สวัสดีค่ะ [ขอปลอมตัวนิสนึง] เรามีความคิดว่าจะซิ่ว ตั้งแต่ตอนปีสามแล้ว ตอนนี้เราอยู่ปีสี่ เรื่องมีอยู่ว่า เราเรียน วทบ เคม ตอนที่เราสอบเข้ามาเราพูดเลยว่า เราไม่ได้ชอบสาขานี้เพราะตอนเรียน ม ปลาย เราได้ 1 มาตลอด 6 เทอม เราเป็นเด็กชนบท ที่เข้ามาเรียนในเมือง ช่วงนั้นที่ตัดสินใจ เรายอมรับเลยว่าพลาด พูดตรงๆคือ เราชอบพวกสายนิติ รัฐศาสตร์ สาธา พยาบาล การโรงแรม มากกว่า ซึ่งในตอนนั้นเราคิดไว้ว่าอยากทำงานด้านการบริการมากๆ ในช่วงนั้นเราสอบได้ที่อุบล สาธา ยื่นคะเเนนสาธา ม พะเยา ซึ่งไกลจากบ้านมาก มันทำให้เราหวนคิดถึงพ่อแม่ที่เป็นห่วงเรา เราเป็นครอบครัวที่ไม่ได้รวยอะไรเลย ตอนสอบติดที่ ม ที่เราเรียน เราไม่ดีใจเท่าไหร่ และเราคิดว่าที่สอบติดเพราะตอนนั้น คนลงสมัครน้อย คือน้อยสุดใน วทบ ตอนที่เราลงเราแค่คิดว่า เออๆเอานี่ก่อนใกล้บ้านหน้าจะติด เเล้วติดจริง ตอนนั้นลังเลหนักมาก ตอนสอบสัม อ.ถามเราว่า เราชอบไหม สาขานี้ เราตอบตรงเลยว่า ชอบสาธาไม่ได้ชอบเคม อ.เลยเเน่ะนำว่าให้เรียนม ราชภัฏ แทน แต่ ตอนนั้น เขาเลิกรับสมัครไปแล้ว ด้วยความส่งสารพ่อแม่ที่ต้องหมดเงิน มาก ทั้งเรื่องแกทแพท 9สามัญในช่วงนั้นบอกเลยลำบาก จนมันทำให้เราตัดสินใจเรียนสาขานี้ ทั้งที่ไม่ได้ชอบแล้วหลอกตัวเองมาตลอดว่าเรียนได้ เรายอมรับเลยว่าความผิดเราล้วนๆ ตอนปีหนึ่งเราเข้ามาเรียนเราอึดอัดมาก เราพยายามเรียนให้ได้ดีขึ้นซึ่งดีขึ้นจริง มันก็เลยทำให้เรา หลอกตัวเองหนักเข้าไปอีก จนกระทั้งตอนปีสามเทอม 1 เราเห็นเพื่อนที่เรียนพยาบาล ม เอกชน คือ รับหมวกซึ่งเรา อิจฉามาก555 เรากับแม่เราก็อยากให้เป็นพยาบาลด้วย และตอนนั้นก็มีแฟน พี่แฟนเป็นพยาบาลจบจาก มข ทำงานในรพเอกชนดังแห่งหนึ่ง ขึ้นเวรที่ 60000-70000 ช่วงไหนเด็กคลอดมาก คือ เกือบแสน แต่นี่ไม่ได้ทำให้เราหวนอยากซิ่วซะทีเดียวนะ ที่เรามาคิดจะซิ่วหนักมากเลยคือตอน เราสัมนา เราเป็นคนมั่นใจในระดับนึง ไม่ได้สูงมาก แต่ เหตุการณ์วันนั้นเราพูดเลยว่าเราเฟล เราตกสัมนา เราผิดหวัง เสียใจ ร้องไห้นะแต่น้ำตามันไม่ไหล มันเป็นอารมย์ที่อึดอัดมาก คือ มันอธิบายไม่ถูก เหมือนเราเป็นกานูหษ์ประมาณนั้น ในขณะนั้นเราก็กำลังรักษาตัวจากการติดซิฟิลิสด้วย เราเคลียดมาก ทะเลาะกับแฟนตลอด ปัญหาเรื่องเงินก็เข้ามา พ่อแม่มีหนี้ที่ต้องจ่ายก่อน เราก็ต้องยืมแฟน แฟนก็มีค่าใช้จ่ายเยอะ ในตอนนั้น[ความเชื่อใจกันมันลดลง แต่ตอนนั้นเราพึ่งจะคบกันได้ไม่นาน ซึ่งตอนเราโสดเรามั่วก็ว่าได้ ]เราเครียดไปหมด พอเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็กลับมาหัวเราะคิดว่าเป็นเรื่องตลกแล้วเอาปัญหาเราไปพูดเล่น พูดว่าอี๋อีเอดส์บ้าง กลัวติดโรคบ้าง ในใจคือคิดว่าเราต้องการที่ปรึกษาแต่ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ปัญหามันสะสมมากขึ้น ๆๆ เราสูญเสียความมั่นใจ แล้วหดหู่เพิ่มขึ้น บ้างครั้งไม่อยากไปเรียน เวลาไปสอบซ่อมเราก็รู้สึกเสียใจ โทษตัวเอง คือมันพยายามแล้ว ที่จะไม่คิดแต่สมองมันก็คิดขึ้นมาเอง จนเราปวดหัวหนักมาก จนแอบเอาเงินไปซื้อยาคลายเครียดกินเอง บ้างครั้งกินเหล้าบ้าง จนเวลามันผ่านไป เราเริ่มรู้ตัวเลยว่าเราไม่ชอบสาขานี้แล้ว ทั้งเรื่องเรียน เรื่องเพื่อน แต่เราก็พยายามจะผ่านมัน ซึ่งเราผ่านมันมาได้ แต่บอกเลยว่ามันอึดอัด เราไม่มีความสุข เราคิดเสมอว่ากลับไปเรียนจะเจอคำพูดเจออะไรเพิ่มอีกไหม เกรดในช่วงนั้นคือโอเค แต่ไม่ได้แย่หรือดีมาก เราอาย เราแย่ เราไม่กล้ากลับไปเรียน เรากลับมานั้งคิดทบทวนทุกสิ่งทุกอย่าง ว่าเราพร้อมจะเดินต่อไหม เราเลยเอาเรื่องซิ่วไปถามแฟนกับแม่ก่อน เราโทรไปร้อไห้ แม่พูดว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไป พี่เรายังเรียนได้เลย คือพี่เราเรียนการจัดการแล้วซิ่วไปก่อนช่วง3ปีที่เเล้ว พึ่งจบปีนี้ คือมันไม่รุ้จะพูดคำไหนดีคือเราคิดว่าสาขามันต่างกันความชอบของคนมันต่างกัน เนื้อหามันต่างกัน แม่พยายามพูดเสมอว่าไม่สงสารแม่หรอ ไม่สงสารพ่อหรอ โอเครเราพูดเลยว่าเราร้องไห้ ใจนึงคือไม่ไหวแล้ว อีกใจคือพ่อแม่เรา คือเราไม่ได้เล่าเรื่องทั้หมดให้ฟังว่าเจอเพื่อนล้อบ้าง คือ เราพูดไม่ถูกอะ อารมย์ตอนนั้นคือที่สุดของความหดหูด แฟนก็พูดว่าเป็นอะไรทำไม่ดูเครียดจัง เราเล่าให้แฟนฟัง แฟนก็พูดว่า ถ้าเรียนใหม่ว่าจะส่งแต่ที่บ้านเขาก็ค่าใช้จ่ายเยอะ เราคิดว่าจะไปเรียนราม สาขาแทนอยากออกมาหางานทำไปด้วยเรียนไปด้วย แต่แม่ก็ไม่ให้เรียน เราทรมานอะ มันอยากหนีออกไปให้พ้นจากจุดนั้นคือฉันไม่ไหวที่จะรับคำพุดใครได้อีกแล้ว แล้วสุดท้าย อ ที่มอเรียกให้ไปปรึกษาเราพยายามเล่าทุกอย่าง แต่แกก็พูดว่าอยากให้เรียนก่อน เราพูดต่อไม่เป็นเลย เราเข้าสู่โหมดเงียบใครถามอะไรก็ไม่อยากตอบแล้ว มันเป็นสิ่งที่เหมือนเราเห็นแก่ตัวแต่เราเราคิดว่าสิ่งที่เราเรียนอยุ่มันไม่ใช่ ไม่ใช่สำหรับเราไม่ใช่ตั้งแต่แรก สุดท้ายแล้วเราก็ต้องกลับมาเรียนเพราะแม่ขอ ครั้งนี้เราพูดเลยเราไม่มาเรียน1เดือน เราหายไปเลย จนเวลาหยุดในเทอมหมด แล้วเราก็โดนเรียกให้เข้าไปพบอาจารย์ คือเราเบื่อ ไม่มีแรงจะทำอะไร เรามองโลกแย่ลง เพื่อนบางคนพูดว่าอยู่ใกล้เราแล้วเครียด หดหู่ จนล่าสุดเราตัดสินใจโทรบอกพ่อพูดตรงๆ กับแก มันเป็นสิ่งที่เราอยากพูดมาตลอด เราจะขอซิ่ว เราไม่อยากเรียนเเล้วอยากเรียนตามสิ่งที่ตัวเอง อยากจะทำอาชีพนั้น พ่อแกเลยพูดว่า พ่อขอคิดดูก่อน หลังจากนั้นบ้านแตก เราร้องไห้หนักมาก มือไม้สั่นไปหมด เราเสียใจ เราเงียบคุยกับตัวเอง อยุ่กับตัวเอง ล่าสุดเราต้องสอบโครงร่าง อีก เราเครียดมากทำคนเดียวสอบคนเดียว เราไม่รู้จะบอกพ่อกับแม่ยังไงดี ความรู้สึกเราคืออยากตายให้พ้นๆจบๆไปเลย โฮะ เสียใจ มีใครเคยซิ่วตอนปีสี่ไหม แบบนี้อะ หรือใกล้ๆ เคียงกัน อยากรู้ว่าคุยกับพ่อแม่ยังไง ปล นิสัยเราเป็นคนร่าเริงนะ แต่เจอเรื่องเครียดเเล้วเป็นอีกคนไปเลย บางครั้งเราคิดว่าเป็นโรคซึมเศร้า
เราคิดว่าจะซิ่วตอนปีสี่