สารานุกรมปืนตอนที่ 310 FFV-890C "Swedish Galil"

"ขอขอบคุณเพจ GUN in The World อย่างสูงครับ"

https://www.facebook.com/Supakorngimzaa/?hc_ref=ARSVP07Rd-CFgU5_qUtnwLMw_f0KEuzMrtl4JqDBDueoDXYXpdasmnupVxHVRkYvqMQ&fref=nf



FFV-890C "Swedish Galil"

ในช่วงปี ค.ศ.1970 สวีเดนประเทศอันมีประวัติศาสตร์ยาวนานในยุโรปเหนือกำลังมองหาปืนเล็กยาวชนิดใหม่เพื่อนำมาแทนที่เจ้า AK-4 ที่ล้าสมัย AK-4 คือปืนเล็กยาวต่อสู้ G3 ที่ผลิตโดยบริษัท Heckler & Koch ของประเทศเยอรมันตะวันตก (ในเวลานั้น) ซึ่งสวีเดนซื้อสิทธิบัตรมาผลิตเองแล้วปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับสวีเดนแล้วใช้ชื่อเรียกในกองทัพว่า "AK-4"
ถึงแม้ว่า AK-4 จะเป็นปืนเล็กยาวที่ประสิทธิภาพที่อยู่ในระดับเชื่อถือได้และง่ายต่อการผลิตเพราะสามารถผลิตเองในประเทศได้แต่ด้วยงบประมาณในช่วงเวลานั้นสวีเดนให้ความสำคัญกับอากาศยานและยานเกราะมากกว่าอาวุธเบา นั่นหมายความว่าถึงแม้สวีเดนจะผลิตปืนเล็กยาว AK-4 ในประเทศได้แต่มันก็ถูกผลิตมาในจำนวนที่จำกัด กองกำลังป้องกันมาตุภูมิของสวีเดน (Hemvärnet) ในเวลานั้นไม่ได้ใช้ปืน AK-4 แบบหน่วยรบแต่พวกเขายังคงใช้ปืนเล็กยาวแบบลูกเลื่อนของเมาเซอร์ (ไม่ได้ระบุว่าช่วงเวลานั้นใช้ Gevär m/96 (Swedish Mauser หรือ Karbin M40 แอดคาดว่าใช้ควบคู่กันไป)
ในช่วงเวลานั้นในอีกซีกโลก สหรัฐฯ ได้นำปืนเล็กยาวจู่โจม M-16 เข้าประจำการ ทางสหภาพโซเวียตก็มี AK-47/AKM สวีเดนเห็นว่าแต่หละประเทศส่วนใหญ่ในเวลานั้นเริ่มเปลี่ยนไปใช้ปืนเล็กยาวที่ใช้กระสุนแบบ intermediate cartridge กันแล้วเช่น 5.56×45mm ของชาตินาโต้และ 7.62×39mm ของชาติในสนธิสัญญาวอร์ซอ ซึ่งทางสวีเดนนั้นยังใช้ปืนเล็กยาวที่ใช้กระสุนแบบ Full power cartridges ขนาด 7.62×51mm M80 ซึ่งเริ่มล้าสมัยแล้ว



สวีเดนจึดจัดตั้งโครงการจัดหาปืนเล็กยาวชนิดใหม่ที่ใช้กระสุนแบบ intermediate cartridge เพื่อมารับใช้ชาติเล็กๆ ในยุโรปเหนือนี้ในชื่อ "AK5" ในอนาคต

โครงการจัดหาเริ่มขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1974 จนถึงปี ค.ศ.1975 โดยมีผู้เสนออาวุธใหม่เพื่อมารับใช้สวีเดนในชื่อ AK5 ดังนี้

1.บริษัท Heckler & Koch จากเยอรมันเจ้าเก่าเสนอปืนเล็กยาวจู่โจมแบบ HK-33

2.บริษัท FN Herstal จากเบลเยี่ยมเสนอปืนเล็กยาวจู่โจมมาถึงสองรุ่นคือ FN CAL และ FN FNC

3.บริษัท Colt จากสหรัฐอเมริกาเสนอปืนเล็กยาวจู่โจม M16

4.บริษัท Steyr จากประเทศออสเตรียเสนอปืนเล็กยาวจู่โจม Steyr Aug

5.บริษัท Armalite จากประเทศสหรัฐอเมริกาเสนอปืนเล็กยาวจู่โจมแบบ AR-18

6.บริษัท SIG จากสวิสเซอร์แลนด์เสนอปืนเล็กยาวจู่โจมแบบ SIG-540

7.บริษัท Cadillac Gage (ในช่วงเวลานั้น) เสนอปืนเล็กยาวจู่โจมอเนกประสงค์แบบ Stoner 63

8.บริษัท IMI จากประเทศอิสราเอลเสนอปืนเล็กยาว/ปืนเล็กสั้นจู่โจม Galil ARM และ Galil SAR



ในช่วงของการทดสอบในสภาพอากาศที่หนาวจัดของสวีเดนมีผู้ที่ผ่านการทดสอบมาแค่คนเดียวคือ FNC ของบริษัท FN ประเทศเบลเยี่ยม (FN CAL ถูกตัดสิทธิ์ออกเนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงและประสิทธิภาพไม่ค่อยดีนัก)
ปืน Galil ARM และ SAR ตัวที่มาทดสอบที่สวีเดนเป็นรุ่นส่งออก (Export Model) ของทาง IMI ซึ่งตัวปืนแทบไม่ได้ปรับปรุงให้เหมาะกับสภาพอากาศหนาวๆ เลย ทาง IMI เลยนำปืนไปปรับปรุงแล้วส่งมาเสนอใหม่อีกโดยเฉพาะโดยตัวปืนได้ถูกปรับปรุงโดย Försvarets Fabriksverk (FFV) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของสวีเดนในช่วงเวลานั้นพวกเขาอยากจะผลิตปืน Galil ในประเทศเหมือนกับคราว ที่ผลิต HK-G3
ตัว Galil ARM (FFV-890) แทบไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรเลยแต่ว่า Galil SAR มีการปรับเปลี่ยนไปเยอะทั้งนี้ทั้งนั้นในช่วงเวลานั้น FFV คิดว่า Galil SAR มีโอกาสเกิดในกองทัพสวีเดนมากกว่า Galil ARM
ในช่วงปี ค.ศ.1975 ถึง ปี ค.ศ.1979 Galil ARM ถูกยกเลิกการทดลองไปและ FFV ได้นำเจ้า Galil SAR มาผลิตและปรับปรุงตัวปืนให้เหมาะกับสภาพอากาศของสวีเดนแบบจริงๆจังๆ โดยมีการแก้ไขปรับปรุงดังนี้

1.ปรับปรุงท่อแก๊สและลูกสูบให้สั้นลง

2.ออกแบบฝาประกับลำกล้องใหม่ โดยแบ่งเป็นสองส่วนคือประกับซ้ายและประกับขวาเวลาประกอบก็นำมาประกบกันเหมือน ปืน FN FAL ของเบลเยี่ยม

3.ปรับปรุง ปุ่มปลดซองกระสุน,คันบังคับการยิงบริเวณซ้ายมือ และ โกร่งไกปืนให้มีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น

4.ลดขนาดกรอบกันปุ่มปลดซองกระสุนให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้เวลาผู้ใช้งานเวลาใส่ถุงมือแล้วเปลี่ยนซองกระสุนเพื่อบรรจุใหม่ไม่ติดๆขัดๆ

5.ลดขนาดลำกล้องให้เหลือ 13 นิ้ว (330 มิลลิเมตร)

6.มีการเพิ่มเหล็กเตะปลอกกระสุนไว้ตรงบริเวณฝากันฟุ่นของตัวปืน

7.เปลี่ยนคันบังการยิงเป็นภาษาสวีเดนจากตัวอักษร S-A-R เป็น S-A-P (S = Säkrad โหมดห้ามไก A=Automateld โหมดอัตโนมัติ P=Patronvis eld โหมดกึ่งอัตโนมัติ)

8.เพิ่มประเก็นยางในบริเวณแหนบรับแรงถอยและเครื่องรับแรงกระแทกเพื่อไม่ให้น้ำมันทำความสะอาดปืนนั้นเข้าไปในส่วนสำคัญขณะทำการยิง

9.ตัวปืนนั้นถูกรมด้วยสีเขียว OD Green แทนที่สีดำ

ปืนหลังจากปรับปรุงแล้วมันใช้ชื่อว่า FFV-890C Model 1 โดยรวมแล้วส่วนใหญ่ FFV จะทำแค่การปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนมากกว่าเพราะชิ้นส่วนส่วนใหญ่ยังเป็นของ IMI มีเพียงฝาประกับลำกล้องเท่านั้นที่ผลิตโดย FFV ทั้งหมด โดยหลังจากการปรับปรุงแล้วมีเพียงโครงปืนกับฝากันฝุ่นเท่านั้นที่ยังคงลักษณะแบบเดิมของปืน Galil มากที่สุด













ในช่วงปี ค.ศ.1979 มีการปรับปรุง FFV-890C แล้วใช้ชื่อว่า FFV-890C Model 2 โดยมีการปรับปรุงดังนี้
1.คันรั้งเปลี่ยนเป็นแบบ AK-47/AKM ดั้งเดิมแทนคันรั้งแบบ Galil
2.โกร่งไกปืนแบบใหญ่ใน Model 1 ถูกเปลี่ยนมาใช้แบบดั้งเดิม
3.ปุ่มปลดซองกระสุนถูกปรับไปใช้แบบ Galil ดั้งเดิม
4.คันบังคับการยิงด้านขวาถูกปรับให้สูงขึ้น
5.ศูนย์หลังเปลี่ยนไปใช้แบบของปืนกลกลาง FN MAG และปืนกลเบา M249
FFV-890C Model 2 ตัวปืนถูกนำเสนอด้วยแพ็กเกจปืนเล็กยาวจู่โจมที่สมบูรณ์แบบในแพ็กเกจประกอบด้วยชุดอุปกรณ์ทำความสะอาด,แส้ทำความสะอาด,เครื่องยิงลูกระเบิดจากปืนเล็ก,สายสะพาย,และมีตัวปืนบางส่วนนำไกปืนของ AK-4 มาใส่ด้วย





ในการทดสอบในกองทัพสวีเดนในช่วงปี ค.ศ.1979-1980 โดยกรมทหารราบ l11 ที่เมืองแวซโซ ทหารสวีเดนที่ทดสอบปืนมีความเห็นว่าตัวปืนว่าเหนือกว่า FNC ของเบลเยี่ยม แต่ว่า FFV-890C นั้นแพ้ FNC ด้วยเรื่องของราคาและกระบวนการผลิตที่ล้าสมัยและ "เหตุผลทางการเมือง"

1.เรื่องกระบวนการผลิตที่ล้าสมัย
ชิ้นส่วนส่วนใหญ่ของ FFV-890C นั้นใช้วิธีการผลิตแบบกลัดกลึงขึ้นรูปแบบ AK-4 ซึ่งผลิตได้ช้าและต้นทุนสูงต่างจาก FNC ของเบลเยี่ยมที่ใช้วิธีการผลิตแบบปั๋มขึ้นรูปซึ่งผลิตได้ทีหละเยอะมากๆ และต้นทุนถูกกว่า โดยช่วงๆ หลัง FFV มีแผนที่จะผลิตชิ้นส่วนของ FFV-890C เช่นโครงปืนด้วยวิธีปั๋มขึ้นรูปแบบ AKM แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ

2.เรื่องเหตุผลทางการเมือง

2.1.ในยุคนั้นรัฐบาลอิสราเอลไม่ได้รับความยอมรับอย่างมากในหมู่รัฐบาลประชาธิปไตยสวีเดนในเวลานั้น (น่าจะเป็นเพราะสงครามยมคิปูร์ ค.ศ.1973)

2.2. ถึงแม้สวีเดนจะวางตัวเป็นกลางในช่วงเวลานั้นแต่สวีเดนก็ยังถือว่าสหภาพโซเวียตเป็นภัยคุกคามของสวีเดนทำให้ผู้ใหญ่ในกองทัพสวีเดนในเวลานั้นไม่ปลื้มที่ทหารจะใช้ปืนที่พัฒนามาจาก AK-47
สุดท้ายแล้วผู้ได้มารับใช้กองทัพสวีเดนในปี ค.ศ.1985 นั่นก็คือ FNC จากเบลเยี่ยม ตัว FNC นั้นได้ถูกปรับปรุงโดย FMV (Försvarets Materielverk ฝ่ายการป้องกันประเทศและผลิตยุทโธปกรณ์ของสวีเดน) และได้เข้าประจำการในชื่อ "AK5" และสายการผลิต AK- 4 (G3) ก็ยุติในเวลานั้น
หลังจบโครงการจัดหาปืนเล็กยาวรุ่นใหม่ FFV พยายามหาลูกค้าต่างประเทศของเจ้า FFV-890C แต่ไม่มีใครสนใจเลยแม้แต่ประเทศเดียว สุดท้ายแล้วสิทธิบัตรของ FFV-890C ถูกขายให้บริษัท Valmet ประเทศฟินแลนด์ มีรายงานว่ายังมีปืนต้นแบบกว่า 1000 กระบอก (เลขทะเบียนบนตัวปืนทุกกระบอกมีเลข 4 หลักและขึ้นต้นด้วยเลข 0 ทุกกระบอก) ยังคงอยู่ในคลังอาวุธของตำรวจแต่ไม่ได้นำมาใช้งาน และ มีรายงานว่ามีปืน 2-3 กระบอกถูกทำลายไป
ปัจจุบันทหารสวีเดนยังใช้ AK5 และ AK4 ส่วน FFV-890C ก็ถูกลืมหายไปตามกาลเวลา



@rmz

เครดิต

https://www.forgottenweapons.com/rifles/ffv-890c/

http://www.gotavapen.se/gota/ak/ak4_5/ak5_history.htm


สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่