สวัสดีเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านทุกท่านนะจ๊ะ นี้คือ เทยแบกเป้เที่ยว จ๊ะ
วันนี้เทยจะมาแชร์การขึ้นรถไฟที่ประเทศญี่ปุ่นแบบไม่หลง แบบสามารถไปเที่ยวเองได้ด้วย Google Maps
ฝากช่องทางเพื่อใครชอบเที่ยวแบบลุยๆ หรือหรูๆ ตามเทยมาได้นะจ๊ะ
เพจ :
https://www.facebook.com/followkatoey
ช่องยูทูป :
https://www.youtube.com/channel/UCzgkLsQW7rGyZFlD38ixJUQ

ภาพที่ 1 เราเปิดใช้งาน App Google Maps ขึ้นมาก่อนเลยเนาะ แล้วก็เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไปในโตเกียวหรือที่อื่นๆที่ญี่ปุ่นที่เราจะไป หลังจากนั้นเราก็กดไปที่เดินทางโดยรถไฟ มันก็จะขึ้นเส้นทางหลากหลายมาให้เราเลือก มีบอกราคา และก็ระยะเวลาในการเดินทางให้เราด้วย
ภาพที่ 2 ดูตามภาพที่2ด้านล่างเนาะ
2.1 มันจะบอกระยะทางที่เราจะต้องเดินไปสถานีรถไฟที่เราเลือกว่าใช้เวลาเท่าไหร่ ห่างกี่เมตร เราสามารถเตะตรงวงกลมสีแดง2.1เพื่อให้เป็นGPSบอกเส้นทางเดินไปที่สถานีได้ด้วยนะ
2.2 ตามตัวอย่างตรงนี้จะเป็นสายรถไฟคือสาย Tozia Line (บ้านเราก็ประมาณสายสีลม สายสุขุมวิทอะไรแบบนี้) ตรงนี้จะแจ้งสายที่เราต้องขึ้นมันจะมีป้ายไฟแจ้งข้างๆรถไฟเวลาเรายืนรอรถไฟมาถึงก็ให้เราสังเกตุดู
2.3 ตัวนี้คือปลายสายที่รถไฟจะวิ่งไปสุดสายที่นั้น ยกตัวอย่างที่ไทยจากสยามถ้าเราจะไปสะพานควาย เราก็ขึ้นบีทีเอสที่ไปหมอชิตเพราะมันจะผ่านก่อนสุดสายที่สถานีหมอชิต ในตัวอย่างขบวนนี้จะวิ่งไปสุดสายที่สถานี Mitaka ซึ่งจะผ่านสถานีที่เราไปคือ Takebashi station ฉนั้นเราควรดูตรงป้ายโชว์ที่ชานชาลาคู่ไปด้วยว่าขบวนนี้ไปสุดสายที่ไหน
2.4 ตรงนี้สำคัญค่ะเวลาที่ขบวนรถจะมาจอดที่ชานชาลา ที่ญี่ปุ่นรถไฟตรงเวลามากฉนั้นดูเวลาตรงนี้ก็ได้ ตามตัวอย่างคือ 11:58 ขบวนที่เรารอจะมาถึงเวลานี้พอถึงเวลามีรถไฟมาจอดก็ขึ้นได้เลย
2.5 ตรงช่องสีเหลี่ยมจะแจ้งว่าอีกกี่นาทีรถไฟจะมาถึง แล้วรถไฟที่เราจะขึ้นนี้อยู่ชานชาลาหมายเลขอะไรอันนี้สำคัญมากต้องไปรอขึ้นให้ตรงกับชานชาลาที่รถไฟที่เราจะขึ้นจอด ตามตัวอย่างรถไฟจะมาถึงอีก 4 นาทีชานชาลาหมายเลข 4
2.6 เราสามารถคลิ๊กเข้าไปดูได้ว่าสถานีที่เราผ่านมีสถานีอะไรบ้าง และบอกเราด้วยว่ากี่สถานีจะถึงจุดหมายที่เราจะไป
2.7 ตรงนี้เมื่อเราถึงสถานีแล้วมันจะบอกทางออกที่เราจะไปสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆที่เราเลือกไว้หรือสถานีรถไฟที่เราจะไปต่อขบวนอื่นๆด้วย
ภาพที่ 3
3.1 เราสามารถตรวจสอบได้ว่าขบวนรถไฟที่เรารอมีกี่ขบวนที่กำลังมา และบอกเราด้วยว่ากี่นาทีแต่ละขบวนจะมาถึง
3.2 ตามที่ได้บอกไปในหัวข้อที่ 2.6 เราสามารถกดเข้าไปดูได้ด้วยว่าสถานีที่เราผ่านมีกี่สถานีและมีสถานีอะไรบ้าง
ภาพที่ 4 จากหัวข้อที่3.1เมื่อเรากดเข้าไปดูว่าขบวนรถที่เราจะขึ้นมีกี่ขบวนที่กำลังมากี่นาทีจะถึงสถานี
ภาพที่ 5 จะยกตัวอย่างการซื้อตั๋วอยากเครื่องขายตั๋วของรถไฟ JR รถไฟธรรมดาหรือใต้ดินก็คล้ายๆกัน บางสถานีมีภาษาไทยให้ด้วย บางสถานีก็มีแต่ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษและรอบนอกบางที่ก็ภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว ก่อนอื่นเลือกภาษาแล้วก็เลือกวิธีจ่ายตั๋ว
ภาพที่ 6 ส่วนตัวเลือกค้นหาสถานีที่เราจะไปจะง่ายสุดส่วนใครรู้ราคาก็กดเลือกราคาได้เลย
ภาพที่ 7 มันจะขึ้นแป้นพิมพ์ให้เราพิมพ์ชื่อสถานีรถไฟที่เราจะไปจ๊ะ
ภาพที่ 8 พอค้นหาสถานีที่เราจะไปเจอแล้วกดที่สนาทีนั้นแล้วตู้จะแจ้งราคาตั๋วให้เรายอดเหรียญหรือใส่ธนบัตรในตู้ได้เลย ตามนี้เราก็จะได้ตั๋วรถไฟเป็นที่เรียบร้อย

เพิ่มเติม
- ถ้าบางสถานีไม่มีทั้งภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยและก็ดูแผนที่ตรงข้างบนตู้ขายตั๋วรถไฟยากเพราะเยอะสายมาก เทยก็เดินไปที่เค้าเตอร์สอบถามพนักงานเลยง่ายและเร็วกว่าเราไปยืนงงหา ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษพอได้เขาก็จะตรวจสอบในคอมให้เราแล้วแจ้งราคาว่าตั๋วราคาเท่าไหร่ เราก็ไปที่ตู้แล้วก็กดราคาได้เลยตามที่เจ้าหน้าที่บอกเรา
เทยแบกเป้เที่ยว หวังว่านี้จะเป็นประโยชน์แกเพื่อนๆที่ตั้งใจจะเดินทางเที่ยวเองที่ญี่ปุ่น ไม่อยากเหมือนที่คิดพอผ่านไปสักสองสามสถานีที่เราซื้อตั๋วขึ้นเองหลังจากนั้นไปไหนก็สนุกก็รู้หมดไม่หลงเดินตามที่ Google Maps ที่เทยสอนไป ไปเที่ยวมาแล้ว 11 วันโตเกียว ฟูจิ ไม่เคยหลงสักวันเลยเธอมันใช้ได้จริงๆเลยเอามาแชร์แบ่งปั่น
สุดท้ายก็ขอให้ทุกคนเที่ยวกันแบบสนุกสนานนะค่ะ มีอะไรดีๆก็มาแชร์แบ่งปั่นเพื่อนๆด้วยนะ ใครอยากไปดูรีวิวทริปยุโรป เดินป่า ปีนเขา ที่อื่นๆของเราก็ไปติดตามได้ในเพจ เทยแบกเป้เที่ยว ได้นะเราจะรีวิวข้อมูลการเที่ยวไว้ที่เพจ และก็ทำคลิปวีดีโอที่เที่ยวมาในช่องทางยูทูป เทย แบกเป้เที่ยว ไว้มีอะไรดีๆหรือทริปเลิศๆจะเอามาแบ่งปั่นให้ชมนะค่ะ บายยยยยย
ชื่อสินค้า: เที่ยวญี่ปุนด้วยตนเอง (Tokyo, Odaiba, Shibuya (ชิบูย่า), Kawaguchiko (Fuji) คาวากูจิโกะ, Zōjōji Temple, Tokyo Tower, Azuma Bridge, Asakusa Shrine, Ueno Park ) (6 วัน, 5 คืน, 9 เมือง) Osaka > Kobe > Kyoto > Nagoya > Takayama > Shirakawa-go > Tokyo > Fuji > Fujikawaguchiko
คะแนน:
[SR] รีวิวการขึ้นรถไฟที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย Google Maps แบบไม่หลงทาง
วันนี้เทยจะมาแชร์การขึ้นรถไฟที่ประเทศญี่ปุ่นแบบไม่หลง แบบสามารถไปเที่ยวเองได้ด้วย Google Maps
ฝากช่องทางเพื่อใครชอบเที่ยวแบบลุยๆ หรือหรูๆ ตามเทยมาได้นะจ๊ะ
เพจ : https://www.facebook.com/followkatoey
ช่องยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCzgkLsQW7rGyZFlD38ixJUQ
ภาพที่ 1 เราเปิดใช้งาน App Google Maps ขึ้นมาก่อนเลยเนาะ แล้วก็เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไปในโตเกียวหรือที่อื่นๆที่ญี่ปุ่นที่เราจะไป หลังจากนั้นเราก็กดไปที่เดินทางโดยรถไฟ มันก็จะขึ้นเส้นทางหลากหลายมาให้เราเลือก มีบอกราคา และก็ระยะเวลาในการเดินทางให้เราด้วย
ภาพที่ 2 ดูตามภาพที่2ด้านล่างเนาะ
2.1 มันจะบอกระยะทางที่เราจะต้องเดินไปสถานีรถไฟที่เราเลือกว่าใช้เวลาเท่าไหร่ ห่างกี่เมตร เราสามารถเตะตรงวงกลมสีแดง2.1เพื่อให้เป็นGPSบอกเส้นทางเดินไปที่สถานีได้ด้วยนะ
2.2 ตามตัวอย่างตรงนี้จะเป็นสายรถไฟคือสาย Tozia Line (บ้านเราก็ประมาณสายสีลม สายสุขุมวิทอะไรแบบนี้) ตรงนี้จะแจ้งสายที่เราต้องขึ้นมันจะมีป้ายไฟแจ้งข้างๆรถไฟเวลาเรายืนรอรถไฟมาถึงก็ให้เราสังเกตุดู
2.3 ตัวนี้คือปลายสายที่รถไฟจะวิ่งไปสุดสายที่นั้น ยกตัวอย่างที่ไทยจากสยามถ้าเราจะไปสะพานควาย เราก็ขึ้นบีทีเอสที่ไปหมอชิตเพราะมันจะผ่านก่อนสุดสายที่สถานีหมอชิต ในตัวอย่างขบวนนี้จะวิ่งไปสุดสายที่สถานี Mitaka ซึ่งจะผ่านสถานีที่เราไปคือ Takebashi station ฉนั้นเราควรดูตรงป้ายโชว์ที่ชานชาลาคู่ไปด้วยว่าขบวนนี้ไปสุดสายที่ไหน
2.4 ตรงนี้สำคัญค่ะเวลาที่ขบวนรถจะมาจอดที่ชานชาลา ที่ญี่ปุ่นรถไฟตรงเวลามากฉนั้นดูเวลาตรงนี้ก็ได้ ตามตัวอย่างคือ 11:58 ขบวนที่เรารอจะมาถึงเวลานี้พอถึงเวลามีรถไฟมาจอดก็ขึ้นได้เลย
2.5 ตรงช่องสีเหลี่ยมจะแจ้งว่าอีกกี่นาทีรถไฟจะมาถึง แล้วรถไฟที่เราจะขึ้นนี้อยู่ชานชาลาหมายเลขอะไรอันนี้สำคัญมากต้องไปรอขึ้นให้ตรงกับชานชาลาที่รถไฟที่เราจะขึ้นจอด ตามตัวอย่างรถไฟจะมาถึงอีก 4 นาทีชานชาลาหมายเลข 4
2.6 เราสามารถคลิ๊กเข้าไปดูได้ว่าสถานีที่เราผ่านมีสถานีอะไรบ้าง และบอกเราด้วยว่ากี่สถานีจะถึงจุดหมายที่เราจะไป
2.7 ตรงนี้เมื่อเราถึงสถานีแล้วมันจะบอกทางออกที่เราจะไปสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆที่เราเลือกไว้หรือสถานีรถไฟที่เราจะไปต่อขบวนอื่นๆด้วย
ภาพที่ 3
3.1 เราสามารถตรวจสอบได้ว่าขบวนรถไฟที่เรารอมีกี่ขบวนที่กำลังมา และบอกเราด้วยว่ากี่นาทีแต่ละขบวนจะมาถึง
3.2 ตามที่ได้บอกไปในหัวข้อที่ 2.6 เราสามารถกดเข้าไปดูได้ด้วยว่าสถานีที่เราผ่านมีกี่สถานีและมีสถานีอะไรบ้าง
ภาพที่ 4 จากหัวข้อที่3.1เมื่อเรากดเข้าไปดูว่าขบวนรถที่เราจะขึ้นมีกี่ขบวนที่กำลังมากี่นาทีจะถึงสถานี
ภาพที่ 5 จะยกตัวอย่างการซื้อตั๋วอยากเครื่องขายตั๋วของรถไฟ JR รถไฟธรรมดาหรือใต้ดินก็คล้ายๆกัน บางสถานีมีภาษาไทยให้ด้วย บางสถานีก็มีแต่ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษและรอบนอกบางที่ก็ภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว ก่อนอื่นเลือกภาษาแล้วก็เลือกวิธีจ่ายตั๋ว
ภาพที่ 6 ส่วนตัวเลือกค้นหาสถานีที่เราจะไปจะง่ายสุดส่วนใครรู้ราคาก็กดเลือกราคาได้เลย
ภาพที่ 7 มันจะขึ้นแป้นพิมพ์ให้เราพิมพ์ชื่อสถานีรถไฟที่เราจะไปจ๊ะ
ภาพที่ 8 พอค้นหาสถานีที่เราจะไปเจอแล้วกดที่สนาทีนั้นแล้วตู้จะแจ้งราคาตั๋วให้เรายอดเหรียญหรือใส่ธนบัตรในตู้ได้เลย ตามนี้เราก็จะได้ตั๋วรถไฟเป็นที่เรียบร้อย
เพิ่มเติม
- ถ้าบางสถานีไม่มีทั้งภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยและก็ดูแผนที่ตรงข้างบนตู้ขายตั๋วรถไฟยากเพราะเยอะสายมาก เทยก็เดินไปที่เค้าเตอร์สอบถามพนักงานเลยง่ายและเร็วกว่าเราไปยืนงงหา ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษพอได้เขาก็จะตรวจสอบในคอมให้เราแล้วแจ้งราคาว่าตั๋วราคาเท่าไหร่ เราก็ไปที่ตู้แล้วก็กดราคาได้เลยตามที่เจ้าหน้าที่บอกเรา
เทยแบกเป้เที่ยว หวังว่านี้จะเป็นประโยชน์แกเพื่อนๆที่ตั้งใจจะเดินทางเที่ยวเองที่ญี่ปุ่น ไม่อยากเหมือนที่คิดพอผ่านไปสักสองสามสถานีที่เราซื้อตั๋วขึ้นเองหลังจากนั้นไปไหนก็สนุกก็รู้หมดไม่หลงเดินตามที่ Google Maps ที่เทยสอนไป ไปเที่ยวมาแล้ว 11 วันโตเกียว ฟูจิ ไม่เคยหลงสักวันเลยเธอมันใช้ได้จริงๆเลยเอามาแชร์แบ่งปั่น
สุดท้ายก็ขอให้ทุกคนเที่ยวกันแบบสนุกสนานนะค่ะ มีอะไรดีๆก็มาแชร์แบ่งปั่นเพื่อนๆด้วยนะ ใครอยากไปดูรีวิวทริปยุโรป เดินป่า ปีนเขา ที่อื่นๆของเราก็ไปติดตามได้ในเพจ เทยแบกเป้เที่ยว ได้นะเราจะรีวิวข้อมูลการเที่ยวไว้ที่เพจ และก็ทำคลิปวีดีโอที่เที่ยวมาในช่องทางยูทูป เทย แบกเป้เที่ยว ไว้มีอะไรดีๆหรือทริปเลิศๆจะเอามาแบ่งปั่นให้ชมนะค่ะ บายยยยยย
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้