- - - Singapore Backpack trips 5 วัน 4 คืน - - -
- - - - - - - - - - - - - - -การเดินทางของพวกวเรารับชมได้ทางนี้เลยครับ- - - - - - - - - - - - - - -
Chapter 1 : The initial of journey
" ใครจะไปรู้ว่าวันไหนที่เรานั้นได้จะได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ ในเมื่อสิ่งเหล่านั้นไม่มีทางเกิดขึ้นได้ถ้าไม่เริ่มจากการออกเดินทางในรูปแบบของตัวเอง "
การเดินทางของแต่ละคนนั้นอาจจะเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวจากชีวิตประจำวัน แต่ถ้าหากการเดินทางนี้ไม่เหมือนในชีวิตประจำวันหล่ะ ลองหาเส้นทาง ใหม่ๆ เดินทางไปในที่ที่อยากไปในวันที่ยังมีโอกาส กับใครสักคน จะมีอีกไหมช่วงเวลาที่เรานั้นจจะได้ไปเที่ยวกันพร้อมหน้าพร้อมตา ในเมื่อทุกคนต่างก็ รู้ว่าเวลานั้นก็ผ่านไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ต้องแยกไปเดินทางในเส้นทางของใครของมัน แต่ถ้าหากอย่างน้อยพวกเราได้สร้างความทรงจำร่วมกันไว้ก่อนหล่ะ
เมื่อเราโตขึ้นทุกคนย่อมมีชีวิตเป็นของตัวเอง ทำงานทำทุกอย่างเป็นวงจรชีวิต ยอมแลกเวลาส่วนนั้นเพื่อเงิน ลองสักครั้งไหม ลองใช้เงินส่วนนั้น เติมเต็มชีวิต ฟื้นฟูสภาพจิตใจ แน่นอนว่าคนส่วนมากจะคิดว่า การท่องเที่ยวเป็นอะไรที่เปลืองเสียเวลาชีวิต แน่นอนว่าคนเหล่านั้นอาจจะไม่เคยได้สัมผัส การเดินทางที่เต็มไปด้วยความทรงจำ เมื่อคุณกลับบ้านไปนอนแล้วนึกถึงมัน จะยอมเชื่อในสิ่งที่คนเล่าขาน หรือ อยากจะเดินไปพบกับสิ่งเหล่านั้นด้วยตนเอง
" No one realizes how beautiful it is to travel until he comes home
and rests his head on his old familiar pillow." - Lin Yutang
จุดเริ่มต้นของการเดินของพวกเราเกิดจาก การได้เรียนในวิชา Gen 441 ได้ให้พวกเราท่องเที่ยวตามแบบของตัวเอง ซึ่งพวกเราได้เลือกเป้าหมายของการท่องเที่ยวครั้งนี้คือ ประเทศสิงคโปร์ ถ้าถามว่าทำไมคงเป็นเพราะ ด้วยงบทางเงินที่เรามีจำกัด วันเวลาที่เราสามารถเดินทาง และ เสนห์ของประเทศนี้ที่ดึงดูดหลายต่อหลายนักท่องเที่ยวให้เดินทางไป แน่นอนว่าการเดินทางครั้งนี้ อาจจะเป็นครั้งแรกของพวกผมทีไ่ด้เดินทางไกลไปต่างประเทศด้วย
สำหรับการเดินทางไปสิงคโปร์พวกเราได้ทำการจองตั๋วผ่าน Trip.com ในส่วนของราคา ไป-กลับ ตกคนละ 3200 บาท สายการบิน Nokscoot โดยเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินชางงี ในวันที่ 11 ต.ค - 15 ต.ค 2562 ใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด 2 ชั่วโมง
ในส่วนของที่พักพวกเราจองผ่าน Traveloka โดยพักที่ D Resort & Downtown East จำนวน 1 ห้อง 2 เตียงใหญ่ โดยเดินทางมาไม่ถึง 10 นาที จากสนามบิน ด้านหลังโรงแรม ติดสวนสารธารณะริมทะเล ข้างๆติดสวนนำ้ มีสิ่งอวยความสะดวกครบ ราคาคืน/2500 บาท
Chapter 2 : First impression in Singapore
"If somebody asked me about my inspiration
I would say that it's not the people and it's not the things,
it's travel and experiencing different environments." – Marc Newson
หลังจากการเดินทาง 2 ชั่วโมง พวกเราก็ได้มาถึงสนามบินชางงี ประมาณเวลา 1 ทุ่ม ความรู้สึกที่ได้เดินลงจากเครื่อง เหมือนกับเริ่มรู้สึกได้ถึงการผจญภัยครั้งใหม่ในต่างแดน พวกเรานั้นเดินวนอยู่สักพักเพื่อที่จะหารถเมล์เพื่อที่จะเดินทางไปยังที่พัก จนกระทั่งเจอเส้นทางที่จะไปโดยรถเมล์
พวกเราเดินหาสถานีที่จะขึ้นประมาณ 30 นาที เนื่องจากหลงจนหาเจอ รู้ไหมว่าภาพแรกที่ผมเห็นคือ แต่ละป้ายจะมีที่กั้นและบอกสายชัดเจน แต่แน่นอนว่าถึงจะมีที่กั้นก็สามารถแซงหรือลัดคิวได้ ถ้าหากเป็นที่ไทยก็อาจจะเห็นได้ แต่ที่นั่นตอนนั้นไม่มีแม้แต้สักคนที่จะแซงคิวกัน รถเมล์ที่นั่นใหม่และสะอาดมาก ประตูหน้าใช้สำหรับขาขึ้น ประตูหลังสำหรับขาลง และในรถเมล์นั้นไม่มีกระเป่ารถเมล์แบบในประเทศไทย
การชำระเงินนั้นมี 2 แบบ คือ 1. เงินสดจ่ายลงตู้ทางขาชึ้น 2. ใช้บัตรติ๊ดเอา คล้ายๆกับบัตร7-11 ที่ใช้ซื้อของ บัตรที่นั่นจะใช้ทั้งซื้อของ และชำระเงินทั้งรถไฟ รถเมล์ คนส่วนมากที่นั่นจะนิยมใช้แบบบัตรมากกว่า แต่สำหรับพวกเราที่พึ่งไปถึงแน่นอนว่าต้องใช้เงินสด พวกเราก้าวขึ้นไปพร้อมกันทั้ง 4 คน ปัญหาแรกคือเราไม่รู้ว่าค่าโดยสารเท่าไหร่ จึงได้ถามพนักงานขับรถ หลังจากถามเสร็จปัญหาสองตามมาเนื่องจากเราไม่ได้แลกเหรียญมาเลย เพื่อนคนนึงมีอีก 3 ตนไม่มี จึงได้คุยกับพนักงานขับรถอีกครั้ง นั้นแหละที่มาของความประทับใจแรก พนักงานตอบกลับมาว่า " ไม่มีไม่เป็นไร " พวกเราก็คิดในใจว่าได้จริงหรอ จนคนเริ่มขึ้นจากสถาณีต่อมาเยอะขึ้น พวกเราต้องขยับไปอยู่ตรงกลางรถเมล์ จึงได้เห็นที่ติ๊ดบัตรขาลง บางคนไม่ติ๊ดก็มี จึงเริ่มจะเข้าใจว่าที่นี่รถเมล์สาธารณะเขาอาจจะใช้แนวความคิด เน้นความเชื่อใจเป็นหลัก เราจะติ๊ดหรือไม่ติ๊ดบัตรก็ได้ใจเรารู้ แต่คนส่วนมากติ๊ดบัตรนะครับ

ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง นับจากเริ่มติ๊ดบัตรสถานีไหน พอขาลงติ๊ดบัตร มันจะนับตามสถานีที่ผ่าน ยิ่งไปไกลหลายสถานียิ่งถูกลง และแน่นอนว่าวันแรกนั้น พวกเรานั่งรถเมล์ฟรี จนถึงสถานีที่ใกล้กับที่พัก หลังจากลงไปพวกเราก็เดินกันประมาณ 15 นาที ระหว่างทางแวะ 7-11 ที่คล้ายในไทยแต่อาจจะเล็กกว่าหน่อย เพื่อหาของกินรองท้องเนื่องจากไม่ได้กินอะไรมาเลยตั้งแต่อยู่สนามบินสุวรรณภูมิ
จนพวกเราใกล้ถึงที่พักจึงแวะทานข้าว ซึ่งแถวนั้นเป็นโซนคล้ายๆกับศูนย์อาหารขนาดย่อม มีอาหารหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นหอยทอด ก๋วยเตี๋ยว แต่ส่วนมากจะคล้าย กับอาหารจีนเป็นหลัก พ่อค้าแม่ค้า นั้นมีการหยอกล้อกับพวกผม ไม่รู้ทำไมแต่พวกเขาเป็นกันเองและน่ารักมากๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งการประทับใจ หลังจากกินเสร็จพวกเราก็กลับที่พัก และพูดคุย ฟังเพลงดูบรรยากาศรอบๆ จนกระทั่งหลับ
[CR] BACKPACK TRIP 5 วัน 4 คืน ตะลุยเมืองสิงโตตต !!
เมื่อเราโตขึ้นทุกคนย่อมมีชีวิตเป็นของตัวเอง ทำงานทำทุกอย่างเป็นวงจรชีวิต ยอมแลกเวลาส่วนนั้นเพื่อเงิน ลองสักครั้งไหม ลองใช้เงินส่วนนั้น เติมเต็มชีวิต ฟื้นฟูสภาพจิตใจ แน่นอนว่าคนส่วนมากจะคิดว่า การท่องเที่ยวเป็นอะไรที่เปลืองเสียเวลาชีวิต แน่นอนว่าคนเหล่านั้นอาจจะไม่เคยได้สัมผัส การเดินทางที่เต็มไปด้วยความทรงจำ เมื่อคุณกลับบ้านไปนอนแล้วนึกถึงมัน จะยอมเชื่อในสิ่งที่คนเล่าขาน หรือ อยากจะเดินไปพบกับสิ่งเหล่านั้นด้วยตนเอง
สำหรับการเดินทางไปสิงคโปร์พวกเราได้ทำการจองตั๋วผ่าน Trip.com ในส่วนของราคา ไป-กลับ ตกคนละ 3200 บาท สายการบิน Nokscoot โดยเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินชางงี ในวันที่ 11 ต.ค - 15 ต.ค 2562 ใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด 2 ชั่วโมง
ในส่วนของที่พักพวกเราจองผ่าน Traveloka โดยพักที่ D Resort & Downtown East จำนวน 1 ห้อง 2 เตียงใหญ่ โดยเดินทางมาไม่ถึง 10 นาที จากสนามบิน ด้านหลังโรงแรม ติดสวนสารธารณะริมทะเล ข้างๆติดสวนนำ้ มีสิ่งอวยความสะดวกครบ ราคาคืน/2500 บาท
พวกเราเดินหาสถานีที่จะขึ้นประมาณ 30 นาที เนื่องจากหลงจนหาเจอ รู้ไหมว่าภาพแรกที่ผมเห็นคือ แต่ละป้ายจะมีที่กั้นและบอกสายชัดเจน แต่แน่นอนว่าถึงจะมีที่กั้นก็สามารถแซงหรือลัดคิวได้ ถ้าหากเป็นที่ไทยก็อาจจะเห็นได้ แต่ที่นั่นตอนนั้นไม่มีแม้แต้สักคนที่จะแซงคิวกัน รถเมล์ที่นั่นใหม่และสะอาดมาก ประตูหน้าใช้สำหรับขาขึ้น ประตูหลังสำหรับขาลง และในรถเมล์นั้นไม่มีกระเป่ารถเมล์แบบในประเทศไทย
การชำระเงินนั้นมี 2 แบบ คือ 1. เงินสดจ่ายลงตู้ทางขาชึ้น 2. ใช้บัตรติ๊ดเอา คล้ายๆกับบัตร7-11 ที่ใช้ซื้อของ บัตรที่นั่นจะใช้ทั้งซื้อของ และชำระเงินทั้งรถไฟ รถเมล์ คนส่วนมากที่นั่นจะนิยมใช้แบบบัตรมากกว่า แต่สำหรับพวกเราที่พึ่งไปถึงแน่นอนว่าต้องใช้เงินสด พวกเราก้าวขึ้นไปพร้อมกันทั้ง 4 คน ปัญหาแรกคือเราไม่รู้ว่าค่าโดยสารเท่าไหร่ จึงได้ถามพนักงานขับรถ หลังจากถามเสร็จปัญหาสองตามมาเนื่องจากเราไม่ได้แลกเหรียญมาเลย เพื่อนคนนึงมีอีก 3 ตนไม่มี จึงได้คุยกับพนักงานขับรถอีกครั้ง นั้นแหละที่มาของความประทับใจแรก พนักงานตอบกลับมาว่า " ไม่มีไม่เป็นไร " พวกเราก็คิดในใจว่าได้จริงหรอ จนคนเริ่มขึ้นจากสถาณีต่อมาเยอะขึ้น พวกเราต้องขยับไปอยู่ตรงกลางรถเมล์ จึงได้เห็นที่ติ๊ดบัตรขาลง บางคนไม่ติ๊ดก็มี จึงเริ่มจะเข้าใจว่าที่นี่รถเมล์สาธารณะเขาอาจจะใช้แนวความคิด เน้นความเชื่อใจเป็นหลัก เราจะติ๊ดหรือไม่ติ๊ดบัตรก็ได้ใจเรารู้ แต่คนส่วนมากติ๊ดบัตรนะครับ
จนพวกเราใกล้ถึงที่พักจึงแวะทานข้าว ซึ่งแถวนั้นเป็นโซนคล้ายๆกับศูนย์อาหารขนาดย่อม มีอาหารหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นหอยทอด ก๋วยเตี๋ยว แต่ส่วนมากจะคล้าย กับอาหารจีนเป็นหลัก พ่อค้าแม่ค้า นั้นมีการหยอกล้อกับพวกผม ไม่รู้ทำไมแต่พวกเขาเป็นกันเองและน่ารักมากๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งการประทับใจ หลังจากกินเสร็จพวกเราก็กลับที่พัก และพูดคุย ฟังเพลงดูบรรยากาศรอบๆ จนกระทั่งหลับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้