https://www.share2trade.com/index.php?mod=talk&file=view&id=4345
พลังงานทดแทนได้ก้าวเข้ามามีบทบาทกับโลกมากขึ้นเรื่อยๆ เฉกเช่นเดียวกับธุรกิจด้านพลังงานทดแทนที่สามารถสร้างกำไรมหาศาลให้ทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุน บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เพิ่งประกาศตัวเลขกำไรไตรมาส 3/2562 เพียงไตรมาสเดียวกว่า 1,678 ล้านบาท ส่งผลให้มีโอกาสสูงมากที่ทั้งปีนี้สถิติกำไรสูงสุดครั้งใหม่จะถูกบันทึกอีกครั้ง
ถึงใครจะบ่นเศรษฐกิจไม่ดี หรือโรงงานผลิต-ประกอบจะปิดตัวลงไปเท่าไหร่ก็ตาม แต่กับ EA ซึ่งวางแผนด้านการบริหารจัดการต้นทุนมาอย่างดีตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ทำให้เกือบทศวรรษมานี้ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดบริหารงาน ผลประกอบการก็มีแต่โตขึ้นๆ
ตัวเลขกำไรสุทธิย้อนหลังนับแต่ปี 2554 จนถึงปี 2561 เป็นดังนี้
63 ล้านบาท, 107 ล้านบาท, 268 ล้านบาท, 1,608 ล้านบาท, 2,687 ล้านบาท, 3,252 ล้านบาท, 3,817 ล้านบาท และ 4,975 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนปี 2562 แม้จะยังไม่ครบปีเต็มๆ ทว่ารวม 9 เดือนก็ทำไปแล้วถึง 4,331 ล้านบาท เรียกได้ว่าอีกหนึ่งไตรมาสสุดท้าย เพียงแค่ดีดนิ้วเบาๆ กำไรก็สามารถสร้างสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกครั้งแล้ว
อีกประการที่น่าสนใจคือ ฐานกำไรปกติในแต่ละไตรมาสมีทิศทางขยับขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของธุรกิจนี้ที่รายได้จะมั่นคงหลังไฟฟ้าเข้าระบบไปแล้ว โดยการที่ EA มีรายได้จากทั้งพลังงานลมและแดดจะยิ่งเพิ่มสมดุลให้รายได้เสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ส่วนธุรกิจไบโอดีเซลก็ยังไปได้สวย
มองข้ามไปเป็นปีหน้าของ EA ก็นับว่าน่าสนใจจากธุรกิจยานพาหนะระบบไฟฟ้า และความคืบหน้าของธุรกิจแบตเตอรี่ ทั้งสองธุรกิจนี้ล้วนต่อยอดกันและกันได้ กลายเป็นฐานรายได้เพิ่มเติม
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่นิยม EA ชี้กำไรปีนี้น่าจะเติบโตกว่า 20% และเชื่อว่าการดำเนินงานโรงไฟฟ้าปีหน้ายังดีต่อเนื่องเพราะพลังงานลมผลิตได้เต็มที่เต็มปี พร้อมกับการเริ่มผลิตแบตฯ เฟส 1 แล้ว
บล.ฟิลลิป แนะนำซื้อ มูลค่าพื้นฐานตามส่วนธุรกิจที่ 56 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 60 บาท
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) แนะนำซื้อ ราคาเหมาะสมปี 63 ที่ 60.25 บาท
รายงานพิเศษ : EA หุ้นที่กำไรไม่เคยหยุดโต
พลังงานทดแทนได้ก้าวเข้ามามีบทบาทกับโลกมากขึ้นเรื่อยๆ เฉกเช่นเดียวกับธุรกิจด้านพลังงานทดแทนที่สามารถสร้างกำไรมหาศาลให้ทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุน บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เพิ่งประกาศตัวเลขกำไรไตรมาส 3/2562 เพียงไตรมาสเดียวกว่า 1,678 ล้านบาท ส่งผลให้มีโอกาสสูงมากที่ทั้งปีนี้สถิติกำไรสูงสุดครั้งใหม่จะถูกบันทึกอีกครั้ง
ถึงใครจะบ่นเศรษฐกิจไม่ดี หรือโรงงานผลิต-ประกอบจะปิดตัวลงไปเท่าไหร่ก็ตาม แต่กับ EA ซึ่งวางแผนด้านการบริหารจัดการต้นทุนมาอย่างดีตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ทำให้เกือบทศวรรษมานี้ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดบริหารงาน ผลประกอบการก็มีแต่โตขึ้นๆ
ตัวเลขกำไรสุทธิย้อนหลังนับแต่ปี 2554 จนถึงปี 2561 เป็นดังนี้
63 ล้านบาท, 107 ล้านบาท, 268 ล้านบาท, 1,608 ล้านบาท, 2,687 ล้านบาท, 3,252 ล้านบาท, 3,817 ล้านบาท และ 4,975 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนปี 2562 แม้จะยังไม่ครบปีเต็มๆ ทว่ารวม 9 เดือนก็ทำไปแล้วถึง 4,331 ล้านบาท เรียกได้ว่าอีกหนึ่งไตรมาสสุดท้าย เพียงแค่ดีดนิ้วเบาๆ กำไรก็สามารถสร้างสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกครั้งแล้ว
อีกประการที่น่าสนใจคือ ฐานกำไรปกติในแต่ละไตรมาสมีทิศทางขยับขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของธุรกิจนี้ที่รายได้จะมั่นคงหลังไฟฟ้าเข้าระบบไปแล้ว โดยการที่ EA มีรายได้จากทั้งพลังงานลมและแดดจะยิ่งเพิ่มสมดุลให้รายได้เสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ส่วนธุรกิจไบโอดีเซลก็ยังไปได้สวย
มองข้ามไปเป็นปีหน้าของ EA ก็นับว่าน่าสนใจจากธุรกิจยานพาหนะระบบไฟฟ้า และความคืบหน้าของธุรกิจแบตเตอรี่ ทั้งสองธุรกิจนี้ล้วนต่อยอดกันและกันได้ กลายเป็นฐานรายได้เพิ่มเติม
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่นิยม EA ชี้กำไรปีนี้น่าจะเติบโตกว่า 20% และเชื่อว่าการดำเนินงานโรงไฟฟ้าปีหน้ายังดีต่อเนื่องเพราะพลังงานลมผลิตได้เต็มที่เต็มปี พร้อมกับการเริ่มผลิตแบตฯ เฟส 1 แล้ว
บล.ฟิลลิป แนะนำซื้อ มูลค่าพื้นฐานตามส่วนธุรกิจที่ 56 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 60 บาท
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) แนะนำซื้อ ราคาเหมาะสมปี 63 ที่ 60.25 บาท