เทศกาลฮาโลวีน หรือวันฮาโลวีน เป็นวันหยุดประจำปีซึ่งฉลองในวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี วันนี้มีต้นกำเนิดมาจากเทศกาลของเซลติคที่ชื่อว่า Samhain และวันศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสเตียนในการระลึกถึงนักบุญออนเซ็นต์ กิจกรรมในวันนี้ ทุกคนก็จะตกแต่งสถานที่ให้เป็นสีส้มและสีดำ ซึ่งเป็นสีประจำวันฮาโลวีน
มีความเชื่อว่าประเทศไอร์แลนด์เป็นต้นกำเนิดของวันฮาโลวีน
เทศกาลที่เป็นต้นกำเนิดของฮัลโลวีนก็คือ เทศกาลของชาวเซลติคโบราณที่เรียกว่า Samhain ที่ได้จัดขึ้นเมื่อ 2,000 ปีก่อนใน County Meath ชาวเซลติคเชื่อว่าวันนี้เป็นวันที่คนตายและคนเป็นถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน จิตวิญญาณของคนตายจะย้ายร่าง หาที่สิงสู่
ผู้คนจึงแก้ไขด้วยการปิดไฟในบ้านทุกดวง และแต่งตัวเป็นผีเพื่อกลบเกลื่อน แต่ปัจจุบันการจัดงานวันฮัลโลวีนนั้นเปลี่ยนไปมาก มีงานเฉลิมฉลองด้วยแท่งไฟมากมาย และประดับประดาตกแต่งสถานที่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
เดิม Jack-o’-Lanterns ทำมาจากหัวผักกาด และหัวบีตรูต
Jack-o’-Lanterns เมื่อก่อนถูกเรียกว่า Jack of the Lantern มีต้นกำเนิดมาจากเรื่องเล่าของชาวอังกฤษในสมัยก่อนเกี่ยวกับชายที่มีชื่อว่า Stingy Jack
โดยตามตำนานจะใช้หัวผักกาด หรือหัวบีทรูตในการแกะสลักเป็นตะเกียง แต่ชาวอเมริกันได้เปลี่ยนมาใช้หัวฟักทองแบบที่เราคุ้นตาในปัจจุบัน
การเล่น “Trick or Treat” ถูกระงับในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
การเล่น “Trick or Treat” เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 แต่ถูกระงับในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องมาจากอเมริกาต้องประหยัดจำนวนการใช้น้ำตาล เพราะกำลังสู้รบในสงครามใหญ่จึงต้องหาวิธีประหยัดทุกทาง
เกม Apple Bobbing มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ
การเล่นเกม Apple Bobbing ผู้เล่นต้องพยายามคาบผลแอปเปิ้ลที่ลอยอยู่ในถังออกมาให้ได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับการทำนายเนื้อคู่
โดยการปอกเปลือกแอปเปิ้ลซึ่งต้องปอกให้เป็นเส้นยาวโดยไม่ขาดออกจากกัน แล้วโยนเปลือกนั้นข้ามไหล่ไป เปลือกแอปเปิลนั้นก็จะปรากฎเป็นตัวอักษรนำหน้าชื่อเนื้อคู่ของคุณ
นกฮูกเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงวันฮาโลวีน
ในช่วงยุคกลางของยุโรปมีความเชื่อว่านกฮูกก็คือแม่มดที่แปลงกายมา และเมื่อไหร่ก็ตามที่นกฮูกร้อง เป็นสัญญาณว่ากำลังจะมีคนตาย
วันฮาโลวีนเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับชาวคริสต์
คำว่า Halloween เป็นคำภาษาอังกฤษที่เพี้ยนมาจากคำว่า All Hallow’s Evening ซึ่งแปลว่า วันก่อนวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย ช่วงเวลาของวันฮัลโลวีนจะมีระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมถึง 2 พฤศจิกายน ช่วงเวลานี้ชาวคริสต์ทุกคนจะระลึกถึงความตาย รวมทั้งผู้เสียสละและนักบุญทุกท่าน
มีวิธีเห็นแม่มดตัวจริงได้ โดยต้องทำพิธีตอนเที่ยงคืน
มีความเชื่อว่าถ้าอยากเจอแม่มดตัวเป็นๆ ให้ใส่เสื้อผ้ากลับด้าน จากนั้นก็เดินถอยหลังในวันฮัลโลวีน แล้วแม่มดจะมาปรากฎตัวให้เห็นในเวลาเที่ยงคืน
ผีปีศาจใน Halloween มีตัวอะไรบ้าง
Jack-o’-Lanterns
คือชื่อของฝักทองที่นำมาแกะสลักเป็นหน้าตาต่างๆ ซึ่งเราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ในวัน Halloween ในสมัยก่อนจะทำมาจากหัวผักกาด และหัวบีตรูต ไม่ใช่ฟักทองแบบในปัจจุบัน ที่มาของชื่อของฝักทองนี้ มาจากชายคือ Jack ที่อาจหาญต่อสู้กับซาตาน
แม่มด
แม่มด คือหญิงแต่งกายด้วยชุดดำ มีความน่ากลัวแผ่ออกมาจากร่างกาย สามารถใช้เวทย์มนตร์คาถา ขี่ไม้กวาดเหาะไปเหาะมาได้ โดยแม่มดดำ คือ พวกบูชาซาตาน ใช้เวทย์มนตร์โดยอาศัยพลังจากภูตร้ายวิญญาณชั่ว การจะเป็นแม่มดดำที่เก่งฉกาจได้ ต้องอุทิศตัวให้กับซาตานเสียก่อน กลุ่มแม่มดจะมาพบปะกันเดือนละครั้งในคืนวันเพ็ญ และรวมตัวในวันสำคัญปีละ 4 ครั้ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือวัน Halloween นั่นเอง
แมวดำ
การเชื่อมโยงระหว่างแมวดำ , แม่มด ,ความชั่วร้าย ในยุโรปยุคกลางมีความเชื่อกันว่า ปีศาจสามารถสิงสู่ในแมวดำได้ บ่อยครั้งที่แม่มดจะมีแมวดำเป็นสหาย เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยของแม่มดดำนั่นเอง
โครงกระดูก
โครงกระดูกในเทศกาล Halloween มีต้นกำเนิดมาจากเทศกาลโบราณ Samhain เพื่อเป็นการฉลองให้กับความตาย อันเป็นวันสิ้นสุดของฤดูใบไม้ร่วง พร้อมย่างกลายเข้าฤดูหนาวอันมืดมิด ในคืนนี้จะเป็นคืนเชื่อมระหว่างโลกความเป็นกับความตาย คนตายจะกลายเป็นผีและลุกขึ้นมาเดินแบบคนมีชีวิตได้ ส่วนโครงกระดูกคือสัญลักษณ์ตัวแทนของคนที่ตายไปแล้วนั่นเอง
Cr. ข้อมูล
https://www.scholarship.in.th/12-things-you-may-not-know-about-halloween/
Cr.ข้อมูล
https://www.reversetrickortreating.org
ตำนานสยองขวัญแห่งวันฮัลโลวีน
ฮัลโลวีน หรือวันปล่อยผี คืออีกหนึ่งวันสำคัญของชาวตะวันตก ที่จะจัดขึ้นทุกวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี
โดยตำนานเล่าขานต่อกันมาว่าเริ่มต้นมาจากชนเผ่าพื้นเมืองของประเทศไอร์แลนด์ ที่เชื่อว่าวันที่ 31 ตุลาคม เป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน และวันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ของพวกเขา และพวกเขาเชื่อว่าระหว่างสองวันนี้เองที่มิติของคนตายกับคนเป็นจะเปิดและสามารถเชื่อมโยงเข้าหากันได้ เหล่าสัมภเวสีทั้งก็จะออกมาหาความสำราญโดยการสิงร่างของคนเป็นเพื่อจะได้มีชีวิตไปสนุกสนานอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้น พวกเขาจึงมีต้องแต่งกายให้เหมือนผีมันเสียเลย เพื่อที่ผีเหล่านั้นจะได้คิดว่าพวกเขาก็เป็นผีเหมือนกับตนและจะได้ไม่ต้องมาสิงร่าง นอกจากนั้นยังไม่การปิดไฟและดับเตาผิงในบ้านให้มืดและเย็นยะเยือก เพื่อทำให้บ้านไม่น่าอยู่ เหล่าผีร้ายจะได้ไม่ต้องอยากมาอาศัยด้วย และความเชื่อกระทั่งว่าต้องเผาคนที่มีอาการแปลก ๆ คล้าย ๆ ถูกผีสิงเพื่อทำให้เหล่าผีทั้งหลายกลัวและไม่กล้ามาสิงคนเพราะกลัวจะถูกเผาเช่นกัน แต่ประเพณีนี้ได้ถูกคัดค้านในภายหลังว่าเป็นการทารุณเหี้ยมโหดเกินจึงได้ยกเลิกไป
จากนั้นมาความกลัวเรื่องผีก็ได้ลดน้อยถอยลง มีชาวไอแลนด์บางส่วนได้อพยพมาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและได้นำประเพณีวันฮาโลวีนนี้มาด้วยในราวปี 1840 โดยพวกเขาได้เปลี่ยนวันจัดพิธีเป็นวันที่ 2 พฤศจิกายน และประเพณีทั้งหลายก็ดูซอฟท์ลงไปด้วย ยังมีการแต่งกายเป็นผีอยู่เช่นเคยแต่จากที่เคยหวาดกลัวก็กลับกลายเป็นสนุกสนาน นอกจากนั้นยังมีการเดินเคาะประตูเพื่อขอขนมสำหรับวิญญาณต่าง ๆ โดยมีความเชื่อว่า ยิ่งบ้านใดให้ขนมมากเท่าใดเหล่าวิญญาณที่เป็นญาติของผู้ให้ก็จะยิ่งได้รับส่วนบุญเหล่านั้นมากขึ้นและจะมีโอกาสขึ้นสวรรค์เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ประเพณีที่มีเพิ่มขึ้นที่เราเห็นนั้นคือการแกะสลักฟักทองเป็นรูปหน้าผีและจุดเทียนไว้ด้านใน ตำนานเล่าว่ามีนักมายากลชื่อแจ็ค เขาได้หลอกผีตนหนึ่งให้ขึ้นไปอยู่บนต้นไม้แล้วเขาก็เขียนกากบาทไว้ที่โคนทำให้ผีนั้นลงมาจากต้นไม้ไม่ได้ ผีขอร้องแจ็คให้ปล่อยมันไป แจ็คจึงยอมปล่อยโดยทำสัญญากันว่าห้ามผีมาหลอกและนำสิ่งไม่ดีใด ๆ มาหลอกตัวเขา ผีตนนั้นก็ตกลง
เวลานานมาแจ็คได้เสียชีวิตเขาไม่ยอมขึ้นสวรรค์และลงนรก โดยประสงค์จะมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ในฐานะวิญญาณไปเรื่อย ๆ ผีตนนั้นจึงได้นำถ่านจุดไฟมาให้เขาเพื่อให้ความอบอุ่น แจ็คจึงนำหัวผักกาดเทอนิพมาเจาะแล้วนำถ่านใส่เข้าไปในนั้นและถือไปถือมาเพื่อให้ความอบอุ่นและเป็นแสงสว่างส่องนำทางให้กับเขา
จากตำนานนี้ทำให้ชาวไอแลนด์เชื่อว่าการจุดไฟไว้ในหัวผักกาดและตั้งหน้าบ้านจะเป็นสัญลักษณ์ของการหยุดยั้งความชั่ว หรือ Trick or Treat อีกทั้งเป็นการส่องแสงนำทางส่งผลบุญให้กับญาติพี่น้องผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว หลังจากนั้นหัวผักกาดเทอนิพหายากเหลือเกินจึงมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทนเพราะหาง่ายและสะดวกในการเจาะแกะสลัก จึงมีการเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทนมาจนถึงบัดนี้
ที่มาhttp://variety.thaiza.com
Cr.
https://www.reversetrickortreating.org/
เรื่องสยอง วันฮาโลวีน..
(Cr.
https://th-th.facebook.com/sayongsongbuntud)
หนังสยองขวัญ ที่ต้องดูในวันฮาโลวีน
Halloween (2018)
กลับมาฉายอีกครั้งกับตำนานหนังสยองขวัญ “Halloween (2018)” หรือเรียกกันว่าฮาโลวีน ถ้าย้อนไปตั้งแต่ภาคแรกในปี 1978 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของฆาตรกรใส่หน้ากากชื่อดัง “ไมเคิล ไมเยอร์ส” ด้วยความน่ากลัวของมันจึงทำให้ Halloween สร้างมาหลายภาค แล้วก็กลับมาฉายภาคล่าสุดที่ 11 เป็นเวอร์ชั่นที่สนุกสุดเลยก็ว่าได้ครับ เริ่มเข้าสู่ช่วงวันฮาโลวีนที่ผ่านไป 40 ปีของหนัง จากฆาตรสุดโหดไมเคิล ไมเออร์ถูกคุมขังอย่างเงียบ ๆ แล้วหลุดรอดออกมาได้ระหว่างขนย้ายเรือนจำ นั่นก็กลายเป็นอิสรภาพของเขาทันที จึงทำให้คู่แค้นในอดีตอย่าง “ลอรี่ สโตรด” ต้องกลับมารับมือฆาตรโรคจิตนี้อีกครั้ง เพื่อปกป้องตัวเองและคนในครอบครัว ถึงแม้จะไม่มีใครเห็นด้วยกับการกระทำของ ลอรี่ สโตรด สักเท่าไหร่ แต่เธอก็เป็นหญิงแกร่งที่มีไหวพริบดีเลยล่ะ แต่ด้วยความยากของมันก็คือ ฆาตรกรฆ่าแล้วไม่ตาย พร้อมถือมีดไล่ฆ่าผู้คนได้ตลอดเวลา ช่างเหมาะสมกับหนังฮาโลวีนจริง ๆ
The Strangers : Prey at Night
“The Strangers: Prey at Night” คนแปลกหน้า ขอฆ่าหน่อยสิ! ถือว่าเป็นหนังสยองขวัญต่อจากภาคแรกที่ห่างหายมานาน 10 ปี แต่ก็ยังคงรักษาความน่ากลัวต่อเนื่อง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวหนึ่งที่เดินทางมายังบ้านพักเล็กๆ ที่เงียบสงบ เพื่อหวังมาพักผ่อนกัน แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมี 3 ฆาตรกรโรคจิตแฝงตัวภายใต้หน้ากากขึ้นมา เรียกได้ว่า ต้องอาศัยความกล้าตลอดทั้งเรื่อง โดยเปิดฉากเป็นคนเคาะประตูบ้าน แล้วถามด้วยคำพูดเยือกเย็นที่ว่า “ทามาร่าอยู่ไหม?” ทำเอาคนในบ้านสงสัยกันเลยครับ หลังจากนั้นฆาตรกรก็เริ่มปรากฎตัวให้เห็น ไม่ว่าตัวละครจะหนีไปที่ไหน มันก็จะติดตามไปทุกแห่ง ทุกหน!! ซึ่งพวกเขาจะต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากฝันร้ายในครั้งนี้
Cr.
https://www.frank.co.th/blog
ความลับและความเชื่อเกี่ยวกับ “วันฮาโลวีน”
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะมีความเชื่อว่าประเทศไอร์แลนด์เป็นต้นกำเนิดของวันฮาโลวีน
ผู้คนจึงแก้ไขด้วยการปิดไฟในบ้านทุกดวง และแต่งตัวเป็นผีเพื่อกลบเกลื่อน แต่ปัจจุบันการจัดงานวันฮัลโลวีนนั้นเปลี่ยนไปมาก มีงานเฉลิมฉลองด้วยแท่งไฟมากมาย และประดับประดาตกแต่งสถานที่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
เดิม Jack-o’-Lanterns ทำมาจากหัวผักกาด และหัวบีตรูต
โดยตามตำนานจะใช้หัวผักกาด หรือหัวบีทรูตในการแกะสลักเป็นตะเกียง แต่ชาวอเมริกันได้เปลี่ยนมาใช้หัวฟักทองแบบที่เราคุ้นตาในปัจจุบัน
การเล่น “Trick or Treat” ถูกระงับในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เกม Apple Bobbing มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ
โดยการปอกเปลือกแอปเปิ้ลซึ่งต้องปอกให้เป็นเส้นยาวโดยไม่ขาดออกจากกัน แล้วโยนเปลือกนั้นข้ามไหล่ไป เปลือกแอปเปิลนั้นก็จะปรากฎเป็นตัวอักษรนำหน้าชื่อเนื้อคู่ของคุณ
นกฮูกเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงวันฮาโลวีน
วันฮาโลวีนเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับชาวคริสต์
มีวิธีเห็นแม่มดตัวจริงได้ โดยต้องทำพิธีตอนเที่ยงคืน
ผีปีศาจใน Halloween มีตัวอะไรบ้าง
คือชื่อของฝักทองที่นำมาแกะสลักเป็นหน้าตาต่างๆ ซึ่งเราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ในวัน Halloween ในสมัยก่อนจะทำมาจากหัวผักกาด และหัวบีตรูต ไม่ใช่ฟักทองแบบในปัจจุบัน ที่มาของชื่อของฝักทองนี้ มาจากชายคือ Jack ที่อาจหาญต่อสู้กับซาตาน
แม่มด
แม่มด คือหญิงแต่งกายด้วยชุดดำ มีความน่ากลัวแผ่ออกมาจากร่างกาย สามารถใช้เวทย์มนตร์คาถา ขี่ไม้กวาดเหาะไปเหาะมาได้ โดยแม่มดดำ คือ พวกบูชาซาตาน ใช้เวทย์มนตร์โดยอาศัยพลังจากภูตร้ายวิญญาณชั่ว การจะเป็นแม่มดดำที่เก่งฉกาจได้ ต้องอุทิศตัวให้กับซาตานเสียก่อน กลุ่มแม่มดจะมาพบปะกันเดือนละครั้งในคืนวันเพ็ญ และรวมตัวในวันสำคัญปีละ 4 ครั้ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือวัน Halloween นั่นเอง
แมวดำ
การเชื่อมโยงระหว่างแมวดำ , แม่มด ,ความชั่วร้าย ในยุโรปยุคกลางมีความเชื่อกันว่า ปีศาจสามารถสิงสู่ในแมวดำได้ บ่อยครั้งที่แม่มดจะมีแมวดำเป็นสหาย เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยของแม่มดดำนั่นเอง
โครงกระดูก
โครงกระดูกในเทศกาล Halloween มีต้นกำเนิดมาจากเทศกาลโบราณ Samhain เพื่อเป็นการฉลองให้กับความตาย อันเป็นวันสิ้นสุดของฤดูใบไม้ร่วง พร้อมย่างกลายเข้าฤดูหนาวอันมืดมิด ในคืนนี้จะเป็นคืนเชื่อมระหว่างโลกความเป็นกับความตาย คนตายจะกลายเป็นผีและลุกขึ้นมาเดินแบบคนมีชีวิตได้ ส่วนโครงกระดูกคือสัญลักษณ์ตัวแทนของคนที่ตายไปแล้วนั่นเอง
Cr. ข้อมูล https://www.scholarship.in.th/12-things-you-may-not-know-about-halloween/
Cr.ข้อมูล https://www.reversetrickortreating.org
ตำนานสยองขวัญแห่งวันฮัลโลวีน
ฮัลโลวีน หรือวันปล่อยผี คืออีกหนึ่งวันสำคัญของชาวตะวันตก ที่จะจัดขึ้นทุกวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี
โดยตำนานเล่าขานต่อกันมาว่าเริ่มต้นมาจากชนเผ่าพื้นเมืองของประเทศไอร์แลนด์ ที่เชื่อว่าวันที่ 31 ตุลาคม เป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน และวันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ของพวกเขา และพวกเขาเชื่อว่าระหว่างสองวันนี้เองที่มิติของคนตายกับคนเป็นจะเปิดและสามารถเชื่อมโยงเข้าหากันได้ เหล่าสัมภเวสีทั้งก็จะออกมาหาความสำราญโดยการสิงร่างของคนเป็นเพื่อจะได้มีชีวิตไปสนุกสนานอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้น พวกเขาจึงมีต้องแต่งกายให้เหมือนผีมันเสียเลย เพื่อที่ผีเหล่านั้นจะได้คิดว่าพวกเขาก็เป็นผีเหมือนกับตนและจะได้ไม่ต้องมาสิงร่าง นอกจากนั้นยังไม่การปิดไฟและดับเตาผิงในบ้านให้มืดและเย็นยะเยือก เพื่อทำให้บ้านไม่น่าอยู่ เหล่าผีร้ายจะได้ไม่ต้องอยากมาอาศัยด้วย และความเชื่อกระทั่งว่าต้องเผาคนที่มีอาการแปลก ๆ คล้าย ๆ ถูกผีสิงเพื่อทำให้เหล่าผีทั้งหลายกลัวและไม่กล้ามาสิงคนเพราะกลัวจะถูกเผาเช่นกัน แต่ประเพณีนี้ได้ถูกคัดค้านในภายหลังว่าเป็นการทารุณเหี้ยมโหดเกินจึงได้ยกเลิกไป
จากนั้นมาความกลัวเรื่องผีก็ได้ลดน้อยถอยลง มีชาวไอแลนด์บางส่วนได้อพยพมาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและได้นำประเพณีวันฮาโลวีนนี้มาด้วยในราวปี 1840 โดยพวกเขาได้เปลี่ยนวันจัดพิธีเป็นวันที่ 2 พฤศจิกายน และประเพณีทั้งหลายก็ดูซอฟท์ลงไปด้วย ยังมีการแต่งกายเป็นผีอยู่เช่นเคยแต่จากที่เคยหวาดกลัวก็กลับกลายเป็นสนุกสนาน นอกจากนั้นยังมีการเดินเคาะประตูเพื่อขอขนมสำหรับวิญญาณต่าง ๆ โดยมีความเชื่อว่า ยิ่งบ้านใดให้ขนมมากเท่าใดเหล่าวิญญาณที่เป็นญาติของผู้ให้ก็จะยิ่งได้รับส่วนบุญเหล่านั้นมากขึ้นและจะมีโอกาสขึ้นสวรรค์เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ประเพณีที่มีเพิ่มขึ้นที่เราเห็นนั้นคือการแกะสลักฟักทองเป็นรูปหน้าผีและจุดเทียนไว้ด้านใน ตำนานเล่าว่ามีนักมายากลชื่อแจ็ค เขาได้หลอกผีตนหนึ่งให้ขึ้นไปอยู่บนต้นไม้แล้วเขาก็เขียนกากบาทไว้ที่โคนทำให้ผีนั้นลงมาจากต้นไม้ไม่ได้ ผีขอร้องแจ็คให้ปล่อยมันไป แจ็คจึงยอมปล่อยโดยทำสัญญากันว่าห้ามผีมาหลอกและนำสิ่งไม่ดีใด ๆ มาหลอกตัวเขา ผีตนนั้นก็ตกลง
เวลานานมาแจ็คได้เสียชีวิตเขาไม่ยอมขึ้นสวรรค์และลงนรก โดยประสงค์จะมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ในฐานะวิญญาณไปเรื่อย ๆ ผีตนนั้นจึงได้นำถ่านจุดไฟมาให้เขาเพื่อให้ความอบอุ่น แจ็คจึงนำหัวผักกาดเทอนิพมาเจาะแล้วนำถ่านใส่เข้าไปในนั้นและถือไปถือมาเพื่อให้ความอบอุ่นและเป็นแสงสว่างส่องนำทางให้กับเขา
จากตำนานนี้ทำให้ชาวไอแลนด์เชื่อว่าการจุดไฟไว้ในหัวผักกาดและตั้งหน้าบ้านจะเป็นสัญลักษณ์ของการหยุดยั้งความชั่ว หรือ Trick or Treat อีกทั้งเป็นการส่องแสงนำทางส่งผลบุญให้กับญาติพี่น้องผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว หลังจากนั้นหัวผักกาดเทอนิพหายากเหลือเกินจึงมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทนเพราะหาง่ายและสะดวกในการเจาะแกะสลัก จึงมีการเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทนมาจนถึงบัดนี้
ที่มาhttp://variety.thaiza.com
Cr.https://www.reversetrickortreating.org/
เรื่องสยอง วันฮาโลวีน..
(Cr.https://th-th.facebook.com/sayongsongbuntud)
หนังสยองขวัญ ที่ต้องดูในวันฮาโลวีน
Halloween (2018)
กลับมาฉายอีกครั้งกับตำนานหนังสยองขวัญ “Halloween (2018)” หรือเรียกกันว่าฮาโลวีน ถ้าย้อนไปตั้งแต่ภาคแรกในปี 1978 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของฆาตรกรใส่หน้ากากชื่อดัง “ไมเคิล ไมเยอร์ส” ด้วยความน่ากลัวของมันจึงทำให้ Halloween สร้างมาหลายภาค แล้วก็กลับมาฉายภาคล่าสุดที่ 11 เป็นเวอร์ชั่นที่สนุกสุดเลยก็ว่าได้ครับ เริ่มเข้าสู่ช่วงวันฮาโลวีนที่ผ่านไป 40 ปีของหนัง จากฆาตรสุดโหดไมเคิล ไมเออร์ถูกคุมขังอย่างเงียบ ๆ แล้วหลุดรอดออกมาได้ระหว่างขนย้ายเรือนจำ นั่นก็กลายเป็นอิสรภาพของเขาทันที จึงทำให้คู่แค้นในอดีตอย่าง “ลอรี่ สโตรด” ต้องกลับมารับมือฆาตรโรคจิตนี้อีกครั้ง เพื่อปกป้องตัวเองและคนในครอบครัว ถึงแม้จะไม่มีใครเห็นด้วยกับการกระทำของ ลอรี่ สโตรด สักเท่าไหร่ แต่เธอก็เป็นหญิงแกร่งที่มีไหวพริบดีเลยล่ะ แต่ด้วยความยากของมันก็คือ ฆาตรกรฆ่าแล้วไม่ตาย พร้อมถือมีดไล่ฆ่าผู้คนได้ตลอดเวลา ช่างเหมาะสมกับหนังฮาโลวีนจริง ๆ
The Strangers : Prey at Night
“The Strangers: Prey at Night” คนแปลกหน้า ขอฆ่าหน่อยสิ! ถือว่าเป็นหนังสยองขวัญต่อจากภาคแรกที่ห่างหายมานาน 10 ปี แต่ก็ยังคงรักษาความน่ากลัวต่อเนื่อง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวหนึ่งที่เดินทางมายังบ้านพักเล็กๆ ที่เงียบสงบ เพื่อหวังมาพักผ่อนกัน แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมี 3 ฆาตรกรโรคจิตแฝงตัวภายใต้หน้ากากขึ้นมา เรียกได้ว่า ต้องอาศัยความกล้าตลอดทั้งเรื่อง โดยเปิดฉากเป็นคนเคาะประตูบ้าน แล้วถามด้วยคำพูดเยือกเย็นที่ว่า “ทามาร่าอยู่ไหม?” ทำเอาคนในบ้านสงสัยกันเลยครับ หลังจากนั้นฆาตรกรก็เริ่มปรากฎตัวให้เห็น ไม่ว่าตัวละครจะหนีไปที่ไหน มันก็จะติดตามไปทุกแห่ง ทุกหน!! ซึ่งพวกเขาจะต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากฝันร้ายในครั้งนี้
Cr.https://www.frank.co.th/blog