FN FNC ภาคต่อของหนึ่งในปืนไรเฟิลตลอดการอย่าง FN FAL

การพัฒนา
    หลังจากประสบความสำเร็จมากมายกับปืนไรเฟิลอย่าง fn fal ทาง fn ไม่รอช้าในปี 1967 FN Herstal ผู้ผลิตและพัฒนาอาวุธสัญชาติเบลเยี่ยมได้พัฒนาอาวุธปืนที่ใช้ขนาดกระสุน 5.56x45 mm m193 แบบใหม่ในตอนนั้น เพื่อมาตีตลาดอาวุธปืนแข่งขันกับปืนไรเฟิลอย่าง m16 hk 33 และปืนไรเฟิลยุคเริ่มต้นที่ใช้กระสุนแบบ 5.56x45 mm เพื่อขายและผลิตให้กับประเทศที่สนใจ ปืนไรเฟิลที่พัมนาใหม่นี้ทาง fn หวังไว้ว่ามันจะประสบความสำเร็จไม่ต่างจากเจ้า fal ผู้เป็นพี่ของมันและสามารถผลิตออกมาขายจำนวนมากๆแข่งกับ hk 33 และ m16 ในตอนนั้น อย่างไรก็ตามปืนไรเฟิลที่ออกแบบใหม่นี้นั้นมีปัญหาและขาดความน่าเชื่อถือ กลไกที่ซับซ้อนเกินไป ที่สำคัญคือราคามันแพงมากไม่สามารถผลิตออกมาจำนวนมากๆและไม่สามารถไปแข่งขันกับปืนไรเฟิลที่มีราคาถูกกว่าอย่าง hk 33 และ m16 ได้อย่างที่คาดไว้ ปืนไรเฟิลแบบใหม่นี้ได้ถูกตั้งชื่อว่า fn cal มันใช้ระบบปฏิบัติการ short stroke piston บริหารกลไกด้วยลูกสูบและแก๊สไม่ต่างจากรุ่นพี่ของมันอย่าง fal ตัวกลไกบริหารปืนถูกล็อคไว้ด้วยคานเหวี่ยงที่เชื่อมตัวกลไกล็อคไว้หลายชิ้นเข้าด้วยกัน ตัวโครงร่างปืนถูกผลิตโดยวิธีการใช้เหล็กปั๊มขึ้นแผ่น โดยมีชิ้นส่วนใหญ่ 2 ชิ้นเชื่อมต่อกันคือโครงบนปืนกับโครงร่างปืน ปุ่มปรับการยิงปืนที่อยู่เหนือตัวไกปืนมีโหมด 4 โหมดให้เลือกคือ safe-semi-full-burst คันรั้งที่อยู่ด้านขวาของตัวปืนไม่ต่างจาก ak 47 เมื่อผู้ยิงลั่นไก ตัวคันรั้งจะวิ่งถอยหลังไปพร้อมๆกับตัว bolt ของปืน โดยตัวพานท้ายปืนสามารถเปลี่ยนไปใช้แบบพลาสติกคุณภาพสูงหรือพานท้ายแบบเหล็กแผ่นพับได้ตามความสะดวกของผู้ใช้ ตัวปืนสามารถติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิดใต้ปากลำกล้องแบบ m203 มาตรฐานนาโต้ได้แต่อย่างไรก็ดีตัวปืนนั้นประสบความล้มเหลวทั้งความน่าเชื่อถือ ยอดขาย และราคาที่แพงเกินไป
fn cal ปืนไรเฟิลผู้ล่มเหลวในตลาดปืนไรเฟิลขนาด 5.56x45 mm


   รสชาติแห่งความล้มเหลวย่อมไม่เข้าใครออกใครหลังจากที่เจ้า cal ขายไม่ออกและมีเพียงไม่กี่ประเทศซื้อไปใช้จำนวนน้อยมาก ในปี 1975 ทาง fn ได้เริ่มตีตลาดปืนใหม่อีกครั้งการพัฒนาปืนชนิดใหม่ในชื่อ Project fn 76 ในคราวนี้ fn หมายมั่นจะปั้นให้โปรเจคนี้ประสบความสำเร็จไม่ต่างจาก fal โดยทาง fn ได้เอาเจ้า fn cal ที่ล้มเหลวมาแกะดูอีกครั้ง การพัฒนาเป็นไปอย่างเร่งรีบแข่งกับเวลาตัวปืนแบบใหม่ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Fabrique Nationale Carabine หรือ fnc เพื่อจะสื่อว่าตัวปืนแบบใหม่นี้มีความกระทัดรัดและคล่องตัวกว่าเดิมเมื่อเทียบ fal และมันมีราคาที่ถูกกว่าและกลไกซับซ้อนน้อยกว่า cal
   โอกาสของ fnc  มาถึงอีกครั้งในช่วงต้นทศววรศที่ 1980 เมื่อกองทัพสวีเดนได้มีความต้องจัดหาปืนไรเฟิลแบบใหม่เพื่อมาทดแทนปืนไรเฟิล ak 4 ของตน โดยทางเบลเยี่ยมได้นำต้นแบบปืน fnc ไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อหวังตีตลาดปืนในกองทัพสวีเดนและการแข่งขันจัดหาปืนไรเฟิลแบบใหม่ของสวีเดนนี้ถือว่าเป็นการเปิดตัวอย่างเป้นทางการของ fnc ในตลาดปืนกองทัพทั่วโลก โดยในการแข่งขันครั้งนี้ fn fnc สามารถชนะเหนือปืนไรเฟิลคู่แข่งอื่นได้อย่างสวยงาม และทางสวีเดนก็ได้นำเจ้า fn fnc ไปพัฒนาในแบบของตน
สามารถอ่านการพัมนาปืนไรเฟิลของสวีเดนได้ที่นี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

   หลังจากประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับกองทัพสวีเดนทางกองทัพอินโดนีเซียก็ได้จัดวื้อเจ้า fnc ไปใช้เช่นกันและได้ขอลิขสิทธิ์ปืน fnc ไปผลิตเองในชื่อ pindad ss1 ตามมาด้วยกองทัพเบลเยี่ยมบ้านเกิดของบริษัท fn ก็ได้จัดหาเจ้าปืน fnc ในปี 1989 เป็นไรเฟิลหลักแทน fal แบบเก่า การจัดหาจากชาติอื่นๆที่สนใจใน fnc ตามมาติดๆ โดย fnc เมื่อเทียบกับ cal ถือว่าประสบความสำเร็จมากกว่าเจ้า cal ผู้ล้มเหลวอย่างเทียบไม่ติดและถือเป็นปืนไรเฟิลกระบอกหนึ่งของโลกที่ทางกองทัพทั่วโลกส่วนใหญ่จัดหาไปใช้และยอมรับในประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และการง่ายในการดูแลรักษาไม่ต่างจากรุ่นพี่ของมันอย่าง fal
fn fnc ปืนไรเฟิลผู้เดินตามรอยรุ่นพี่อย่าง fal


รายละเอียดตัวปืน
   fnc ใช้ระบบปฏิบัติการ gas operate with long stroke piston ที่มีความซับซ้อนน้อยกว่าและค่อนข้างถูกกว่า short stroke เมื่อเทียบกับ cal การบริหารกลไกด้วยคานเหวี่ยง ลูกสูบและแก๊ส ตัว bolt ของปืนจะถูกล็อคด้วยหมุด 2 ตัว โดยจะอยู่ทางช่องเดียวกับลำกล้องเยื้องๆไปทางข้างหลัง ตัว bolt จะถูกปลดล็อคและเคลื่อนที่โดยตัว bolt จะเคลื่อนที่ไปเคลื่อนไปที่กระแทกเข็มแทงชนวนเพื่อดันกระสุนเข้าสู่รังเพลิง ด้วยระบบกลไกง่ายๆแบบนี้ทำให้ตัวปืนมีความอึดถึกทนต่อทุกสภาพอากาศ ทนทรายและทนน้ำได้เป็นอย่างดีไม่ต่างจาก ak 47 แต่กลับมีความประณีตและมีความซับซ้อนกว่าเมื่อเทียบกับ ak 47 ด้านขวาข้างบนตัวโครงปืนมีการเจาะช่องเล็กๆทางด้านขวาสำหรับใส่คันรั้งตัวปืน และจะมีแผ่นเหล็กเล็กๆปิดอีกทีเพื่อกันสิ่งสกปรกเข้าไปในรงเพลิง โดยภายในคันรั้งปืนจะถูกครอบด้วยสปริงที่ถูกยึดติดกับคันรั้งเพื่อเพื่อให้จังหวะในการถอยไปมาของคันรั้ง ตัวสปริงนี้จะทำหน้าที่ดึงให้ bolt เปิดเพื่อคัดปลอกกระสุนออกมาและดันให้ bolt ไปข้างหน้าอีกครั้งเพื่อดันกระสุนเข้าสู่รังเพลิง
   อย่างที่กล่าวไปข้างต้นตัวสปริงที่มีส่วนทำให้ตัว bolt ปืนมีกลไกในการขับจังหวะ ตรงโครงล่างปืนจะมีหมุดสำหรับเอาไว้ถอดออกเมื่อต้องการถอดแยกประกอบปืน ตัวปืนจะมีปุ่มปรับแรงดันแก๊ส 2 ตำแหน่งส่วนหนึ่งเพื่อไว้ใช้ในตอนที่ยิงเครื่องยิงลูกระเบิดจากปากลำกล้อง ไม่ต่างจากปืนไรเฟิลแบบอื่นคือมันใช้การจุดชนวนกระสุนด้วยเข็มตอกชนวนโดยการเหนี่ยวไกปืนเพื่อเป็นเริ่มต้นของกลไกภายในปืนทั้งหมด ตัวปืนมีโหมดการยิงให้ปรับ 4 โหมดคือ safe-1(semi)-2(3 round burst)-a(full auto) ลำกล้องปืนติดตั้งปลอกลดแสง โดยจะมีปุ่มปรับตำแหน่งแก๊สอย่างที่กล่าวไปข้างตนโดยการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดจากปากลำกล้องจะต้องใช้แรงดันแก๊สที่มากกว่าปกติ การปรับตำแหน่งแก๊สนั้นทำได้ง่ายนิดเดียวเพียงแค่เลื่อนปรับช่องแก๊สขึ้น-ลงเท่านั้น
   ตัวปืนจะมีศูนย์เล็งสำหรับยิงเครื่องยิงลูกระเบิดแบบพับเก็บได้ติดมาด้วย ตรงหัวก้านลูกสูบปืนจะเคลือบ gas block รังเพลิง ลำกล้องและเกลียวในตัวปืนถูกทำด้วยโครเมี่ยมคุรภาพสูงที่ให้น้ำหนักเบาและไม่ดูดสิ่งตกค้างจากเขม่าแก๊สของกระสุน ทำให้ตัวปืนนั้นไม่สะอาดไม่ค่อยมีคราบเขม่าติดในตัวปืน เมื่อกระสุนปืนนัดสุดท้ายถูกยิงออกไปในกรณียิงโหมดทีละตัว bolt จะปิดเพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกเข้าไปในลำกล้องแต่ในกรณียิง full auto เมื่อกระสุนหมดตัว bolt จะเปิดเพื่อเป็นการบอกว่ากระสุนนั้นหมด อย่างไรก็ตามถึงแม้ตัว bolt จะเปิดก็สามารถดึงให้มันปิดได้โดยการกระแทกคันรั้งไปข้างหน้า 1 ครั้ง ตัวปืนสามารถใช้แม็กกาซีนร่วมแม็กกาซีน stanag มาตรฐานนาโต้ได้
   พานท้ายตัวปืนที่ทำจากอัลลอยน้ำหนักเบา สามารถพับพานท้ายไปด้านขวาเมื่อต้องการต้องความคล่องตัวเมื่อรบในเมือง แต่ปัจจุบัน fnc นั้นหันไปใช้พานท้ายแบบกลวงที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ที่ให้น้ำหนักที่เบากว่าแทน โครงบนปืนทำจากเหล็กปั๊มขึ้นแผ่น ตัวล่างบนปืนและช่องใส่แม็กกาซีนทำจากอลูมิเนียมอัลลอย
ศูนย์เล็งด้านหลังปืนมีระยะปรับเล็งตั้งแต่ 250-400 เมตร ศูนย์หน้าปืนสามารถถอดออกหรือพับไปทางด้านข้างก็ได้ ตัวปืนสามารถติดกล้องเล็งแบบ  Hensoldt กำลังขยาย 4X โดยดัดแปลงโครงปืนด้านบนสำหรับติดกล้องเล็ง นอกจากนี้ตัวลำกล้องปืนยังสามารถดัดแปลงสำหรับติดขาตั้งหรือติดดาบปลายปืนแบบ m7 ของอเมริกาได้อีกด้วย
กล้องเล็งแบบ Hensoldt 4X

fn cal กับพานท้ายแบบกลวงที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์และดาบปลายปืนแบบ m7


รุ่นต่างๆ
1.fn fnc
fnc รุ่นมาตรฐาน ติดลำกล้องยาว 17.7 นิ้ว
fn fnc

2.fn fnc cabine
fnc ที่ตัดลำกล้องให้สั้นเหลือเพียง 14.5 นิ้วใช้สำหรับหน่วยรบพิเศษที่ต้องการความคล่องตัในการรบและการเข้าออกในพื้นที่แคบๆ
fn fnc cabine


ข้อมูลโดยรวม
ประเทศผู้ผลิต: เบลเยี่ยม
อัตราการยิง: 600-750 นัด/นาที
น้ำหนัก: 3.8 kg(fnc), 3.2 kg(carbine)
ความยาวลำกล้อง: 17.7 นิ้ว(fnc),14.5 นิ้ว(cabine)
ระยะหวังผล: 600 เมตร
ขนาดกระสุน: 5.56x485 mm m855

ปล.โหวตและกดถูกใจกระทู้ จขกท. จะเป็นการให้กำลังใจ จขกท.อย่างดีครับ อมยิ้ม17อมยิ้ม17


อ้างอิง
https://en.wikipedia.org/wiki/FN_FNC
http://world.guns.ru/assault/be/fn-fnc-e.html
http://www.military-today.com/firearms/fn_fnc.htm

กระทู้เก่าๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่