สวัสดีค่ะ สำหรับกระทู้แรก ที่เป็นปัญหาอยู่ในจิตใจมาแรมปี
ขอแนะนำตัวคร่าวๆ ว่าตอนนี้อายุสามสิบต้นค่ะ มีแฟนที่คบกันมาร่วมสิบปี
ตอนนี้ทางบ้านทั้งสองเห็นตรงกันว่าควรแต่งงานออกเรือนได้แล้วค่ะ
แต่ปัญหาอยู่ที่ ตัวดิฉันเองค่ะ ใช่ค่ะดิฉันไม่กล้าตอบตกลง เพราะปัญหาเหล่านี้ค่ะ
เราได้ตกลงกันว่าลองมาอยู่ มาใช้ชีวิตที่บ้านแฟนก่อนแพลนแต่งงาน 1ปีค่ะ(กทม.)
เพื่อเราจะได้รู้ว่าควรดำเนินชีวิตไปในทิศทางใด
ปัญหาของดิฉันคือ
ไม่รู้สึกว่าเหมือนมีครอบครัวเป็นของตนเองค่ะ
เพราะต้องไปไหนมาไหนกับพ่อแม่แฟนตลอด ไปกินข้าว ไปทำงาน รวมทั้งไปเที่ยว ไปห้าง คุณพ่อคุณแม่ต้องไปด้วยเกือบทุกครั้ง
(ยิ่งเวลาไปห้างต้องเดินไปไหนมาไหนด้วยกันบางทีดิฉันจะซื้อเครื่องสำอาง พวกท่านก็จะรอคะ ไม่ยอมไปเดินที่อื่น ทำให้เกิดความกดดัน
เวลาจะชอปปิ้งTT) เป็นแบบนี้มาตลอดหนึ่งปี
หรือแม้แต่บทสนทนาของเราคุณแม่คุณพ่อจะถามและมีส่วนในการตัดสินใจด้วยเกือบทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องซื้อผ้านวม!
และเวลาเรากับแฟนคุยกันเรื่องอื่นๆคุยตามประสาเม้ามอย คุณพ่อคุณแม่แฟนชอบถามค่ะ ว่าคุยอะไรกัน พร้อมฟังด้วย!
ซึ่งบางทีมันเป็นเรื่องจากบนเฟสบุ๊คขำๆ ก็ต้องบอกท่านให้รับรู้ค่ะ
เรื่องอาหารการกินค่ะ พวกท่านชอบร้าน ...ก.โภชนามากกกก คือก็จะไปกินข้าวที่นี่คะและพวกท่านไปกินเราต้องไปด้วยค่ะ
ในบางครั้งดิฉันจะลดน้ำหนัก อยากกินก๋วยเตี๋ยวสักชาม แต่พวกท่านก็จะให้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาทุกวัน ทุกมื้อ วันละสามมื้อ!!
เรื่องการไปเที่ยวในวันหยุด ไม่ว่าจะไปทะเล ภูเขา เข้าป่า ในทุกวันท่านจะโทรหรือไลน์ถามแฟนเราค่ะเรียกได้ว่ารับรู้ทุกกิจกรรม
ส่วนเรื่องงานบ้านแน่นอนค่ะ ตอนแรกนึกว่าอยู่แยกแล้วจะรับผิดชอบเพียงคู่ชีวิตเรา เราต้องรับผิดชอบทุกจานของทุกคนในบ้านค่ะ
ทั้งบรรดาญาติพี่น้อง พอรับประทานเสร็จเราก็ล้างค่ะ!!!
และเรื่องสุดท้ายพวกท่านชอบตัดสินใจให้เราสองคนค่ะ แน่นอนค่ะแฟนเราเป็นคนว่านอนสอนง่าย ทำตามได้ทุกอย่าง เพียงแต่
มันทำให้เราอึดอัดเพราะบางเรื่องเราควรตัดสินใจกันเองค่ะ
ไม่รู้จะอธิบายยังไงหมด มันเกือบทุกเรื่องในชีวิตที่รู้สึกว่า นี่เราจะไปมีครอบครัวของตัวเอง หรือเราต้องไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพวกท่าน
ตอนนี้มึน งง ท้อ เศร้า ไม่รู้จะไปต่อดีไหมคะ... เพื่อนวัยเดียวกันลูกสาม ลูกสองกันแล้วค่ะ กลัวจะไปจบลงที่คานทอง

เพื่อนๆคนไหนมีไอเดียให้เราอยู่รอด หรือแนะนำให้เรามีทางออกบอกเราได้เลยนะคะ _/\_
ปล.เราโตมากับคุณพ่อค่ะ คุณพ่อเราค่อนข้างสมัยใหม่ และให้เราได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่กดดัน ไม่บังคับ
การสอนของคุณพ่อเราส่วนใหญ่ จะสอนจากประสบการณ์ที่เกิดจากการตัดสินใจของตัวเราค่ะ
ควรไปต่อหรือพอแค่นี้ กับครอบครัวใหม่?
ขอแนะนำตัวคร่าวๆ ว่าตอนนี้อายุสามสิบต้นค่ะ มีแฟนที่คบกันมาร่วมสิบปี
ตอนนี้ทางบ้านทั้งสองเห็นตรงกันว่าควรแต่งงานออกเรือนได้แล้วค่ะ
แต่ปัญหาอยู่ที่ ตัวดิฉันเองค่ะ ใช่ค่ะดิฉันไม่กล้าตอบตกลง เพราะปัญหาเหล่านี้ค่ะ
เราได้ตกลงกันว่าลองมาอยู่ มาใช้ชีวิตที่บ้านแฟนก่อนแพลนแต่งงาน 1ปีค่ะ(กทม.)
เพื่อเราจะได้รู้ว่าควรดำเนินชีวิตไปในทิศทางใด
ปัญหาของดิฉันคือ
ไม่รู้สึกว่าเหมือนมีครอบครัวเป็นของตนเองค่ะ
เพราะต้องไปไหนมาไหนกับพ่อแม่แฟนตลอด ไปกินข้าว ไปทำงาน รวมทั้งไปเที่ยว ไปห้าง คุณพ่อคุณแม่ต้องไปด้วยเกือบทุกครั้ง
(ยิ่งเวลาไปห้างต้องเดินไปไหนมาไหนด้วยกันบางทีดิฉันจะซื้อเครื่องสำอาง พวกท่านก็จะรอคะ ไม่ยอมไปเดินที่อื่น ทำให้เกิดความกดดัน
เวลาจะชอปปิ้งTT) เป็นแบบนี้มาตลอดหนึ่งปี
หรือแม้แต่บทสนทนาของเราคุณแม่คุณพ่อจะถามและมีส่วนในการตัดสินใจด้วยเกือบทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องซื้อผ้านวม!
และเวลาเรากับแฟนคุยกันเรื่องอื่นๆคุยตามประสาเม้ามอย คุณพ่อคุณแม่แฟนชอบถามค่ะ ว่าคุยอะไรกัน พร้อมฟังด้วย!
ซึ่งบางทีมันเป็นเรื่องจากบนเฟสบุ๊คขำๆ ก็ต้องบอกท่านให้รับรู้ค่ะ
เรื่องอาหารการกินค่ะ พวกท่านชอบร้าน ...ก.โภชนามากกกก คือก็จะไปกินข้าวที่นี่คะและพวกท่านไปกินเราต้องไปด้วยค่ะ
ในบางครั้งดิฉันจะลดน้ำหนัก อยากกินก๋วยเตี๋ยวสักชาม แต่พวกท่านก็จะให้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาทุกวัน ทุกมื้อ วันละสามมื้อ!!
เรื่องการไปเที่ยวในวันหยุด ไม่ว่าจะไปทะเล ภูเขา เข้าป่า ในทุกวันท่านจะโทรหรือไลน์ถามแฟนเราค่ะเรียกได้ว่ารับรู้ทุกกิจกรรม
ส่วนเรื่องงานบ้านแน่นอนค่ะ ตอนแรกนึกว่าอยู่แยกแล้วจะรับผิดชอบเพียงคู่ชีวิตเรา เราต้องรับผิดชอบทุกจานของทุกคนในบ้านค่ะ
ทั้งบรรดาญาติพี่น้อง พอรับประทานเสร็จเราก็ล้างค่ะ!!!
และเรื่องสุดท้ายพวกท่านชอบตัดสินใจให้เราสองคนค่ะ แน่นอนค่ะแฟนเราเป็นคนว่านอนสอนง่าย ทำตามได้ทุกอย่าง เพียงแต่
มันทำให้เราอึดอัดเพราะบางเรื่องเราควรตัดสินใจกันเองค่ะ
ไม่รู้จะอธิบายยังไงหมด มันเกือบทุกเรื่องในชีวิตที่รู้สึกว่า นี่เราจะไปมีครอบครัวของตัวเอง หรือเราต้องไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพวกท่าน
ตอนนี้มึน งง ท้อ เศร้า ไม่รู้จะไปต่อดีไหมคะ... เพื่อนวัยเดียวกันลูกสาม ลูกสองกันแล้วค่ะ กลัวจะไปจบลงที่คานทอง
เพื่อนๆคนไหนมีไอเดียให้เราอยู่รอด หรือแนะนำให้เรามีทางออกบอกเราได้เลยนะคะ _/\_
ปล.เราโตมากับคุณพ่อค่ะ คุณพ่อเราค่อนข้างสมัยใหม่ และให้เราได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่กดดัน ไม่บังคับ
การสอนของคุณพ่อเราส่วนใหญ่ จะสอนจากประสบการณ์ที่เกิดจากการตัดสินใจของตัวเราค่ะ