EAเทรดเกิน7บาท
การันตีพื้นฐานแกร่ง
:อนาคตจ่อขึ้นผู้นำโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
"พลังงานบริสุทธิ์" ประเดิมเทรดวันนี้เกิน 7 บาท วงการการันตีพื้นฐานธุรกิจแกร่ง มีโอกาสขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนของประเทศ พร้อมกำหนดราคาเป้าหมาย 10 บาท
แหล่งข่าวจากวงการเงิน ประเมินว่า หุ้นของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ที่จะเข้าซื้อขาย (เทรด) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นครั้งแรกในวันนี้ (30 ม.ค.) จะมีแนวโน้มทำราคาอยู่ในกรอบ 6-7 บาท สูงกว่าราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ที่ราคา 5.50 บาท และมองราคาพื้นฐานระยะยาวไว้ถึงระดับ 2 หลัก
สำหรับ EA นับเป็นหุ้นพื้นฐานที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต โดยเงินที่ได้จากการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะส่งผลให้บริษัทสามารถนำไปใช้รองรับในแผนการขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาด 270 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งถือเป็นธุรกิจในมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างอัตรากำไรตอบแทนให้กับบริษัทได้เป็นจำนวนมาก
“หุ้น EA เข้าเทรดวันแรกมองกรอบราคาไว้แถว 6-7 บาท แต่ราคาระยะยาวแล้วยังมองถึง 2 หลัก เพราะการระดมทุนของบริษัทจะสามารถนำเงินไปใช้ต่อยอดในธุรกิจพลังงานได้ ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตในอนาคตและให้อัตรากำไรตอบแทนบริษัทในระดับสูง” แหล่งข่าว กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 งวดปี 2555 ทาง EA ได้ประกาศกำไรสุทธิ 5.4 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ขาดทุน 18 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.002 บาท สูงกว่าเดิมที่ขาดทุน 0.006 บาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปี 2555 มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 69 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ได้ 52 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.022 บาท สูงกว่าเดิมที่ได้ 0.018 บาท
ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ได้กำหนดคำแนะนำ "ซื้อ" และให้ราคาเป้าหมายระดับ 10 บาทต่อหุ้น โดย EA จะก้าวมาเป็นผู้นำอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนของประเทศ มีอัตรากำไรเติบโตสูงต่อเนื่องจากการขยายกำลังการผลิตเชิงรุกรวม 379 MW ภายในปี 2559 และโอกาสการลงทุนอีก 200 MW ในปี 2559-2560
สำหรับอัตรากำไรของ EA จะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป เนื่องจากมีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน จากเดิมที่ดำเนินธุรกิจไบโอดีเซลที่ให้ผลตอบแทนต่ำ นอกจากนี้ EA จะก้าวมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนของประเทศ กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวม 278 MW
อีกทั้งบริษัทยังได้รับสัญญา PPA แล้ว รวมถึงได้รับการอนุมัติโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิตรวมสุทธิ 101 MW จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งจะลงนามในสัญญา PPA ในอนาคต ขณะที่กำลังการผลิตส่วนใหญ่จะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2557-2559 (มีเพียงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 8 MW เริ่มขายเชิงพาณิชย์ หรือ COD แล้วในไตรมาส 4 งวดปี 2555)
ส่วนการประเมินมูลค่าหุ้น EA 10 บาทต่อหุ้น (DCF, WACC 6.2%) จะอิงกำลังการผลิตรวม 404 MW และโอกาสในการลงทุนอีก 200 MW โดยราคาหุ้น EA อาจดูแพงที่ PE 138 เท่า ในปี 2556 และ 20 เท่า ในปี 2556-2557 แต่ฝ่ายวิเคราะห์เห็นว่าค่า PE ในระยะสั้นไม่ได้ให้ภาพที่เหมาะสมในการประเมินมูลค่า เนื่องจากกำไร 5 ปี CAGR เติบโต 196% ซึ่งจะทำให้ PEG ลดลงเป็น 0.7 เท่า จึงแนะนำ "ซื้อ"
ทั้งนี้ EA ได้เสนอขาย IPO จำนวน 560 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท และถือเป็นหุ้น IPO บริษัทแรกที่ทำการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในงวดปี 2556 โดยในช่วงที่ผ่านมาได้จัดจำหน่ายหุ้นผ่านบริษัทหลักทรัพย์ถึง 14 แห่ง มีบล.ฟินันเซีย ไซรัส, บล.โนมูระ พัฒนสิน และ บล.ไทยพาณิชย์ เป็นแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย
ขณะที่บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน EA ได้เปิดเผยถึง ผลการจัดสรรหุ้น IPO ของ EA ซึ่งได้เปิดจองซื้อหุ้นในช่วงระหว่างวันที่ 21-23 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่า สามารถจำหน่ายได้หมดทั้งจำนวน 560 ล้านหุ้น โดยมีนักลงทุนที่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด 10,754 ราย นักลงทุนรายย่อย 10,620 ราย และนักลงทุนสถาบัน (กองทุน) 134 ราย
ปล. ฟังหูไว้หูนะครับ 555 ราคาพุ่งตั้งแต่ยังไม่เทรด
EA เทรดเกิน 7 บาท
การันตีพื้นฐานแกร่ง
:อนาคตจ่อขึ้นผู้นำโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
"พลังงานบริสุทธิ์" ประเดิมเทรดวันนี้เกิน 7 บาท วงการการันตีพื้นฐานธุรกิจแกร่ง มีโอกาสขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนของประเทศ พร้อมกำหนดราคาเป้าหมาย 10 บาท
แหล่งข่าวจากวงการเงิน ประเมินว่า หุ้นของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ที่จะเข้าซื้อขาย (เทรด) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นครั้งแรกในวันนี้ (30 ม.ค.) จะมีแนวโน้มทำราคาอยู่ในกรอบ 6-7 บาท สูงกว่าราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ที่ราคา 5.50 บาท และมองราคาพื้นฐานระยะยาวไว้ถึงระดับ 2 หลัก
สำหรับ EA นับเป็นหุ้นพื้นฐานที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต โดยเงินที่ได้จากการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะส่งผลให้บริษัทสามารถนำไปใช้รองรับในแผนการขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาด 270 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งถือเป็นธุรกิจในมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างอัตรากำไรตอบแทนให้กับบริษัทได้เป็นจำนวนมาก
“หุ้น EA เข้าเทรดวันแรกมองกรอบราคาไว้แถว 6-7 บาท แต่ราคาระยะยาวแล้วยังมองถึง 2 หลัก เพราะการระดมทุนของบริษัทจะสามารถนำเงินไปใช้ต่อยอดในธุรกิจพลังงานได้ ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตในอนาคตและให้อัตรากำไรตอบแทนบริษัทในระดับสูง” แหล่งข่าว กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 งวดปี 2555 ทาง EA ได้ประกาศกำไรสุทธิ 5.4 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ขาดทุน 18 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.002 บาท สูงกว่าเดิมที่ขาดทุน 0.006 บาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปี 2555 มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 69 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ได้ 52 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.022 บาท สูงกว่าเดิมที่ได้ 0.018 บาท
ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ได้กำหนดคำแนะนำ "ซื้อ" และให้ราคาเป้าหมายระดับ 10 บาทต่อหุ้น โดย EA จะก้าวมาเป็นผู้นำอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนของประเทศ มีอัตรากำไรเติบโตสูงต่อเนื่องจากการขยายกำลังการผลิตเชิงรุกรวม 379 MW ภายในปี 2559 และโอกาสการลงทุนอีก 200 MW ในปี 2559-2560
สำหรับอัตรากำไรของ EA จะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป เนื่องจากมีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน จากเดิมที่ดำเนินธุรกิจไบโอดีเซลที่ให้ผลตอบแทนต่ำ นอกจากนี้ EA จะก้าวมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนของประเทศ กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวม 278 MW
อีกทั้งบริษัทยังได้รับสัญญา PPA แล้ว รวมถึงได้รับการอนุมัติโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิตรวมสุทธิ 101 MW จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งจะลงนามในสัญญา PPA ในอนาคต ขณะที่กำลังการผลิตส่วนใหญ่จะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2557-2559 (มีเพียงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 8 MW เริ่มขายเชิงพาณิชย์ หรือ COD แล้วในไตรมาส 4 งวดปี 2555)
ส่วนการประเมินมูลค่าหุ้น EA 10 บาทต่อหุ้น (DCF, WACC 6.2%) จะอิงกำลังการผลิตรวม 404 MW และโอกาสในการลงทุนอีก 200 MW โดยราคาหุ้น EA อาจดูแพงที่ PE 138 เท่า ในปี 2556 และ 20 เท่า ในปี 2556-2557 แต่ฝ่ายวิเคราะห์เห็นว่าค่า PE ในระยะสั้นไม่ได้ให้ภาพที่เหมาะสมในการประเมินมูลค่า เนื่องจากกำไร 5 ปี CAGR เติบโต 196% ซึ่งจะทำให้ PEG ลดลงเป็น 0.7 เท่า จึงแนะนำ "ซื้อ"
ทั้งนี้ EA ได้เสนอขาย IPO จำนวน 560 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท และถือเป็นหุ้น IPO บริษัทแรกที่ทำการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในงวดปี 2556 โดยในช่วงที่ผ่านมาได้จัดจำหน่ายหุ้นผ่านบริษัทหลักทรัพย์ถึง 14 แห่ง มีบล.ฟินันเซีย ไซรัส, บล.โนมูระ พัฒนสิน และ บล.ไทยพาณิชย์ เป็นแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย
ขณะที่บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน EA ได้เปิดเผยถึง ผลการจัดสรรหุ้น IPO ของ EA ซึ่งได้เปิดจองซื้อหุ้นในช่วงระหว่างวันที่ 21-23 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่า สามารถจำหน่ายได้หมดทั้งจำนวน 560 ล้านหุ้น โดยมีนักลงทุนที่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด 10,754 ราย นักลงทุนรายย่อย 10,620 ราย และนักลงทุนสถาบัน (กองทุน) 134 ราย
ปล. ฟังหูไว้หูนะครับ 555 ราคาพุ่งตั้งแต่ยังไม่เทรด