เรื่องสยองงานขายตรงจากประสบการณ์จริงของแฟนผม!!

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงไม่ใช้ตัวแสดงแทน มันเกิดขึ้นในจังหวัดโคราชและเกิดขึ้นกับแฟนผมเองครับ เพี้ยนปูเสื่อ
...
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่ากระทู้นี้ยาวแน่นอนเพราะผมอยากให้คุณผู้อ่านได้ดื่มด่ำกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่ครับ เพี้ยนลุย
...
เมื่อประมาณปีที่แล้วแฟนผมได้เข้าไปสมัครงานงานหนึ่งในจังหวัดโคราช บริษัทนี้ทำเกี่ยวกับเครื่องสำอาง โดยระบุว่าตัวงานเป็นการสอนแต่งหน้าตามหน่วยงานราชการต่างๆครับ
...
ข้อมูลที่บ.นี้ได้ระบุไว้ในการรับสมัครงานคือ
1.มีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
2.ทำงาน 08.15-17.00 น.
3.เงินเดือน 10,000 ขึ้น
4.มีค่าเดินทางให้
เอาคร่าวๆประมาณนี้ก่อน เดี๋ยวนึกขึ้นได้จะกล่าวถึงอีกที
...
วันแรกที่แฟนผมไปสมัครงานจะเป็นการสัมภาษณ์งานก่อน ซึ่งจริงๆแล้วทุกคนที่มานั้นจะผ่านการสัมภาษณ์งานครับ โดยส่วนตัวผมรู้แล้วว่างานนี้เป็นงานขายอย่างแน่นอน แต่ตอนนั้นบอกแฟนแฟนก็ไม่เชื่อเพราะทางบ.ยืนยันว่ามีเงินเดือน
...
วันต่อมาจะมีการเรียกไปลองดูงานหน้างานครับ เป็นการพาขาย ซึ่งตรงจุดนี้ทุกคนจะรู้แล้วว่าเป็นงานขาย แต่แฟนอยากลองดูครับเพราะไหนๆก็สมัครเข้ามาแล้ว เมื่อไปลองหน้างานก็จะถูกประเมินโดยรุ่นพี่ที่พาไปครับว่าดูแล้วจะรอดไหม ถ้ารอดก็จะได้ไปต่อ ถ้าไม่รอดก็จบแยกย้ายกันไป
...
เมื่อได้งานทำแล้วจะมีช่วงทดลองงาน 3 เดือนครับ ซึ่งช่วงทดลองงานนี้จะได้เงินเดือนจริงครับ แต่เมื่อทำยอดได้แล้วก็จะถือว่าผ่านโปร...ตรงจุดนี้แหละครับคือความยิ้มของจริง เพราะเงินที่คุณจะได้คือต้องทำยอดให้ถึงเท่านั้น ไม่เช่นนั้นคุณจะได้เงินเพียง 20% จากยอดที่ได้เท่านั้นครับ หากต้องการเงิน 18,000 คุณต้องทำยอดให้ได้ 80,000 !!!! และจะมีลำดับขั้นต่อๆไปตามขั้นของยอด เพี้ยนเบลอ ลองคิดดูง่ายๆว่า หากเดือนนั้นคุณไม่สามารถขายเครื่องสำอางค์ได้ถึง 80,000 คุณจะได้เงินเท่าไหร่ เช่น หากเดือนนี้ทำงานแล้วขายได้แค่ 30,000 คุณจะได้เงิน 6,000 เท่านั้น! เพี้ยนสะอื้น OMG!!! ซึ่งตรงจุดนี้เห็นไหมครับว่ามันไม่ได้เงินเดือนที่เป็นฐานเงินเดือนเหมือนตอนแรกที่ระบุไว้ตอนรับสมัครงาน
...
หลังจากนั้นทางบ.จะต้องให้พนักงานซื้อตัวเทสเพื่อไปใช้กับลค.โดยซื้อในราคาพนักงาน ซึ่งตรงนี้ถูกกว่าราคาปกติเยอะครับ
...
ทางบ.จะให้ไปขายตามสถานที่ราชการครับ โดย98%ไม่ได้ทำการขอก่อน แต่เป็นการบุกเข้าไปแบบกองโจร ขอแต่งหน้า แล้วก็ปิดการขาย ที่ไหนยอมให้แต่งก็ดีไป ที่ไหนไม่ให้แต่งก็โดนไล่ออกมา บางทีต้องลักลอบเข้าไปก็มียกตัวอย่างเช่น ศาลปกครอง โรงเรียนบางแห่ง โรงพยาบาล เป็นต้น
...
การทำงานที่นี่ต้องอาศัยรถเป็นหลักเพราะเนื่องจากต้องเดินทางไปตจว.หรืออำเภอไกลๆ โดยบ.ไม่มีรถให้นะครับ ใช้รถส่วนตัว ค่าเดินทางในทุกๆวันที่ใช้รถคือการหารค่าน้ำมันกันเอง วันไหนไปใกล้ๆก็รอดไป วันไหนไปไกลก็แพงหน่อย เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วคงไม่ต้องบอกนะครับว่าการเลิกงาน 17.00 น.ตามที่บอกนั้นมันเป็นไปไม่ได้ แทบจะนับวันได้เลยว่าเลิกงาน 17.00 น.กี่วัน อมยิ้ม20 เพราะกว่าจะกลับมาถึงออฟฟิศก็ดึกแล้ว ทีนี้นอกจากเรื่องน้ำมัน มันก็จะมีปัญหาตรงที่เรื่องของการเสื่อมสภาพของรถ อันนี้บ.ก็ไม่ช่วยนะ แล้วก็ไม่มีใครในที่ทำงานช่วยด้วย 555 พังคือซ่อมเองจ้า อมยิ้ม42
...
การเดินทางไปทริปคือการเดินทางไปตจว.ไกลๆ ซึ่งจุดนี้บ.แทบไม่ซับพอร์ตอะไรเลย มีค่าเดินทางไม่กี่บาทกับค่าห้องไม่กี่ร้อย ไปกันที 5-6 วัน ไม่พ้นได้ควักเงินตัวเองออก ซึ่งถ้าหากปิดยอดไม่ถึง 80,000 คงนึกภาพออกใช่ไหมครับว่ามันจะเข้าเนื้อขนาดไหน
หากอยากพอมีเงินก้อนซับพอร์ตจากหัวหน้า ต้องทำยอดทริปให้ได้ตามเป้าครับ ซึ่งบอกได้เลยว่ายากโคตรๆ
...
การทำงานทั้งในวันปกติและการไปออกทริปเป็นอะไรที่ทรหดมากๆ เพราะต่อเมื่อในวันปกติคุณมีรถออกไปทำงาน เขาก็จะดรอปคุณไว้ตามสถานที่ต่างๆ หลังจากนั้นคุณต้องอาศัยการเดินหอบของด้วยส้นสูงเป็นกิโลๆเพื่อมูฟไปตามสถานที่ราชการแถวนั้น หากอยากเหนื่อยน้อยลงก็ให้โบกรถ!หรือขึ้นรถประจำทางแทน อ่านไม่ผิดครับ ... เขาสอนให้โบกรถจากคนแปลกหน้าเพื่อประหยัดค่าเดินทาง!!! เพี้ยนรมเสีย ส่วนการเดินทางไปยังตจว.เวลาออกทริปนั้น ทีมจะได้รับอนุญาตให้ใช้รถส่วนตัวคันเดียว เพื่อช่วยในการขนลังสินค้า ส่วนคนที่นั่งไปไม่ได้ต้องนั่งรถทัวร์ไปพร้อมกับลังสินค้าที่ไม่สามารถยัดลงรถยนตร์ได้
...
ตามเอกสารที่ระบุในการรับสมัครงานระบุไว้ว่าทำงานจันทร์-ศุกร์จริง แต่ทุกวันเสาร์พนักงานจะถูกบังคับให้มาเรียนเพิ่มหรือทำกิจกรรมร่วมกันซึ่งในส่วนนี้ไม่มี OT เด้อ จะได้หยุดจริงๆก็วันอาทิตย์ แต่ถ้าหากเป็นวันอาทิตย์ที่ต้องไปทริปก็ซวยไป เพราะคุณจะต้องเดินทางวันอาทิตย์เช้าหรือบ่ายเท่านั้น
...
ถามว่ามันแย่ขนาดนี้ทำไมคนยังฝืนทำอยู่ คำตอบง่ายๆก็คือ "การใช้จิตวิทยา" ครับ เขาใส่ข้อมูลและทำให้พนง.คิดตาม เชื่อ และขายฝัน เพื่อให้พนง.เกิดความหวัง มีภาพความสำเร็จลอยมาตลอด เพราะคนที่ปิดยอด 100,000 ต่อเดือนมันก็มีจริงๆ (1-2 คน) ที่เหลือต้องเอาเงินเก็บมาใช้ไม่ก็ขอที่บ้านมากันทุกคน หากยังคิดไม่ได้เอง ติดลบจนไม่ไหว หรือร่างกายพังเขาไม่ฟังคนอื่นเตือนหรอกครับ ขนาดผมพูดกับแฟนเกือบทุกวันแฟนยังไม่ฟังเลย แต่จะโทษเขาก็ไม่ได้ เขาโดนฝังความคิดแบบนั้นไว้
...
มาช่วงหลังๆนี้ยอดแฟนผมต่ำหนัก พร้อมกับร่างกายที่พังโคตรๆเธอจึงเริ่มรู้ตัว เมื่อถอยตัวเองออกมาเลยรู้ว่าจริงๆแล้วเงินที่หามาได้ เราได้ใช้แค่30-40%เท่านั้น ที่เหลือถูกใช้เป็นค่าเดินทาง ค่ากินอยู่เวลาออกตจว. ค่าอุปกรณ์ และอื่นๆที่เกี่ยวกับการทำงานทั้งสิ้น

ที่เล่ามายาวเหยียดขนาดนี่ผมแค่ต้องการเตือนเพื่อนๆที่กำลังเจอกับงานนี้และกำลังตัดสินใจอยู่ ถ้าบังเอิญคุณเห็นกระทู้นี้ ผมอยากให้คุณลองพิจารณาดูว่าสิ่งที่แฟนผมเจอไปนั้นมันเป็นสิ่งที่คุณรับได้หรือไม่ แต่สำหรับผม แค่การที่ให้พนง.ผญ.โบกรถคนแปลกหน้า เดินทางเปลี่ยวๆ เดินบนขอบถนน ผมก็อยากให้ออกจะแย่อยู่แล้ว คือมันไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงขนาดนั้น เพราะที่สุดแล้วหากแจ็คพ็อตความซวยมันมาถึงเรา วันนั้นบ.ก็รับผิดชอบอะไรไม่ได้มากกว่าเงินไม่กี่พันและพวงหรีด 1 พวงครับ

ส่วนใครที่ทำอยู่แล้วเริ่มต้องควักเนื้อจ่ายแล้ว ลองคิดดูดีๆครับ ถ้าหากงานนี้มันดีจริง ชีวิตพนง.หลายๆคนต้องดีขึ้น นี่มีแต่ติดลบลงทุกวันๆ

สุดท้ายนี้เหตุการณ์นี้เป็นเพียงการเล่าสู่กันฟัง ไม่ได้เอ่ยถึงชื่อบ.เพื่อโจมตีแต่อย่างใด และไม่ได้ว่าใครที่กำลังทำอยู่ด้วย สวัสดีครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่