สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อยากดึงสติหน่อย...ข้อดีของสามีคุณเขียนมาก็มากมายมหาศาลแล้วสำหรับผู้ชายคนนึงที่พึงมีต่อครอบตรัว ต่อภรรยา...
เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเรื่องอาบน้ำลูก เปิดม่านไม่เปิดม่าน อย่าเอามาเป็นสาระเลย คิดว่ามันเป็นหน้าที่คุณที่เป็นแม่บ้านเต็มตัว สามีทำงานก็มาช่วยเลี้ยงช่วยดูในบางส่วน อะไรขัดหูขัดตาถ้าไม่เหนือกว่าบ่าแรงผิดวิสัยพ่อ วิสัยสามีก็ปล่อยๆบ้างสะกิดเตือนบ้างตามสมควร...
ยังไม่เห็นอะไรรุนแรงถึงกับต้องมานั่งคิดเรื่องไปต่อ พอแค่นี้อะไร ลืมไปหรือว่ามีลูกกับเค้ามีครอบครัวกับเค้า ตอนงานแต่เคยพูดเคยสัญญาอะไรไว้ ผู้ใหญ่ให้พรอะไรไว้...ลืมหมดเอาแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องมาคิด มีมาว่าสามีไม่ฉลาดอีก เค้าหาเงิน ออกนอกบ้านก็คิดถึงแต่คุณกลับมาซื้อของติดมือฝากลูกฝากเมียหาได้ที่ไหนอีก จะเอาอะไรอีก เรื่องที่ว่าๆมาก็จิ๊บจ้อยเสียเต็มประดา สามีคุณเท่าที่อ่านก็ดีมากๆแล้ว...
มาเตือนสติอีกครั้ง...
เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเรื่องอาบน้ำลูก เปิดม่านไม่เปิดม่าน อย่าเอามาเป็นสาระเลย คิดว่ามันเป็นหน้าที่คุณที่เป็นแม่บ้านเต็มตัว สามีทำงานก็มาช่วยเลี้ยงช่วยดูในบางส่วน อะไรขัดหูขัดตาถ้าไม่เหนือกว่าบ่าแรงผิดวิสัยพ่อ วิสัยสามีก็ปล่อยๆบ้างสะกิดเตือนบ้างตามสมควร...
ยังไม่เห็นอะไรรุนแรงถึงกับต้องมานั่งคิดเรื่องไปต่อ พอแค่นี้อะไร ลืมไปหรือว่ามีลูกกับเค้ามีครอบครัวกับเค้า ตอนงานแต่เคยพูดเคยสัญญาอะไรไว้ ผู้ใหญ่ให้พรอะไรไว้...ลืมหมดเอาแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องมาคิด มีมาว่าสามีไม่ฉลาดอีก เค้าหาเงิน ออกนอกบ้านก็คิดถึงแต่คุณกลับมาซื้อของติดมือฝากลูกฝากเมียหาได้ที่ไหนอีก จะเอาอะไรอีก เรื่องที่ว่าๆมาก็จิ๊บจ้อยเสียเต็มประดา สามีคุณเท่าที่อ่านก็ดีมากๆแล้ว...
มาเตือนสติอีกครั้ง...
ความคิดเห็นที่ 7
คุณ"จับจ้อง"แต่ความผิดของสามี แต่ไม่มองความดีของเขาบ้าง สามีคุณดีกว่าสามีหลายๆๆๆๆบ้านนะคะ
เขาหาเงินเข้าบ้านคนเดียว เขายอมคุณเลี้ยงลูกเต็มเวลา เขาทำงาน 6 วัน เขาต้องไปซื้อกับข้าว ซื้อของให้ลูกหลังเลิกงาน กลับมาต้องล้างของลูก อาบน้ำลูก ฯลฯ ขอโทษนะคะ คุณยังต้องการอะไรจากสามีคนนี่อีกคะ???? หันดูสามีคนอื่นบ้างเถอะค่ะ ที่แย่กว่าสามีคุณก็มีมาก
แล้วคำว่าลูกคือทุกอย่าง รู้สึกว่าชีวิตนี้ฉันพอแล้ว ฯลฯ ถามคำเดียวค่ะ ถ้าไม่มีสามี สามีไม่เลี้ยงดู คุณจะได้เป็นแม่เต็มเวลา เลี้ยงลูกจนหนำใจแบบนี้ไม๊คะ?
อย่าทุ่มเทให้ลูกจนลืมสามี เด็กสมัยนี้จบประถมก็แทบจะสิงเพื่อนแล้วค่ะ พ่อแม่แทบกลายเป็นคนอื่น คนที่จะอยู่กับคุณจนวันตาย ดูแลยามเจ็บป่วย(ถ้าไม่เลิกกันไปเสียก่อน!!)คือสามีของคุณค่ะ ให้เวลาเขาบ้าง
เลิกจับผิดสามีเวลาเขาดูแลลูก ลูกคุณก็ลูกเขา เขาก็มีวิธีของเขาที่จะเลี้ยงลูก ถ้าวิธีของเขาไม่ทำอันตรายกับลูกก็ปล่อยๆบ้างเถอะค่ะ ทำเป็นขำๆไป
อย่าเหมาว่า"ฉันเป็นแม่ วิธีของฉันถูกต้องที่สุด" เขาก็เป็นพ่อค่ะ มีสิทธิมีเสียงเหมือนกับคุณ จับมือคุยกันดีกว่านะคะ
หลังจากอ่านคอมเมนท์มาจนถึงตอนนี้ คุณน่าจะรู้แล้วนะสามีคุณเป็นสามีเป็นพ่อที่ดีคนหนึ่งเลย
เขาหาเงินเข้าบ้านคนเดียว เขายอมคุณเลี้ยงลูกเต็มเวลา เขาทำงาน 6 วัน เขาต้องไปซื้อกับข้าว ซื้อของให้ลูกหลังเลิกงาน กลับมาต้องล้างของลูก อาบน้ำลูก ฯลฯ ขอโทษนะคะ คุณยังต้องการอะไรจากสามีคนนี่อีกคะ???? หันดูสามีคนอื่นบ้างเถอะค่ะ ที่แย่กว่าสามีคุณก็มีมาก
แล้วคำว่าลูกคือทุกอย่าง รู้สึกว่าชีวิตนี้ฉันพอแล้ว ฯลฯ ถามคำเดียวค่ะ ถ้าไม่มีสามี สามีไม่เลี้ยงดู คุณจะได้เป็นแม่เต็มเวลา เลี้ยงลูกจนหนำใจแบบนี้ไม๊คะ?
อย่าทุ่มเทให้ลูกจนลืมสามี เด็กสมัยนี้จบประถมก็แทบจะสิงเพื่อนแล้วค่ะ พ่อแม่แทบกลายเป็นคนอื่น คนที่จะอยู่กับคุณจนวันตาย ดูแลยามเจ็บป่วย(ถ้าไม่เลิกกันไปเสียก่อน!!)คือสามีของคุณค่ะ ให้เวลาเขาบ้าง
เลิกจับผิดสามีเวลาเขาดูแลลูก ลูกคุณก็ลูกเขา เขาก็มีวิธีของเขาที่จะเลี้ยงลูก ถ้าวิธีของเขาไม่ทำอันตรายกับลูกก็ปล่อยๆบ้างเถอะค่ะ ทำเป็นขำๆไป
อย่าเหมาว่า"ฉันเป็นแม่ วิธีของฉันถูกต้องที่สุด" เขาก็เป็นพ่อค่ะ มีสิทธิมีเสียงเหมือนกับคุณ จับมือคุยกันดีกว่านะคะ
หลังจากอ่านคอมเมนท์มาจนถึงตอนนี้ คุณน่าจะรู้แล้วนะสามีคุณเป็นสามีเป็นพ่อที่ดีคนหนึ่งเลย
ความคิดเห็นที่ 6
ปัญหาคือเหมือนตอนนี้จขกทอยากเป็นแต่แม่ ไม่อยากเป็นเมีย ลูกเป็นที่หนึ่ง สามีเป็นคนอื่น เบื่อสามี พอเบื่อทำอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด แค่ไม่เปิดม่านไฟจขกทก็ว่าโง่ ทำอะไรพลาดก็ขัดใจไปหมด
ลูกน่ะอยู่ให้จขกทเลี้ยงแค่ 10 กว่าปีค่ะ แต่สามีเป็นคู่ชีวิต ถ้าเค้าดีกับจขกทกับลูกถนอมกันไว้ดีๆเถอะค่ะ พลาดนิดพลาดหน่อยค่อยๆปรับกันไป
ที่สำคัญเลยพ่อแม่ที่รักกันมากกว่ารักลูกเล็กน้อยเป็นผลดีกับลูกมากกว่าการเป็นแม่ที่เทให้ลูกมากกว่าพ่อ จขกทกับสามีรักกันดูแลกันถนอมน้ำใจกันจะเป็นต้นแบบความสัมพันธ์ดีๆให้ลูกด้วย
ใจเย็นๆลงแล้วค่อยๆปรับตัวกันไปเถอะค่ะ สามีจขกททำงาน 6 วันแล้วยังช่วยจขกททำโน่นทำนี่น่ารักมากๆเลยนะคะ ถ้าอาบน้ำให้ลูกสามีทำไม่คล่องก็ช่วยกันอาบ แทนที่จะหงุดหงิดก็ให้เป็นเวลาดีๆในครอบครัวดีกว่า ล้างชามไม่สะอาดเล็กๆน้อยๆทำใหม่เลยค่ะ ไม่เป็นไร ค่อยบอกสามีทีหลังว่าขอบคุณที่เค้าช่วยล้าง รู้สึกดีใจที่ช่วยกัน มีเศษอาหารติดอยู่นิดหน่อยแต่ไม่เป็นไร จขกทจัดการแล้ว มันจะบวกๆกับทั้งจขกททั้งสามีมากกว่า สามีจขกทก็มีกำลังใจจะช่วยและใส่ใจมากขึ้น จขกทก็จะได้ชามสะอาดๆคราวหน้าด้วย
ลูกน่ะอยู่ให้จขกทเลี้ยงแค่ 10 กว่าปีค่ะ แต่สามีเป็นคู่ชีวิต ถ้าเค้าดีกับจขกทกับลูกถนอมกันไว้ดีๆเถอะค่ะ พลาดนิดพลาดหน่อยค่อยๆปรับกันไป
ที่สำคัญเลยพ่อแม่ที่รักกันมากกว่ารักลูกเล็กน้อยเป็นผลดีกับลูกมากกว่าการเป็นแม่ที่เทให้ลูกมากกว่าพ่อ จขกทกับสามีรักกันดูแลกันถนอมน้ำใจกันจะเป็นต้นแบบความสัมพันธ์ดีๆให้ลูกด้วย
ใจเย็นๆลงแล้วค่อยๆปรับตัวกันไปเถอะค่ะ สามีจขกททำงาน 6 วันแล้วยังช่วยจขกททำโน่นทำนี่น่ารักมากๆเลยนะคะ ถ้าอาบน้ำให้ลูกสามีทำไม่คล่องก็ช่วยกันอาบ แทนที่จะหงุดหงิดก็ให้เป็นเวลาดีๆในครอบครัวดีกว่า ล้างชามไม่สะอาดเล็กๆน้อยๆทำใหม่เลยค่ะ ไม่เป็นไร ค่อยบอกสามีทีหลังว่าขอบคุณที่เค้าช่วยล้าง รู้สึกดีใจที่ช่วยกัน มีเศษอาหารติดอยู่นิดหน่อยแต่ไม่เป็นไร จขกทจัดการแล้ว มันจะบวกๆกับทั้งจขกททั้งสามีมากกว่า สามีจขกทก็มีกำลังใจจะช่วยและใส่ใจมากขึ้น จขกทก็จะได้ชามสะอาดๆคราวหน้าด้วย
ความคิดเห็นที่ 26
แม่เราเคยสอนว่า เมื่อมีครอบครัวแล้ว อย่าให้ความสนใจหรือละเลยสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากจนเกินไป
ทุกอย่างต้องอยู่ในความพอดี เพราะไม่มีอะไรสำคัญน้อยไปกว่ากันเลย ไม่ว่าจะงาน สามี หรือลูก
ช่วงที่เราแต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูก แม่จะบอกเราเสมอ ว่าเป็นผู้หญิงต้องรู้จักแต่งตัว อย่าปล่อยตัวเองให้โทรมเด็ดขาด
อย่าคิดว่ามีสามีแล้ว จะทำอะไรตามใจตัวเอง หรือปล่อยให้ตัวเองดูแย่ ดูอ้วนแค่ไหนก็ได้
เพราะโดยธรรมชาติส่วนใหญ่ผู้ชาย มักชอบของสวยๆ งามๆ ทั้งนั้น ขนาดเราเองแต่งงานแล้ว ยังแอบมองผู้ชายหล่อๆ หุ่นดีๆ เลย
และยิ่งถ้ามีลูกด้วยแล้ว ก็ไม่ควรสนใจแต่ลูก จนลืมสามี
เวลาที่สามีออกจากบ้านไปทำงาน ก็ควรเดินไปส่งเค้าที่รถ หรือรอรับเค้าที่รถ เวลาเค้ากลับถึงบ้าน
แล้วให้ถามเค้าด้วยว่า วันนี้ทำงานเหนื่อยไหม ที่ทำงานเป็นยังไงบ้าง หาน้ำเย็นๆ ให้เค้ากินสักแก้ว พูดจาดีๆ ต่อกัน แค่นี้ก็ไม่น่าจะลำบากเราจนเกินไป
ถ้าเทียบกับการที่สามีพาไปกินของอร่อยๆ ซื้อของที่เราอยากได้ให้ มีเราเพียงคนเดียว และเป็นพ่อที่ดีของลูก โคตรคุ้มสำหรับเราเลยค่ะ
แม่เราจะแฮปปี้มาก ถ้าเอาลูกมาฝากแม่ให้ช่วยเลี้ยงช่วงวันหยุด แล้วออกไปเติมความหวานกัน
แม่เราไม่เคยโกรธหรือต่อว่าเลยนะคะ กลับสนับสนุนซะอีก
เพราะแม่บอกว่า ถ้าชีวิตคู่ของเรา 2 คน มีความสุข ลูกก็จะมีความสุขตามไปด้วย ลูกเค้ารับรู้ได้นะคะ
แม่เราจะเน้นเรื่องการเติมความหวาน และการปรนิบัติในชีวิตคู่มาก คือไม่ใช่เป็นคนรับใช้ให้สามีนะคะ
แต่จะเน้นเรื่องหน้าที่ของการเป็นภรรยาที่ดี อะไรควรทำไม่ควรทำ เช่น เราไม่ชอบทำงานบ้าน แต่การเอาใจสามี ถามไถ่ความรู้สึกเค้า เราไม่เคยขาด
อะไรที่เราบกพร่อง เราก็จะพยายามหาสิ่งอื่นมาทดแทนเสมอ โชคดีที่สามีเข้าใจ เพราะไม่มีใครสมบูรณ์ เก่ง 100%
เวลาทะเลาะกัน เราไม่เคยพูดจาหยาบคาย ปาข้าวของ หรือทำร้ายร่างกายกัน แต่ชอบนั่งคุยด้วยเหตุผล เพื่อแก้ปัญหากันมากกว่า
ไม่ใช่ดีเฉพาะกับลูกเท่านั้นนะคะ แต่ต้องดีกับสามีด้วยค่ะ ชีวิตคู่จึงจะไปกันรอด
ทุกอย่างต้องอยู่ในความพอดี เพราะไม่มีอะไรสำคัญน้อยไปกว่ากันเลย ไม่ว่าจะงาน สามี หรือลูก
ช่วงที่เราแต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูก แม่จะบอกเราเสมอ ว่าเป็นผู้หญิงต้องรู้จักแต่งตัว อย่าปล่อยตัวเองให้โทรมเด็ดขาด
อย่าคิดว่ามีสามีแล้ว จะทำอะไรตามใจตัวเอง หรือปล่อยให้ตัวเองดูแย่ ดูอ้วนแค่ไหนก็ได้
เพราะโดยธรรมชาติส่วนใหญ่ผู้ชาย มักชอบของสวยๆ งามๆ ทั้งนั้น ขนาดเราเองแต่งงานแล้ว ยังแอบมองผู้ชายหล่อๆ หุ่นดีๆ เลย
และยิ่งถ้ามีลูกด้วยแล้ว ก็ไม่ควรสนใจแต่ลูก จนลืมสามี
เวลาที่สามีออกจากบ้านไปทำงาน ก็ควรเดินไปส่งเค้าที่รถ หรือรอรับเค้าที่รถ เวลาเค้ากลับถึงบ้าน
แล้วให้ถามเค้าด้วยว่า วันนี้ทำงานเหนื่อยไหม ที่ทำงานเป็นยังไงบ้าง หาน้ำเย็นๆ ให้เค้ากินสักแก้ว พูดจาดีๆ ต่อกัน แค่นี้ก็ไม่น่าจะลำบากเราจนเกินไป
ถ้าเทียบกับการที่สามีพาไปกินของอร่อยๆ ซื้อของที่เราอยากได้ให้ มีเราเพียงคนเดียว และเป็นพ่อที่ดีของลูก โคตรคุ้มสำหรับเราเลยค่ะ
แม่เราจะแฮปปี้มาก ถ้าเอาลูกมาฝากแม่ให้ช่วยเลี้ยงช่วงวันหยุด แล้วออกไปเติมความหวานกัน
แม่เราไม่เคยโกรธหรือต่อว่าเลยนะคะ กลับสนับสนุนซะอีก
เพราะแม่บอกว่า ถ้าชีวิตคู่ของเรา 2 คน มีความสุข ลูกก็จะมีความสุขตามไปด้วย ลูกเค้ารับรู้ได้นะคะ
แม่เราจะเน้นเรื่องการเติมความหวาน และการปรนิบัติในชีวิตคู่มาก คือไม่ใช่เป็นคนรับใช้ให้สามีนะคะ
แต่จะเน้นเรื่องหน้าที่ของการเป็นภรรยาที่ดี อะไรควรทำไม่ควรทำ เช่น เราไม่ชอบทำงานบ้าน แต่การเอาใจสามี ถามไถ่ความรู้สึกเค้า เราไม่เคยขาด
อะไรที่เราบกพร่อง เราก็จะพยายามหาสิ่งอื่นมาทดแทนเสมอ โชคดีที่สามีเข้าใจ เพราะไม่มีใครสมบูรณ์ เก่ง 100%
เวลาทะเลาะกัน เราไม่เคยพูดจาหยาบคาย ปาข้าวของ หรือทำร้ายร่างกายกัน แต่ชอบนั่งคุยด้วยเหตุผล เพื่อแก้ปัญหากันมากกว่า
ไม่ใช่ดีเฉพาะกับลูกเท่านั้นนะคะ แต่ต้องดีกับสามีด้วยค่ะ ชีวิตคู่จึงจะไปกันรอด
ความคิดเห็นที่ 21
ขออนุญาตใช้ยาแรง
ผัวคนนี้ได้มาเพราะจับสลากกาชาดได้มาหรือไง
ทนุถนอมรักษาน้ำใจเขาบ้าง
ขอเงินเขาใช้อยู่
ทำดีต่อเขาบ้าง
ผู้ชายเขามีศักดิ์ศรี
เขายอมคุณมากแค่ไหน
เขาอออกไปทำงานเจอคนมากมาย
เจอผู้หญิงที่ดีกว่าคุณ
เขายังไม่มอง
ยอมทนให้คุณโขกสับ
คนนิสัยแบบนี้เหมาะอยู่คนเดียว
เลี้ยงลูกก็ไม่น่าจะดี
ต่อไปบังคับลูก กดดันลูกให้ทำตามใจ
สนองความรู้สึกตนเอง
เพราะพื้นฐานเป็นคนเอาแต่ใจตน
อยู่ใกล้ใครพาลทำให้คนอื่นร้อนรุ่มไปหมด
ผัวคนนี้ได้มาเพราะจับสลากกาชาดได้มาหรือไง
ทนุถนอมรักษาน้ำใจเขาบ้าง
ขอเงินเขาใช้อยู่
ทำดีต่อเขาบ้าง
ผู้ชายเขามีศักดิ์ศรี
เขายอมคุณมากแค่ไหน
เขาอออกไปทำงานเจอคนมากมาย
เจอผู้หญิงที่ดีกว่าคุณ
เขายังไม่มอง
ยอมทนให้คุณโขกสับ
คนนิสัยแบบนี้เหมาะอยู่คนเดียว
เลี้ยงลูกก็ไม่น่าจะดี
ต่อไปบังคับลูก กดดันลูกให้ทำตามใจ
สนองความรู้สึกตนเอง
เพราะพื้นฐานเป็นคนเอาแต่ใจตน
อยู่ใกล้ใครพาลทำให้คนอื่นร้อนรุ่มไปหมด
แสดงความคิดเห็น
เมื่อฉันสนใจลูก มากกว่าผัว...
พอเรามีลูก เราไม่จ้างพี่เลี้ยง เลี้ยงกันเอง อยู่กัน 3 คนพ่อเเม่ลูก โดยเราจะคลุกคลีอยู่กับลูกทั้งวัน เป็นเเม่Full-Time ส่วนสามีทำงาน 6 วัน/สัปดาห์
หลังจากมีลูก เรายอมรับเลยว่า ใจไปอยู่กับลูกมากกว่า เหมือนรู้สึกว่า ฉันพอเเล้ว นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการในชีวิต มีค่าที่สุดในชีวิต พอเลี้ยงลูก มันก็เหนื่อย อารมณ์แปรปรวนขึ้นๆลงๆ การบ้านก็ไม่อยากทำ เเต่ถามว่า ยังรักสามีอยู่ไหม? รักมากเเต่ไม่มีเวลาให้เเสดงออกมากมายเหมือนเเต่ก่อน ลูกร้อง หิวนม คือต้องเลิกสนใจตรงนั้น เอาลูกอย่างเดียว เตียง 6.5ฟุต ก็ให้เรากับลูกนอน เพราะ ลูกนอนดิ้น อีกอย่าง เขาตัวใหญ่ ตัวสูง เลยไปนอนบนที่นอนที่วางราบกับพื้นเเทน เเละค่อนข้างมีทิฐิต่อกัน
ความห่างเหินเริ่มเกิดขึ้น จากช่องโหว่เล็กๆ เเต่เมื่อหลายเรื่องรวมกัน ก็เกิดช่องโหว่ใหญ่ขึ้นๆ ไม่สื่อสารกัน ปล่อยยย ช่างหัวมัน ทำอะไรก็ไม่ใช่ ไม่เข้าตาเราไปหมด ต้องติ ต้องบ่นตลอด เช่น เคยบอกหลายรอบเเล้วว่า เวลาเข้าไปเล่นกับลูกหลังจากลูกตื่นนอน คือ ต้องเปิดไฟในห้อง เปิดม่านกรองเเสงออก ให้ห้องมีเเสงสว่าง เขาก็ไม่ทำ ทุกครั้งบอกว่า ลืม เเต่สำหรับเราเขา ไม่ฉลาดพอ คิดไม่เป็น เรื่องเเค่นี้ต้องให้บอกหรอ? มัน common senseป่ะวะ? อีกเรื่องคือ อยากมาช่วยอาบน้ให้ลูก พอเราให้อาบ ก็ทำไม่เป็นขั้นตอน คือ ต้องสระผมให้ลูกก่อน ทีนี้ก็ยุ่งยากเราอีก เราก็ต้องไปอาบให้ต่อ เเละบางทีก็ล้างภาชนะใส่อาหารลูกไม่สะอาด มีเศษอาหารติดอยู่ที่ช้อนบ้าง มันบ้าง ตรงนี้เราเป้ะ ต้องสะอาด อันนี้ข้อเสียบางอย่างที่เรารับไม่ได้นะ
เเฟนเราเขาก็มีข้อดีของเขาด้วย คือ ดูเเลลูกเมีย ไม่ขาดตกบกพร่อง ของทุกอย่างที่อยากซื้อให้ลูก ให้ซื้อหมด กี่บาทก็ไม่เคยว่า วัตถุดิบทำอาหารลูก ก็เป็นเขาที่ไปซื้อให้ ขอเเค่เขียนลิสต์สั่งมา กลับมาจากทำงานก็เเวะซื้อของกินติดไม้ติดมือมาตลอด ไม่เคยขาด เเพมเพิสลูกจะหมด ก็ซื้อมาตุนเผื่อไว้ กลับบมาจากทำงานก็มาช่วยงานบ้านต่อ ตรงนี้คือ ทำได้ดีเยี่ยม
จากปัญหาที่เล่ามาข้างต้น คุณคิดว่า ชีวิตคู่เราจะไปต่อได้อีกไหม? หรือ พอเเค่นี้ดี เหลือไว้เเค่ความเป็นพ่อเเละเเม่ให้ลูกเท่านั้น? ทางออกควรเป็นเช่นไรดี?