เรื่องราวลึกลับและน่าสนใจ

Old Man of the Lake 


Old Man of the Lake หรือ ชายชราแห่งทะเลสาบ คือชื่อของขอนไม้เก่าผุ ๆ ที่ลอยอยู่ในทะเลสาบเครเตอร์ ในรัฐโอเรกอน มานานอย่างน้อย 120 แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้อายุของมันก็คือ วิธีที่มันลอยอยู่ในน้ำคือการลอยเป็นแนวตั้ง

ความเป็นมาของชายชราแห่งทะเลสาบ ต้องย้อนกลับไปนานถึงปี ค.ศ. 1896 หลังจากที่ โจเซป ดิลเลอร์ นักธรณีวิทยาและนักสำรวจได้บอกเล่าเรื่องราวถึงขอนไม้สีขาวขนาดใหญ่ที่แตกหักลอยอยู่ในทะเลสาบเครเตอร์ที่เขาพบโดยบังเอิญ
5 ปีต่อมา ดิลเลอร์ได้พบว่า ขอนไม้แปลก ๆ นี้ได้เคลื่อนย้ายจากตำแหน่งเดิมไปประมาณ 400 เมตร นั่นทำให้ดิลเลอร์เริ่มทำการศึกษามันอย่างจริงจัง และเขาก็พบว่ามันสามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้มากกว่า 400 เมตรภายในเวลาแค่วันเดียว ส่วนวิธีที่มันเคลื่อนย้ายตัวเองนั้นยังคงเป็นปริศนา แม้ว่ากระแสน้ำในทะเลสาบจะนิ่งสนิทก็ตาม

จากการศึกษาคาร์บอนของเนื้อไม้ก็พบว่า ขอนไม้ดังกล่าวมีอายุอย่างน้อย 450 ปี และมันใช้เวลาลอยอยู่ในทะเลสาบที่ลึกที่สุดของสหรัฐอเมริกามาอย่างน้อย 120 ปีแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ขอนไม้ลึกลับนี้ลงมาลอยในน้ำได้เนื่องจากปรากฏการณ์ดินถล่ม แต่ทำไมมันถึงลอยเป็นแนวตั้งนั้น ยังไม่มีใครที่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้
ตามกฏของฟิสิกส์เกี่ยวกับจุดศูนย์ถ่วงและแรงลอยตัว เป็นเหตุผลที่ทำให้ขอนไม้มักจะลอยน้ำเป็นแนวนอน แต่สำหรับ “ชายชราแห่งทะเลสาบ” ที่มีความยาวถึง 9 เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 61 เซนติเมตร กลับลอยน้ำเป็นแนวตั้งได้นานนับร้อยปี  บริเวณปลายขอนไม้ที่ผุกร่อน แต่ยังมีขนาดกว้างและลอยตัวได้มากพอจนรองรับให้คนขึ้นไปยืนได้อย่างเหลือเชื่อ



นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า มันเป็นความสมดุลระหว่างส่วนที่แห้งและส่วนที่จมน้ำอยู่ ทฤษฎีที่พอเป็นไปได้มากที่สุดคือ ขอนไม้นี้ลอยไปมาอยู่นานนับศตวรรษ รากของมันอาจไปพันเข้ากับก้อนหินเข้าจนถ่วงให้ฝั่งหนึ่งจมน้ำ เมื่อเวลาผ่านไป ก้อนหินอาจหลุดออกมาจากราก ส่วนขอนไม้ส่วนที่จมน้ำก็เริ่มหนักขึ้นจากการดูดซับน้ำเข้าไป จนทำให้มันมีน้ำหนักมากกว่าส่วนที่แห้งนั่นเอง

ในช่วงทศวรรษที่ 80  ทีมนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่มาทำการสำรวจทะเลสาบได้ตัดสินใจมัดขอนไม้นี้เอาไว้ที่เกาะ ๆ หนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุจากเดินเรือระหว่างทำงานวิจัยของพวกเขา แต่หลังจากที่ “ชายชราแห่งทะเลสาบ” ถูกตรึงเอาไว้ สภาพอากาศในบริเวณนั้นก็แปรปรวน จากอากาศที่แจ่มใส จู่ ๆ ก็เกิดพายุ และเริ่มมีหิมะตกในเวลาต่อมา ทั้ง ๆ ที่ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเดือนสิงหาคม และหลังจากนั้นไม่นาน เมื่อขอนไม้ถูกปล่อย สภาพอากาศก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง 
ปัจจุบัน “ชายชราแห่งทะเลสาบ” ยังคงเป็นปริศนาที่ทำให้ทะเลสาบเครเตอร์กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งในรัฐโอเรกอน 
ที่มา : odditycentral 
Cr.ข้อมูลเพชรมายา

Polybius ตำนานเกมตู้สุดลึกลับที่เชื่อว่าเล่นแล้วจะต้อง ‘ตาย’


เมือง Portland รัฐ Oregon ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 1981 หรือยุคทองของวีดีโอเกมอาร์เคด ในช่วงนั้นเกมเมอร์วัยรุ่นหรือเด็กหลายคนจะนิยมแวะร้านเกมอาร์เคดเป็นเวลาหลังเลิกเรียน โดยเกมยอดนิยมในยุคนั้นก็คือ Pac-Man, Centipede, Defender, Donkey Kong และอีกหลาย ๆ เกม แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเกมอาร์เคดชื่อใหม่ตั้งเดี่ยวที่คัดแยกออกจากเครื่องเกมตู้ตัวอื่นมีนามว่า Polybius ซึ่งเป็นเกมตู้ที่หาเล่นได้ยากมากในช่วงเวลานั้น
โดยลักษณะหน้าจอก็เหมือนกับกราฟิก ROM เหมือนกับเกมอาร์เคดทั่วไป เพียงแต่มีโลโก้ตัวใหญ่สีเขียวแกมน้ำเงิน และผลิตในปี 1981 โดย Sinneslöschen

เกมนี้ได้มีเรื่องเล่ามากมายว่า เป็นเกมที่เล่นแล้วมีอาการเสพติดด้วยพลังกราฟิกลายเส้นรอบตัวเครื่องที่มีผลลัพธ์ทางจิตวิทยาว่าเป็นการล้างสมองให้ผู้เล่นฝืนเล่นต่อไปจนกว่าจะเอาชนะ High Score ให้ได้ หรือเชื่อกันว่าเกมนี้ได้มีการเก็บข้อมูลจากเกมตู้ Polybius โดยกลุ่มชายชุดดำ (Man in Black) หรือรัฐบาล CIA ที่คาดเดาว่าเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการทดสอบตอบสนองประสาททางจิตของมนุษย์จากการเล่นเกม แต่เรื่องเล่าที่โด่งดังมากที่สุด คือ ผู้ที่เล่นเกมนี้จบ ในเวลาต่อมาจะได้รับผลกระทบต่ออาการป่วยทางจิต ตั้งแต่โรคความจำเสื่อม, นอนไม่หลับ, กลัวเวลากลางคืน, ประสาทหลอน อาจจะร้ายแรงถึงขั้นอาเจียนและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
แต่แล้ว เกม Polybius ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากได้วางเกมตู้ไว้เพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น ไม่มีภาพถ่าย ไม่มี Footage รวมไปถึงไม่มีข้อมูลทีมงานผู้พัฒนาเองอีกด้วย
 
เกมเมอร์ต่างได้สืบสวนเกม Polybius ทุกอย่างที่เชื่อมต่อกับเกม ตั้งแต่ชื่อเกมที่อ้างอิงมาจากนักประวัติศาสตร์ชาวกรีกโบราณตามที่ชื่อว่า Polybius ผู้ที่ให้นิยามแก่นักประวัติศาตร์ว่า “ไม่ควรให้สัมภาษณ์กับพยาน ถ้าหากข้อมูลยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ”

ส่วนชื่อบริษัทผู้ผลิตเกม Sinneslöschen อ้างอิงจากนักประพันธ์ชาวอเมริกัน  Brian Dunning กล่าวว่าเป็นคำที่คนไม่ได้พูดภาษาเยอรมันเป็นภาษาแม่ได้สร้างคำนี้ขึ้นมาเอง โดยคำว่า Sinne แปลว่า Senses กับ löschen แปลว่า to extinguish หรือ to delete ในภาษาอังกฤษ ซึ่งแปลเป็นไทยว่า “เซ้นต์แห่งการลบ” ซึ่งผิดหลักไวยากรณ์ภาษาเยอรมัน

ส่วนความเชื่อว่า Polybius ครอบครองโดยรัฐบาล CIA : อ้างอิงจากเว็บไซต์ Snopes.com ที่รวบรวมหลักฐานและเปิดโปงข่าวลือที่น่าเชื่อถือ ได้กล่าวไว้ว่าในช่วงปี 1980 มีกลุ่ม Men in Black ได้เข้ามาแวะเยี่ยมร้านอาร์เคดและแอบตั้งค่าบันทึกคะแนนสูงสุดในเกม Polybius ไว้ ซึ่งมีสันนิษฐานว่าทางรัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องโดยเป็นหัวหอกในการทดลองลับอะไรบางอย่างและได้ส่งรหัสลับแก่ผู้เล่น

แม้ว่าจะผ่านไปถึงปี 2018 ตำนานเกมตู้ Polybius ยังคงเป็นปริศนาที่ไม่มีใครสามารถแก้ไขได้ และเกมเมอร์พยายามสืบสวนเกมดังกล่าว แม้ว่าจะเกมต้นฉบับจะไร้ร่องรอยกับไม่มีตัวตนมานานถึง 37 ปี ซึ่งมันฟังดูอาจจะมีเหมือนเรื่องเฟคสำหรับเกมเมอร์บางคน แต่มันก็ยังคงเป็นเรื่องเล่าที่น่าสนใจและรู้สึกลึกลับที่สุดสำหรับวงการเกมจนถึงทุกวันนี้ 
Cr. gamingdose.com/
 
 
 
นักลงทุนผู้มาจากโลกอนาคต


 
ในปี 2003 เว็บไซด์ Weekly World News รายงานว่ามีชายคนหนึ่งชื่อ แอนดรูว คาร์ลซิน (Andrew Carlssin) ถูกตลาดหลักทรัพย์เอาผิดในเรื่อง Insider Trading และการซื้อขายที่ผิดปกติ จึงร้องขอให้ทาง FBI เข้ามาตรวจสอบรวมถึงจับกุมนายแอนดรูว คาร์ลซิน ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์ให้การว่าการเริ่มต้นของนายแอนดรูว มีสิ่งผิดปกติคือการเริ่มต้นด้วยเงินเพียง 800 ดอลล่าร์ และสามารถสร้างมันขึ้นมาเป็นเงินมากกว่า 350 ล้านดอล์ล่าร์เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
มันอาจจะเป็นเรื่องของการ Insider Trading ที่เอาข้อมูลวงในมาทำการซื้อขายหุ้น รวมถึงสิ่งที่เหลือเชื่อคือ นายแอนดรูวซื้อหุ้น 126 ตัว และทุกตัวก็สร้างกำไรได้หมดอย่างน่าประหลาดใจ 

นายแอนดรูว คาร์ลซิน บอกกับทาง FBI ว่าเขามาจากโลกอนาคตในปี 2256  และรู้ว่าหุ้นตัวไหนจะขึ้นบ้าง เขาจึงเดินทางย้อนเวลากลับมาในปี 2003 เพื่อมาซื้อหุ้นก่อนที่จะขึ้น จริงๆแล้วเข้าจะเข้าซื้อหุ้นเพียง 5-10 ตัวเท่านั้น พยายามทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูเป็นปกติไม่ให้เป็นที่น่าสงสัย 

เมื่อ FBI ถามกลับว่านายแอนดรูวเดินทางย้อนเวลามาได้อย่างไร เขาตอบแต่เพียงว่าไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเกรงว่าเครื่องมือที่เขาใช้ย้อนเวลาจะตกอยู่ในมือของกลุ่มคนที่ไม่ดี และจะทำให้ประวัติศาสตร์ผิดเพี้ยนไป 

นายแอนดรูว ยังบอกอีกว่าในอนาคตอีก 200 ปีข้างหน้า วิทยาการทางการแพทย์ก้าวหน้ามาก มนุษย์มียารักษาโรคเอดส์ และการกำจัดมะเร็งได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยสภาพร่างกายไม่ทรุดโทรมตามการรักษา สิ่งที่เขาต้องการคือการปล่อยตัวเขา และเขาจะเดินทางกลับไปยังที่ๆเขาอยู่ คือ ปี 2256

เมื่อ FBI ลองค้นทะเบียนราษฏร์ดูปรากฏว่าไม่มีประวัติบุคคลที่ชื่อแอนดรูว คาร์ลซิน อยู่จริงๆ อย่างไรก็ตามข่าวนี้อยู่ดีๆก็หายไปจากหน้าหนังสือพิมพ์ สื่อต่างๆทุกชนิดก็ไม่มีการทำข่าวต่อ รวมถึงแฟ้มประวัติของ FBI ก็ไม่มีบันทึกเรื่องราวของนายแอนดรูวอยู่แม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาไม่เคยมีตัวตนอยู่บนโลก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Cr.stock2morrow.com/

เงายักษ์ลึกลับ ปรากฏให้เครื่องบินเห็นในหมอกในปี 1942


ในเดือนธันวาคม 1942 ลูกเรือของเครื่องบิน RAF Recon Flight 300 ได้ถ่ายภาพๆ หนึ่ง ซึ่งต่อมาภาพนี้ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นหลักฐานที่ดีที่สุด ที่จะพิสูจน์ได้ว่า ยักษ์อาจมีอยู่หรือเคยมีอยู่จริงในอดีตที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ความจริงเบื้องหลังภาพถ่ายนี้ก็มีเรื่องราวที่ถูกบอกเล่าแตกต่างกันไป

เงายักษ์ในภาพดังกล่าวถูกตั้งชื่อว่า โทรลล์ภูเขาแห่งนอร์เวย์ เนื่องจากมันถูกพบบริเวณเทือกเขาแห่งหนึ่งในนอร์เวย์ แต่นอกจากหลักฐานในภาพนี้แล้ว ก็ยังไม่มีหลักฐานอื่นๆ ที่พิสูจน์ถึงการมีอยู่ของโทรลล์ภูเขาตัวนี้ได้

ในขณะที่ภาพถ่ายนี้ถูกอ้างว่าถ่ายจากเครื่องบิน ดังนั้นโทรลล์ตัวนี้เมื่อเทียบขนาดกับต้นไม้แล้ว จะเห็นว่ามันต้องมีความสูงหลายสิบเมตร แต่ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ขนาดนี้ ทำให้หลายๆ คนคาดว่า โทรลล์ตัวนี้อาจเป็นเรื่องที่กุขึ้นมาก็เป็นได้
แต่ถึงแม้เรื่องโทรลล์ภูเขาจะเป็นเรื่องโกหก แต่ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เราจะพบวัฒนธรรมโบราณหลายแหล่งทั่วโลกที่เชื่อในเรื่องการมีอยู่ของยักษ์ และมีหลักฐานบางอย่างที่อาจเชื่อมโยงไปถึงการมีอยู่ของยักษ์ตัวเป็นๆ แม้แต่ในคัมภีร์ไบเบิ้ลเองก็ยังพูดถึงสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ว่าอาจมีอยู่จริง

หนึ่งในหลักฐานชิ้นสำคัญที่พิสูจน์ว่ายักษ์มีอยู่จริงถูกพบในปี 1988 เมื่อหนังสือพิมพ์ BILD ชื่อดังของยุโรป ได้ตีพิมพ์ภาพของนิ้วมือขนาด 38 ซม. ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามขึ้นมากมายว่ามันเป็นของจริงหรือไม่
ย้อนกลับไปในปี 1912 ในขณะที่นายพรานนามว่า สตอฟเฟล โคเอตซี กำลังล่าสัตว์อยู่ในพื้นที่แห่งหนึ่งในแอฟริกาใต้ เขาได้พบกับรอยเท้าขนาดมหึมาประทับอยู่บนหินผาที่มีอายุนานกว่า 200 ล้านปี
นอกจากนั้น นักธรณีวิทยายังพบรอยเท้าอีกหลายรอยบนหินแกรนิตหยาบที่ทำให้พวกเขาต้องตกตะลึง เพราะรอยเท้าแต่ละรอยมีความยาวถึง 4 ฟุต
Cr.petmaya.com

The Slender Man


 31 พฤษภาคม 2014 ณ เมือง Waukesha รัฐ Wisconsin เมื่อเด็กสาววัย 12 ปี 2 คนคือ Morgan Geyser และ Anissa Weier ได้หลอก Payton Leutner ซึ่งเพื่อนร่วมชั้นเรียนออกไปฆ่าในป่า และใช้อาวุธทำร้ายด้วยการแทงรวมทั้งหมด 19 แผล แต่เธอยังมีลมหายใจพยายามคลานออกมาริมถนน และได้รับการช่วยเหลือจากคนขี่จักรยานที่เผอิญผ่านมาพอดี

จากปากคำของผู้ร้ายทั้ง 2 คน ได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่พวกเธอทำไปนั้นก็เพราะว่าถูก Slenderman บังคับ เพราะถ้าไม่ทำ Slenderman นั้นจะมาฆ่าเธอและครอบครัวแทน
Slenderman จะไม่มีหน้า และมีแขนขายาวสูง และจะปรากฏให้เห็นในลักษณะของชายสวมชุดสูทสีดำ และเป็นมักจะเป็นที่เห็นได้ชัดในสนามเด็กเล่นที่มีป่าและมีนิสัยชอบลักพาตัวเด็ก แน่นอนว่าหลายๆ หลายคนบอกว่ามันเป็นแค่เรื่องหลอกเด็กแต่กลับมีรูปถ่ายหรือคลิปวีดิโอที่นำมาเผยแพร่เพื่อยืนยันว่าเจ้า Slenderman ตัวนี้มีตัวตนจริงๆ อยู่บนโลก

 Slenderman นั้นมีตัวตนอยุ่คู่กับมนุษย์มากว่า 9,000 ปีเพราะปรากฏภาพวาดโบราณบนผนังถ้ำในประเทศบราซิล พบว่ามีภาพของ Slenderman อยู่ในนั้น นอกจากนี้ยังมีคำยืนยันจาก Hans Freckenberg ช่างภาพชาวเยอรมันในยุคศตวรรษที่ 16 ได้ยืนยันว่าได้พบบุคคลที่มีแขนขายาวรีบจริงๆ อีกด้วย
Cr.online-station.net/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่