อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีมุสลิมมากที่สุดในโลก แต่คนส่วนใหญ่ 'ไม่เคร่ง'

อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีมุสลิมมากที่สุดในโลก ในแง่ของจำนวนประชากร
แต่ประชากรส่วนใหญ่ ไม่เคร่งมากมายเท่าโลกอิสลามที่อื่น บางคนมีรอยสัก บางคนเสพสุรา
เหตุผลหนึ่ง เพราะคนส่วนใหญ่ คือเผ่าชวาในเกาะชวา ที่นับถือศาสนาอิสลามโดยเจือปนกับความเชื่อเดิมๆ 
อีกเหตุผลหนึ่งคือ เพราะอินโดนีเซีย เป็นประเทศฆราวาสนิยมแบบค่อนข้างเต็มตัว ใกล้เคียงกับตุรกี
แต่คนในเกาะอื่น โดยเฉพาะ เกาะสุมาตรา ที่มีเชื้อชาติเผ่าอื่นโดยเฉพาะมลายูและอาเจะห์ เคร่งศาสนาอิสลามกันมาก

ที่จังหวัดอาเจะห์ เป็นพื้นที่เดียวในอินโดนีเซีย ที่เคร่งครัดถึงขั้นใช้กฎหมายชารียะห์ในการควบคุมศีลธรรมพลเมือง
ซึ่งสาเหตุหนึ่ง เพื่อความปราณีประนอมกันระหว่างรัฐบาลอินโดนีเซีย และกลุ่มท้องถิ่น เพื่อไม่ให้เกิดการแบ่งแยกดินแดนขึ้น
แต่ในที่อื่นๆ มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน แต่มีบ้างที่บางเรื่องจะควบคุมเข้ม 
กฎหมายของอินโดนีเซีย ระบุไว้ว่า ต้องมีศาสนา และจะต้องเชื่อในพระเจ้า ตามหลักปัญจศีล
แต่กฎหมายอินโดนีเซีย ไม่ได้บังคับชีวิตพลเมืองมาก ยังให้เสรีภาพในการประพฤติตัวอยู่

แต่ในปัจจุบัน ด้วยอิทธิพลจากโลกอาหรับ และจากมาเลเซีย ทำให้คนจำนวนไม่น้อย เริ่มกลับมาเคร่งครัดถือศีลเคร่งครัด 
โรมา อิระมา (Rhoma Irama) ราชาเพลงดังดุต (เพลงสไตล์ Bollywood ปนอาหรับ) เคยมีเพื่อนร่วมวงที่ทำผิดศีล ทำฮะรอมไว้มากมาย
แต่เมื่อโรมา ได้กลับจากฮัจญ์ ได้ทำการตัดผมตัวเองให้สั้นลง ไล่เพื่อนร่วมวงที่ไม่เคร่งศีลออก และแต่งเพลง รับทำนองที่มีกลิ่นอิสลามมาขึ้น
แต่ในกรณีอื่นๆ นั้น เป็นที่น่ากังวล เพราะมันแฝงมาด้วยความรุนแรงมากขึ้นจากกลุ่มที่เคร่งศาสนา
เลดี้ กาก้า เคยมาอินโดนีเซีย แต่ถูกกลุ่มผู้เคร่งศาสนาประท้วงไม่ให้มามาแล้ว

ชาวชวาดั้งเดิม รับศาสนาอิสลามตามพวกมลายูในสุมาตราและแหลมมลายู แต่ไม่ได้ละทิ้งวัฒนธรรมประเพณีที่ไม่ได้ขัดกับหลักศาสนาอย่างร้ายแรง
ขณะที่ชาวมลายู ได้ละทิ้งรากฐานเดิมๆ ใช้อักษรอาหรับเขียนภาษาตนเอง รับวัฒนธรรมหลายๆอย่างมา รวมถึงการตั้งชื่อแบบอาหรับ
หลังยุคเอกราช ชาวมลายู ได้รับอิทธิพลจากโลกอาหรับมาอย่างเต็มที่ ประพฤติตัวเคร่งครัด ในแบบที่อาหรับแท้ๆเอง ยังอาจจะไม่เท่า
สำหรับชาวมลายูแล้ว 2 สิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นเชื้อชาติก็คือ ภาษา และ ศาสนา
ชาวมลายู ที่ทั้งละทิ้งภาษามลายู และ ศาสนาอิสลาม จะไม่ถือว่าเป็นชาวมลายูอีกต่อไป 

อย่างไรก็ตาม เรื่องน่าเศร้าที่เกิดขึ้นก็คือ ชาวชวาจำนวนไม่น้อย ต่างภาคภูมิใจกับบรมพุทโธ และ ปรัมบานัน ที่เป็นหลักฐานประวัติศาสตร์ความเก่าแก่
แต่ชาวมลายู ไม่ค่อยมีหลักฐานทางโบราณคดีมากนัก ที่มีมักจะมีอยู่ในเกาะสุมาตรา ส่วนมาเลเซีย มีอยู่แค่ในหุบเขาบูจัง ในรัฐเกดะห์
เชื่อกันว่า ชาวมลายู เมื่อได้รับศาสนาอิสลามแล้ว ได้ทำลายรูปปั้น เทวสถานของฮินดู-พุทธ จนไม่เหลือหลักฐาน
ชาวมลายูจำนวนไม่น้อย รู้เพียงแต่ว่า บรรพบุรุษ เคยนับถือศาสนาผี ลัทธิเจว็ด เหมือนพวกฟิลิปปินส์ แต่อาจจะไม่ได้ทราบมากกว่านี้
เรื่องนี้ เป็นเรื่องทางประวัติศาสตร์ จะโทษคนยุคปัจจุบันก็คงไม่ถูก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่