"เที่ยวไปกินไป by laser @ พิธีกวนข้าวทิพย์วัดโบสถ์ หลวงปู่เทียน"
เป็นตอนแรกของหนึ่งในสามบทความ ของานจุลกฐิน 3 วัด และกฐินสามัคคีตกค้าง 68 วัด
ที่วัดป่าอาสภาวาส จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 25-27/11/2023 ประกอบด้วย
1 เที่ยวไปกินไป by laser @ พิธีกวนข้าวทิพย์วัดโบสถ์หลวงปู่เทียน
2 เที่ยวไปกินไป by laser @ พิธีปลูกต้นกล้าฝ้าย จุลกฐิน ขอนแก่น
และ 3 เที่ยวไปกินไป by laser @ จุลกฐิน และกฐินสามัคคีตกค้าง ขอนแก่น
โดยหยิบตอนที่สองมาเขียนถึงก่อนตอนที่ 1
"เที่ยวไปกินไป by laser @ พิธีปลูกต้นกล้าฝ้าย จุลกฐิน ขอนแก่น"
https://pantip.com/topic/42315065
เนื่องจาก "เที่ยวไปกินไป by laser @ พิธีกวนข้าวทิพย์วัดโบสถ์ หลวงปู่เทียน"
มีภาพและรายละเอียดมาก แม้ว่าในงานจุลกฐินจะมีการกวนข้าวทิพย์ แต่กวนเพียงสองกระทะ
ต่างจากที่วัดโบสถ์ ที่แม้จะทำโดยเจ้าพิธีชุดเดียวกัน แต่มีการกวนถึง 21 กระทะ และใช้เวลาถึงสามวันหนึ่งคืน
แบ่งเป็นการก่อเตาหนึ่งวัน และพิธีกวนข้าวทิพย์อีกสองวันหนึ่งคืน เป็นการกวนข้าวทิพย์เพื่อแจก
ในวันระลึกครบรอบวันมรณะภาพ ของหลวงปู่เทียน อดีตเจ้าอาวาสวัดโบสถ์
ที่ปีนี้ครบรอบ 57 ปี ตรงกับวันอังคารที่ 18 กค.ซึ่งทางวัดจัดเป็นงานประจำปีทุกปี
วันอาทิตย์ที่ 9-7-23 14.30 น. เดินทางไปที่วัดโบสถ์ หลวงปู่เทียน ถนนบ้านกลาง
อำเภอเมืองปทุมธานี ติดกับกับวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ปทุมธานีมีวัดโบสถ์สองแห่ง
อีกแห่งอยู่ที่อำเภอสามโคก เวลาเรียกรถมาที่วัดนี้ จึงต้องเน้นว่าหลวงปู่เทียน ข้างเทคนิคปทุม
วัดโบสถ์ เดิมชื่อ วัดสร้อยนางหงษ์ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา
ในหมู่ที่ 5 บ้านกลาง ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
สร้างเมื่อ พ.ศ. 2164 โดยชาวมอญที่อพยพมามาจากเมืองหงสาวดี และเอาชื่อหมู่บ้านที่ตนอพยพมาอาศัยอยู่
ตั้งเป็นชื่อวัด และได้สร้างเสาหงส์ขึ้นไว้เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองหงสาวดี
วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ. 2167
หลังซุ้มประตูทางเข้าวัด ทางซ้ายมือ คือ ห้องประชุมท่านเจ้าคุณ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาคารท่านเจ้าคุณ
ลานหน้าห้องประชุมติดกับถนนหลักของวัดกางเต็นท์ขาว จะใช้เป็นที่ก่อเตาและทำพิธีกวนข้าวทิพย์
ระหว่างรอคณะผู้ก่อเตาเดินทางมาถึง เดินชมส่วนอื่น ๆ ของวัด
จุดแรกที่แวะชม คือ วิหารชั่วคราวหลวงพ่อสมปรารถนา ระหว่างที่หลังจริงด้านหลังอยู้ระหว่างการบูรณะ
ถอดรองเท้าหน้าทางเข้า
ภายในประดิษฐานพระพุทธมหาจักรพรรดิ หรือหลวงพ่อสมปรารถนา
พระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่องกษัตริย์แบบรามัญ อายุกว่า 400 ปี
มีลักษณะเฉพาะคือพระพักตร์ยาวใหญ่ พระขนงโก่ง พระเนตรเหลือบลงต่ำ
พระนาสิกโด่ง และพระโอษฐ์กว้างแย้มพระโอษฐ์เล็กน้อย ทำให้เกิดความรู้สึกสงบแต่มีอำนาจ
การอธิษฐานสามารถขอพรได้เพียงหนึ่งข้อ
อธิษฐานเสร็จแล้ว ให้ดึงเชือกสั่นระฆังเบา ๆ หนึ่งครั้งเพื่อส่งคำอธิษฐาน
อาคารสีแดงทางด้านขวามือติดกับวิหารชั่วคราวหลวงพ่อสมปรารถนา
คือ มหาศาลาสมเด็จกระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งสามารถเดินเข้าจากทางด้านวิหารชั่วคราว
ทางด้านขวามือของทางเข้า มีรูปหล่อปางประทานพรของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
สวมพระมาลาประทับนั่ง มีพระแสงดาบวางพาดตัก ซึ่งเชื่อว่าเป็นแห่งแรกของประเทศไทย
เชื่อกันว่าพระองค์ทรงพระราชทานที่ดินบริเวณวัดโบสถ์ ให้แก่ชาวมอญที่มาช่วยทำสงคราม
ทำให้วัดโบสถ์เป็นสถานที่สำคัญสำหรับผู้ศรัทธา นิยมมาสักการะขอพรเรื่องความสำเร็จ
การงาน และการค้าขาย มีการถวายดาบเป็นเครื่องสักการะ
บานไม้ประตูทางเข้า มีการฉลุตัวอักษรจีนสองคำ ด้านขวา คือ คำว่า "ฮก" หรือโชคลาภ
ด้านซ้ายเป็นคำว่า "ซิ่ว" หรืออายุยืน เมื่อประตูเปิดออกจะมองเห็นตัวอักษรสลับซ้ายขวาเหมือนมองในกระจก
หน้าทางเข้ามีธูปสีแดงมัดตามจำนวนกระถางธูปที่ต้องปัก
เมื่อถอดรองเท้าข้ามธรณีประตูเข้าสู่ด้านใน
จะพบกับรูปหล่อปางประทานพรของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แบบเดียวกับหน้าทางเข้า
ทางด้านขวามือ มีพระบรมสาทิสลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ด้านหน้าเข้าใจว่าเป็นแท่นบรรทมจำลองแกะสลักจากไม้
[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ พิธีกวนข้าวทิพย์วัดโบสถ์ หลวงปู่เทียน
เป็นตอนแรกของหนึ่งในสามบทความ ของานจุลกฐิน 3 วัด และกฐินสามัคคีตกค้าง 68 วัด
ที่วัดป่าอาสภาวาส จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 25-27/11/2023 ประกอบด้วย
1 เที่ยวไปกินไป by laser @ พิธีกวนข้าวทิพย์วัดโบสถ์หลวงปู่เทียน
2 เที่ยวไปกินไป by laser @ พิธีปลูกต้นกล้าฝ้าย จุลกฐิน ขอนแก่น
และ 3 เที่ยวไปกินไป by laser @ จุลกฐิน และกฐินสามัคคีตกค้าง ขอนแก่น
โดยหยิบตอนที่สองมาเขียนถึงก่อนตอนที่ 1
"เที่ยวไปกินไป by laser @ พิธีปลูกต้นกล้าฝ้าย จุลกฐิน ขอนแก่น"
https://pantip.com/topic/42315065
เนื่องจาก "เที่ยวไปกินไป by laser @ พิธีกวนข้าวทิพย์วัดโบสถ์ หลวงปู่เทียน"
มีภาพและรายละเอียดมาก แม้ว่าในงานจุลกฐินจะมีการกวนข้าวทิพย์ แต่กวนเพียงสองกระทะ
ต่างจากที่วัดโบสถ์ ที่แม้จะทำโดยเจ้าพิธีชุดเดียวกัน แต่มีการกวนถึง 21 กระทะ และใช้เวลาถึงสามวันหนึ่งคืน
แบ่งเป็นการก่อเตาหนึ่งวัน และพิธีกวนข้าวทิพย์อีกสองวันหนึ่งคืน เป็นการกวนข้าวทิพย์เพื่อแจก
ในวันระลึกครบรอบวันมรณะภาพ ของหลวงปู่เทียน อดีตเจ้าอาวาสวัดโบสถ์
ที่ปีนี้ครบรอบ 57 ปี ตรงกับวันอังคารที่ 18 กค.ซึ่งทางวัดจัดเป็นงานประจำปีทุกปี
วันอาทิตย์ที่ 9-7-23 14.30 น. เดินทางไปที่วัดโบสถ์ หลวงปู่เทียน ถนนบ้านกลาง
อำเภอเมืองปทุมธานี ติดกับกับวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ปทุมธานีมีวัดโบสถ์สองแห่ง
อีกแห่งอยู่ที่อำเภอสามโคก เวลาเรียกรถมาที่วัดนี้ จึงต้องเน้นว่าหลวงปู่เทียน ข้างเทคนิคปทุม
วัดโบสถ์ เดิมชื่อ วัดสร้อยนางหงษ์ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา
ในหมู่ที่ 5 บ้านกลาง ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
สร้างเมื่อ พ.ศ. 2164 โดยชาวมอญที่อพยพมามาจากเมืองหงสาวดี และเอาชื่อหมู่บ้านที่ตนอพยพมาอาศัยอยู่
ตั้งเป็นชื่อวัด และได้สร้างเสาหงส์ขึ้นไว้เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองหงสาวดี
วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ. 2167
หลังซุ้มประตูทางเข้าวัด ทางซ้ายมือ คือ ห้องประชุมท่านเจ้าคุณ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาคารท่านเจ้าคุณ
ลานหน้าห้องประชุมติดกับถนนหลักของวัดกางเต็นท์ขาว จะใช้เป็นที่ก่อเตาและทำพิธีกวนข้าวทิพย์
ระหว่างรอคณะผู้ก่อเตาเดินทางมาถึง เดินชมส่วนอื่น ๆ ของวัด
จุดแรกที่แวะชม คือ วิหารชั่วคราวหลวงพ่อสมปรารถนา ระหว่างที่หลังจริงด้านหลังอยู้ระหว่างการบูรณะ
ถอดรองเท้าหน้าทางเข้า
ภายในประดิษฐานพระพุทธมหาจักรพรรดิ หรือหลวงพ่อสมปรารถนา
พระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่องกษัตริย์แบบรามัญ อายุกว่า 400 ปี
มีลักษณะเฉพาะคือพระพักตร์ยาวใหญ่ พระขนงโก่ง พระเนตรเหลือบลงต่ำ
พระนาสิกโด่ง และพระโอษฐ์กว้างแย้มพระโอษฐ์เล็กน้อย ทำให้เกิดความรู้สึกสงบแต่มีอำนาจ
การอธิษฐานสามารถขอพรได้เพียงหนึ่งข้อ
อธิษฐานเสร็จแล้ว ให้ดึงเชือกสั่นระฆังเบา ๆ หนึ่งครั้งเพื่อส่งคำอธิษฐาน
อาคารสีแดงทางด้านขวามือติดกับวิหารชั่วคราวหลวงพ่อสมปรารถนา
คือ มหาศาลาสมเด็จกระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งสามารถเดินเข้าจากทางด้านวิหารชั่วคราว
ทางด้านขวามือของทางเข้า มีรูปหล่อปางประทานพรของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
สวมพระมาลาประทับนั่ง มีพระแสงดาบวางพาดตัก ซึ่งเชื่อว่าเป็นแห่งแรกของประเทศไทย
เชื่อกันว่าพระองค์ทรงพระราชทานที่ดินบริเวณวัดโบสถ์ ให้แก่ชาวมอญที่มาช่วยทำสงคราม
ทำให้วัดโบสถ์เป็นสถานที่สำคัญสำหรับผู้ศรัทธา นิยมมาสักการะขอพรเรื่องความสำเร็จ
การงาน และการค้าขาย มีการถวายดาบเป็นเครื่องสักการะ
บานไม้ประตูทางเข้า มีการฉลุตัวอักษรจีนสองคำ ด้านขวา คือ คำว่า "ฮก" หรือโชคลาภ
ด้านซ้ายเป็นคำว่า "ซิ่ว" หรืออายุยืน เมื่อประตูเปิดออกจะมองเห็นตัวอักษรสลับซ้ายขวาเหมือนมองในกระจก
หน้าทางเข้ามีธูปสีแดงมัดตามจำนวนกระถางธูปที่ต้องปัก
เมื่อถอดรองเท้าข้ามธรณีประตูเข้าสู่ด้านใน
จะพบกับรูปหล่อปางประทานพรของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แบบเดียวกับหน้าทางเข้า
ทางด้านขวามือ มีพระบรมสาทิสลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ด้านหน้าเข้าใจว่าเป็นแท่นบรรทมจำลองแกะสลักจากไม้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้