[CR] แชร์ประสบการณ์เที่ยวประเทศ "แอฟริกาใต้" ครั้งแรกในชีวิต

ก่อนอื่น..ขอออกตัวก่อนเลยนะคะว่านอกจากไปเที่ยวแอฟริกาใต้ครั้งแรกในชีวิตแล้ว นี่ยังเป็นกระทู้แรกในชีวิตที่มาเขียนรีวิวในพันทิปด้วย 555 [ วิถีคนนอนว่างๆช่วงปีใหม่ ไม่มีอะไรทำ ไม่ได้ไปเที่ยวไหนกับเขาอ่ะเนอะ เศร้าแพพ....] แต่เหตุผลจริงๆแล้วคือ อยากแชร์ประสบการณ์ที่ตัวเองได้ไปเจอ ได้ไปเห็นมา แล้วรู้สึกว่าประทับใจ แบบ ... เอ่อออ แอฟริกาใต้นิมันไม่เหมือนกับที่เราคิดไว้ในหัวก่อนจะมาเลยอ่ะ เผื่อว่าใครสนใจอยากจะไปบ้าง จะได้มีข้อมูลไว้ศึกษา แชร์ๆข้อมูลกันเนาะ wink
จุดเริ่มต้นของทริปนี้เลยคือ... เพื่อนมาชวนไปค่ะ เพื่อนชอบเส้นทางนี้บอกว่าอยากไปมากกกก พยายามหาโปรแกรมนู้นนี้มากล่อมกันสุดฤทธิ์สุดเดช จนสุดท้ายเราคล้อยตาม 55555 (ใจง่ายจัง) เลยหาข้อมูลกันจะไปอย่างไงดี จะไปเองหรือซื้อทัวร์ไปดี แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อทัวร์ไปดีกว่า ไม่ต้องคิดไรเยอะเขาคิดให้เราหมดแล้ว เราเอาเวลาไปเตรียมเคลียร์งานที่สุมหัวของเราดีกว่า 55 แล้วเราก็มาถูกใจโปรแกรมนึงค่ะ เป็นของ บ. เร้นจ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ทราเวล เห็นโฆษณาอยู่ในFacebook เป็นเส้นทาง Africa Panoramic Route เซลเขาบอกว่า นี่เป็นเส้นทางใหม่ของบริษัทที่จัดขึ้นเลยนะ ส่วนใหญ่ โปรแกรมแอฟริกาใต้เขาจะจัดไปเที่ยวแค่แถว โจฮันเนสเบิร์ก พริทอเรีย เคปทาวน์ แค่นั้น ตัวนี้จะเพิ่มสถานที่เที่ยวมากขึ้น เช่น เพิ่มไปชมหุบผาแม่น้ำไบลด์ เพิ่ม Bourke’s Luck Potholes ที่เป็นแคนยอน แล้วกิจกรรมเยอะกว่า ไหนๆจะไปเที่ยวทั้งทีแล้วอ่ะเนอะ ก็เลยจัดเต็ม...ไปล่ะก็ต้องไปให้ครบ ^^ 

งั้นไม่ร่ายยาวไปกว่านี้ล่ะ... มาเริ่มต้นวันแรกกันเลยค่ะ haha

เราเดินทางกันด้วยสายการบิน เคนย่าแอร์เวย์ ไปแวะเปลี่ยนเครื่องที่ไนโรบีประเทศเคนย่าค่ะ ก่อนจะต่อเครื่องไปลงที่สนามบินโจฮันเนสเบิร์ก  (ใครจะไปสายการบินนี้ ก็เตรียม ยาดม ยาอม ยาหม่อง ถือติดมือไปด้วยนะคะ เรื่องกลิ่นเราว่าก็ระดับนึงแหละ แต่ยังอยู่ใน Level ที่ยังรับได้ ไม่ได้แย่เลยซะทีเดียว 55) รวมๆแล้วเรานั่งเครื่องประมาน.14. ชม.ค่ะ

มาถึงกันแล้วค่ะ หลังจากออกจากสนามบิน ก็แวะไปกินข้าวเที่ยงกันก่อนเลย เรื่องกินเรื่องใหญ่ 555555555 

มื้อแรก ทัวร์พามาทานอาหารจีนค่ะ ที่ร้าน Jasmine Palace รสชาติดีนะ อร่อยเลยแหละ (แต่เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้กะพริบตา)

ทานเสร็จก็ไปชมดอก “แจกการันดา” ที่เมืองพริทอเรียค่ะ ระหว่างทางที่ไปก็จะเริ่มมีให้เห็นตามสถานที่ต่างๆอยู่เรื่อยๆ พอไปถึงจุดที่ชมคือสวยมากกก ดอกสีม่วงบานเต็มถนนทั้งสองฟากข้างไปหมดเลย อ่อ ช่วงที่เราไปเป็นช่วงเดือน ตุลาคมนะคะ จะตรงกับฤดูใบไม้ผลิของที่นั้น เป็นช่วงที่ดอกแจกการันดา บานสะพรั่งพอดี ถ้าใครตั้งใจจะไปชมดอกแจกการันดา ต้องไปให้ถูกฤดูด้วยนาาา (เดือน ก.ย. – พ.ย. จะเป็นฤดูใบไม้ผลิค่ะ อันนี้ก็อปมาจากใบเตรียมตัวของทัวร์เขาล่ะ 55)

ต่อจากนั้นเราแวะไปถ่ายรูปที่ทำเนียบประธานาธิบดี Union Building และอนุสาวรีย์ วูร์เทรคเกอร์ (Voortrekker Monument) ค่ะ วิวสวย อากาศดีค่ะ มีคนแถวนั้นเขามาปูผ้านั่งปิกนิคกินข้าวกับเพื่อนๆกันด้วย ดูชิวดีอ่ะ 

เดินชมอยู่แป็บนึง เรานั่งรถไปที่หมู่บ้านวัฒนธรรมเลเซดี  (Lesedi Cultural Village) ค่ะ เข้าชมประวัติความเป็นมาของชนเผ่าต่างๆ ที่นี้เป็นหมู่บ้านจำลองขึ้นมานะคะ ถ้าจำไม่ผิด เขาจำลองขึ้นมา 4 หมู่บ้านค่ะ ทั้ง4หมู่บ้านนี้การดำรงชีวิตก็จะแตกต่างกันออกไปตามที่อยู่อาศัย ตามภูมิภาคที่อยู่ของแต่ล่ะชนเผ่าค่ะ เขาจะพาเราเดินชมและบรรยายเราไปเรื่อยๆตามแต่ล่ะหมู่บ้าน พอครบ เจ้าหน้าที่เขาจะมาทำการแสดงเต้นระบำให้เราดูค่ะ เต้นกันประมาน 1ชม. สลับโชว์กันไป สนุกดีค่ะ ดูเพลินเลย smile
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอคลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ดูโชว์เสร็จ ออกมาฟ้าก็มืดแล้วค่ะ อากาศเย็นขึ้นมาเลยทันที หลังจากนั้นเราก็นั่งรถไปกินข้าวเย็นที่ร้าน The Carnivore ค่ะ

ร้านนี้เรียกได้ว่า มาแอฟริกาใต้แล้ว ต้องมาลองกินให้ได้ ไม่อย่างนั้นเหมือนมาไม่ถึง 555 ร้านนี้เขาจะมีเนื้อแปลกๆให้เราชิมค่ะ เช่น เนื้อกวาง,ม้าลาย,จระเข้ หรือพวกเนื้อของสัตว์ป่าท้องถิ่นที่นั้น แต่ร้านเขาไม่ได้ไปล่าสัตว์ป่ามากินนะ เป็นสัตว์ที่เขาเลี้ยงไว้ค่ะ อาหารร้านนี้จะเป็นสไตล์ สเต็กค่ะ พวกเนื้อสัตว์ เขาจะเอาไปย่าง แล้วนำมาเดินเสริฟให้เราที่โต๊ะ เราต้องการกินเนื้ออะไร ก็บอกเขาได้เลย เขาจะเวียนเดินมาถามเรา บนโต๊ะก็จะมีชุดสลัดให้เราค่ะ กินแก้เลี่ยนได้ ปิดท้ายก็จะมีของหวานเสริฟให้คนล่ะ1จาน ตามสเตฟค่ะ

แต่ตอนที่เราไปถึงร้านก็ประมาน2ทุ่มแล้ว หลายคนในคณะเริ่มรู้สึกเพลียๆกันหมดแล้วค่ะ เลยทานกันได้น้อย อ่อ ลืมบอกไปว่าแอฟริกาใต้เวลาบ้านเขาจะช้ากว่าที่ไทยประมาน5ชม. กินข้าวตอน2ทุ่มก็เหมือนกินข้าวเวลาตี1บ้านเราได้อ่ะ ตอนนั้นทุกคนต้องการเตียงนอนมากกว่าอาหารกันแล้ว 55 

คืนแรกเราพักกันแถว Sandton ที่โรงแรม Holiday Inn Sandton-Rivonia Road หลักจากเข้าที่พักได้ก็รีบอาบน้ำนอนเลยค่ะ ไม่ไหวแล้วเพลียมาก แล้วพี่ไกด์นัดล้อหมุนตอนเช้า 7โมง OMG!!

จบวันที่1ไว้เท่านี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวมาต่อวันที่ 2 ขอตัวไปอาบน้ำก่อน หันมาดูนาฬิกาอีกที โอยย จะเที่ยงคืนแล้ว 555

มาต่อกันแล้วค่ะ wink
วันที่ 2  พี่ไกด์นัดล้อหมุน 7 โมงเช้า เพื่อไปเมือง Mpumalanga ค่ะ นั่งรถยาวๆไป 4 ชม. ไปหลับบนรถเอา ยังดีที่แวะให้เข้าห้องน้ำ2ครั้งไม่งั้นฉี่ราดแน่ 55
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ภาพบรรยากาศระหว่างทางไป Mpumalangaค่ะ อันนี้ลองถ่ายแบบTime-Lapseดูค่ะ ระหว่างทางที่ไปวิวสวยดีนะคะ ที่เป็นเนินๆทุ่งๆนั้น เป็นทุ่งข้าวโอ๊ตค่ะ พอไปถึงก็ประมานเที่ยงพอดี แล้วไปกินข้าวเที่ยงกันที่ The Lift Café ค่ะ  (ร้านนี้อาหารจะออกสไตล์อินเดียหน่อยนะคะ จานแรกเป็นบาบีคิว มีกลิ่นเครื่องเทศของอาหารแขกอ่ะ ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบกลิ่นเท่าไหร่ แต่จานที่2เราเลือกเมนู่ไก่ไปค่ะ รสชาติดี ไม่มีกลิ่นเครื่องเทศ รถชาติใกล้เคียงอาหารไทย อร่อยค่ะ )

จริงๆแล้วตามโปรแกรมมีไปขึ้นลิฟต์ที่จุดชมวิว Graskop Gorge แต่วันนั้นทางร้านแจ้งว่าลิฟต์เสีย เลยปิดซ่อมบำรุง พี่ไกด์เลยพานั่งรถไปชมวิวอีกจุดนึงแทน วิวก็สวยอยู่นะคะ 

จากนั้นก็ไปชมวิวที่ น้ำตกลิสบอน(Lisbon Falls)ค่ะ อยู่ใกล้ๆกัน นั่งรถไปแป็บเดียว

เดินชมอยู่พักนึงพี่ไกด์ก็พาเรานั่งรถไปที่ Bourke’s Luck Potholesค่ะ  ที่นี้เป็นเหมือนแคนยอนเล็กๆ เป็นหินขนาดต่าง ๆ ที่เกิดจากการกัดกร่อนของธรรมชาติมาหลายล้านปี จนเป็นรูปแบบต่างๆ น่าทึ่งดีนะคะ

เมื่อถึงเวลานัดหมาย เราก็ขึ้นรถไปชม หุบผาไบลด์ Blyde River Canyon อยู่ใกล้ๆกัน ไม่ไกลจากกันมากค่ะ 

พอเดินมาถึงต้องจุดชมวิวของหุบผาไบลด์นะ แม่เอ้ยยย.... ประทับใจม๊ากกกก สวยมากจริงๆ วิวมันแบบพาโนราม่ามากแม่.... สมชื่อโปรแกรมทัวร์เขาเลยค่ะ คือวิวแบบนี้มันต้องมาเห็นเองด้วยตาเปล่าจริงๆนะ ต่อให้กล้องดีขนาดไหน มันก็เก็บบรรยากาศตรงนั้นไม่หมดอ่ะ (ส่วนตัวคือประทับใจที่นี้ที่สุด) แล้วตอนที่เราไปคนไม่เยอะ เงียบมาก สงบมาก ถ้าเป็นกรุ๊ปทัวร์เหมือนจะมีแค่คณะเราคณะเดียวด้วยอ่ะ แล้วอากาศดีเย็นๆไม่หนาวมาก อยากจะนั่งตรงนั้นนานๆเลยค่ะ แต่เสียดายเขาปิด 5 โมงเย็น เลยได้ชมอยู่พักเดียว 55

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

หลังจากชมหุบผาแม่น้ำไบลด์เสร็จเราก็นั่งรถไปเข้าที่พักค่ะ คืนที่2เราพักกันที่โรงแรม Bushveld Terrace พร้อมกับทานข้าวเย็นกันที่นี้เลย ก็สะดวกดีนะ ทานเสร็จก็เข้าห้องนอน เพราะว่าง่วงมาก กะพริบตา Zz

กู้ดมอร์นิ่งเช้าวันที่ 3 ผีเสื้อ วันนี้ได้ตื่นสายขึ้นมานิดหน่อย นัดทานข้าว7โมงเช้าค่ะ (ภาพบรรยากาศหน้าที่พักระหว่างรอห้องอาหารเปิด)

หลังจากทานข้าวเสร็จในช่วงเช้าเรามีโปรแกรมไปเที่ยวที่ศูนย์ฟื้นฟูสัตว์ป่า Moholoholo Wildlife Rehabilitation Center เที่ยวชมดูสัตว์ป่าที่เขานำมาอนุบาลไว้ค่ะ


ตอนเดินไปดูสัตว์ตอนแรกๆก็อากาศเย็นดีแหละ แต่พอเดินไปสักพัก ร้อนจะเป็นลม กะพริบตา แดดแรงนะคะ ใครไปเที่ยวที่นี่พกร่ม พกหมวกไปด้วยน๊า
ชื่อสินค้า:   บ.เร้นจ์ อินเตอร์เนชั่นแนลทราเวล จำกัด
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่