สวัสดีครับ วันนี้อยากสอบถามเพื่อนๆ ในพันทิป หน่อยว่า เคยเจอเพื่อนร่วมงานในออฟฟิต เป็นผีปอป แบบเราบ้างไหม?
จุดเริ่มต้นคือเราทำงานอยู่ที่ออฟฟิต ใจกลางเมือง ออฟฟิตอยู่แถว Bts อารีย์ ชีวิตพนักงานออฟฟิต ก็ไม่มีไรมาก ทำงานหน้าโต๊ะคอม แล้วก็จะมีเพื่อนๆ นั่งโต๊ะใกล้ๆกัน เราเพิ่งมาทำงานใหม่ที่บริษัทนี้ เวลาเราซื้อของกินมา เพื่อนคนนี้ก็จะ พูดประมาณว่า วันนี้ซื้ออะไรมากินอ่ะ ขอกินด้วยได้ไหม เราก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเศธอย่างไร ก็ต้องตอบกลับไปว่า ได้ครับ ( เราขอเรียกชื่อเพื่อนคนนี้ว่า เอ ) แรกๆ ก็ไม่คิดอะไร มาพักหลังๆ อาการเริ่มหนักขึ้น พอพักกลางวัน เอก็จะมานั่งโต๊ะกินข้าวกับเรา เราซื้อกับข้าวมา 2 อย่างพร้อมกับข้าวเปล่าเป็นผัดกระเพราหมูสับ กับแพนงหมู เอก็มากินด้วยโดยที่เค้ามีข้าวเปล่ากับไข่ต้ม แล้วมากินกับข้าวของเราโดยที่กินจริงจังมากตักหมูกินแบบช้อนนึง 2 ชิ้น หลายๆรอบ แต่คราวนี้สเต็ปคำพูดเปลี่ยนไปจากขอกินด้วยได้ไหม กลายเป็น พี่อยากกินแพนงหมูอ่ะ เอขอกินด้วยได้ไหม!!! อั๊ยย่ะ นึกในใจ อยากกินทำไม ไม่ซื้อมากินฟะ แล้วตัวเองเอาไข่ต้มมาอย่างเดียว มาขอกินกับข้าวกับเพื่อนร่วมงานเนี่ยนะ ก็ตอบกลับไปว่าได้ครับ....
ถัดจากนั้นมาพฤติกรรมนี้ก็ยังคงเป็นอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ เราซื้ออะไรมากิน จะต้องโดนขอกินด้วยทุกครั้ง แม้กระทั่ง สั่งขนม จากเพื่อนในออฟฟิต เพื่อจะเอาไปฝากแฟนตอนเย็น เอก็จะถามว่าขนมอันนี้ของแฟนหรอ ขอชิมได้ไหม...!!!@@@ ก็ต้องยอมจำใจแกะแล้วแบ่งให้เค้าชิม อีกตามเคย
แม้กระทั่งเราซื้อกาแฟ ออล คอฟฟี่ มาแก้วใหญ่ ก็จะต้องโดนขอแบ่งกาแฟกินด้วย ครึ่งแก้ว!!!
วันรุ่งขึ้นมีพนักงานแครี่ มาส่งของให้เอ ปรากฏว่าเป็น รองเท้าไนกี้ แอร์ ซูม (คู่ละไม่ต่ำกว่า 2 พันแน่นอน) ผมจึงแกล้งถามเอไปว่า โห! ซื้อรองเท้าวิ่งใหม่หรอ แพงแน่เลยไนกี้ ด้วย... เอรีบตอบกลับมาว่า โอ้ยไม่ได้ซื้อหรอก เล่นเกมส์มาได้เอไม่ได้ซื้อ เราก็ถามต่อไปว่าเกมส์อะไรอ่ะ บอกมั่งได้ไหม เค้าก็ตอบกลับมาว่า แชร์เพจเฟสบุ๊คไลฟ์สดอะไรพวกนี้แหล่ะ เลยแกล้งถามราคาไปว่าคู่นี้เท่าไหร่อ่ะพรี้ เค้าก็ตอบกลับมาว่ามันแพงมาก คู่นี้ประมาณ 2 พันกว่า เราก็ร้องโห ผมนี่รองเท้าวิ่งหาซื้อมือสองคู่ไม่เกิน 500 อย่างเดียวเลย ในใจก็แอบคิดมรุงนี่นะเรื่องกินนี่ผีปอปสิงอย่างเดียวเลยมาขอกิน ของกิน คนโน้น คนนี้ ตัวเองเก็บเงินไว้ซื้อของดีๆ ให้ตัวเองอย่างเดียวเลย
พฤติกรรมผีปอปเค้าสิงเอ ยังคงเป็นอยู่เหมือนเดิม จนเริ่มลุกลามไปขอกินของพี่หัวหน้าแล้ว เรารู้ได้จาก วันนั้เอมาสาย พี่หัวหน้าคนนี้จะมาเข้าออฟฟิตทุกวันศุกร์ เพื่อมาสรุปงานให้เจ้านายฟัง พี่หัวหน้าก็ถามผมว่า เห็นเอไหม มันยังไม่มาอีกหรอ เนี่ยพี่ซื้อหมูปิ้งมาฝากมัน 2 ไม้อ่ะ เพราะพี่มาทีไร พี่จะต้องโดนมันขอกินหมูปิ้งพี่ทุกรอบเลย พี่กินไม่อิ่ม วันนี้เลยซื้อมาให้เลย ตึ่กโป๊ะ!!!
อีกเหตุการณ์นึง เราซื้อน้ำแตงโม มาแช่ไว้ในตู้เย็นของออฟฟิต เราแช่ไว้ในช่องฟรีซ เพราะอยากกินแบบเย็นๆ ประมาณบ่ายสองอยากกินน้ำแตงโมละเลยเดินไปที่ตู้เย็น พบว่าน้ำแตงหายไปจากช่องฟรีซกลายเป็นแซลมอนซาซิมิ 3 ถาดวางอยู่แทน จังหวะนั้นมีแม่บ้านอยู่ใกล้ๆ เลยถามพี่แม่บ้านว่า พี่เห็นน้ำแตงโมผมไหม แม่บ้านตอบว่าไม่เห็นนะ แต่เมื่อกี้เห็นเอ เดินเอาของมาแช่ในช่องฟรีซ เลยตึ่กโป๊ะ อีกแล้ว เอ แอบซื้อแซลมอนซาซิมิ มากิน โดยไม่บอกใคร
ตอนนั้นอยากแกล้งเอาของมันไปแอบมากเลย แต่ก็รอดูสถานการณ์ก่อน ปรากฏว่า ออฟฟิตเราเลิกงาน 6 โมงเย็น ปกติ 5 โมงครึ่งเอจะเตรียมเก็บของ ปิดโปรแกรมงานแล้ว เพื่อเตรียมกลับบ้าน แต่วันนี้เอ ไม่มีท่าทีอยากรีบกลับบ้านเลย คาดว่าคงต้องรอให้เพื่อนร่วมงานกลับกันให้หมดก่อน ตัวเองถึงจะเอาแซลมอนซาซิมี ในช่องฟรีซ กลับบ้านได้ เราเลยแกล้งถามเอ ไปว่า อ้าวเอ วันนี้ไม่รีบกลับบ้านหรอ เอ ก็บอกไม่รีบวันนี้ เราจึงบอกไปว่างั้นเรากลับบ้านก่อนนะ 6 โมงแล้ว ด้วยความอยากรู้จริงๆ ว่าสิ่งที่เราคิดไว้มันใช่จริงหรือไม่ เราจึงแกล้งทำเป็นกลับบ้านแล้ว กลับขึ้นมาออฟฟิตอีกที ตอน 6 นิดๆ โป๊ะแตกเลย เจอเอถือถุงแซลมอนซาซิมิจริงๆด้วย เมื่อเอเห็นเรา เอหน้าถอดสีเลย เราเลยถามว่า ถุงอะไรอ่ะเอ เอรีบตอบกลับมาว่า อ๋อ เพื่อนฝากซื้อ ไม่ใช่ของเรา
ในใจคิด

นี่ร้อนตัวเลยนะ
นี่คือพฤติกรรมผีปอปเข้าสิงเอ เลยอยากถามเพื่อนๆ หน่อยครับว่า ที่ออฟฟิตเพื่อนๆ มีใครเคยเจอแบบผมบ้างไหมครับ.....
ปล.ยังมีพฤติกรรมอื่นๆอีก เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟัง ตอนนี้ใกล้เวลาเลิกงานแล้ว ขอไปสรุปงาน ประจำวันก่อน พรุ่งนี้จะมาเล่าวีรกรรรมเด็ดๆ ชวนน่าเวทนาของเอ ให้ฟังกันอีกครับ
ออฟฟิตใครมีเพื่อนเป็นผีปอป แบบนี้บ้าง
จุดเริ่มต้นคือเราทำงานอยู่ที่ออฟฟิต ใจกลางเมือง ออฟฟิตอยู่แถว Bts อารีย์ ชีวิตพนักงานออฟฟิต ก็ไม่มีไรมาก ทำงานหน้าโต๊ะคอม แล้วก็จะมีเพื่อนๆ นั่งโต๊ะใกล้ๆกัน เราเพิ่งมาทำงานใหม่ที่บริษัทนี้ เวลาเราซื้อของกินมา เพื่อนคนนี้ก็จะ พูดประมาณว่า วันนี้ซื้ออะไรมากินอ่ะ ขอกินด้วยได้ไหม เราก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเศธอย่างไร ก็ต้องตอบกลับไปว่า ได้ครับ ( เราขอเรียกชื่อเพื่อนคนนี้ว่า เอ ) แรกๆ ก็ไม่คิดอะไร มาพักหลังๆ อาการเริ่มหนักขึ้น พอพักกลางวัน เอก็จะมานั่งโต๊ะกินข้าวกับเรา เราซื้อกับข้าวมา 2 อย่างพร้อมกับข้าวเปล่าเป็นผัดกระเพราหมูสับ กับแพนงหมู เอก็มากินด้วยโดยที่เค้ามีข้าวเปล่ากับไข่ต้ม แล้วมากินกับข้าวของเราโดยที่กินจริงจังมากตักหมูกินแบบช้อนนึง 2 ชิ้น หลายๆรอบ แต่คราวนี้สเต็ปคำพูดเปลี่ยนไปจากขอกินด้วยได้ไหม กลายเป็น พี่อยากกินแพนงหมูอ่ะ เอขอกินด้วยได้ไหม!!! อั๊ยย่ะ นึกในใจ อยากกินทำไม ไม่ซื้อมากินฟะ แล้วตัวเองเอาไข่ต้มมาอย่างเดียว มาขอกินกับข้าวกับเพื่อนร่วมงานเนี่ยนะ ก็ตอบกลับไปว่าได้ครับ....
ถัดจากนั้นมาพฤติกรรมนี้ก็ยังคงเป็นอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ เราซื้ออะไรมากิน จะต้องโดนขอกินด้วยทุกครั้ง แม้กระทั่ง สั่งขนม จากเพื่อนในออฟฟิต เพื่อจะเอาไปฝากแฟนตอนเย็น เอก็จะถามว่าขนมอันนี้ของแฟนหรอ ขอชิมได้ไหม...!!!@@@ ก็ต้องยอมจำใจแกะแล้วแบ่งให้เค้าชิม อีกตามเคย
แม้กระทั่งเราซื้อกาแฟ ออล คอฟฟี่ มาแก้วใหญ่ ก็จะต้องโดนขอแบ่งกาแฟกินด้วย ครึ่งแก้ว!!!
วันรุ่งขึ้นมีพนักงานแครี่ มาส่งของให้เอ ปรากฏว่าเป็น รองเท้าไนกี้ แอร์ ซูม (คู่ละไม่ต่ำกว่า 2 พันแน่นอน) ผมจึงแกล้งถามเอไปว่า โห! ซื้อรองเท้าวิ่งใหม่หรอ แพงแน่เลยไนกี้ ด้วย... เอรีบตอบกลับมาว่า โอ้ยไม่ได้ซื้อหรอก เล่นเกมส์มาได้เอไม่ได้ซื้อ เราก็ถามต่อไปว่าเกมส์อะไรอ่ะ บอกมั่งได้ไหม เค้าก็ตอบกลับมาว่า แชร์เพจเฟสบุ๊คไลฟ์สดอะไรพวกนี้แหล่ะ เลยแกล้งถามราคาไปว่าคู่นี้เท่าไหร่อ่ะพรี้ เค้าก็ตอบกลับมาว่ามันแพงมาก คู่นี้ประมาณ 2 พันกว่า เราก็ร้องโห ผมนี่รองเท้าวิ่งหาซื้อมือสองคู่ไม่เกิน 500 อย่างเดียวเลย ในใจก็แอบคิดมรุงนี่นะเรื่องกินนี่ผีปอปสิงอย่างเดียวเลยมาขอกิน ของกิน คนโน้น คนนี้ ตัวเองเก็บเงินไว้ซื้อของดีๆ ให้ตัวเองอย่างเดียวเลย
พฤติกรรมผีปอปเค้าสิงเอ ยังคงเป็นอยู่เหมือนเดิม จนเริ่มลุกลามไปขอกินของพี่หัวหน้าแล้ว เรารู้ได้จาก วันนั้เอมาสาย พี่หัวหน้าคนนี้จะมาเข้าออฟฟิตทุกวันศุกร์ เพื่อมาสรุปงานให้เจ้านายฟัง พี่หัวหน้าก็ถามผมว่า เห็นเอไหม มันยังไม่มาอีกหรอ เนี่ยพี่ซื้อหมูปิ้งมาฝากมัน 2 ไม้อ่ะ เพราะพี่มาทีไร พี่จะต้องโดนมันขอกินหมูปิ้งพี่ทุกรอบเลย พี่กินไม่อิ่ม วันนี้เลยซื้อมาให้เลย ตึ่กโป๊ะ!!!
อีกเหตุการณ์นึง เราซื้อน้ำแตงโม มาแช่ไว้ในตู้เย็นของออฟฟิต เราแช่ไว้ในช่องฟรีซ เพราะอยากกินแบบเย็นๆ ประมาณบ่ายสองอยากกินน้ำแตงโมละเลยเดินไปที่ตู้เย็น พบว่าน้ำแตงหายไปจากช่องฟรีซกลายเป็นแซลมอนซาซิมิ 3 ถาดวางอยู่แทน จังหวะนั้นมีแม่บ้านอยู่ใกล้ๆ เลยถามพี่แม่บ้านว่า พี่เห็นน้ำแตงโมผมไหม แม่บ้านตอบว่าไม่เห็นนะ แต่เมื่อกี้เห็นเอ เดินเอาของมาแช่ในช่องฟรีซ เลยตึ่กโป๊ะ อีกแล้ว เอ แอบซื้อแซลมอนซาซิมิ มากิน โดยไม่บอกใคร
ตอนนั้นอยากแกล้งเอาของมันไปแอบมากเลย แต่ก็รอดูสถานการณ์ก่อน ปรากฏว่า ออฟฟิตเราเลิกงาน 6 โมงเย็น ปกติ 5 โมงครึ่งเอจะเตรียมเก็บของ ปิดโปรแกรมงานแล้ว เพื่อเตรียมกลับบ้าน แต่วันนี้เอ ไม่มีท่าทีอยากรีบกลับบ้านเลย คาดว่าคงต้องรอให้เพื่อนร่วมงานกลับกันให้หมดก่อน ตัวเองถึงจะเอาแซลมอนซาซิมี ในช่องฟรีซ กลับบ้านได้ เราเลยแกล้งถามเอ ไปว่า อ้าวเอ วันนี้ไม่รีบกลับบ้านหรอ เอ ก็บอกไม่รีบวันนี้ เราจึงบอกไปว่างั้นเรากลับบ้านก่อนนะ 6 โมงแล้ว ด้วยความอยากรู้จริงๆ ว่าสิ่งที่เราคิดไว้มันใช่จริงหรือไม่ เราจึงแกล้งทำเป็นกลับบ้านแล้ว กลับขึ้นมาออฟฟิตอีกที ตอน 6 นิดๆ โป๊ะแตกเลย เจอเอถือถุงแซลมอนซาซิมิจริงๆด้วย เมื่อเอเห็นเรา เอหน้าถอดสีเลย เราเลยถามว่า ถุงอะไรอ่ะเอ เอรีบตอบกลับมาว่า อ๋อ เพื่อนฝากซื้อ ไม่ใช่ของเรา
ในใจคิด
นี่คือพฤติกรรมผีปอปเข้าสิงเอ เลยอยากถามเพื่อนๆ หน่อยครับว่า ที่ออฟฟิตเพื่อนๆ มีใครเคยเจอแบบผมบ้างไหมครับ.....
ปล.ยังมีพฤติกรรมอื่นๆอีก เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟัง ตอนนี้ใกล้เวลาเลิกงานแล้ว ขอไปสรุปงาน ประจำวันก่อน พรุ่งนี้จะมาเล่าวีรกรรรมเด็ดๆ ชวนน่าเวทนาของเอ ให้ฟังกันอีกครับ