สวัสดีค่ะ
หนูเป็นเด็กอายุ 17 จริงๆก็ไม่เด็กเท่าไหร่ ไม่เคยคิดเคยฝันเลยค่ะว่าจะได้มาใช้พันทิป ไม่รู้ว่ายังมีคนใช้อยู่มั้ย
[ข้ามได้ค่ะถ้าไม่อยากอ่าน] ขอเล่าย้อนก่อนเข้าเรื่องว่า หนูอาศัยอยู่กับครอบครัว 7 คน มีพ่อเลี้ยง แม่ ตายาย แล้วก็น้องสาวต่างพ่อ แล้วก็ลูกพี่ลูกน้องวัยหกขวบ
จุดยืนในบ้านหนูแทบได้ว่าย่ำแย่ หนูถูกยายปลูกฝังว่าเป็นพี่ ,ไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อเลี้ยง ,บลาๆ จำเป็นจะต้องทำงานบ้านต้องอยู่เงียบๆไม่สร้างปัญหา
ต้องทำตัวดีๆ เป็นการปลูกฝังแนวคิดเหมือนอยากให้หนูอยู่บ้านทำงานบ้านเหมือนเป็นคนใช้เลยเอาง่ายๆ ปัจจุบันมีแค่หนูกับยายที่ทำงานบ้านนอกนั้นคุณตาที่เป็นคนขี้เหล้าแกจะขี่รถออกไปที่นาทุกวันคุณยายเป็นคนเลี้ยงน้องๆในวันหยุดเป็นคนคอยดูแต่ว่าน้องๆก็ไม่ค่อยอยู่บ้านหรอกชอบไปเล่นที่บ้านเพื่อนกลับมาก็ค่ำๆส่วนใหญ่จะให้หนูไปตาม แล้วก็น้องๆไม่เคยเคารพหนูเลยเพราะว่าน้องสาวต่างพ่อจะฟังแค่พ่อกับแม่เท่านั้นเขาไม่เคยมองหนูเป็นพี่สาวที่น่าเคารพหรืออะไรเพราะว่าแม่มักจะตามใจมาตั้งแต่เล็กๆจนปัจจุบันเขาอยู่ป 3 อายุ 9 ขวบแล้ว ส่วนลูกพี่ลูกน้องวัยหกขวบเขาจะเป็นคนที่ดื้อมากๆแล้วก็เขาจะฟังแค่คุณตากับคุณยายเพราะทุกครั้งที่หนูพยายามจะบอกจะสอนเขาจะไม่ฟังเลยเพราะคุณยายจะขึ้นขัดตลอดเวลาว่าไม่ต้องไปยุ่งกับเขาหรอกเขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขาเขายังเด็ก หนูเองก็พยายามเงียบแล้วก็พยายามไม่ยุ่งกับน้องแต่หนูก็ไม่เคยห้ามตัวเองได้สักทีแล้วก็เข้าไปยุ่งทุกครั้ง
คำที่หนูได้ยินบ่อยๆคือ จะไปสนใจเด็กมันทำไมมันทำอะไรมันก็เรื่องของมันมันยังเด็กไม่รู้เรื่องเธอจะไปโกรธเด็กแค่เพราะเขาพูดไม่ดีใส่เธอหรอเขาโตขึ้นเดี๋ยวเขาก็รู้เรื่องเอง เป็นคำที่หนูได้ยินบ่อยมากๆในตอนที่หนูพยายามจะสั่งสอนน้องหรือว่าโมโหที่น้องพูดใส่
อะ ต้องเล่าอีกว่า หนูเป็นคนอ้วน และ แม่มักจะเรียกหนูว่า อีอ้วน , อ้วน ซึ่งเป็นโทนน้ำเสียงที่ไม่ใช่คำหยาบอะไร แล้วแม่ก็ใจชอบเล่าให้น้องฟังแบบตลกๆว่าเออเนี่ยเห็นไอ้อ้วนไหมมันอิจฉาหนูเพราะว่าหนูผอมแล้วก็สวยกว่า,อีอ้วนน่ะมันเป็นคนใช้นะ,ฯลฯ
แต่ประเด็นคือน้องสาวต่างพ่อของหนูจำคำของแม่แล้วมาใช้เรียกหนูเขาไม่เคยเรียกหนูว่าพี่ดีๆเขาจะเรียกหนูว่า อีอ้วน ถ้าเกิดว่าเขาอารมณ์เหวี่ยงหรืออารมณ์ไม่ดีเขาจะพูดคำหยาบใส่หนูว่า อี-่า อีเห-ี้ย
ที่นี้ก็จะมาเข้าพอยท์หลักคือลูกพี่ลูกน้องวัย 6 ขวบของหนูที่อาศัยอยู่มาด้วยกันตั้งแต่เขาเป็นเบบี๋ช่วงประมาณ 4 ขวบ 5 ขวบก็ไม่อะไรแต่ว่ามาปีนี้ 6 ขวบแล้วเหมือนเขาจะรู้อะไรมากขึ้นแล้วก็อยู่ในวัยกำลังซนหนูพูดอะไรใส่เขาเขาไม่ฟังเลยอย่างเช่นบอกให้เขาไปเก็บขยะที่เขากินแล้วไม่ทิ้งหรือว่าเก็บของเล่นที่เขาเล่นแล้วเขาก็จะไม่ฟังหนูเลยพอหนูขึ้นเสียงใส่เขาจะทำหน้าหงิกหน้างอแล้วเดินไปฟ้องยายกับตาต้องขอโทษด้วยนะที่นี้ว่านิสัยของหนูก็ไม่ได้ดีอะไรหนูดูด้วยซ้ำว่าการตะโกนใส่เด็กมันไม่ดีแต่หนูก็ไม่เคยควบคุมอารมณ์ตัวเองได้สักครั้งเลย กลับมาที่ประเด็นก็คือเขาเริ่มเรียกหนูตามน้องสาวต่างพ◌่อของหนู เขาเริ่มมีการเรียกหนูว่าอีอ้วนไม่เรียกหนูว่าพี่เหมือนเคยด้วยความที่หนูรู้สึกว่าเขายังเด็กก็น่าจะสอนได้ก็เลยพยายามอยู่กับเขามากๆ พยายามหาเรื่องมาเล่นด้วยแต่ด้วยวัยที่มันดูจะต่างกันแล้วปกติหนูจะเหวี่ยงใส่เขาบ่อยด้วย (การขึ้นเสึยง และชักสีหน้าใส่ )เพราะว่าเขาเป็นเด็กที่ดื้อมากมันจะมาหนักตรงช่วงที่ว่าช่วงนี้เป็นการสอบกลางภาคงานมันรุมเร้าอะไรเต็มไปหมดหนูก็ต้องกลับบ้านค่ำน้องหนูก็เล่นเล่นๆๆจนมันค่ำก็ไม่ยอมกลับบ้านสักทียายก็ใช้หนูไปตามตลอดๆจนหนูรำคาญ หนูก็เลยทำการไม่ไปตามน้องมาให้จนเขากลับบ้านมาประมาณ 18.30กว่าๆ วันนั้นหนูโดนยายด่าหนักมากเลยล่ะที่ไม่ยอมไปตามน้องหนูรู้ว่าหนูผิดแหละแต่ก็ไม่เคยสำนึกผิดกับเรื่องนั้นตั้งแต่วันนั้นมาหนูก็ไม่เคยยุ่งกับ(น้องลูกพี่ลูกน้อง)ของหนูอีก
แต่ด้วยความเป็นคนบ้านเดียวกันหนูก็ยังคงใช้ชีวิตปกติแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าสนิทสนมกับน้องคนไหนเลย
เข้าประเด็นจริงๆ
คือเมื่อวาน หนูกลับบ้านมา แล้วเมื่อวานอารมณ์ดี เลย ซื้อไก่ทอดเกาหลีมาให้น้องๆ คนละสองชิ้น ตอนนั้นหนูเอาไก่ไปให้ลูกพี่ลูกน้อง เขาส่ายหน้า ในขณะที่เล่นของเล่นในมือ "ไม่เอาอะ กลัวอ้วนเหมือนม◌ึง" นั่นทำให้หนูโมโหมาก เราปรี๊ดแตก เราต่อว่าเขาว่า ใครสั่งใครสอน พี่บอกแล้วไงว่าให้เรียกพี่ดีๆ หนูทำหน้าเหวี่ยงพร้อมกับพูดด้วยประโยคนั้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนที่ยายจะบอกว่าจะไปโมโหอะไรเด็กมันก่อนจะหันไปสั่งสอนลูกพี่ลูกน้องของเราดีๆว่าให้เรียกพี่ให้เพราะๆหน่อย
ตอนนั้นหนูก็เลยเดินหนีออกมามาสงบสติอารมณ์เพราะไม่อยากตีเด็ก แล้วลูกพี่ลูกน้องก็ไปเล่นกับบ้านข้างๆ ตอนนั้นยายใช้หนูไปซื้อของพอดีหนูก็เลยกำลังเดินไปซื้อของแล้วประเด็นคือลูกพี่ลูกน้องถามหนูว่า อ้วนจะไปไหน ตอนนั้นหนูโกรธเขาอยู่ก็เลยทำหน้าเหวี่ยงๆแล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงเชิงไม่พอใจนิดๆว่า ไม่บอก แต่แล้วหนูก็ได้ยินประโยคที่หนูไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิตนี้ว่า อีด*กนี่ เขาตะโกนออกมาสุดเสียง ตอนนั้นหนูทั้งโกรธทั้งเสียใจมากหนูไม่คิดว่าเขาจะพัฒนาถึงขนาดมาเรียกหนูขนาดนี้ได้ ณ ตอนนั้นหนูก็ทำได้แค่เดินดุ่มๆๆไปเพื่อหวังจะสงบสติอารมณ์ตัวเอง พอได้ของมาก็กลับบ้านปกติจนไปเจอเขาหนูคิดว่าหนูควบคุมอารมณ์แต่ได้แล้วแต่ไม่เลยหนูเจอเขาอารมณ์ให้มันโกรธๆก็คือปี๊ดขึ้นมาอีกรอบหนูเข้าไปคว้าแขนเขาแล้วก็ใช้มือฟาดหลังเขาอย่างจังเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนที่หนูไม่เคยตีเขาเลยหนูตีรอบเดียวแล้วปล่อยเขาออกเป็นเชิงผลักออกด้วยหนูก็พูดกับเขาว่าแกเอาความกล้าที่ไหนมาเรียกพี่ว่า... ก่อนจะตะโกนใส่เขาว่าเขามันเป็นเด็กไม่มีมารยาท สอนไม่เคยจำ ก่อนที่หนูจะเอาของในมือหนูเนี่ยปาใส่หน้าเขา(เป็นผักคะน้าในถุง)
ก่อนที่ยายจะเข้ามาห้ามแล้วด่าหนูเสียงดังว่า กับอีแค่เด็กมันพูดแค่นี้ถึงขนาดป้าของใส่ด่าใส่เลยหรอ ก่อนที่ตาที่นอนพักอยู่จะเสริมขึ้นมาว่าหนูเป็นคนปัญญาอ่อนกลับแค่เด็กพูดแค่นี้ก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่เคยได้แล้วก็บ่นสารพัดสารเพซึ่งหนูก็ไม่ได้ฟังหรอก ณตอนนั้นหนูก็หนีขึ้นไปนอนบนบ้านเพราะหนูนอนบนบ้านคนเดียวด้วย
จนถึงตอนนี้หนูก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่แล้วก็ไม่ได้คุยกับใครเลยจนถึงตอนนี้ หนูก็มาคิดทบทวนว่าตัวเองหรือเพราะว่าจริงๆเป็นด้วยนิสัยอีกของหนูที่ชอบเหวี่ยงด้วยหรือเปล่าหรือเป็นเพราะหนูชอบตะโกนใส่เขาเขาเลยเป็นอย่างนั้นหนูก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงก็เลยคิดว่าหรือหนูควรจะปรับปรุงตัวให้มันดีกว่านี้ก็อยากจะเริ่มที่นิสัยหนูอยากจะรู้ว่าหนูควรที่จะจัดการอารมณ์ตัวเองยังไงเพื่อไม่ให้มันเกิดเหตุการณ์อะไรแบบนี้ซ้ำอีก หนูไม่เคยตีเขามาก่อนเลยส่วนใหญ่จะเป็นการขึ้นเสียงใส่หรือว่าชักสีหน้าใส่เฉยๆ ไหนจากการที่หนูไปปาของใส่หน้าเขาอีกทั้งๆที่ลูกพี่ลูกน้องหนูก็เป็นแค่เด็ก 6 ขวบจนตอนนี้หนูก็ยังคงเศร้าอยู่หนูไม่ได้ขอโทษเขาแล้วตอนนี้หนูก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง หนูก็อยากรู้ว่าหนูควรจะแก้ไขยังไง
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ขอรบกวนว่าถ้าอ่านจบแล้วช่วยแนะนำหนูด้วยนะคะขอบคุณค่ะ
เราควรจัดการอารมณ์ตัวเองยังไงดีคะ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงซ้ำสอง
หนูเป็นเด็กอายุ 17 จริงๆก็ไม่เด็กเท่าไหร่ ไม่เคยคิดเคยฝันเลยค่ะว่าจะได้มาใช้พันทิป ไม่รู้ว่ายังมีคนใช้อยู่มั้ย
[ข้ามได้ค่ะถ้าไม่อยากอ่าน] ขอเล่าย้อนก่อนเข้าเรื่องว่า หนูอาศัยอยู่กับครอบครัว 7 คน มีพ่อเลี้ยง แม่ ตายาย แล้วก็น้องสาวต่างพ่อ แล้วก็ลูกพี่ลูกน้องวัยหกขวบ
จุดยืนในบ้านหนูแทบได้ว่าย่ำแย่ หนูถูกยายปลูกฝังว่าเป็นพี่ ,ไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อเลี้ยง ,บลาๆ จำเป็นจะต้องทำงานบ้านต้องอยู่เงียบๆไม่สร้างปัญหา
ต้องทำตัวดีๆ เป็นการปลูกฝังแนวคิดเหมือนอยากให้หนูอยู่บ้านทำงานบ้านเหมือนเป็นคนใช้เลยเอาง่ายๆ ปัจจุบันมีแค่หนูกับยายที่ทำงานบ้านนอกนั้นคุณตาที่เป็นคนขี้เหล้าแกจะขี่รถออกไปที่นาทุกวันคุณยายเป็นคนเลี้ยงน้องๆในวันหยุดเป็นคนคอยดูแต่ว่าน้องๆก็ไม่ค่อยอยู่บ้านหรอกชอบไปเล่นที่บ้านเพื่อนกลับมาก็ค่ำๆส่วนใหญ่จะให้หนูไปตาม แล้วก็น้องๆไม่เคยเคารพหนูเลยเพราะว่าน้องสาวต่างพ่อจะฟังแค่พ่อกับแม่เท่านั้นเขาไม่เคยมองหนูเป็นพี่สาวที่น่าเคารพหรืออะไรเพราะว่าแม่มักจะตามใจมาตั้งแต่เล็กๆจนปัจจุบันเขาอยู่ป 3 อายุ 9 ขวบแล้ว ส่วนลูกพี่ลูกน้องวัยหกขวบเขาจะเป็นคนที่ดื้อมากๆแล้วก็เขาจะฟังแค่คุณตากับคุณยายเพราะทุกครั้งที่หนูพยายามจะบอกจะสอนเขาจะไม่ฟังเลยเพราะคุณยายจะขึ้นขัดตลอดเวลาว่าไม่ต้องไปยุ่งกับเขาหรอกเขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขาเขายังเด็ก หนูเองก็พยายามเงียบแล้วก็พยายามไม่ยุ่งกับน้องแต่หนูก็ไม่เคยห้ามตัวเองได้สักทีแล้วก็เข้าไปยุ่งทุกครั้ง
คำที่หนูได้ยินบ่อยๆคือ จะไปสนใจเด็กมันทำไมมันทำอะไรมันก็เรื่องของมันมันยังเด็กไม่รู้เรื่องเธอจะไปโกรธเด็กแค่เพราะเขาพูดไม่ดีใส่เธอหรอเขาโตขึ้นเดี๋ยวเขาก็รู้เรื่องเอง เป็นคำที่หนูได้ยินบ่อยมากๆในตอนที่หนูพยายามจะสั่งสอนน้องหรือว่าโมโหที่น้องพูดใส่
อะ ต้องเล่าอีกว่า หนูเป็นคนอ้วน และ แม่มักจะเรียกหนูว่า อีอ้วน , อ้วน ซึ่งเป็นโทนน้ำเสียงที่ไม่ใช่คำหยาบอะไร แล้วแม่ก็ใจชอบเล่าให้น้องฟังแบบตลกๆว่าเออเนี่ยเห็นไอ้อ้วนไหมมันอิจฉาหนูเพราะว่าหนูผอมแล้วก็สวยกว่า,อีอ้วนน่ะมันเป็นคนใช้นะ,ฯลฯ
แต่ประเด็นคือน้องสาวต่างพ่อของหนูจำคำของแม่แล้วมาใช้เรียกหนูเขาไม่เคยเรียกหนูว่าพี่ดีๆเขาจะเรียกหนูว่า อีอ้วน ถ้าเกิดว่าเขาอารมณ์เหวี่ยงหรืออารมณ์ไม่ดีเขาจะพูดคำหยาบใส่หนูว่า อี-่า อีเห-ี้ย
ที่นี้ก็จะมาเข้าพอยท์หลักคือลูกพี่ลูกน้องวัย 6 ขวบของหนูที่อาศัยอยู่มาด้วยกันตั้งแต่เขาเป็นเบบี๋ช่วงประมาณ 4 ขวบ 5 ขวบก็ไม่อะไรแต่ว่ามาปีนี้ 6 ขวบแล้วเหมือนเขาจะรู้อะไรมากขึ้นแล้วก็อยู่ในวัยกำลังซนหนูพูดอะไรใส่เขาเขาไม่ฟังเลยอย่างเช่นบอกให้เขาไปเก็บขยะที่เขากินแล้วไม่ทิ้งหรือว่าเก็บของเล่นที่เขาเล่นแล้วเขาก็จะไม่ฟังหนูเลยพอหนูขึ้นเสียงใส่เขาจะทำหน้าหงิกหน้างอแล้วเดินไปฟ้องยายกับตาต้องขอโทษด้วยนะที่นี้ว่านิสัยของหนูก็ไม่ได้ดีอะไรหนูดูด้วยซ้ำว่าการตะโกนใส่เด็กมันไม่ดีแต่หนูก็ไม่เคยควบคุมอารมณ์ตัวเองได้สักครั้งเลย กลับมาที่ประเด็นก็คือเขาเริ่มเรียกหนูตามน้องสาวต่างพ◌่อของหนู เขาเริ่มมีการเรียกหนูว่าอีอ้วนไม่เรียกหนูว่าพี่เหมือนเคยด้วยความที่หนูรู้สึกว่าเขายังเด็กก็น่าจะสอนได้ก็เลยพยายามอยู่กับเขามากๆ พยายามหาเรื่องมาเล่นด้วยแต่ด้วยวัยที่มันดูจะต่างกันแล้วปกติหนูจะเหวี่ยงใส่เขาบ่อยด้วย (การขึ้นเสึยง และชักสีหน้าใส่ )เพราะว่าเขาเป็นเด็กที่ดื้อมากมันจะมาหนักตรงช่วงที่ว่าช่วงนี้เป็นการสอบกลางภาคงานมันรุมเร้าอะไรเต็มไปหมดหนูก็ต้องกลับบ้านค่ำน้องหนูก็เล่นเล่นๆๆจนมันค่ำก็ไม่ยอมกลับบ้านสักทียายก็ใช้หนูไปตามตลอดๆจนหนูรำคาญ หนูก็เลยทำการไม่ไปตามน้องมาให้จนเขากลับบ้านมาประมาณ 18.30กว่าๆ วันนั้นหนูโดนยายด่าหนักมากเลยล่ะที่ไม่ยอมไปตามน้องหนูรู้ว่าหนูผิดแหละแต่ก็ไม่เคยสำนึกผิดกับเรื่องนั้นตั้งแต่วันนั้นมาหนูก็ไม่เคยยุ่งกับ(น้องลูกพี่ลูกน้อง)ของหนูอีก
แต่ด้วยความเป็นคนบ้านเดียวกันหนูก็ยังคงใช้ชีวิตปกติแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าสนิทสนมกับน้องคนไหนเลย
เข้าประเด็นจริงๆ
คือเมื่อวาน หนูกลับบ้านมา แล้วเมื่อวานอารมณ์ดี เลย ซื้อไก่ทอดเกาหลีมาให้น้องๆ คนละสองชิ้น ตอนนั้นหนูเอาไก่ไปให้ลูกพี่ลูกน้อง เขาส่ายหน้า ในขณะที่เล่นของเล่นในมือ "ไม่เอาอะ กลัวอ้วนเหมือนม◌ึง" นั่นทำให้หนูโมโหมาก เราปรี๊ดแตก เราต่อว่าเขาว่า ใครสั่งใครสอน พี่บอกแล้วไงว่าให้เรียกพี่ดีๆ หนูทำหน้าเหวี่ยงพร้อมกับพูดด้วยประโยคนั้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนที่ยายจะบอกว่าจะไปโมโหอะไรเด็กมันก่อนจะหันไปสั่งสอนลูกพี่ลูกน้องของเราดีๆว่าให้เรียกพี่ให้เพราะๆหน่อย
ตอนนั้นหนูก็เลยเดินหนีออกมามาสงบสติอารมณ์เพราะไม่อยากตีเด็ก แล้วลูกพี่ลูกน้องก็ไปเล่นกับบ้านข้างๆ ตอนนั้นยายใช้หนูไปซื้อของพอดีหนูก็เลยกำลังเดินไปซื้อของแล้วประเด็นคือลูกพี่ลูกน้องถามหนูว่า อ้วนจะไปไหน ตอนนั้นหนูโกรธเขาอยู่ก็เลยทำหน้าเหวี่ยงๆแล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงเชิงไม่พอใจนิดๆว่า ไม่บอก แต่แล้วหนูก็ได้ยินประโยคที่หนูไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิตนี้ว่า อีด*กนี่ เขาตะโกนออกมาสุดเสียง ตอนนั้นหนูทั้งโกรธทั้งเสียใจมากหนูไม่คิดว่าเขาจะพัฒนาถึงขนาดมาเรียกหนูขนาดนี้ได้ ณ ตอนนั้นหนูก็ทำได้แค่เดินดุ่มๆๆไปเพื่อหวังจะสงบสติอารมณ์ตัวเอง พอได้ของมาก็กลับบ้านปกติจนไปเจอเขาหนูคิดว่าหนูควบคุมอารมณ์แต่ได้แล้วแต่ไม่เลยหนูเจอเขาอารมณ์ให้มันโกรธๆก็คือปี๊ดขึ้นมาอีกรอบหนูเข้าไปคว้าแขนเขาแล้วก็ใช้มือฟาดหลังเขาอย่างจังเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนที่หนูไม่เคยตีเขาเลยหนูตีรอบเดียวแล้วปล่อยเขาออกเป็นเชิงผลักออกด้วยหนูก็พูดกับเขาว่าแกเอาความกล้าที่ไหนมาเรียกพี่ว่า... ก่อนจะตะโกนใส่เขาว่าเขามันเป็นเด็กไม่มีมารยาท สอนไม่เคยจำ ก่อนที่หนูจะเอาของในมือหนูเนี่ยปาใส่หน้าเขา(เป็นผักคะน้าในถุง)
ก่อนที่ยายจะเข้ามาห้ามแล้วด่าหนูเสียงดังว่า กับอีแค่เด็กมันพูดแค่นี้ถึงขนาดป้าของใส่ด่าใส่เลยหรอ ก่อนที่ตาที่นอนพักอยู่จะเสริมขึ้นมาว่าหนูเป็นคนปัญญาอ่อนกลับแค่เด็กพูดแค่นี้ก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่เคยได้แล้วก็บ่นสารพัดสารเพซึ่งหนูก็ไม่ได้ฟังหรอก ณตอนนั้นหนูก็หนีขึ้นไปนอนบนบ้านเพราะหนูนอนบนบ้านคนเดียวด้วย
จนถึงตอนนี้หนูก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่แล้วก็ไม่ได้คุยกับใครเลยจนถึงตอนนี้ หนูก็มาคิดทบทวนว่าตัวเองหรือเพราะว่าจริงๆเป็นด้วยนิสัยอีกของหนูที่ชอบเหวี่ยงด้วยหรือเปล่าหรือเป็นเพราะหนูชอบตะโกนใส่เขาเขาเลยเป็นอย่างนั้นหนูก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงก็เลยคิดว่าหรือหนูควรจะปรับปรุงตัวให้มันดีกว่านี้ก็อยากจะเริ่มที่นิสัยหนูอยากจะรู้ว่าหนูควรที่จะจัดการอารมณ์ตัวเองยังไงเพื่อไม่ให้มันเกิดเหตุการณ์อะไรแบบนี้ซ้ำอีก หนูไม่เคยตีเขามาก่อนเลยส่วนใหญ่จะเป็นการขึ้นเสียงใส่หรือว่าชักสีหน้าใส่เฉยๆ ไหนจากการที่หนูไปปาของใส่หน้าเขาอีกทั้งๆที่ลูกพี่ลูกน้องหนูก็เป็นแค่เด็ก 6 ขวบจนตอนนี้หนูก็ยังคงเศร้าอยู่หนูไม่ได้ขอโทษเขาแล้วตอนนี้หนูก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง หนูก็อยากรู้ว่าหนูควรจะแก้ไขยังไง
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ขอรบกวนว่าถ้าอ่านจบแล้วช่วยแนะนำหนูด้วยนะคะขอบคุณค่ะ