เนื่องจากว่า มีวันว่างหนึ่งวันเหลือจากการไปทัวร์โตเกียว
เริ่มเรกคิดว่าจะไปที่วัดพระใหญ่ ที่คามามุระ แต่คุณแม่ก็บอกว่าอยากไปวัด ไม่อยากชอปปิ้ง
ส่วนตัวเจ้าของกระทู้ก็ไม่อยากนั่งรถไฟด้วย กลัวพาคุณแม่หลง และอยากไปเดินเล่นถ่ายรูปในบ้านเมืองเค้าจริงๆมากกว่า
เลยเสิร์ช ดูในเน็ตว่าที่ไหนใกล้ที่พักบ้าง ได้ความว่าจะไปวัดนาริตะกัน
เริ่มต้นจากการเดินไปตามซอยในเมืองนาริตะ ไปถ่ายรูปบ้านรูปเมืองเค้าค่ะ
เจอตู้ไปรษณีย์สีแดง เลยขอถ่ายรูปหน่อยยย
ระหว่างทางก่อนถึงวัดนาริตะ จะมีของให้ซื้อทาน ทั้งร้านกาแฟ และร้านไอติม เจ้าของกระทู้เลือกทานขนมของญี่ปุ่นค่ะ แต่ไม่รู้เรียกว่าอะไร
แต่ชื้อร้านชื่อ “cow cow”
ถามว่าอร่อยมั้ย เราว่าหวานไปหน่อย ด้วยความที่ไม่ชอบกินหวานเท่าไหร่ แต่อิ่มทนมาก อยู่จนเย็นคือไม่รู้สึกหิวเลยค่ะ
มาถึงแล้ววัดนาริตะะะะ เค้าว่ากันว่าซุ้มนี้สร้างเพื่อฉลองครบรอบ1960 ปีค่ะ
โอววว นานมากกกก แต่จริงๆรูปนี้ถ่ายขากลับนะคะ ลืมถ่ายขามาเพราะตื่นเต้ารีบเข้าวัด
เข้ามาแล้วก็ต้องล้างมือก่อนนะคะ ตามธรรมเนียม
เริ่มจากล้างมือซ้าย ล้างมือขวา แล้วก็บ้านปากค่ะ
จุดนี้เป็นจุดที่คนนิยมถ่ายรูปกันค่ะ ค่ะโคมหน้าซุ้มประตู
ถัดไปจะต้องปีนบันไดขึ้นไปประมาณ32 ขั้นค่ะ
หน้าสุดของวัดจะมีกระถางธูป คนญี่ปุ่นเชื่อว่าหากเจ็บปวดตรงไหน (ทรัพย์จางก็ช่วยได้นะคะ) ให้ปัดๆควันธูปเข้าไปตรงนั้นเลยค่ะ
แล้วมาเจอเจดีอันใหญ่ๆกับโบสหลัก ซึ่งเราไม่ได้ถ่ายรูปโบสถ์หลักมาค่ะ
ได้เข้าไปไหว้ในโบสถ์ค่ะ ก่อนเข้าโบสถ์จะมีถุงพลาสติกให้ใส่รองเท้าเพื่อนำเข้าไปด้วย
วันนั้นมีพิธีข้างในโบสิค่ะ เพิ่งทราบภายหลังว่าวัดนี้เป็นวัดบูชาไฟ
พิธีการคือจะมีพระสงฆ์มาสวดมนต์ให้ มีการจุดไฟ เเละพระสวด หลังจากนั้น คนก็จะเอากระเป๋าไปให้พระเพือนำไปที่ควันที่ไฟ
เข้าใจว่าเป็นการเรียกทรัพย์ หลังจากพิธีจบทุกคนก็จะต่อแถวเพื่อมาจับไม้ยาวๆที่หน้าพระองค์ประทานกัน
แต่ไม่รู้ว่าจริงๆคือพิธีอะไร อ่านไม่ออก
ภายในตัวอาคาร จะมีการเขียนป้ายชัดเจนว่าห้ามถ่ายรูปนะคะ จึงไม่มีรูปมาฝากเลย แต่ภายในสวยมากค่ะ
หากมาถึงแล้ว อยากให้ลองเข้าไปนั่งในโยมกันนะคะ
หลังจากทำพิธีเสร็จ ออกจากโบสถ์ไปทางขวามือจะเจอบันไดเพื่อเข้าไปยังสวนของวัดกันค่ะ
จนมาถึงจุดประทับใจคือบ่อน้ำค่ะที่นี่เราได้เจอชาวต่างชาติที่ใส่ยูคาตะด้วย แต่เราออกไปหาไม่ทันร้านปิดก่อน
==================ยังไม่จบเดี๊ยวมาต่อออออออออ================
[CR] [unseen] one day trip Naritasan Park in Naritasan Shinshoji temple สวนสวยในวัดนาริตะ
เริ่มเรกคิดว่าจะไปที่วัดพระใหญ่ ที่คามามุระ แต่คุณแม่ก็บอกว่าอยากไปวัด ไม่อยากชอปปิ้ง
ส่วนตัวเจ้าของกระทู้ก็ไม่อยากนั่งรถไฟด้วย กลัวพาคุณแม่หลง และอยากไปเดินเล่นถ่ายรูปในบ้านเมืองเค้าจริงๆมากกว่า
เลยเสิร์ช ดูในเน็ตว่าที่ไหนใกล้ที่พักบ้าง ได้ความว่าจะไปวัดนาริตะกัน
เริ่มต้นจากการเดินไปตามซอยในเมืองนาริตะ ไปถ่ายรูปบ้านรูปเมืองเค้าค่ะ
เจอตู้ไปรษณีย์สีแดง เลยขอถ่ายรูปหน่อยยย
ระหว่างทางก่อนถึงวัดนาริตะ จะมีของให้ซื้อทาน ทั้งร้านกาแฟ และร้านไอติม เจ้าของกระทู้เลือกทานขนมของญี่ปุ่นค่ะ แต่ไม่รู้เรียกว่าอะไร
แต่ชื้อร้านชื่อ “cow cow”
ถามว่าอร่อยมั้ย เราว่าหวานไปหน่อย ด้วยความที่ไม่ชอบกินหวานเท่าไหร่ แต่อิ่มทนมาก อยู่จนเย็นคือไม่รู้สึกหิวเลยค่ะ
มาถึงแล้ววัดนาริตะะะะ เค้าว่ากันว่าซุ้มนี้สร้างเพื่อฉลองครบรอบ1960 ปีค่ะ
โอววว นานมากกกก แต่จริงๆรูปนี้ถ่ายขากลับนะคะ ลืมถ่ายขามาเพราะตื่นเต้ารีบเข้าวัด
เข้ามาแล้วก็ต้องล้างมือก่อนนะคะ ตามธรรมเนียม
เริ่มจากล้างมือซ้าย ล้างมือขวา แล้วก็บ้านปากค่ะ
จุดนี้เป็นจุดที่คนนิยมถ่ายรูปกันค่ะ ค่ะโคมหน้าซุ้มประตู
ถัดไปจะต้องปีนบันไดขึ้นไปประมาณ32 ขั้นค่ะ
หน้าสุดของวัดจะมีกระถางธูป คนญี่ปุ่นเชื่อว่าหากเจ็บปวดตรงไหน (ทรัพย์จางก็ช่วยได้นะคะ) ให้ปัดๆควันธูปเข้าไปตรงนั้นเลยค่ะ
แล้วมาเจอเจดีอันใหญ่ๆกับโบสหลัก ซึ่งเราไม่ได้ถ่ายรูปโบสถ์หลักมาค่ะ
ได้เข้าไปไหว้ในโบสถ์ค่ะ ก่อนเข้าโบสถ์จะมีถุงพลาสติกให้ใส่รองเท้าเพื่อนำเข้าไปด้วย
วันนั้นมีพิธีข้างในโบสิค่ะ เพิ่งทราบภายหลังว่าวัดนี้เป็นวัดบูชาไฟ
พิธีการคือจะมีพระสงฆ์มาสวดมนต์ให้ มีการจุดไฟ เเละพระสวด หลังจากนั้น คนก็จะเอากระเป๋าไปให้พระเพือนำไปที่ควันที่ไฟ
เข้าใจว่าเป็นการเรียกทรัพย์ หลังจากพิธีจบทุกคนก็จะต่อแถวเพื่อมาจับไม้ยาวๆที่หน้าพระองค์ประทานกัน
แต่ไม่รู้ว่าจริงๆคือพิธีอะไร อ่านไม่ออก
ภายในตัวอาคาร จะมีการเขียนป้ายชัดเจนว่าห้ามถ่ายรูปนะคะ จึงไม่มีรูปมาฝากเลย แต่ภายในสวยมากค่ะ
หากมาถึงแล้ว อยากให้ลองเข้าไปนั่งในโยมกันนะคะ
หลังจากทำพิธีเสร็จ ออกจากโบสถ์ไปทางขวามือจะเจอบันไดเพื่อเข้าไปยังสวนของวัดกันค่ะ
จนมาถึงจุดประทับใจคือบ่อน้ำค่ะที่นี่เราได้เจอชาวต่างชาติที่ใส่ยูคาตะด้วย แต่เราออกไปหาไม่ทันร้านปิดก่อน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม