สวัสดีครับ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
ผมมีปํญหาทั้งเรื่องครอบครัว ทั้งตัวเอง ทั้งเรื่องสังคม
พ่อกับแม่ผมหย่ากันตั้งแต่อยู่วัยเด็กๆ เลยต้องมาอยู่กับ ตา ยาย เพียงสามคน สมัยเด็กๆชอบร้องไห้และจะคิดถึงแต่พ่อเพราะอยู่กับพ่ออบอุ่นกว่า เพราะพ่อ เป็นคนใจดี ต่างจากแม่ แม่ผมเหมือนเป็นคนโรคประสาท ชอบด่าลูก เลยไม่ติดแม่เท่าไหร่
แต่ปัจจุบัน ผมมาอยู่กับแม่เพราะบ้านแม่อยู่ในจังหวัด เพราะเข้ามาเรียนในจังหวัด แต่ทาง"น้ากับอาญาติพ่อ"เป็นคนส่งผมเรียน พ่อไปมีแฟนใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป พ่อกลับไม่ค่อยสนใจผม โทรไปไม่ค่อยรับ ไม่เคยถามลูกเป็นไงบ้างไหม มีแต่ผมถามพ่อ
ส่วนผมอยู่กับแม่ก็จริง ใช่ครับ แม่เป็นคนคลอดผม"แม่ต้องเป็นผู้มีพระคุณอยู่แล้ว" แต่แม่ทิ้งผมอย่างลูกหมาให้ ตา ยายเลี้ยงผมโตมาทุกวันนี้ ก็ ตา ยาย และแม่มีอาการ คล้ายโรคประสาท ด่าผมยังไม่พอ ยังไป ด่า ตา ยาย ผมได้แต่สงสารตากับยาย
ทุกวันนี้ผมอยู่กับแม่ บอกตรงๆเลย ไม่มีความสุข ขนาดผมป่วยเป็นไข้แค่ไหนก็ต้องทำทุกอย่างให้ได้ใจแม่ ไม่งั้นโดนด่า
โดนแม่บังคับ เหมือนผมโดนขังไว้เรือนจำทำนองนั้น ไม่เคยมีความสุข ผมเคยคิดไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้ว แต่มันก็ต้องดิ้นรนไป ให้มันดีกว่าวันนี้ก็กับยิ่งแย่ มันท้อแท้ ไม่มีกำลังใจ มีแต่อยากร้องไห้ ผมเคยคิดอยากหนีไป บวช ไกลๆจากที่นี้ อยากสงบ สติ อารมณ์ แต่ก็ได้แค่คิดเพราะยังเรียนไม่จบ
เข้ามาตัวผมบ้าง ผมเองเป็น คนคิดมาก คิดเล็กคิดน้อย เป็นคนไม่ค่อยพูดจา ชอบเก็บตัว กลัวการเข้าสังคม ไม่ชอบที่คนวุ่นวาย เป็นโลกส่วนสูง เป็นคนที่จริงจังทุกอย่าง ไม่เคยเที่ยวกลางคืน ไม่เคยมีชีวิตที่สนุกอย่างใครเขา วันๆอยู่แต่บ้าน เพื่อนก็ไม่มีใครอยากคบ อาการผมเป็นตอนนี้ เป็น คน ไม่มีเรี่ยวแรง ไม่กระฉับกระเฉง ซือบือ เหมือนคนอ่อนแอไปทุกที รู้สึกเหมือนตัวเองจะเสียหัว ไร้ปัญญา ขาดกำลังใจ เป็นเด็กกำพร้า มีป้มด้อย ขาดความอบอุ่น ไม่เคยมีใครอบรมสั่งสอน มีแต่ตัวผม ที่ต้องสั่งสอนตัวเอง ว่าอันไหนดี ไม่ดี ไม่เป็นคนเกเร
ผมกลายเป็นคนที่ถูกมองข้าง ไร้คุณค่า ไม่เคยมีใครเข้าใจ
แค่เพื่อนสนิทที่จะระบายยังไม่มี มันอัดอั้นอยู่ในสมองผมหมด
ผมไม่รู้ว่า จะไปเล่าให้ใครฟังดี ยังไงผมก็ขอระบายลงในนี้แล้วกันเพราะผมไม่รู้จะไปปรึกษาใครแล้วกับสิ่งที่ผมเป็น
มีใครเคยตกอยู่ช่วงชีวิตตัวเองมันแย่ มันไร้ค่า และผ่านจุดนั้นมาได้อย่างไร
ผมมีปํญหาทั้งเรื่องครอบครัว ทั้งตัวเอง ทั้งเรื่องสังคม
พ่อกับแม่ผมหย่ากันตั้งแต่อยู่วัยเด็กๆ เลยต้องมาอยู่กับ ตา ยาย เพียงสามคน สมัยเด็กๆชอบร้องไห้และจะคิดถึงแต่พ่อเพราะอยู่กับพ่ออบอุ่นกว่า เพราะพ่อ เป็นคนใจดี ต่างจากแม่ แม่ผมเหมือนเป็นคนโรคประสาท ชอบด่าลูก เลยไม่ติดแม่เท่าไหร่
แต่ปัจจุบัน ผมมาอยู่กับแม่เพราะบ้านแม่อยู่ในจังหวัด เพราะเข้ามาเรียนในจังหวัด แต่ทาง"น้ากับอาญาติพ่อ"เป็นคนส่งผมเรียน พ่อไปมีแฟนใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป พ่อกลับไม่ค่อยสนใจผม โทรไปไม่ค่อยรับ ไม่เคยถามลูกเป็นไงบ้างไหม มีแต่ผมถามพ่อ
ส่วนผมอยู่กับแม่ก็จริง ใช่ครับ แม่เป็นคนคลอดผม"แม่ต้องเป็นผู้มีพระคุณอยู่แล้ว" แต่แม่ทิ้งผมอย่างลูกหมาให้ ตา ยายเลี้ยงผมโตมาทุกวันนี้ ก็ ตา ยาย และแม่มีอาการ คล้ายโรคประสาท ด่าผมยังไม่พอ ยังไป ด่า ตา ยาย ผมได้แต่สงสารตากับยาย
ทุกวันนี้ผมอยู่กับแม่ บอกตรงๆเลย ไม่มีความสุข ขนาดผมป่วยเป็นไข้แค่ไหนก็ต้องทำทุกอย่างให้ได้ใจแม่ ไม่งั้นโดนด่า
โดนแม่บังคับ เหมือนผมโดนขังไว้เรือนจำทำนองนั้น ไม่เคยมีความสุข ผมเคยคิดไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้ว แต่มันก็ต้องดิ้นรนไป ให้มันดีกว่าวันนี้ก็กับยิ่งแย่ มันท้อแท้ ไม่มีกำลังใจ มีแต่อยากร้องไห้ ผมเคยคิดอยากหนีไป บวช ไกลๆจากที่นี้ อยากสงบ สติ อารมณ์ แต่ก็ได้แค่คิดเพราะยังเรียนไม่จบ
เข้ามาตัวผมบ้าง ผมเองเป็น คนคิดมาก คิดเล็กคิดน้อย เป็นคนไม่ค่อยพูดจา ชอบเก็บตัว กลัวการเข้าสังคม ไม่ชอบที่คนวุ่นวาย เป็นโลกส่วนสูง เป็นคนที่จริงจังทุกอย่าง ไม่เคยเที่ยวกลางคืน ไม่เคยมีชีวิตที่สนุกอย่างใครเขา วันๆอยู่แต่บ้าน เพื่อนก็ไม่มีใครอยากคบ อาการผมเป็นตอนนี้ เป็น คน ไม่มีเรี่ยวแรง ไม่กระฉับกระเฉง ซือบือ เหมือนคนอ่อนแอไปทุกที รู้สึกเหมือนตัวเองจะเสียหัว ไร้ปัญญา ขาดกำลังใจ เป็นเด็กกำพร้า มีป้มด้อย ขาดความอบอุ่น ไม่เคยมีใครอบรมสั่งสอน มีแต่ตัวผม ที่ต้องสั่งสอนตัวเอง ว่าอันไหนดี ไม่ดี ไม่เป็นคนเกเร
ผมกลายเป็นคนที่ถูกมองข้าง ไร้คุณค่า ไม่เคยมีใครเข้าใจ
แค่เพื่อนสนิทที่จะระบายยังไม่มี มันอัดอั้นอยู่ในสมองผมหมด
ผมไม่รู้ว่า จะไปเล่าให้ใครฟังดี ยังไงผมก็ขอระบายลงในนี้แล้วกันเพราะผมไม่รู้จะไปปรึกษาใครแล้วกับสิ่งที่ผมเป็น