สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 80
เท่าที่อ่านคร่าวๆ ผมว่านิยามของคำว่า "งานประจำ" ของคุณนั้นต่างจาก "งานประจำ" ของคนส่วนใหญ่ ซึ่งเขาทำกัน 5-6วันต่ออาทิตย์ จ่ายเงินเต็ม30วัน หรือแม้กระทั่งงานลูกจ้าง ต่อวันตามค่าแรงขั้นต่ำ หลายๆที่เกือบทั้งหมด คือต้องทำเต็มอาทิตย์
แต่งานของคุณเป็นงานประจำ(๋น่าจะเป็น contract หรือ freelance มากกว่า) ที่ทำที่ละ 2-3 วันต่ออาทิตย์ คุณจึงสามารถทำงานประจำ (ในนิยามของคุณ) ได้2ที่ได้ใน1อาทิตย์หรืองานเสริมต่างๆอีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าจุดอ่อนคือทำแค่อาทิตย์ละไม่กี่วันเงินเดือนต่อเดือนจะได้ไม่มากนัก..
แม้จะมีงานบางประเภทที่ให้มาทำงานอาทิตย์ละ 2-3วันที่เหลือทำอยู่ที่บ้าน แต่เนื่องจากคุณมีงานสองงาน แสดงว่างานคุณเป็นงานที่จบภายใน1วันและงานทั้งสองงานไม่ได้ซ้อนทับกัน เพราะถ้ามันซ้อนทับกัน คุณทำไม่ทันหรอก หรีอทำได้ คุณภาพและปริมาณงานของคุณก็ต้องไม่ค่อยน่าประทับใจแน่นอน ซึ่งงานของคุณอาจจะเป็นงานด้านแปลภาษา ล่าม หรืองานอาชีพพิเศษอื่นๆ
แน่นอนว่าคุณมีงานหลายงานในมืออาทิตย์นึงทำได้หลายๆงาน แต่สำหรับลูกจ้างกินเงินเดือนส่วนใหญ่ นายจ้างจองตัวทำงานทุกวันและทั้งเดือนอยู่แล้วจึงขยับขยายหรือกระจายความเสี่ยงแบบคุณได้ยาก งานของพวกเราจึงเป็นได้แค่อาชีพเสริมหลังเลิกงานหรือวันหยุดเท่านั้น.. ก็ยินดีด้วยนะครับ กับความเก่งกาจในการทำงานของคุณ
แต่งานของคุณเป็นงานประจำ(๋น่าจะเป็น contract หรือ freelance มากกว่า) ที่ทำที่ละ 2-3 วันต่ออาทิตย์ คุณจึงสามารถทำงานประจำ (ในนิยามของคุณ) ได้2ที่ได้ใน1อาทิตย์หรืองานเสริมต่างๆอีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าจุดอ่อนคือทำแค่อาทิตย์ละไม่กี่วันเงินเดือนต่อเดือนจะได้ไม่มากนัก..
แม้จะมีงานบางประเภทที่ให้มาทำงานอาทิตย์ละ 2-3วันที่เหลือทำอยู่ที่บ้าน แต่เนื่องจากคุณมีงานสองงาน แสดงว่างานคุณเป็นงานที่จบภายใน1วันและงานทั้งสองงานไม่ได้ซ้อนทับกัน เพราะถ้ามันซ้อนทับกัน คุณทำไม่ทันหรอก หรีอทำได้ คุณภาพและปริมาณงานของคุณก็ต้องไม่ค่อยน่าประทับใจแน่นอน ซึ่งงานของคุณอาจจะเป็นงานด้านแปลภาษา ล่าม หรืองานอาชีพพิเศษอื่นๆ
แน่นอนว่าคุณมีงานหลายงานในมืออาทิตย์นึงทำได้หลายๆงาน แต่สำหรับลูกจ้างกินเงินเดือนส่วนใหญ่ นายจ้างจองตัวทำงานทุกวันและทั้งเดือนอยู่แล้วจึงขยับขยายหรือกระจายความเสี่ยงแบบคุณได้ยาก งานของพวกเราจึงเป็นได้แค่อาชีพเสริมหลังเลิกงานหรือวันหยุดเท่านั้น.. ก็ยินดีด้วยนะครับ กับความเก่งกาจในการทำงานของคุณ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมคนทุกวันนี้กลัวตกงานกันจัง
เรามองว่า อาชีพที่มั่นคง ณ ปัจจุบัน มันไม่มีอยู่จริง
ตัวเองถึงได้ดิ้นรน ทำงานประจำถึง 2 ที่ ฟรีแลนซ์ประจำอีก 1 ที่ แต่งานส่วนตัวอีก 1 ที่
ดังนั้นเราถึงไม่กลัวการตกงาน เพราะเลือกที่จะกระจายความเสี่ยง เพิ่มท่อน้ำเลี้ยง เพิ่มช่องทางรายได้เข้ามาเรื่อยๆ
จริงๆ น่ะเพราะว่าเรากลัวการตกงานมากกว่าใครหลายๆ คน ยังมีลูกที่ยังเล็ก ต้องใช้เงินกว่าจะโตอีกนานเลย
ยังมีพ่อแม่ที่ตอนนี้ก็เกษียนแล้วทั้งคู่ ยังมีตัวเองที่สุขภาพร่างกายไม่ดีสักเท่าไหร่ และไม่ได้หวังว่าลูกจะต้องโตขึ้นแล้วเลี้ยงเราไปจนตาย
เราดิ้นรน จริงๆ ใช้คำว่ากระ
สิ่งที่เราทำ ผู้บริหารหลายๆ คนก็ทำ เจ้าของกิจการหลายๆ คนก็ทำ บางคนมีกิจการมากกว่า 5 อุตสาหกรรม
แต่ไม่มีใครอยากให้ลูกจ้าง รับงานจากหลายๆ ที่เพราะเกรงว่า งานของตัวเองที่จ้างมา จะทำได้ไม่เต็มที่
แต่ตอนจะเอาลูกจ้างออก ก็ไม่ได้สนใจหรอกว่า ลูกจ้างจะมีเงินกินข้าวไหม มีภาระมีหนี้อะไรที่จำเป็นไหม
ดังนั้น ใครที่คิดจะทำแบบเรา ถ้านายจ้างดูแล้วว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว อย่าบอกเรื่องนี้ให้รู้ค่ะ
กลับกัน ถ้าดูแล้วว่านายจ้างหัวสมัยใหม่ เปิดกว้าง และเข้าใจ บอกได้อย่างภูมิใจเลย
ถึงตอนนี้ เราเจอนายจ้างแบบนี้มาถึง 3 คน แบบที่ยินดีกับความสามารถเรา รวมถึงช่วยเหลือเราด้วยซ้ำไป
ทุกวันนี้คนเราจึงไม่จำเป็นจะต้องทำงานแค่ที่เดียว หรือสายเดียวไปตลอด หางานหาได้ทุกวัน สัมภาษณ์งานสามารถทำได้ทุกวันเช่นกัน (ออนไลน์)
สนับสนุนให้ทุกคน มีงานทำเพิ่มขึ้นค่ะ มีรายได้มาจากหลายทางมากขึ้นค่ะ
เพราะความไม่แน่นอนคือเรื่องที่แน่นอน จึงจำเป็นต้องมีแผนสำรองเอาไว้ ไม่ว่าคุณจะได้เงินเดือนเท่าไหร่ อยู่ตำแหน่งใดก็ตาม
หรือจะเป็นเด็กจบใหม่ หรืออีกไม่กี่ปีจะจบ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องวางแผนกันตั้งแต่ตอนนี้เลย
เพราะเจ้าของกิจการก็ต้องการลดต้นทุน อะไรที่เอาหุ่นยนต์ เอาระบบมาแทนได้ ซึ่งตอนนี้มีเท่านี้ แต่อนาคตมีเยอะขึ้นแน่
หากยังใช้เงินต่อเงินไม่ได้ ลงทุนไม่เป็น (ซึ่งจริงๆ เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ นะคะ ไว้วันหลังจะเขียนภาษาเด็กวัยรุ่นดีกว่า เด็กๆ ก็ควรรู้ไว้)
ก็จำเป็นต้องเอาแรงงานแลกเงินต่อไป สู้ๆ นะคะ มนุษย์เงินเดือนทุกคน
อันนี้ฝากถึงนายจ้าง
อย่าเอาเปรียบลูกจ้างให้มาก คุณเป็นบอส คุณถึงต้องมีความรับผิดชอบให้มากกว่าลูกจ้างนะคะ
ถ้ามีปัญหาอะไรในบริษัท แจ้งลูกน้องไปตรงๆ ไม่จำเป็นต้องปิดบัง และรับฟังให้มาก อย่าทำตัวเป็นคนที่เก่งที่สุดในบริษัท
คุณจ้างคนเก่งมาทำงาน ให้เขาทำหน้าที่ของเขาไป ถ้าจ้างคนมาแค่รับคำสั่งแล้วทำตาม ไม่ต้องจ้างแพง ไม่ต้องจ้างคนเก่ง จ้างแค่คนหัวอ่อนค่ะ
อีกกรณีน่ารังเกียจ คือนายจ้างที่ค้างเงินเดือน ไม่ยอมจ่าย ไม่ยอมชี้แจงกับลูกน้อง แล้วเวลาโดนฟ้อง ก็ข่มขู่สารพัด
อันนี้ทั้งผิดกฎหมายแรงงาน และเป็นมนุษย์ที่แย่อีกคนที่ทำให้แผ่นดินไทยหนักขึ้นอีกหลายเท่า
บางที่ลูกจ้างทำงานจนเข้าโรงพยาบาลทุกเดือน สุขภาพย่ำแย่ แต่คุณก็ยังสนใจแต่ผลงาน โดยไม่สนใจความเป็นคนเลย
ขอให้เจริญเร็ววันนะคะ คุณเป็นนายจ้างที่เยี่ยมมากๆ
การเป็นนายจ้างแล้วทำได้ทุกอย่าง สั่งอะไรลูกจ้างก็ต้องทำตาม
ไม่จริงนะคะ กฎหมายมีอยู่ค่ะ