ปี 1 ไม่เป็นไร ปี 2 ปี 3 ผ่านไป โอ้โหหห เอาหุ่นเดิมชั้นคืนมาาา สวัสดีเพื่อนๆ ที่น่ารักทุกคนนน ตอนแรกว่าจะไม่เล่า แต่คิดไปคิดมาขอเล่าซักหน่อย555 กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ เรียกได้ว่าวัดใจตัวเองสุดๆ ชีวิตผ่านมรสุมมากมาย อึดอัด หน้าบานขึ้นเพราะกินจุ นอนก็ไม่เป็นเวลา ตอนแรกๆ ก็ไม่ได้ใส่ใจ ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับของกิน+พักผ่อนน้อยถึงน้อยมากๆ ยิ่งตอนเรียนปี 3 ปี 4 นี่นะทั้งงานเยอะ ปัญหารุมเร้า ความเครียดเริ่มบังเกิด กินก็ไม่โอเค นอนก็ไม่เพียงพอ เวลาดูแลร่างกายออกกำลังก็ไม่มี หลายสิ่งอย่างมารุมชั้นเยอะขนาดนี้ทำไมกันน...
ตอนปี 1 …ตอนนั้นหนักราวๆ 47-48 กก. ก็ไม่ได้คิดไรมากและไม่ค่อยดูแลตัวเอง
หลังจากนั้น ก็ได้คบหากับไก่ทอดและชานมไข่มุกเป็นของกินคู่ใจ กินบ่อยมาก แต่ไปๆมาๆ ไม่ไหวแล้ว ตัวแตกจ้า หลังเรียนจบปี4 เคลียร์งานทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ความเครียดเรื่องเรียนได้หายไปจากชีวิต ก็เตรียมตัวก้าวเข้าสู่วัยทำงานแบบเลี่ยงไม่ได้ สมัครงานยื่นพอร์ท ตระเวนสัมภาษณ์งาน และแล้วก็ได้งานหลังเรียนจบตามตั้งใจ พอมีงานทำแล้วก็โล่งใจขึ้นอีกหน่อย จากนั้นก็หันกลับมาคุยกับตัวเองว่า ชั้นต้องเปลี่ยนตัวเองให้ได้ ดูแลสุขภาพให้มากขึ้น...เพราะ
ตอนปี 3-4 …พุ่งไป 54 กก. ความรู้สึกส่วนตัวคืออึดอัดขึ้นมาก จึงตั้งใจปรับตัวเองครั้งนี้ เพื่อให้หุ่นกลับสู่สภาพที่โอเคขึ้น และอยากลดให้ได้ลงมาซัก 7 โล ให้เหลือ 47 (ปกติเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูป ตอนหุ่นอืดขึ้นมาไม่ค่อยถ่ายรูปเท่าไหร่) -0- โดยมีแนวทางคือ….
วางแผนปฏิบัติการครั้งนี้ ตั้งไว้ที่ 1-2 เดือน หลังจากผ่านมรสุมช่วงเรียนมหาลัยที่ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองน้ำหนักเลยขึ้นมาจนอึดอัด กางเกงคับ หายใจสำบาก ติดกระดุมไม่ได้ เป้าหมายสำคัญอีกอย่างคือ ต้องหุ่นดีขึ้นก่อนวันรับปริญญาให้ได้ เพราะครั้งหนึ่งในชีวิตที่เรียนจบก็ต้องมีรูปสวยๆ หุ่นฟาดๆ ไว้เป็นที่ระทึกแหละแก! (ปล.ตอนนั้นอ้วนอืด ไม่มั่นใจไม่กล้าถ่ายรูปตัวเองเท่าไหร่)
และก็มาเริ่มเตรียมตัว หาแนวทางที่เหมาะกับตัวเอง ด้วยความเราเริ่มทำงานแล้วด้วยความที่ไม่มีเวลาออกกำลัง (+ออกแล้วเหนื่อยโฮก ไม่อยากตื่นไปทำงาน หรือขี้เกียจนั่นเอง) จากการประมวลผลในตัวเองภายในสามวัน และแล้วก็ได้แนวทางที่ตรงกับตัวเองที่สุดคือ ชอบกิน5555 ก็เน้นควบคุม+ปรับการกินแล้วกัน อันนี้น่าจะทำได้ง่ายที่สุด
ลดน้ำหนัก : กินอาหารที่มีพลังงานต่ำกว่าพลังงานหลักที่ร่างกายต้องใช้ในแต่ละวัน
งงมั้ย ถ้าใครงงก็จะอธิบายให้ อย่างปกติคนเราเนี่ย วันๆ นึงต้องใช้พลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 1800 cal/วัน เราสามารถลดน้ำหนักจากการลด cal ในอาหารที่เรากินให้ต่ำกว่า 1800 cal ร่างกายก็จะดึงไขมันส่วนเกินในร่างกายออกมาเผาผลาญ เราก็จะผอมลง หรือไขมันลดลง สมมติวันนั้นเรากินไปทั้งวัน พลังงานจากของที่เรากินไปอยู่ที่ 1300 cal ส่วนต่างคือ 500 cal ส่วนต่างนี้แหละที่ร่างกายต้องการพลังงาน ก็จะดึงเอาไขมันออกมาใช้เป็นพลังงาน ถึงตรงนี้ถ้าใครยังงงอีก ไปหาอ่านเพิ่มในกูเกิ้ลได้เลยจ้า อธิบายไม่ถูกแล้ว5555 ส่วนเรากำหนดกินต่อวันที่ 1500 แคล ไม่มากไม่น้อย ค่อยๆ ลดกันไป เราเองไม่ค่อยได้ใช้พลังงานนะ วันๆนั่งหน้าคอมเฉยๆ แทบจะไม่เดินเลยแหละ
กลับมาเรื่องอาหาร เค้าว่ากันว่าทำอาหารกินเองดีที่สุด ไอ่เราก็ทำงานแล้วไม่มีเวลาทำกินเองสักเท่าไหร่ เป็นครั้งคราวก็น่าจะได้ เพราะทำไม่ค่อยเป็นด้วย ก็เลยตั้งใจว่าจะหาสั่งกินเอา ควบคู่กับที่ทำเองด้วย ว่าแล้วก็ไปต่อ ค้นหาร้านอาหารทันที เปิดดูหลายร้านค้นก็เจอพวกเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพมาแรงสุดๆ แต่ที่เห็นก็เป็นอกไก่ซะส่วนใหญ่ ข้าวกล้อง แล้วก็มีผัก ดูไปพรางๆ ก็เปิดเจอร้านนึง หือออ มีขาหมูแคลต่ำด้วยหรอ ความหวังเริ่มกลับมา 5555 ของชอบเลยเนี่ย และก็เปิดดูหลายๆ เมนูน่าสนใจทั้งนั้นเลย เก็บไว้เป็นตัวเลือก และหาร้านอื่นๆ ต่อไป ^_^
พอมีเวลาว่างหรือวันหยุด ก็ทำกับข้าวกินเองบ้าง สั่งจากร้านบ้าง เมนูเราก็จะเน้น อาหารมีประโยชน์ โปรตีน แป้ง ไขมันดี เวลาผัดใช้น้ำมันมะกอกซึ่งเป็นไขมันที่ดี หรือผัดน้ำเปล่า หรือบางครั้งใช้กะทะแบบไม่ใช้น้ำมันผัด ทอดได้ดีเลย แล้วก็มีพวกเมนูลวก นึ่ง ต้ม ลดของทอดของมันเยิ้มๆ ไก่ทอดจ๋าลาไปก่อน ห่างกันสักพัก -0-
ช่วงที่ปรับเรื่องกินแต่ละเดือน ในหนึ่งวัน มี 3 มื้อ เน้นกินมื้อเช้าและเย็นส่วนใหญ่ จะกินเป็นอาหาร DJPoomMENU ตอนเช้าถ้ากินไม่ทันก็อุ่นไปกินที่ทำงาน ช่วงเย็นถ้ากลับช้าก็กลับมาอุ่นกิน มื้อกลางวันกินอาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง แถวที่ทำงาน แต่เลือกกินนิดนึง วันไหนเบื่อข้าวก็กินเป็นก๋วยเตี๋ยว ช่วงวันหยุดหรือมีเวลาว่างเยอะหน่อยจะไปซื้อของมาทำกินเป็นแนวอาหารคลีน เน้นผักพวกบล็อกโคลี่ หน่อไม้ฝรั่ง ผักบุ้ง คะน้า ผัดน้ำมันมะกอก ไม่ใช้น้ำมันเยอะหรือผัดน้ำ พวกแกงจืด ไข่ ไก่ ปลา เน้นเมนูย่าง ลวก ต้ม เลี่ยงของทอด ชุบแป้งทอด และทุกสิ้นเดือนมีมีทติ้งกับออฟฟิศก็จะเลือกกินแต่พอดี และแต่ละอาทิตย์ก็จะเวียนการกินประมาณนี้ตามความชอบในแต่ละวัน ยืดหยุ่นตามเมนูอาหารที่สั่งกินหรือการเลือกกินในช่วงนั้นๆ ด้วย

ส่วนพวกของกินเล่น เดิมกินเป็นขนมขบเคี้ยว ก็เปลี่ยนมาเป็นพวกถั่วอัลมอนด์ พวกเม็ดมะม่วง ถั่วลิสงค์ของโก๋แก่เพราะชอบกินอยู่แล้ว เลยไปหาข้อมูลเรื่องกินขนมแบบไหนไขมันถึงลด ได้ทริคมาคือกินโปรตีนจากพวกถั่ว พวกนี้จะช่วยให้อิ่มนาน ทำให้ไม่ต้องกินจุกจิก กินไปแล้วไม่รู้สึกผิด ถ้าหิวก็หยิบถั่วเข้าปาก พกเป็นถุงไปด้วย หรือซื้อได้ตามเซเว่น ไม่ต้องอดกิน กินเป็นของว่าง แค่เปลี่ยนจากขนมขบเคี้ยวมาเป็นถั่วแทนกันได้ ก็กินๆ ชอบสุดคืออัลมอนด์
ส่วนโยเกิร์ตเลือกกินแบบหวานน้อย ไขมันต่ำ แคลต่ำ ของดัชชี่ตัวนี้รสธรรมชาติ เอามาพอกหน้าก็ได้ด้วย ปกติกินเพื่อระบบขับถ่ายและความชอบส่วนตัวอยู่แล้ว เดิมกินสูตรอื่น น้ำตาลเยอะมาก แต่เพื่อสุขภาพต้องลดหวาน จะทำให้หิวน้อยลง ไม่โหย ลองปรับมากินแบบหวานน้อยแล้วก็อร่อยเหมือนกันแถมได้สุขภาพ
อีกอย่างสำคัญคือ งดพวกน้ำหวานที่ใส่น้ำตาลเยอะ ของชอบแบบชานมไข่มุกก็ต้องพักก่อน -0- ถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ก็มากินเจเล่ ไม่หวานมาก อยู่ท้องเพราะเป็นวุ้นๆ อร่อยด้วยกับตัวช่วยยามอยากกินชานม
และกินนมจืดแทนนมหวานๆ เช่น เวลารีบไปทำงานก็เเวะเซเว่น แลคตาซอยตัวนี้รสจืด กลมกล่อม อร่อยมันๆ
แล้วก็มีพวกผลไม้สดๆ ที่เราชอบก็จะมีเสาวรส กินสดๆ เหยาะเกลือนิดหน่อย อะโวคาโดก็อร่อยช่วยเพิ่มไขมันดี กล้วยตากก็ของชอบ จะบอกว่าตัวกล้วยเองมันหวานธรรมชาติของมันเองอยู่แล้ว ถ้าอยากกินของหวานก็กินกล้วยแทน เคี้ยวเพลินไปอีก ผลไม้ก็ชอบมีเส้นใยตัวช่วยเรื่องขับถ่ายชั้นยอดเลยแหละ น้ำผลไม้ก็อร่อยสดชื่น อยากกินผลไม้ แต่ไม่อยากเคี้ยวก็กินแบบน้ำแครอท pash เข้มข้นมาก แล้วก็มีน้ำอินถผลัม ของ kolak หวานน้อย แต่กินสดชื่นอยู่น้า
ระหว่างนั้นก็ได้ค้นคว้าเทคนิคจากอากู๋ (กูเกิลของเรานั่นแหละ) และกระทู้ต่างๆ รวมทั้งตามจากเพจต่างๆ มากมาย มีรุ่นพี่แนะนำ คนที่รู้จักในแวดวงสุขภาพก็แนะนำมา พอจะเข้าใจคอนเซ็ปท์ในการลดน้ำหนักโดยปรับการกินเป็นหลัก ตามตั้งใจไว้คือซื้ออาหารกิน 1- 2 มื้อ สลับกันทำกินเอง วนกันไป เราเลือกกินเป็นอาหารลีนนะคะ
สำหรับอาหารลีนที่เราเลือกซื้อกิน เป็น lean food จากร้าน DjPoomMENU เน้นเเคลต่ำ ไม่ใช้น้ำมัน รสชาติดี สารอาหารครบ หน้าตาน่ากินมาก มีเมนูให้เลือกเยอะ มีทั้งเมนูไทยและต่างประเทศ แล้วก็มีเครื่องดื่ม 0 แคล กับพวกขนมแคลต่ำด้วย
ว่าแล้วก็กดสั่งข้าวขาหมูมาลิ้มรสกันสักหน่อย พอสั่งมาแล้วไม่ผิดหวังเลย ทุกอย่างตรงปก ที่สำคัญคือแคลต่ำอะแก เป็นไปได้ไง แต่เป็นไปได้จ้ะ เพราะอันนี้เค้าจะใช้โค้กซีโร่ แทนน้ำพะโล้หวานๆ เลยทำให้แคลทั้งกล่องนี้แค่ 400 Kcal เองนะ (โปรตีน 32 g คาร์บ 18 g ไขมัน 17 g) รสชาติก็เหมือนขาหมูที่เรากินปกติอ่ะแหละ ไม่แตกต่าง แต่ไม่มีหนังหมูนะจ้ะ อันนี้ต้องละหน่อย5555 สำหรับเมนูนี้เราว่า DjPoomMENU ทำออกมาได้ดี หมูนิ่มเปื่อยๆนุ่มๆ มีไข่มาด้วยครึ่งลูก ชิมเพลินไปหน่อย จะหมดกล่องแล้วไม่สนใจข้าวเลย

สำหรับร้าน DjPoomMENU ที่ชอบหลักๆเลย คือเรื่องรสชาติ ถูกปาก ไม่จืด คือต่างจากอาหารคลีนจ๋านะ อันนั้นบอกตามตรงไม่ถูกปากเราเท่าไหร่ เพราะส่วนตัวเรากินรสจัดด้วย แต่พอเป็นอาหารลีนแล้วรสชาติเค้ายังออกมาอร่อย เป็นรสชาติที่ไม่ต้องฝืนกิน กินได้ไม่เบื่อ ไม่ทำให้เราเก็บกดจนตบะแตก หรือว่าโยโย่ ของเจ้านี้ปริมาณก็ได้เยอะ กินกล่องนึงก็อยู่ท้องยาวๆเลยนะ เพราะข้าวเค้าก็มักจะเป็นพวก ข้าวไม่ขัดสี พวกข้าวกล้อง ข้าวไรซ์ ทำให้อิ่มท้องอยู่ท้องนาน ขับถ่ายง่ายด้วย อย่างผู้ชายจะไม่ค่อยซื้อกิน เพราะคิดว่ากล่องนึงคงได้น้อยแล้วไม่อิ่ม แต่จากที่เรากินมาเราคิดว่าถ้าเป็นผู้ชายนี้น่าจะชอบเลย อิ่มแน่นแน่นอน ขนาดผู้หญิงกินจุอย่างเรายังอิ่มแปล้ได้เลย5555
ของเราเราจะชอบสั่งมาพร้อมกันหลายกล่องเพราะประหยัดค่าส่งด้วย5555 เรามีตุนไว้ตลอดไม่ให้ขาด อันนี้เก็บแช่ตู้เย็นไว้ได้ค่ะ ก่อนกินก็อุ่น 3-5 นาที หรือถ้าใส่ช่องฟรีซก็อุ่นนานขึ้นสัก 2 นาที ถ้าเก็บช่องธรรมดาอยู่ได้ 3-4 วัน หรือถ้าแช่เเข็งช่องฟรีซได้นานถึง 10 วันค่ะ
ส่วนใหญ่เราจะสั่งผ่านไลน์ ออร์เดอร์ปุ๊ป ทางร้านก็แจ้งยอดโอน+ค่าส่ง (คิดตามระยะทางจริง) สั่งล่วงหน้าอย่างต่ำ 2-3 ชั่วโมงนะคะ ถือว่าไวมาก (ร้านอื่นๆที่เคยหาต้องสั่งล่วงหน้า 1-2 วัน) จากนั้นก็แจ้งเวลาที่จะให้เค้ามาส่งของ เค้าก็จะถามว่าให้อุ่นก่อนส่งไหมถ้าจะกินเลยก็สั่งว่าจะอุ่นกล่องไหน อย่างเมนูนี้ไก่ชิ้นใหญ่มาก อุ่นมาให้พร้อม มาถึงก็กินได้เลย ถ้าใครอยู่ต่างจังหวัดเราก็เห็นว่ามีส่งด้วยนะ หรือใครจะหาซื้อหน้าร้านก็มีค่ะ แต่เราไม่เคยนะ อยู่กทม. สั่งออนไลน์มาตลอดก็ง่ายดี
อาหารของ DjPoomMENU จะเป็นอาหารลีนนะคะ เเคลต่ำ มีสัดส่วนโปรตีนเป็นหลัก อย่างเมนูไก่ย่างกระเทียมพริกไทยลีน อันนี้จะช่วยให้อยู่ท้อง อิ่มนาน แล้วก็มีคาร์โบไฮเดรต เป็นข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ผสมข้าวขาว มีเครื่องเคียงเป็นผัก 3 สี บล็อกโคลี่/เเครอท/ฟักทองลวก ปรุงรสชาติมาอร่อยดี ข้าวเหนียวนุ่ม ไก่ไม่แห้ง ผักความสุกกำลังดี แต่ละกล่องพลังงานเฉลี่ยที่ 300-400 calเอง เหมาะกับคนคุมแคลอยากผอมแบบชั้นที่สุด
เมนูที่ซื้อบ่อยของเรานะคะ ก็จะมียำไก่ย่างลีน ไก่ย่างกระเทียมพริกไทยลีน คั่วกลิ้งไก่ลีน ฉู่ฉี่ปลาลีน และขาหมูลีน หนมจีบ ซี่โครงหมูอะไรคือมีหมด เราว่าเค้ามีเมนูที่มันแปลกใหม่ดีอ่ะ ไม่ได้มีแต่พวกอกไก่ หรือว่าเมนูเบๆ
[CR] ภารกิจเปลี่ยนหุ่นหมีให้กลับมาดูดีเหมือนตอนปี 1 *-* ลดหุ่นให้สวยทันวันรับปริญญา
หลังจากนั้น ก็ได้คบหากับไก่ทอดและชานมไข่มุกเป็นของกินคู่ใจ กินบ่อยมาก แต่ไปๆมาๆ ไม่ไหวแล้ว ตัวแตกจ้า หลังเรียนจบปี4 เคลียร์งานทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ความเครียดเรื่องเรียนได้หายไปจากชีวิต ก็เตรียมตัวก้าวเข้าสู่วัยทำงานแบบเลี่ยงไม่ได้ สมัครงานยื่นพอร์ท ตระเวนสัมภาษณ์งาน และแล้วก็ได้งานหลังเรียนจบตามตั้งใจ พอมีงานทำแล้วก็โล่งใจขึ้นอีกหน่อย จากนั้นก็หันกลับมาคุยกับตัวเองว่า ชั้นต้องเปลี่ยนตัวเองให้ได้ ดูแลสุขภาพให้มากขึ้น...เพราะตอนปี 3-4 …พุ่งไป 54 กก. ความรู้สึกส่วนตัวคืออึดอัดขึ้นมาก จึงตั้งใจปรับตัวเองครั้งนี้ เพื่อให้หุ่นกลับสู่สภาพที่โอเคขึ้น และอยากลดให้ได้ลงมาซัก 7 โล ให้เหลือ 47 (ปกติเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูป ตอนหุ่นอืดขึ้นมาไม่ค่อยถ่ายรูปเท่าไหร่) -0- โดยมีแนวทางคือ….
วางแผนปฏิบัติการครั้งนี้ ตั้งไว้ที่ 1-2 เดือน หลังจากผ่านมรสุมช่วงเรียนมหาลัยที่ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองน้ำหนักเลยขึ้นมาจนอึดอัด กางเกงคับ หายใจสำบาก ติดกระดุมไม่ได้ เป้าหมายสำคัญอีกอย่างคือ ต้องหุ่นดีขึ้นก่อนวันรับปริญญาให้ได้ เพราะครั้งหนึ่งในชีวิตที่เรียนจบก็ต้องมีรูปสวยๆ หุ่นฟาดๆ ไว้เป็นที่ระทึกแหละแก! (ปล.ตอนนั้นอ้วนอืด ไม่มั่นใจไม่กล้าถ่ายรูปตัวเองเท่าไหร่)
และก็มาเริ่มเตรียมตัว หาแนวทางที่เหมาะกับตัวเอง ด้วยความเราเริ่มทำงานแล้วด้วยความที่ไม่มีเวลาออกกำลัง (+ออกแล้วเหนื่อยโฮก ไม่อยากตื่นไปทำงาน หรือขี้เกียจนั่นเอง) จากการประมวลผลในตัวเองภายในสามวัน และแล้วก็ได้แนวทางที่ตรงกับตัวเองที่สุดคือ ชอบกิน5555 ก็เน้นควบคุม+ปรับการกินแล้วกัน อันนี้น่าจะทำได้ง่ายที่สุด
กลับมาเรื่องอาหาร เค้าว่ากันว่าทำอาหารกินเองดีที่สุด ไอ่เราก็ทำงานแล้วไม่มีเวลาทำกินเองสักเท่าไหร่ เป็นครั้งคราวก็น่าจะได้ เพราะทำไม่ค่อยเป็นด้วย ก็เลยตั้งใจว่าจะหาสั่งกินเอา ควบคู่กับที่ทำเองด้วย ว่าแล้วก็ไปต่อ ค้นหาร้านอาหารทันที เปิดดูหลายร้านค้นก็เจอพวกเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพมาแรงสุดๆ แต่ที่เห็นก็เป็นอกไก่ซะส่วนใหญ่ ข้าวกล้อง แล้วก็มีผัก ดูไปพรางๆ ก็เปิดเจอร้านนึง หือออ มีขาหมูแคลต่ำด้วยหรอ ความหวังเริ่มกลับมา 5555 ของชอบเลยเนี่ย และก็เปิดดูหลายๆ เมนูน่าสนใจทั้งนั้นเลย เก็บไว้เป็นตัวเลือก และหาร้านอื่นๆ ต่อไป ^_^
พอมีเวลาว่างหรือวันหยุด ก็ทำกับข้าวกินเองบ้าง สั่งจากร้านบ้าง เมนูเราก็จะเน้น อาหารมีประโยชน์ โปรตีน แป้ง ไขมันดี เวลาผัดใช้น้ำมันมะกอกซึ่งเป็นไขมันที่ดี หรือผัดน้ำเปล่า หรือบางครั้งใช้กะทะแบบไม่ใช้น้ำมันผัด ทอดได้ดีเลย แล้วก็มีพวกเมนูลวก นึ่ง ต้ม ลดของทอดของมันเยิ้มๆ ไก่ทอดจ๋าลาไปก่อน ห่างกันสักพัก -0-
ช่วงที่ปรับเรื่องกินแต่ละเดือน ในหนึ่งวัน มี 3 มื้อ เน้นกินมื้อเช้าและเย็นส่วนใหญ่ จะกินเป็นอาหาร DJPoomMENU ตอนเช้าถ้ากินไม่ทันก็อุ่นไปกินที่ทำงาน ช่วงเย็นถ้ากลับช้าก็กลับมาอุ่นกิน มื้อกลางวันกินอาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง แถวที่ทำงาน แต่เลือกกินนิดนึง วันไหนเบื่อข้าวก็กินเป็นก๋วยเตี๋ยว ช่วงวันหยุดหรือมีเวลาว่างเยอะหน่อยจะไปซื้อของมาทำกินเป็นแนวอาหารคลีน เน้นผักพวกบล็อกโคลี่ หน่อไม้ฝรั่ง ผักบุ้ง คะน้า ผัดน้ำมันมะกอก ไม่ใช้น้ำมันเยอะหรือผัดน้ำ พวกแกงจืด ไข่ ไก่ ปลา เน้นเมนูย่าง ลวก ต้ม เลี่ยงของทอด ชุบแป้งทอด และทุกสิ้นเดือนมีมีทติ้งกับออฟฟิศก็จะเลือกกินแต่พอดี และแต่ละอาทิตย์ก็จะเวียนการกินประมาณนี้ตามความชอบในแต่ละวัน ยืดหยุ่นตามเมนูอาหารที่สั่งกินหรือการเลือกกินในช่วงนั้นๆ ด้วย
ส่วนโยเกิร์ตเลือกกินแบบหวานน้อย ไขมันต่ำ แคลต่ำ ของดัชชี่ตัวนี้รสธรรมชาติ เอามาพอกหน้าก็ได้ด้วย ปกติกินเพื่อระบบขับถ่ายและความชอบส่วนตัวอยู่แล้ว เดิมกินสูตรอื่น น้ำตาลเยอะมาก แต่เพื่อสุขภาพต้องลดหวาน จะทำให้หิวน้อยลง ไม่โหย ลองปรับมากินแบบหวานน้อยแล้วก็อร่อยเหมือนกันแถมได้สุขภาพ
อีกอย่างสำคัญคือ งดพวกน้ำหวานที่ใส่น้ำตาลเยอะ ของชอบแบบชานมไข่มุกก็ต้องพักก่อน -0- ถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ก็มากินเจเล่ ไม่หวานมาก อยู่ท้องเพราะเป็นวุ้นๆ อร่อยด้วยกับตัวช่วยยามอยากกินชานม
และกินนมจืดแทนนมหวานๆ เช่น เวลารีบไปทำงานก็เเวะเซเว่น แลคตาซอยตัวนี้รสจืด กลมกล่อม อร่อยมันๆ
แล้วก็มีพวกผลไม้สดๆ ที่เราชอบก็จะมีเสาวรส กินสดๆ เหยาะเกลือนิดหน่อย อะโวคาโดก็อร่อยช่วยเพิ่มไขมันดี กล้วยตากก็ของชอบ จะบอกว่าตัวกล้วยเองมันหวานธรรมชาติของมันเองอยู่แล้ว ถ้าอยากกินของหวานก็กินกล้วยแทน เคี้ยวเพลินไปอีก ผลไม้ก็ชอบมีเส้นใยตัวช่วยเรื่องขับถ่ายชั้นยอดเลยแหละ น้ำผลไม้ก็อร่อยสดชื่น อยากกินผลไม้ แต่ไม่อยากเคี้ยวก็กินแบบน้ำแครอท pash เข้มข้นมาก แล้วก็มีน้ำอินถผลัม ของ kolak หวานน้อย แต่กินสดชื่นอยู่น้า
สำหรับอาหารลีนที่เราเลือกซื้อกิน เป็น lean food จากร้าน DjPoomMENU เน้นเเคลต่ำ ไม่ใช้น้ำมัน รสชาติดี สารอาหารครบ หน้าตาน่ากินมาก มีเมนูให้เลือกเยอะ มีทั้งเมนูไทยและต่างประเทศ แล้วก็มีเครื่องดื่ม 0 แคล กับพวกขนมแคลต่ำด้วย
ว่าแล้วก็กดสั่งข้าวขาหมูมาลิ้มรสกันสักหน่อย พอสั่งมาแล้วไม่ผิดหวังเลย ทุกอย่างตรงปก ที่สำคัญคือแคลต่ำอะแก เป็นไปได้ไง แต่เป็นไปได้จ้ะ เพราะอันนี้เค้าจะใช้โค้กซีโร่ แทนน้ำพะโล้หวานๆ เลยทำให้แคลทั้งกล่องนี้แค่ 400 Kcal เองนะ (โปรตีน 32 g คาร์บ 18 g ไขมัน 17 g) รสชาติก็เหมือนขาหมูที่เรากินปกติอ่ะแหละ ไม่แตกต่าง แต่ไม่มีหนังหมูนะจ้ะ อันนี้ต้องละหน่อย5555 สำหรับเมนูนี้เราว่า DjPoomMENU ทำออกมาได้ดี หมูนิ่มเปื่อยๆนุ่มๆ มีไข่มาด้วยครึ่งลูก ชิมเพลินไปหน่อย จะหมดกล่องแล้วไม่สนใจข้าวเลย
ส่วนใหญ่เราจะสั่งผ่านไลน์ ออร์เดอร์ปุ๊ป ทางร้านก็แจ้งยอดโอน+ค่าส่ง (คิดตามระยะทางจริง) สั่งล่วงหน้าอย่างต่ำ 2-3 ชั่วโมงนะคะ ถือว่าไวมาก (ร้านอื่นๆที่เคยหาต้องสั่งล่วงหน้า 1-2 วัน) จากนั้นก็แจ้งเวลาที่จะให้เค้ามาส่งของ เค้าก็จะถามว่าให้อุ่นก่อนส่งไหมถ้าจะกินเลยก็สั่งว่าจะอุ่นกล่องไหน อย่างเมนูนี้ไก่ชิ้นใหญ่มาก อุ่นมาให้พร้อม มาถึงก็กินได้เลย ถ้าใครอยู่ต่างจังหวัดเราก็เห็นว่ามีส่งด้วยนะ หรือใครจะหาซื้อหน้าร้านก็มีค่ะ แต่เราไม่เคยนะ อยู่กทม. สั่งออนไลน์มาตลอดก็ง่ายดี
เมนูที่ซื้อบ่อยของเรานะคะ ก็จะมียำไก่ย่างลีน ไก่ย่างกระเทียมพริกไทยลีน คั่วกลิ้งไก่ลีน ฉู่ฉี่ปลาลีน และขาหมูลีน หนมจีบ ซี่โครงหมูอะไรคือมีหมด เราว่าเค้ามีเมนูที่มันแปลกใหม่ดีอ่ะ ไม่ได้มีแต่พวกอกไก่ หรือว่าเมนูเบๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้