LOFOTEN อยู่ส่วนไหน??
          หมู่เกาะนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศนอร์เวย์ เป็นดินแดนในเขตขั้วโลกเหนือที่มีภูเขาและทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา และยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่มีโอกาสเจอแสงเหนือได้เช่นกัน

---

- ทำวีซ่า Schengen ก่อน สำหรับคนที่ยังไม่มี https://pantip.com/topic/39266701กระทู้เราเอง ยื่นวีซ่าเองง่ายมากๆ
- วางแผนการเดินทาง
- จอง ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถไฟ รถเช่า ที่พัก(เราจองหลังวีซ่าผ่านทั้งหมด)
   ตั๋วเครื่องบิน 
          ☺️ BKK – Oslo : ช่วงกลางปีมีตั๋วโปรออกมาค่อนข้างเยอะ ราคาดี เช่น Finnair, Swiss air 19,XXX หรือ Norwegian air 11,XXX แบบไม่ต้องจองข้ามปีก็ราคานี้เลย เนื่องด้วยพวกเราเวลาน้อยไม่อยากต่อเครื่อง และน้ำหนักกระเป๋าได้ 30 กิโล จึงเลือกการบินไทย ในราคา 24,600 บาท
          ☺️ Oslo – Leknes : ที่หมู่เกาะโลโฟเทนจะมี 2 สนามบิน คือ Leknes และ Svolvær มีให้เลือก 2 สายการบิน SAS และ Wideroe จองที่ไหนก็ได้เลือกเวลาที่เราสะดวกเลย(สายการบินร่วมกัน) ราคาประมาณ 5-7,XXX บาท ***ราคาขึ้นอยู่กับวันโปรจะมีเป็นรอบๆ เราเคยเจอราคาก่อนทำวีซ่าที่ 5 พันกว่าๆ แต่พอจะจองจริงได้มาที่ราคา 6,500 บาท แพงไปอีก 
          หรือหากมีเวลาพอและประหยัดค่าเดินทางสามารถนั่งเครื่องจาก Oslo ลงที่ Bodø และใช้บริการเรือไปยังเกาะ ที่ท่าเรือ Moskenes
          ☺️ Leknes – Tromso  
          ☺️ Tromso – Bergen  
   ตั๋วรถไฟ Bergen ไป Oslo : จองล่วงหน้าก่อนเดินทางได้เลย ผ่านเว็ปรถไฟ NSB
   รถเช่า : เลือกจองกับ Sixt ก่อนเดินทาง 1 สัปดาห์  จริงๆควรจองไว้ก่อนเผื่อรถไม่มีสำหรับผู้ที่เดินทางหลายคน
   ที่พัก : ตามที่ต้องการเลย
-  แลกเงิน NOK : ไม่ต้องแลกก็ได้ >> ใช้บัตรอย่างเดียว บัตรเครดิต บัตรเดบิต เรื่อง Pin บางร้านใช้บางร้านไม่ได้ใช้
-  ซิมโทรศัพท์ รอบนี้ใช้บริการ Instasim ไม่ได้อวยนะแต่สัญญาณดีมาก
-  ยาและอาหารจากเมืองไทย 555+

---

แผนการเดินทางคร่าวๆ(Norway) ดังนี้
วันที่ 1 : OSLO >> LOFOTEN
วันที่ 2-4 : LOFOTEN
วันที่ 5 : LOFOTEN >> TROMSO
วันที่ 6 : TROMSO >> BERGEN
วันที่ 7 : BERGEN >> OSLO
วันที่ 8 : OSLO
 
          DAY 1 >> วันที่แสนจะวุ่นวาย << ขอลงรายละเอียดเผื่อใครโชคดีเจอแบบพวกเรา: จากกรุงเทพฯไปยังออสโล เดินทางด้วยสายการบินแห่งชาติไทย ตามเวลาถึงประมาณ 6:50 น. >> ลุ้นมากเนื่องจากมีไฟท์บินต่อไปยัง Bodø 10:10น. และต้องต่อไปยัง Leknes 12:15 น. ไหนจะต้องผ่านตม.รับกระเป๋า ไปเช็คอินใหม่ โหลดกระเป๋า ผ่านด่านตรวจสแกน (กลัวไม่ทัน) สรุปถึงออสโลจริง 6:15 น. ดีใจถึงก่อนเวลา แต่ๆกำลังจะลุกจากที่นั่ง สายการบินประกาศว่ายังลงจากเครื่องไม่ได้เนื่องจากหิมะตกหนัก รอ 45 นาที > 7 โมงเช้าได้ลงจากเครื่อง เวลาเดิมอยู่ดี
          รีบเข้าตม.เช้าๆแบบนี้คนน้อยมาก พวกเราเข้าไปพร้อมกันทั้ง 4 คน ปกติยังไม่เคยเข้าไปพร้อมกันแบบนี้ แต่เพื่อความรวดเร็ว เข้าไปแล้วพูดกับตม.ว่าพวกเรามี 4 คนนะ > ตม.เป็นผู้หญิงถามหลายคำถาม เช่น มาทำอะไร ไปไหนบ้าง มากี่วัน กลับวันไหน (อยู่บ้านขายของฟังแต่ภาษาไทย จริงๆแอบตื่นเต้นเล็กๆ) หลังจากรับกระเป๋า เดินตามป้าย เช็คอินที่ตู้ Kiosk ติดแท็กกระเป๋าและโหลดกระเป๋าเอง ตื่นเต้นไปอีกไม่เคยทำเองมาก่อน มาผ่านด่านสแกนอีกรอบ ตอนนั้น 8 โมงเช้า เวลาเหลือสบายๆ เดินเล่นในหาของกิน รอหน้าเกท
          ประมาณ 9:50 น. ประกาศเปลี่ยนเกท สำหรับคนที่ฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง ดูคนรอบข้างและดูจากป้ายได้เลย พอเปลี่ยนเกทยังไม่ทันได้นั่งชิวๆ ประกาศ Delayed departure เป็น 11:30 น. เอาแล้วไง ไม่ทันแน่นอน เดินไปหาเคาน์เตอร์สายการบินว่าเรามีไฟท์ต่อไป Leknes เวลา 12:15 น. พนง.บอกเราแค่ว่าเมื่อถึง Bodø ให้ติดต่อที่นั้นเอง กว่าจะล้างเครื่องบิน(เพิ่งเคยเห็นฉีดๆโฟมหิมะออก)
          สรุป Take off 12:30 น. ถึง Bodø 14:00 น. บนเครื่องประกาศให้เราไปรอหน้าเกท เพื่อรอขึ้นเครื่องรอบใหม่ แต่เรายังมีอีกเรื่องต้องจัดการ คือ นัดรับรถเวลา 14:30 น. ที่ Leknes บริษัทรถจะรอเราแค่ 1 ชั่วโมงจากเวลานัด ต้อง Mail ไปแจ้งเลื่อนเวลาใหม่ นั่งรอหน้าเกทสักครู่ สายการบิน Mail ให้เรา Check in ใหม่อีกรอบ Boarding เวลา 14: 55 น. แต่ดันเขียนมาว่าเมื่อถึงสนามบินสัมภาระจะต้องมารับที่จุด Bag-drop ก่อน Check in สำหรับคนที่มีแต่กระเป๋าถืออย่างเดียวตรงไปเกทได้เลย...อ้าว!!! กระเป๋าพวกฉันล่ะ วิ่งไปที่สายพานไม่มีกระเป๋าแล้ว กังวลใจกลัวไม่มีเสื้อผ้าใส่ เดินไปถามเจ้าหน้าที่ โล่งใจสายการบินดำเนินการเรื่องกระเป๋าให้พวกเราเรียบร้อย ประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆ ได้ขึ้นเครื่องบินเล็กสมใจ แต่ท้องฟ้าคือแสงจะหมดแล้ว บินได้ไม่ถึง 30 นาที ถึงสนามบิน Leknes
          รับรถเรียบร้อย และพระอาทิตย์หายไปแล้วในเวลา4 โมงเย็น มืดมากเห็นแต่แสงไฟ ที่สำคัญเพิ่งเคยขับรถพวงมาลัยซ้ายครั้งแรก เลนก็งงๆ ได้ผู้ช่วยข้างๆคนขับบอกทาง และต้องขับไปอีก 60 กิโลเพื่อไปยังที่พัก ขับไปเรื่อยๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง 
          เช็คอินที่พักออนไลน์ ใส่รหัสบ้านเข้าพักได้เลย วันนี้คือเหนื่อยและหิวมาก ได้อาหารจากไทยพออิ่มท้อง ความง่วงเริ่มมาทั้งที่ค่า KP 4 ไม่ดูจร้า…ตั้งปลุกก็ไม่ตื่นจร้า เค้าปิดไฟบริเวณรอบๆเกาะก็ไม่ลุกมาดูแสงกันจร้า (เข้าใจผิดคิดว่าไฟดับ ไฟตก)
          สรุปภาพรวมวันที่ 1 พวกเราวุ่นวายกับการเดินทาง ทำหมดพลังงานกันเลยทีเดียวแสงเหนือ???รอไปก่อน
          DAY 2 >> วันที่ฟ้าครื้ม << ยังปรับตัวไม่ได้ ตื่นมาตั้งแต่ตีสอง นอนไม่ได้แล้ว และไม่มีอะไรทำ นอกจากนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่ม นั่งคุย โทรหาคนที่บ้าน รอจนเช้า Supermarket เปิดซื้อเสบียงมาตุนสำหรับหลายๆมื้ออาหารหลังจากนี้ สำหรับบ้านพักเรามีโซนทำครัว มีโซฟานั่งเล่น สองห้องนอน สามารถพักได้ 5 คน ชื่อที่พัก Eliassen Rorbuer ตามในรีวิวท่านอื่นๆเราคงต้องเลือกที่นี่ >>> วิวดีจริงๆตามคำแนะนำ
          เพิ่มเติม : การน้ำอาบที่นี่...น้ำร้อนมีจำนวนจำกัด ด้วยนิสัยพวกเราหนาวแค่ไหนก็อาบน้ำเช้า-เย็น โดนดีไปเลย!!! ใครอาบน้ำคนสุดท้ายเจออาบน้ำเย็นเยือกจร้าา เราโดนคืน 2 สระๆผมอยู่ดีๆเครื่องทำน้ำร้อนเสียหรือ??? ป่าวๆเลยเพิ่งอ่านป้าย น้ำร้อนมีจำนวนจำกัด ต้องรอไปอีก 2 ชั่วโมงน้ำถึงจะอุ่นขึ้นมา...จ๊ะๆ...ไม่ทันแล้วจร้า

          โปรแกรมเราวันนี้ขับรถตามแพลนชมจุดต่างๆที่ List มา เริ่มจาก หมู่บ้าน Å > Reine > Hammarskaftet > Skrisoy ท้องฟ้าวันนี้ครื้มทั้งวันแต่ไม่มีฝน ขับไปเรื่อยๆจุดชมวิวตรงไหนก็จอดหมด