการนำเสนอถึงที่มาที่ไปของความสำเร็จในอาชีพสอนโยคะของ บิกราม เชาดรี ผู้ซึ่งมีความมั่นใจอย่างสูงส่ง น่าเชื่อถือ เก่งกาจ และก็แอบร้ายกาจเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ค่อยๆเผยถึงประเด็นเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศระหว่างเขากับลูกศิษย์ที่น่าตกใจ เรื่องราวแลดูเลวร้ายมากขึ้นไปอีกเมื่อหนังนำเสนอให้เราเห็นว่าเรื่องฉาวเหล่านี้ไม่ได้ถูกจัดการอย่างตรงไปตรงมาตามกฎหมาย อีกทั้งลูกศิษย์ของเขาหลายคนที่ทราบเรื่องกลับเฉยเมยหรือไม่ก็เลือกที่จะโจมตีเหยื่อแทน ด้วยอำนาจเงิน ชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือในการเป็นปรมาจารย์ครูโยคะ ทำให้เขาสามารถลอยตัวเหนือทุกสิ่งได้ไม่ยาก ในขณะที่ประสบการณ์อันเลวร้ายที่เหยื่อได้เจอนั้นจะคงอยู่กับเหยื่อของเขาตลอดไป
เราชอบวิธีการนำเสนอมุมมองที่หลากหลายทั้งจากเหยื่อโดยตรง ลูกศิษย์ทั้งฝ่ายที่เข้าข้างเหยื่อและไม่เข้าข้างเหยื่อ และตัวผู้ถูกกล่าวหาเองก็ยังได้โอกาสชี้แจงเช่นเดียวกัน (แต่จริงๆแล้วแทบจะไม่ชี้แจงอะไรเลยในประเด็นที่ถูกกล่าวหานี้) นี่ทำให้คนดูได้ไตร่ตรองเองว่าควรจะเชื่อฝ่ายไหนโดยที่หนังไม่ได้ชี้นำคนดูโดยตรง แต่อย่างไรก็ดีเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าประเด็นที่ถูกพูดถึงนี้มีความชัดเจนค่อนข้างมากว่า ใครน่าจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไรกันแน่
หนังเริ่มต้นด้วยความเก่งกาจของชายคนหนึ่งแต่ลงท้ายด้วยความเลวร้ายของชายคนหนึ่ง เพราะว่าแท้จริงแล้วคนเก่งไม่เท่ากับคนดี เสมอ
ขบเคี้ยวหนัง
[CR] Bikram: Yogi, Guru, Predator เรื่องลับของปรมาจารย์โยคะร้อน
Bikram: Yogi, Guru, Predator
เรื่องลับของปรมาจารย์โยคะร้อน
เชื่อว่าบางคนอาจจะเคยสังเกตเห็นรูปภาพชายหนุ่มหุ่นดีในท่าทางกำลังเล่นโยคะตามป้ายโฆษณาของสถานที่สอนโยคะต่างๆ เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าเขาหรือใคร และทำไมถึงต้องใช้รูปภาพของชายคนนี้เพื่อเรียกความสนใจของผู้ที่ต้องการเล่นโยคะด้วย นั่นก็เพราะว่าเขาคือปรมาจารย์ด้านโยคะที่อาจจะเรียกได้ว่า โด่งดังที่สุดในโลก ก็ว่าได้ เขาคือเจ้าของแบรนด์ Bikram เฟรนไชส์สอนโยคะร้อนที่มีสาขาไปทั่วทุกมุมโลก ปรมาจารย์ที่มีลูกศิษย์เยอะแยะเต็มไปหมดโดยกระจายไปในหลายๆแห่งทั่วโลก แต่เรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นระหว่างครูกับศิษย์ก็เกิดขึ้นเมื่อมีลูกศิษย์บางคนฟ้องร้องเขาในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ปรมาจารย์โยคะที่ถูกพูดถึงอยู่นี้ก็คือ บิกราม เชาดรี
ในเริ่มแรก บิกราม เชาดรี อาศัยอยู่ในอินเดีย เขาเป็นนักเพาะกายมาก่อน แต่เมื่อประสบอุบัติเหตุจนทำให้ไม่สามารถเล่นเพาะกายต่อได้ เขาจึงหันเหไปเล่นโยคะแทนเพราะต้องการให้ตนเองหายจากอาการบาดเจ็บ จากนั้นมาเขาก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ของโยคะ และเมื่อเขาเดินทางไปอเมริกา ชีวิตของเขาก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เส้นทางอาชีพสอนโยคะของเขารุ่งเรืองถึงขีดสุด คนดังต่างแห่มาลงเรียนเป็นจำนวนมาก รายการทีวีให้ความสนใจเรื่องของเขา และผู้เรียนบางคนก็มาเรียนเพื่อที่จะไปเปิดสอนโยคะเองโดยใช้ชื่อ Bikram ที่น่าเชื่อถือนี้นั่นเอง
หนังสารคดีเรื่องนี้เริ่มต้นด้วยการนำเสนอถึงที่มาที่ไปของความสำเร็จในอาชีพสอนโยคะของ บิกราม เชาดรี ผู้ซึ่งมีความมั่นใจอย่างสูงส่ง น่าเชื่อถือ เก่งกาจ และก็แอบร้ายกาจเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ค่อยๆเผยถึงประเด็นเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศระหว่างเขากับลูกศิษย์ที่น่าตกใจ เรื่องราวแลดูเลวร้ายมากขึ้นไปอีกเมื่อหนังนำเสนอให้เราเห็นว่าเรื่องฉาวเหล่านี้ไม่ได้ถูกจัดการอย่างตรงไปตรงมาตามกฎหมาย อีกทั้งลูกศิษย์ของเขาหลายคนที่ทราบเรื่องกลับเฉยเมยหรือไม่ก็เลือกที่จะโจมตีเหยื่อแทน ด้วยอำนาจเงิน ชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือในการเป็นปรมาจารย์ครูโยคะ ทำให้เขาสามารถลอยตัวเหนือทุกสิ่งได้ไม่ยาก ในขณะที่ประสบการณ์อันเลวร้ายที่เหยื่อได้เจอนั้นจะคงอยู่กับเหยื่อของเขาตลอดไป
เราชอบวิธีการนำเสนอมุมมองที่หลากหลายทั้งจากเหยื่อโดยตรง ลูกศิษย์ทั้งฝ่ายที่เข้าข้างเหยื่อและไม่เข้าข้างเหยื่อ และตัวผู้ถูกกล่าวหาเองก็ยังได้โอกาสชี้แจงเช่นเดียวกัน (แต่จริงๆแล้วแทบจะไม่ชี้แจงอะไรเลยในประเด็นที่ถูกกล่าวหานี้) นี่ทำให้คนดูได้ไตร่ตรองเองว่าควรจะเชื่อฝ่ายไหนโดยที่หนังไม่ได้ชี้นำคนดูโดยตรง แต่อย่างไรก็ดีเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าประเด็นที่ถูกพูดถึงนี้มีความชัดเจนค่อนข้างมากว่า ใครน่าจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไรกันแน่
หนังเริ่มต้นด้วยความเก่งกาจของชายคนหนึ่งแต่ลงท้ายด้วยความเลวร้ายของชายคนหนึ่ง เพราะว่าแท้จริงแล้วคนเก่งไม่เท่ากับคนดี เสมอ
ขบเคี้ยวหนัง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้