ส่องดวงเมืองผ่านดวงดาว ๒๕๖๓ (ตอนที่ ๓)
(สถานการณ์ภัยธรรมชาติและเศรษฐกิจ)
จากปรากฏการณ์โคจรวิปริตของดาวพฤหัสบดี (5) และดาวเสาร์ (7) นั้น ยังส่งอิทธิพลต่อสถานการณ์ของโลก
ทั้งในด้านภัยธรรมชาติและด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง
ในด้านภัยธรรมชาตินั้น การโคจรร่วมกันของดาวพฤหัสฯ และดาวเสาร์ จะมีอิทธิพลทำให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นบนโลก
โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่โคจรทับกันสนิทองศา แล้วสมาสัป หรือสวนกัน ไม่ว่าจะเป็นการโคจรเดินหน้าหรือถอยหลัง
เพราะทั้งคู่เป็นดาวใหญ่ เมื่ออิทธิพลของดวงดาวมาปะทะกัน ย่อมส่งพลังออกไปทั่วจักรวาล ในปีนี้จึงมีโอกาสที่จะ
เกิดแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งทั่วโลก และอาจรวมทั้งประเทศไทยด้วย
การโคจรถอยหลัง (RETROGRADE) ของดาวเสาร์ (7) ยังส่งผลร้ายต่อเหตุการณ์บ้านเมือง ซึ่งในคัมภีร์ "อภิธรรมอรรถสาลินี"
ได้กล่าวไว้ส่วนหนึ่งว่า
"พระเสาร์และพระอังคารท่านอภิปราย พักร์ในราศีร้ายจำเพาะมี
คือพฤษภ สิงห์ มีน ธนู พักร์ ว่าร้ายนักทำนายไว้สี่ราศี
จะเกิดความเสียหายวายชีวี พระธรณีจะดูดกินซึ่งเลือดคน"
จากโครงพยากรณ์นี้ก็พอชี้ให้เห็นได้ว่าในขณะที่พระเสาร์ (7) พักร์องศาก็จะเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นไปได้ที่จะเกิดทั้งจาก
ภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุร้ายแรง หรือจากการปะทะกันของคนสองฝ่าย และจะทำให้มีคนตายพร้อมๆ กันในแต่ละครั้งเป็นจำนวนมาก
ในโครงพยากรณ์ยังกล่าวถึง พระอังคาร (3) ซึ่งปีนี้ดาวอังคารจะโคจรถอยหลังในราศีเมษและข้ามกลับมายังราศีมีน ตั้งแต่
วันที่ ๑๖ ก.ย. ถึง ๒๗ พ.ย. ๖๓ จึงเริ่มเดินหน้าปกติ การโคจรวิปริตของพระอังคารนั้นก็มีโครงพยากรณ์ไว้ว่า
"อังคารพักร์ในเมษราศี ธนู สิงห์ สามนี้ร้ายหนักหนา
เป็นนิมิตแก่แผ่นพสุธา จะแยกเป็นสองว่าอัศจรรย์
อีกจะเกิดลมพายุวิปริต จะเกิดไข้ทรพิษเป็นมหันต์
มหาชนจะพินาศลงดาษครัน อังคารนั้นมนต์อยู่เกิดไข้ตาย"
คำพยากรณ์นี้ไม่ได้เกินเลยความเป็นจริงแม้แต่น้อย ดังปรากฏให้เห็นเมื่อ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ คนไทยก็ได้แบ่งแยกออกเป็นสองฝ่าย
ประชาชนถูกลากจูงมาเล่นกีฬาสีกันทั่วทั้งประเทศ จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสงครามกลางเมือง สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง
อย่างมหาศาล
ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ พระอังคารโคจรวิปริตในราศีกรกฏ ธาตุน้ำและอยู่ในราศีนี้ถึงสามเดือน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มีพายุ ฝนตกหนักเหนือ
เขื่อนอยู่เป็นเวลานานจนต้องระบายน้ำทิ้ง เพื่อป้องกันเขื่อนแตก จนในที่สุดก็เกิดเป็นมหาอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ
และครั้งล่าสุดที่พระอังคาร (3) โคจรย้อนวิถีจักรพักร์องศา เมื่อกลางปี ๒๕๖๑ เพียงแค่ ๑ วันหลังจากพระอังคารเดินถอยหลังก็เกิด
"ลมพายุวิปริต" ขึ้น ทั้งที่ไม่ใช่น่ามรสุม แต่ก็เกิดพายุรุนแรงแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ลมพายุเกิดในช่วงเย็น พัดต้นไม้ใหญ่หักโค่นหลายต้น
และทำให้เรือโดยสารนำเที่ยวที่นำนักท่องเที่ยวชาวจีนออกทะเลที่จังหวัดภูเก็ตต้องอัปปาง นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิต ๔๗ คน
ดังนั้น ในช่วงวลาที่ดาวอังคารเริ่มเดินถอยหลัง ก็ขอให้ระมัดระวังกันให้ดี ไม่ควรออกทะเลในช่วงวลานั้น
และต้องมีสติไม่ให้ใครมาชักจูงไปเล่นกีฬาสีกันอีก
ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจ เมื่อเกิดปัญหาด้านการเมืองที่รุนแรง ย่อมส่งผลกระทบมาถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และการทำมาหากิน
ของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ดาวพฤหัสบดี (5) และดาวเสาร์ (7) โคจรในราศีมกรตั้งแต่ เดือน มี.ค. - ก.ค. ประมาณ ๔ เดือน
ซึ่งพระเสาร์เจ้าแห่งโทษทุกข์จะเล็งพระจันทร์ (๒) ในพื้นดวงเมืองที่สถิตในราศีกรกฏ พระจันทร์ในดวงเมืองก็หมายถึงประชาชน
พลเมืองในประเทศ เมื่อพระเสาร์จรเข้ามาเล็งเช่นนี้ ย่อมไม่มีทางที่จะหลีกหนีปัญหาความทุกข์ยากไปได้
ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวตัวแทนของระบบทุนนิยมและเป็นดาวแห่งผลประโยชน์ของประเทศ ส่วนดาวเสาร์ เป็นดาวที่มีลักษณะของการจำกัด
ตระหนี่ถี่เหนียว อนุรักษ์นิยม ยังหมายถึงผู้ใช้แรงงาน โรงงานอุตสาหกรรม เกษตรกรรม เมื่อโคจรวิปริตก็ย่อมส่งผลถึงผลประโยชน์ที่ประเทศ
จะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า การลงทุนทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ที่จะต้องล่าช้า ต้องทบทวน ต้องชะลอหรือเลื่อนออกไป
การขาดหายไปของเม็ดเงินลงทุนจากภาคเอกชน การค้าระหว่างประเทศที่ลดลงหรือชะลอตัวลงจากการยกเลิกคำสั่งซื้อ ตลอดจนการ
จำกัดการใช้จ่ายและการบริโภคของภาคประชาชนที่ลดลงเนื่องจากไม่มั่นใจในภาวะเศษรฐกิจ
ปรากฏการณ์ดังกล่าวยังส่งผลต่อภาวะการจ้างงานที่ลดลงจนถึงการปลดคนงาน โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม จะมีการปิดโรงงาน
และลอยแพพนักงานเป็นจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อกันไปเป็นลูกโซ เพราะรายได้ของประชาชนหดหายลงไปเป็นจำนวนมาก
การทำธุรกิจ ทำมาค้าขายจะอยู่ในภาวะฝืดเคืองอย่างมาก แต่ในส่วนของวงการบันเทิง ยังไปได้ดีอยู่ การค้าขายของเลียนแบบ ของปลอม
ของย้อมแมวจะมีให้เห็นไปทั่ว การพนัน อบายมุขทั้งหลายจะเฟื่องฟู
ส่องดวงเมืองผ่านดวงดาว (ตอนที่ 3) โดย พล พยากรณ์
(สถานการณ์ภัยธรรมชาติและเศรษฐกิจ)
จากปรากฏการณ์โคจรวิปริตของดาวพฤหัสบดี (5) และดาวเสาร์ (7) นั้น ยังส่งอิทธิพลต่อสถานการณ์ของโลก
ทั้งในด้านภัยธรรมชาติและด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง
ในด้านภัยธรรมชาตินั้น การโคจรร่วมกันของดาวพฤหัสฯ และดาวเสาร์ จะมีอิทธิพลทำให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นบนโลก
โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่โคจรทับกันสนิทองศา แล้วสมาสัป หรือสวนกัน ไม่ว่าจะเป็นการโคจรเดินหน้าหรือถอยหลัง
เพราะทั้งคู่เป็นดาวใหญ่ เมื่ออิทธิพลของดวงดาวมาปะทะกัน ย่อมส่งพลังออกไปทั่วจักรวาล ในปีนี้จึงมีโอกาสที่จะ
เกิดแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งทั่วโลก และอาจรวมทั้งประเทศไทยด้วย
การโคจรถอยหลัง (RETROGRADE) ของดาวเสาร์ (7) ยังส่งผลร้ายต่อเหตุการณ์บ้านเมือง ซึ่งในคัมภีร์ "อภิธรรมอรรถสาลินี"
ได้กล่าวไว้ส่วนหนึ่งว่า
"พระเสาร์และพระอังคารท่านอภิปราย พักร์ในราศีร้ายจำเพาะมี
คือพฤษภ สิงห์ มีน ธนู พักร์ ว่าร้ายนักทำนายไว้สี่ราศี
จะเกิดความเสียหายวายชีวี พระธรณีจะดูดกินซึ่งเลือดคน"
จากโครงพยากรณ์นี้ก็พอชี้ให้เห็นได้ว่าในขณะที่พระเสาร์ (7) พักร์องศาก็จะเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นไปได้ที่จะเกิดทั้งจาก
ภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุร้ายแรง หรือจากการปะทะกันของคนสองฝ่าย และจะทำให้มีคนตายพร้อมๆ กันในแต่ละครั้งเป็นจำนวนมาก
ในโครงพยากรณ์ยังกล่าวถึง พระอังคาร (3) ซึ่งปีนี้ดาวอังคารจะโคจรถอยหลังในราศีเมษและข้ามกลับมายังราศีมีน ตั้งแต่
วันที่ ๑๖ ก.ย. ถึง ๒๗ พ.ย. ๖๓ จึงเริ่มเดินหน้าปกติ การโคจรวิปริตของพระอังคารนั้นก็มีโครงพยากรณ์ไว้ว่า
"อังคารพักร์ในเมษราศี ธนู สิงห์ สามนี้ร้ายหนักหนา
เป็นนิมิตแก่แผ่นพสุธา จะแยกเป็นสองว่าอัศจรรย์
อีกจะเกิดลมพายุวิปริต จะเกิดไข้ทรพิษเป็นมหันต์
มหาชนจะพินาศลงดาษครัน อังคารนั้นมนต์อยู่เกิดไข้ตาย"
คำพยากรณ์นี้ไม่ได้เกินเลยความเป็นจริงแม้แต่น้อย ดังปรากฏให้เห็นเมื่อ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ คนไทยก็ได้แบ่งแยกออกเป็นสองฝ่าย
ประชาชนถูกลากจูงมาเล่นกีฬาสีกันทั่วทั้งประเทศ จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสงครามกลางเมือง สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง
อย่างมหาศาล
ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ พระอังคารโคจรวิปริตในราศีกรกฏ ธาตุน้ำและอยู่ในราศีนี้ถึงสามเดือน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ มีพายุ ฝนตกหนักเหนือ
เขื่อนอยู่เป็นเวลานานจนต้องระบายน้ำทิ้ง เพื่อป้องกันเขื่อนแตก จนในที่สุดก็เกิดเป็นมหาอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ
และครั้งล่าสุดที่พระอังคาร (3) โคจรย้อนวิถีจักรพักร์องศา เมื่อกลางปี ๒๕๖๑ เพียงแค่ ๑ วันหลังจากพระอังคารเดินถอยหลังก็เกิด
"ลมพายุวิปริต" ขึ้น ทั้งที่ไม่ใช่น่ามรสุม แต่ก็เกิดพายุรุนแรงแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ลมพายุเกิดในช่วงเย็น พัดต้นไม้ใหญ่หักโค่นหลายต้น
และทำให้เรือโดยสารนำเที่ยวที่นำนักท่องเที่ยวชาวจีนออกทะเลที่จังหวัดภูเก็ตต้องอัปปาง นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิต ๔๗ คน
ดังนั้น ในช่วงวลาที่ดาวอังคารเริ่มเดินถอยหลัง ก็ขอให้ระมัดระวังกันให้ดี ไม่ควรออกทะเลในช่วงวลานั้น
และต้องมีสติไม่ให้ใครมาชักจูงไปเล่นกีฬาสีกันอีก
ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจ เมื่อเกิดปัญหาด้านการเมืองที่รุนแรง ย่อมส่งผลกระทบมาถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และการทำมาหากิน
ของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ดาวพฤหัสบดี (5) และดาวเสาร์ (7) โคจรในราศีมกรตั้งแต่ เดือน มี.ค. - ก.ค. ประมาณ ๔ เดือน
ซึ่งพระเสาร์เจ้าแห่งโทษทุกข์จะเล็งพระจันทร์ (๒) ในพื้นดวงเมืองที่สถิตในราศีกรกฏ พระจันทร์ในดวงเมืองก็หมายถึงประชาชน
พลเมืองในประเทศ เมื่อพระเสาร์จรเข้ามาเล็งเช่นนี้ ย่อมไม่มีทางที่จะหลีกหนีปัญหาความทุกข์ยากไปได้
ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวตัวแทนของระบบทุนนิยมและเป็นดาวแห่งผลประโยชน์ของประเทศ ส่วนดาวเสาร์ เป็นดาวที่มีลักษณะของการจำกัด
ตระหนี่ถี่เหนียว อนุรักษ์นิยม ยังหมายถึงผู้ใช้แรงงาน โรงงานอุตสาหกรรม เกษตรกรรม เมื่อโคจรวิปริตก็ย่อมส่งผลถึงผลประโยชน์ที่ประเทศ
จะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า การลงทุนทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ที่จะต้องล่าช้า ต้องทบทวน ต้องชะลอหรือเลื่อนออกไป
การขาดหายไปของเม็ดเงินลงทุนจากภาคเอกชน การค้าระหว่างประเทศที่ลดลงหรือชะลอตัวลงจากการยกเลิกคำสั่งซื้อ ตลอดจนการ
จำกัดการใช้จ่ายและการบริโภคของภาคประชาชนที่ลดลงเนื่องจากไม่มั่นใจในภาวะเศษรฐกิจ
ปรากฏการณ์ดังกล่าวยังส่งผลต่อภาวะการจ้างงานที่ลดลงจนถึงการปลดคนงาน โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม จะมีการปิดโรงงาน
และลอยแพพนักงานเป็นจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อกันไปเป็นลูกโซ เพราะรายได้ของประชาชนหดหายลงไปเป็นจำนวนมาก
การทำธุรกิจ ทำมาค้าขายจะอยู่ในภาวะฝืดเคืองอย่างมาก แต่ในส่วนของวงการบันเทิง ยังไปได้ดีอยู่ การค้าขายของเลียนแบบ ของปลอม
ของย้อมแมวจะมีให้เห็นไปทั่ว การพนัน อบายมุขทั้งหลายจะเฟื่องฟู