สวัสดีครับเพื่อนๆ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ของผม ตั้งใจอยากจะระบายความรู้สึกทั้งหมดผ่านมาเพราะไม่รู้จะหันหน้าไปคุยหรือระบายกับใคร
ทุกอย่างเริ่มจากการเปลี่ยนงานของผม ทุกครั้งที่เปลี่ยนงานผมคาดหวังจะเจอสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ แต่กลับไม่ใช่เลย ทุกอย่างมันแต่แย่ลงเรื่อยๆ
เริ่มจากการที่ืำงานผมได้มีโอกาสเริ่มงานหลังเรียนจบทันที เป็นบริษืทเล็กๆ อบอุ่นอยู่กันแบบครอบครัว ได้ทำงานตรงสายที่เรียนมา ทำได้อยุ่ประมาณ 1 ปี ก็ลาออกเนื่องจาก ได้งานใหม่เป็นพนักงานราชการ
ที่ 2 ที่ๆ ผม ได้ทำงานนานที่สุด เป็นงานตรงสายเช่นกัน เป็นองค์กรใหญ่ เพื่อนร่วมงานดี สนิทกัน หัวหน้างานนิสัยดีเป็นที่เคารพของคนในทีม ระหว่างที่ทำอยู่ที่นี้ผมโอเคครับ มีความสุขดี ขี้เกียจบ้างขยันบ้างตามประสา ไ้ด้ลองทำงานอะไรใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับสายงานตัวเองเยอะ งานหนักเป็นช่วงๆ มีเวลาพักผ่อนเยอะ ได้ใช้เวลากับครอบครัว ได้เจอคนมากมาย ผมคิดว่าที่นี้แหละ คงเป็นที่สุดท้ายแล้ว จะอยู่ยาวจนเกษียญเลย ก็ทำงานที่นี้จนเวลาผ่านไปสิบปี จนกระทั่งเริ่มรู้สึกเบื่อๆ เนื่องจากงานไม่เติบโต ทำแต่งานเดิมๆ เงินเดือนก็ไม่ได้มากมายอะไรก็เลยมีความคิดที่ว่าอยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ ดูประกอบกับจังหวะนั้นมีรุ่นพี่ที่รู้จักกัน ชวนไปทำงานด้วยกันพอดี ผมเองตัดสินใจอยุ่นาน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของหัวหน้า เพื่อนๆ และครอบครัว ชั่งน้ำหนักระหว่างสิ่งที่เสียไป กับสิ่งที่ได้กลับมาก็ตัดสินใจได้ว่าจะลองออกไปเจอโลกภายนอกดู และสุดท้ายผมก็ตัดสินใจเปลี่ยนงาน และนี้ก็คือจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจครั้งผิดพลาด
ที่ทำงานที่ 3 เอกชน งานตรงสายเช่นกัน งานท้าทายมากขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น เพื่อนร่วมงานดี แต่นอกทีมก็ต่างคนต่างอยู่ ที่สำคัญได้เงินเดือนที่มากกว่าเดิมพอสมควรเลย แต่สิ่งหายไปคือเวลาส่วนตัว พอเริ่มมาทำงานที่นี้ ผมคิดถึงที่เก่าตลอดเวลา รู้ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากปลอบตัวเองไปวันๆ ว่าต้องเดินหน้าต่อไป ผมเองก็ทำงานที่นี้ไปเกือบสองปี จนมีความคิดว่า เราน่าจะกลับไปทำงานแบบเดิมเนอะ ยอมลดเงินเดือนตัวเองลงไปเริ่มใหม่ในงานรัฐอีกครั้ง น่าจะได้มีเวลาส่วนตัวอีกครั้งนึง จนสุดท้ายผมก็หางานได้ตามที่ต้องการ
ที่ทำงานปัจจุบัน เป็นองค์กรรัฐเช่นกัน เป็นงานสายใกล้เคียง ทำงานได้เกือบปีแล้ว คนมากมายแต่ต่างคนต่างอยู่ ตั้งแต่เริ่มทำงาน ผมคิดถึงที่ที่ืำงานที่สองหนักกว่าเดิม รู้สึกคิดถึงบรรยากาศอบอุ่นแบบที่ที่งานที่ 2 โหยหาอยากกลับไป
ถึงแม้ว่าผมจะได้เวลาส่วนตัวกลับมาเหมือนตอนอยุ่ที่ 2 ก็ตาม แต่ผมกลับรู้สึกไม่อยากมาทำเลย รู้สึกอึดอัดกับกรอบระเบียบต่างๆ อึดอัดกับบรรยากาศการทำงาน ผมเคยคิดว่าตัวเองน่าจะปรับตัวเข้ากับที่นี้ได้ แต่จากเวลาที่ผ่านผมรู้สึกว่าไม่เลย ส่วนเรื่องงานคิดว่าเรียนรู้งานได้ง่ายๆ เพราะพอมีพื้นฐานมาจากที่ทำงานที่ 3 มาบ้างแล้ว แต่พอเอาจริงๆ ผมทำงานออกมาได้แย่มากครับ ใช้เวลาทำแต่ละชิ้น ช้า เข้าใจยาก จากเดิมที่เป็นคนมั่นใจในงานตัวเอง ทำได้เร็ว กลับกลายเป็นแบบนี้ ผมยอมรับเลยว่ารู้สึกท้อแท้มากๆ อยากจะลาออกอีกครั้ง
ปัญหาของผมตอนนี้ ผมคิดถึงที่ทำงานเก่าครับแต่ก็คงกลับไปไม่ได้แล้ว ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะทนความรู้สึกนี้ได้ไหน ผมไม่รู้ว่าควรจะออกจากงานอีกครั้งมั้ย กับอายุขนาดนี้ กลัวสารพัด กลัวว่างานใหม่จะแย่กว่าันน กลัวว่าจะหางานใหม่ไม่ได้ ทุกวันนี้เวลากลับถึงบ้าน ต้องพยายามเก็บความรู้สึกไว้กลัวว่าภรรยาจะเครียดตาม เพราะผมเคยให้เขาฟังแล้วภรรยาผมมีอาการเครียดตามผมไปด้วย ผมเลยไม่รู้จะระบายกับใคร พยายามฝืนยิ้ม ไปวันๆ ชีวิตไม่มีความสุขเลยครับ ได้แต่โทษตัวเองที่ตัดสินใจโง่ๆ แบบนั้น คิดซ้ำไปมาถ้าเราอดทนอีกหน่อยผมคงไม่เจออะไรแบบนี้ชีวิตน่าจะมีความสุขกว่านี้
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ระบายความรู้สึกครับ
รู้สึกท้อแท้กับการตัดสินใจที่ผ่านๆ มาเกี่ยวกับการทำงาน
ทุกอย่างเริ่มจากการเปลี่ยนงานของผม ทุกครั้งที่เปลี่ยนงานผมคาดหวังจะเจอสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ แต่กลับไม่ใช่เลย ทุกอย่างมันแต่แย่ลงเรื่อยๆ
เริ่มจากการที่ืำงานผมได้มีโอกาสเริ่มงานหลังเรียนจบทันที เป็นบริษืทเล็กๆ อบอุ่นอยู่กันแบบครอบครัว ได้ทำงานตรงสายที่เรียนมา ทำได้อยุ่ประมาณ 1 ปี ก็ลาออกเนื่องจาก ได้งานใหม่เป็นพนักงานราชการ
ที่ 2 ที่ๆ ผม ได้ทำงานนานที่สุด เป็นงานตรงสายเช่นกัน เป็นองค์กรใหญ่ เพื่อนร่วมงานดี สนิทกัน หัวหน้างานนิสัยดีเป็นที่เคารพของคนในทีม ระหว่างที่ทำอยู่ที่นี้ผมโอเคครับ มีความสุขดี ขี้เกียจบ้างขยันบ้างตามประสา ไ้ด้ลองทำงานอะไรใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับสายงานตัวเองเยอะ งานหนักเป็นช่วงๆ มีเวลาพักผ่อนเยอะ ได้ใช้เวลากับครอบครัว ได้เจอคนมากมาย ผมคิดว่าที่นี้แหละ คงเป็นที่สุดท้ายแล้ว จะอยู่ยาวจนเกษียญเลย ก็ทำงานที่นี้จนเวลาผ่านไปสิบปี จนกระทั่งเริ่มรู้สึกเบื่อๆ เนื่องจากงานไม่เติบโต ทำแต่งานเดิมๆ เงินเดือนก็ไม่ได้มากมายอะไรก็เลยมีความคิดที่ว่าอยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ ดูประกอบกับจังหวะนั้นมีรุ่นพี่ที่รู้จักกัน ชวนไปทำงานด้วยกันพอดี ผมเองตัดสินใจอยุ่นาน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของหัวหน้า เพื่อนๆ และครอบครัว ชั่งน้ำหนักระหว่างสิ่งที่เสียไป กับสิ่งที่ได้กลับมาก็ตัดสินใจได้ว่าจะลองออกไปเจอโลกภายนอกดู และสุดท้ายผมก็ตัดสินใจเปลี่ยนงาน และนี้ก็คือจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจครั้งผิดพลาด
ที่ทำงานที่ 3 เอกชน งานตรงสายเช่นกัน งานท้าทายมากขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น เพื่อนร่วมงานดี แต่นอกทีมก็ต่างคนต่างอยู่ ที่สำคัญได้เงินเดือนที่มากกว่าเดิมพอสมควรเลย แต่สิ่งหายไปคือเวลาส่วนตัว พอเริ่มมาทำงานที่นี้ ผมคิดถึงที่เก่าตลอดเวลา รู้ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากปลอบตัวเองไปวันๆ ว่าต้องเดินหน้าต่อไป ผมเองก็ทำงานที่นี้ไปเกือบสองปี จนมีความคิดว่า เราน่าจะกลับไปทำงานแบบเดิมเนอะ ยอมลดเงินเดือนตัวเองลงไปเริ่มใหม่ในงานรัฐอีกครั้ง น่าจะได้มีเวลาส่วนตัวอีกครั้งนึง จนสุดท้ายผมก็หางานได้ตามที่ต้องการ
ที่ทำงานปัจจุบัน เป็นองค์กรรัฐเช่นกัน เป็นงานสายใกล้เคียง ทำงานได้เกือบปีแล้ว คนมากมายแต่ต่างคนต่างอยู่ ตั้งแต่เริ่มทำงาน ผมคิดถึงที่ที่ืำงานที่สองหนักกว่าเดิม รู้สึกคิดถึงบรรยากาศอบอุ่นแบบที่ที่งานที่ 2 โหยหาอยากกลับไป
ถึงแม้ว่าผมจะได้เวลาส่วนตัวกลับมาเหมือนตอนอยุ่ที่ 2 ก็ตาม แต่ผมกลับรู้สึกไม่อยากมาทำเลย รู้สึกอึดอัดกับกรอบระเบียบต่างๆ อึดอัดกับบรรยากาศการทำงาน ผมเคยคิดว่าตัวเองน่าจะปรับตัวเข้ากับที่นี้ได้ แต่จากเวลาที่ผ่านผมรู้สึกว่าไม่เลย ส่วนเรื่องงานคิดว่าเรียนรู้งานได้ง่ายๆ เพราะพอมีพื้นฐานมาจากที่ทำงานที่ 3 มาบ้างแล้ว แต่พอเอาจริงๆ ผมทำงานออกมาได้แย่มากครับ ใช้เวลาทำแต่ละชิ้น ช้า เข้าใจยาก จากเดิมที่เป็นคนมั่นใจในงานตัวเอง ทำได้เร็ว กลับกลายเป็นแบบนี้ ผมยอมรับเลยว่ารู้สึกท้อแท้มากๆ อยากจะลาออกอีกครั้ง
ปัญหาของผมตอนนี้ ผมคิดถึงที่ทำงานเก่าครับแต่ก็คงกลับไปไม่ได้แล้ว ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะทนความรู้สึกนี้ได้ไหน ผมไม่รู้ว่าควรจะออกจากงานอีกครั้งมั้ย กับอายุขนาดนี้ กลัวสารพัด กลัวว่างานใหม่จะแย่กว่าันน กลัวว่าจะหางานใหม่ไม่ได้ ทุกวันนี้เวลากลับถึงบ้าน ต้องพยายามเก็บความรู้สึกไว้กลัวว่าภรรยาจะเครียดตาม เพราะผมเคยให้เขาฟังแล้วภรรยาผมมีอาการเครียดตามผมไปด้วย ผมเลยไม่รู้จะระบายกับใคร พยายามฝืนยิ้ม ไปวันๆ ชีวิตไม่มีความสุขเลยครับ ได้แต่โทษตัวเองที่ตัดสินใจโง่ๆ แบบนั้น คิดซ้ำไปมาถ้าเราอดทนอีกหน่อยผมคงไม่เจออะไรแบบนี้ชีวิตน่าจะมีความสุขกว่านี้
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ระบายความรู้สึกครับ