เราไม่เคยเขียนบทความในพันทิพย์หรือ social onlineใดๆ มาก่อนเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเพราะมันตื้นตัน จนเก็บน้ำตาและความประทับใจ ในคำว่าเพื่อนแท้ที่ไปเจอมา จนอยากส่งสารนี้ไปสู่ใครที่อาจช่วยได้สักคนในนี้ก็พอ
แค่ 2 เรื่องสั้นๆ แต่มันกินใจมากจริงๆ
เรื่องที่1 เราเป็นคนต่างจังหวัดไม่ได้ร่ำรวยอะไรก็เหมือนคนทั่วไปที่เข้ามาทำงานในเมืองกรุงเหมือนคนอื่น แต่เมื่อต้นปี 2563 ได้กลับไปเยี่ยมครอบครัว และขากลับเข้ากรุงเทพ ก็ได้แวะไปเยี่ยมคุณป้าซึ่งไม่เจอกันนานมากแล้ว แกเป็นพี่สาวของพ่อ ไม่มีสามี แต่หลังจากพ่อเสียไปได้ 2 ปีเศษแล้ว แทบไม่ได้แวะไปหาอีกเลย เพราะปกติก็แทบจะเจอกันน้อยมากอยู่แล้ว
ภาพที่คิดตอนแรกคือ แวะไปสวัสดีปีใหม่ขอพรและก็กลับ แต่ภาพความจริงคือคุณป้าท่านเดินไม่ได้แล้วเพราะขาลีบเล็กลงมาก ต้องนอนรอน้องชายแกที่ทำอาชีพค้าขายในตลาดนัดที่เหลืออยู่คนเดียว แวะมาดูเป็นบางเวลา บนบ้านก็จะมีกลิ่นปัสสาวะและกลิ่นสาบคละคลุ้งไปหมด เพราะแกอยู่คนเดียวกับหมา 1 ตัวที่ดุมากที่เลี้ยงมาตั้งแต่มันเล็กๆ เลยไม่มีใครกล้าขึ้นไปบนบ้าน ได้แต่โผล่หน้าดูตรงหน้าต่างชั้น 2ที่แกนอนรอคนอื่นมาส่งข้าวหรือน้ำ โดยมีเก้าอี้ไม้เก่าๆ วางไว้ให้เหยียบขึ้นไปดูหรือคุยกับแก
แต่ภาพประทับใจที่ทำเอาตื้นตันจนน้ำตาเอ่ออยู่เต็มเบ้าตาโดยไม่รู้ตัวคือ เป็นภาพของยายสูงอายุคนหนึ่ง ขอเอ่ยชื่อแกคือยายบัวซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกันกับป้ามานาน อายุกว่า 80 ปีแล้ว แต่ยังเดินได้ เดินมานั่งกับพื้นใกล้หน้าต่างและคุยกับเราโดยเรารู้จักยายบัวตั้งแต่เราเด็กๆ แล้ว แกเล่าว่า “สงสารมัน ไปไหนไม่ได้ แต่ยายยังเดินได้ ยายก็จะเดินมาตะโกนคุยกับมันวันละหลายเวลา เช้า กลางวัน เย็น อย่างน้อยมันจะได้มีเพื่อนคุย “
หลังจากยายบัวพูดยังไม่ทันขาดคำ น้ำตาเราไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ภาพสมัยเก่าตั้งแต่เราเด็กๆ ผุดขึ้นมาในหัวมากมาย มีทั้งภาพยายบัวกับป้าทำบุญบ้านช่วยกัน ทะเลาะกันบ้าง ภาพยายบัวโดนหมาตัวที่อยู่บนบ้านกัดบ้าง เรายังจำภาพที่เราต้องรีบพายายบัวไปโรงพยาบาลบ้านหมี่ได้ดี
เรานั่งคุยกับยายบัวสักพักก็ขอตัวกลับเพราะต้องรีบเดินทางไม่เช่นนั้น รถจะเยอะมากและต้องใช้เวลาเดินทางอีกนาน แต่เรานั่งคิดมาตลอดทางว่าเราจะช่วยยังไงได้บ้าง อย่างน้อยเราได้เรียบเรียงสิ่งที่เราเห็นออกไปให้คนใจบุญในเมืองไทยสักคนได้ช่วยเหลือให้ชีวิตป้าที่เดินไม่ได้แล้ว และนอนอย่างโดดเดี่ยวคนเดียวในบ้านที่ทรุดโทรมมากดีขึ้นบ้างก็ยังดี
เรื่องที่ 2 เรากลับมาคิดถึงตัวเราว่าถ้าเราเป็นแบบป้าบ้างเราจะยังมีเพื่อนดีๆ แบบยายบัวสักกี่คนที่คอยดูแลเราทั้งที่ตัวเองก็อายุมาก และเดินไม่ค่อยไหวแล้วเช่นกัน แต่ยังเป็นห่วงเพื่อนเดินมาหาและตะโกนคุยกันทุกวัน คุณละลองคิดดูว่ารอบตัวคุณตอนนี้
#เพื่อนแท้จริงๆคุณมีกี่คน
#ขอใครสักคนที่อยากช่วยจริงๆแชร์ให้เราที
เมื่อเราอายุเลยวัยเกษียณแล้ว จะเหลือเพื่อนแท้สักกี่คน
แค่ 2 เรื่องสั้นๆ แต่มันกินใจมากจริงๆ
เรื่องที่1 เราเป็นคนต่างจังหวัดไม่ได้ร่ำรวยอะไรก็เหมือนคนทั่วไปที่เข้ามาทำงานในเมืองกรุงเหมือนคนอื่น แต่เมื่อต้นปี 2563 ได้กลับไปเยี่ยมครอบครัว และขากลับเข้ากรุงเทพ ก็ได้แวะไปเยี่ยมคุณป้าซึ่งไม่เจอกันนานมากแล้ว แกเป็นพี่สาวของพ่อ ไม่มีสามี แต่หลังจากพ่อเสียไปได้ 2 ปีเศษแล้ว แทบไม่ได้แวะไปหาอีกเลย เพราะปกติก็แทบจะเจอกันน้อยมากอยู่แล้ว
ภาพที่คิดตอนแรกคือ แวะไปสวัสดีปีใหม่ขอพรและก็กลับ แต่ภาพความจริงคือคุณป้าท่านเดินไม่ได้แล้วเพราะขาลีบเล็กลงมาก ต้องนอนรอน้องชายแกที่ทำอาชีพค้าขายในตลาดนัดที่เหลืออยู่คนเดียว แวะมาดูเป็นบางเวลา บนบ้านก็จะมีกลิ่นปัสสาวะและกลิ่นสาบคละคลุ้งไปหมด เพราะแกอยู่คนเดียวกับหมา 1 ตัวที่ดุมากที่เลี้ยงมาตั้งแต่มันเล็กๆ เลยไม่มีใครกล้าขึ้นไปบนบ้าน ได้แต่โผล่หน้าดูตรงหน้าต่างชั้น 2ที่แกนอนรอคนอื่นมาส่งข้าวหรือน้ำ โดยมีเก้าอี้ไม้เก่าๆ วางไว้ให้เหยียบขึ้นไปดูหรือคุยกับแก
แต่ภาพประทับใจที่ทำเอาตื้นตันจนน้ำตาเอ่ออยู่เต็มเบ้าตาโดยไม่รู้ตัวคือ เป็นภาพของยายสูงอายุคนหนึ่ง ขอเอ่ยชื่อแกคือยายบัวซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกันกับป้ามานาน อายุกว่า 80 ปีแล้ว แต่ยังเดินได้ เดินมานั่งกับพื้นใกล้หน้าต่างและคุยกับเราโดยเรารู้จักยายบัวตั้งแต่เราเด็กๆ แล้ว แกเล่าว่า “สงสารมัน ไปไหนไม่ได้ แต่ยายยังเดินได้ ยายก็จะเดินมาตะโกนคุยกับมันวันละหลายเวลา เช้า กลางวัน เย็น อย่างน้อยมันจะได้มีเพื่อนคุย “
หลังจากยายบัวพูดยังไม่ทันขาดคำ น้ำตาเราไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ภาพสมัยเก่าตั้งแต่เราเด็กๆ ผุดขึ้นมาในหัวมากมาย มีทั้งภาพยายบัวกับป้าทำบุญบ้านช่วยกัน ทะเลาะกันบ้าง ภาพยายบัวโดนหมาตัวที่อยู่บนบ้านกัดบ้าง เรายังจำภาพที่เราต้องรีบพายายบัวไปโรงพยาบาลบ้านหมี่ได้ดี
เรานั่งคุยกับยายบัวสักพักก็ขอตัวกลับเพราะต้องรีบเดินทางไม่เช่นนั้น รถจะเยอะมากและต้องใช้เวลาเดินทางอีกนาน แต่เรานั่งคิดมาตลอดทางว่าเราจะช่วยยังไงได้บ้าง อย่างน้อยเราได้เรียบเรียงสิ่งที่เราเห็นออกไปให้คนใจบุญในเมืองไทยสักคนได้ช่วยเหลือให้ชีวิตป้าที่เดินไม่ได้แล้ว และนอนอย่างโดดเดี่ยวคนเดียวในบ้านที่ทรุดโทรมมากดีขึ้นบ้างก็ยังดี
เรื่องที่ 2 เรากลับมาคิดถึงตัวเราว่าถ้าเราเป็นแบบป้าบ้างเราจะยังมีเพื่อนดีๆ แบบยายบัวสักกี่คนที่คอยดูแลเราทั้งที่ตัวเองก็อายุมาก และเดินไม่ค่อยไหวแล้วเช่นกัน แต่ยังเป็นห่วงเพื่อนเดินมาหาและตะโกนคุยกันทุกวัน คุณละลองคิดดูว่ารอบตัวคุณตอนนี้
#เพื่อนแท้จริงๆคุณมีกี่คน
#ขอใครสักคนที่อยากช่วยจริงๆแชร์ให้เราที