ผมเขียนนิยายจบแล้วครับ
เอาชีวิตตัวเองผสมใส่แล้วก็ ใช้ความสัมพันธ์ของแม่น้ำ พระจันทร์ และก็ดวงอาทิตย์ แทนตัวละคร
คล้ายบุคลาธิษฐานเชิงกลับ
อารมณ์เรื่อง แนว ๆ Norwegian wood ,ขอสวรรค์จงมาถึง ,ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต
เป็นเรื่องความรักที่ไม่สมหวัง
ตอนนี้ผมลงในเว็บ Read a write ในหมวด "นิยายรัก" /กำลังทยอยลงในเด็กดี
มีฟีดแบคที่น่าชื่นใจอยู่บ้าง แต่คิดว่ายังไม่ใช่กลุ่ม Target ที่ถูกต้อง
มีเพื่อนที่อ่านจบบางคนบอกว่า แนวนี้ "ไม่ใช่นิยายตามอินเทอร์เน็ต"
แล้วเขาก็ไม่รู้จะแนะนำให้ไปที่ไหนดี
ถ้าเป็นสำนักพิมพ์
ผมส่งไปแซลม่อน กับ อมรินทร์แล้วครับ
นิยายยังไม่เพอร์เฟ็คเท่าเรื่องที่อ้างอิงข้างตนหรอกครับ
แต่ในฐานะนักเขียน ก็อยากดันนิยายเรื่องนี้ให้สุดเท่าที่จะทำได้
ขอรบกวนพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในห้องที่มีประสบการณ์ ช่วยชี้แนะด้วยครับ
เดี๋ยวผมจะขอลงช่วงต้นของตอน 1 ไว้ในนี้เป็นตัวอย่างประกอบการพิจารณานะครับ
ขอบคุณครับ
************************************************
บทที่ 1
พฤษภาคม 2558
ฝนหลงฤดูเทลงมาอย่างไม่ขาดสายขณะเครื่องโบอิ้ง 777 ขนาดยักษ์จากกรุงเทพฯ กำลังลดระดับ แหวกกลุ่มเมฆ มุ่งลงสู่ท่าอากาศยานนานาชาติ ตรีภูวัน ประเทศเนปาล ผมรู้สึกหายใจติดขัด พะอืดพะอม จนต้องสูดอากาศเข้าปอดให้ลึกที่สุด เพื่อมิให้หมดสติไปกับความหวาดหวั่น
เปล่า ผมไม่ได้กลัวการตกหลุมอากาศที่เลวร้าย หรือ เสียงฟ้าร้องที่ดังสนั่นสั่นคลอนเครื่องโดยสาร แต่ผมกำลังกลัวการเผชิญหน้ากับอดีตที่บรรจุความเศร้า ความมืดสลัวเลือนลาง และเหนือสิ่งอื่นใดคือความทรงจำในช่วงเวลาสุดท้ายของหญิงอันเป็นที่รัก ผู้หลุดหายไปในห้วงหลุมของความตายอย่างไม่มีวันกลับมา
ความทรงจำฝังใจในอดีตอาจสร้างความหวาดกลัวให้กับจิตใจผู้คนอย่างยากแก้ไข ทว่าการเผชิญหน้ากับมันก็เกือบจะเป็นหนทางเดียวในการรักษา หลายคนปลูกสร้างความทรงจำอันงดงามครั้งใหม่ทับความทรงจำเดิม และหลายคนลืมเลือนสิ่งนั้นไปคล้ายไม่เคยเกิดขึ้น
ทว่าความทรงจำของผมนั้นต่างออกไป
นั่นคือนอกจากไม่สามารถปลูกสร้างซ้อนทับลงไปได้แล้ว ซ้ำยังไม่อาจถูกลืมเลือน เนื่องจากความเจ็บปวดที่ได้รับ บิดเบือนความจริงที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้ผมไม่เคยจดจำเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นได้อย่างชัดเจน ทว่ายังจำได้ดีถึงความรู้สึกที่เอ่อท้น
ความเจ็บปวด ความโศกเศร้า และหัวใจที่แตกสลาย
บัดนี้ความรู้สึกเหล่านั้นกำลังทวีความรุนแรงขึ้นอีกเมื่อผมตัดสินใจกลับมายังจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งสุดท้ายของผมและหญิงอันเป็นที่รัก ณ เทือกเขาหิมาลัย เพราะนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมอาจจะพบความจริงบางอย่างที่สมองซ่อนไว้ ณ ส่วนที่ลึกที่สุดของจิตใจ
สมองของผู้คน มีการทำงานที่ซับซ้อนและยอดเยี่ยม จนบางครั้ง มันทำการตัดสินใจโดยพลการที่จะบิดเบือนความทรงจำอันเจ็บปวดบางอย่าง...ให้ต่างออกไป ลบเลือนส่วนที่สำคัญที่สุดและต่อเติมสิ่งที่หัวใจโหยหา ทว่าความทรงจำเหล่านั้นย่อมเป็นรอยปรุรอยปะที่ไม่ลื่นไหลต่อเนื่อง และเมื่อเวลาผ่านไป หากคนผู้นั้นคิดทบทวนประสบการณ์และความทรงจำในเรื่องราวเหล่านั้นมากพอ คนผู้นั้นย่อมสังเกตได้ถึงความผิดปกติ เพราะสมองแม้สามารถจินตนาการสร้างภาพต่าง ๆ ขึ้นได้มากมายทว่าสิ่งที่สมองไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้คือความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง
เครื่องบินใกล้แตะผืนดิน เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม ตัวผมในวัยสี่สิบห้าปีบีบศีรษะไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ใบหน้าขมวดเกร็ง รู้สึกปวดร้าวคล้ายสมองกำลังแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ และในขณะที่ล้อหลังของเครื่องแตะรันเวย์ แรงกระแทกก็ถาโถมให้ภาพในอดีตที่สมองปิดกั้นไว้ ทะลักล้นออกมา ก่อเกิดความรู้สึกแปลกประหลาด ราวกับความทรงจำนั้นเป็นของใครอื่น ไม่มีอยู่จริงและเป็นเพียงสิ่งที่ถูกหยิบยัดใส่สมองโดยที่ผมไม่ได้ยินยอม
ภาพนั้นปรากฏขึ้นรวดเร็วทว่าพร่ามัว จากความว่างเปล่า ต่อเติมเม็ดสีทีละเม็ด จนกลายเป็นภาพหุบเขาสลับซับซ้อน ปูลาดไว้ด้วยหิมะสีขาวสลับกับโขดหินใหญ่สีน้ำตาล ท้องฟ้าสีเทาทึม ต้นไม้สีเขียวมีให้เห็นน้อยเต็มที คล้ายการซูมภาพจากกล้องกำลังขยายสูง ในรายละเอียดที่เล็กที่สุดนั้นมีชายหนุ่มและหญิงสาวคนหนึ่งเดินเคียงข้างกัน ภายใต้ดวงอาทิตย์เหนือหัวที่ส่องแสงมืดมัวขณะกลุ่มเมฆดำเคลื่อนคล้อยปกคลุมทั่วผืนฟ้า หิมะกำลังจะตกในหุบเขาที่ไหนสักแห่งบนเทือกเขาหิมาลัยอันสูงตระหง่าน ตัดกับผืนฟ้าของฤดูฝนที่มัวซัวดูคล้ายเขตแดนบางอย่างที่กีดกันความรู้สึกวุ่นวายของโลกภายนอกมิให้ย่างกรายเข้ามายังเขตผืนเขาอันบริสุทธิ์
........
นิยายแนวนี้ผมควรเอาเผยแพร่ หรือส่งไปที่ไหนดีครับ
เอาชีวิตตัวเองผสมใส่แล้วก็ ใช้ความสัมพันธ์ของแม่น้ำ พระจันทร์ และก็ดวงอาทิตย์ แทนตัวละคร
คล้ายบุคลาธิษฐานเชิงกลับ
อารมณ์เรื่อง แนว ๆ Norwegian wood ,ขอสวรรค์จงมาถึง ,ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต
เป็นเรื่องความรักที่ไม่สมหวัง
ตอนนี้ผมลงในเว็บ Read a write ในหมวด "นิยายรัก" /กำลังทยอยลงในเด็กดี
มีฟีดแบคที่น่าชื่นใจอยู่บ้าง แต่คิดว่ายังไม่ใช่กลุ่ม Target ที่ถูกต้อง
มีเพื่อนที่อ่านจบบางคนบอกว่า แนวนี้ "ไม่ใช่นิยายตามอินเทอร์เน็ต"
แล้วเขาก็ไม่รู้จะแนะนำให้ไปที่ไหนดี
ถ้าเป็นสำนักพิมพ์
ผมส่งไปแซลม่อน กับ อมรินทร์แล้วครับ
นิยายยังไม่เพอร์เฟ็คเท่าเรื่องที่อ้างอิงข้างตนหรอกครับ
แต่ในฐานะนักเขียน ก็อยากดันนิยายเรื่องนี้ให้สุดเท่าที่จะทำได้
ขอรบกวนพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในห้องที่มีประสบการณ์ ช่วยชี้แนะด้วยครับ
เดี๋ยวผมจะขอลงช่วงต้นของตอน 1 ไว้ในนี้เป็นตัวอย่างประกอบการพิจารณานะครับ
ขอบคุณครับ
************************************************
บทที่ 1
พฤษภาคม 2558
ฝนหลงฤดูเทลงมาอย่างไม่ขาดสายขณะเครื่องโบอิ้ง 777 ขนาดยักษ์จากกรุงเทพฯ กำลังลดระดับ แหวกกลุ่มเมฆ มุ่งลงสู่ท่าอากาศยานนานาชาติ ตรีภูวัน ประเทศเนปาล ผมรู้สึกหายใจติดขัด พะอืดพะอม จนต้องสูดอากาศเข้าปอดให้ลึกที่สุด เพื่อมิให้หมดสติไปกับความหวาดหวั่น
เปล่า ผมไม่ได้กลัวการตกหลุมอากาศที่เลวร้าย หรือ เสียงฟ้าร้องที่ดังสนั่นสั่นคลอนเครื่องโดยสาร แต่ผมกำลังกลัวการเผชิญหน้ากับอดีตที่บรรจุความเศร้า ความมืดสลัวเลือนลาง และเหนือสิ่งอื่นใดคือความทรงจำในช่วงเวลาสุดท้ายของหญิงอันเป็นที่รัก ผู้หลุดหายไปในห้วงหลุมของความตายอย่างไม่มีวันกลับมา
ความทรงจำฝังใจในอดีตอาจสร้างความหวาดกลัวให้กับจิตใจผู้คนอย่างยากแก้ไข ทว่าการเผชิญหน้ากับมันก็เกือบจะเป็นหนทางเดียวในการรักษา หลายคนปลูกสร้างความทรงจำอันงดงามครั้งใหม่ทับความทรงจำเดิม และหลายคนลืมเลือนสิ่งนั้นไปคล้ายไม่เคยเกิดขึ้น
ทว่าความทรงจำของผมนั้นต่างออกไป
นั่นคือนอกจากไม่สามารถปลูกสร้างซ้อนทับลงไปได้แล้ว ซ้ำยังไม่อาจถูกลืมเลือน เนื่องจากความเจ็บปวดที่ได้รับ บิดเบือนความจริงที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้ผมไม่เคยจดจำเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นได้อย่างชัดเจน ทว่ายังจำได้ดีถึงความรู้สึกที่เอ่อท้น
ความเจ็บปวด ความโศกเศร้า และหัวใจที่แตกสลาย
บัดนี้ความรู้สึกเหล่านั้นกำลังทวีความรุนแรงขึ้นอีกเมื่อผมตัดสินใจกลับมายังจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งสุดท้ายของผมและหญิงอันเป็นที่รัก ณ เทือกเขาหิมาลัย เพราะนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมอาจจะพบความจริงบางอย่างที่สมองซ่อนไว้ ณ ส่วนที่ลึกที่สุดของจิตใจ
สมองของผู้คน มีการทำงานที่ซับซ้อนและยอดเยี่ยม จนบางครั้ง มันทำการตัดสินใจโดยพลการที่จะบิดเบือนความทรงจำอันเจ็บปวดบางอย่าง...ให้ต่างออกไป ลบเลือนส่วนที่สำคัญที่สุดและต่อเติมสิ่งที่หัวใจโหยหา ทว่าความทรงจำเหล่านั้นย่อมเป็นรอยปรุรอยปะที่ไม่ลื่นไหลต่อเนื่อง และเมื่อเวลาผ่านไป หากคนผู้นั้นคิดทบทวนประสบการณ์และความทรงจำในเรื่องราวเหล่านั้นมากพอ คนผู้นั้นย่อมสังเกตได้ถึงความผิดปกติ เพราะสมองแม้สามารถจินตนาการสร้างภาพต่าง ๆ ขึ้นได้มากมายทว่าสิ่งที่สมองไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้คือความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง
เครื่องบินใกล้แตะผืนดิน เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม ตัวผมในวัยสี่สิบห้าปีบีบศีรษะไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ใบหน้าขมวดเกร็ง รู้สึกปวดร้าวคล้ายสมองกำลังแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ และในขณะที่ล้อหลังของเครื่องแตะรันเวย์ แรงกระแทกก็ถาโถมให้ภาพในอดีตที่สมองปิดกั้นไว้ ทะลักล้นออกมา ก่อเกิดความรู้สึกแปลกประหลาด ราวกับความทรงจำนั้นเป็นของใครอื่น ไม่มีอยู่จริงและเป็นเพียงสิ่งที่ถูกหยิบยัดใส่สมองโดยที่ผมไม่ได้ยินยอม
ภาพนั้นปรากฏขึ้นรวดเร็วทว่าพร่ามัว จากความว่างเปล่า ต่อเติมเม็ดสีทีละเม็ด จนกลายเป็นภาพหุบเขาสลับซับซ้อน ปูลาดไว้ด้วยหิมะสีขาวสลับกับโขดหินใหญ่สีน้ำตาล ท้องฟ้าสีเทาทึม ต้นไม้สีเขียวมีให้เห็นน้อยเต็มที คล้ายการซูมภาพจากกล้องกำลังขยายสูง ในรายละเอียดที่เล็กที่สุดนั้นมีชายหนุ่มและหญิงสาวคนหนึ่งเดินเคียงข้างกัน ภายใต้ดวงอาทิตย์เหนือหัวที่ส่องแสงมืดมัวขณะกลุ่มเมฆดำเคลื่อนคล้อยปกคลุมทั่วผืนฟ้า หิมะกำลังจะตกในหุบเขาที่ไหนสักแห่งบนเทือกเขาหิมาลัยอันสูงตระหง่าน ตัดกับผืนฟ้าของฤดูฝนที่มัวซัวดูคล้ายเขตแดนบางอย่างที่กีดกันความรู้สึกวุ่นวายของโลกภายนอกมิให้ย่างกรายเข้ามายังเขตผืนเขาอันบริสุทธิ์
........