รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 10 ทางเลือก
ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
.........................................................................................................
ห้องพักฟื้นส่วนตัวผู้ป่วย ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
บัวซอนค่อยๆลืมตาขึ้นมาทีละนิด อาการเจ็บปวดจากบาดแผลเริ่มสำแดงฤทธิ์อย่างช้าๆ มันระบมไปหมดทั้งตัวจนแทบจะขยับไม่ได้เลย โดยเฉพาะบริเวณ หน้าท้อง แขนขวาและขาซ้ายที่เข้าเฝือก
เธอเห็นผู้หญิงอายุประมาณ 32 ปี ทรงผมบ๊อบเลยใบหู โครงหน้ากลม หน้าผากโหนก คิ้วโค้งสวยได้รูป ตาตี่ชั้นเดียว แก้มยุ้ย ปากนิดจมูกหน่อย จากลักษณะการแต่งตัวดูดีมีฐานะ นั่งเฝ้าอยู่ใกล้หัวเตียง
"เจ็บมากไหมหนู? พี่ชื่อนวล ต้องขอบคุณหนูมาก ที่ช่วยชีวิตลูกชายพี่ไว้ พี่กับลูกเป็นหนี้ชีวิตหนู เนวิน... มาขอบคุณพี่เขาก่อนนะครับ" ผู้หญิงที่ชื่อ "นวล" หรือ "นวลมณี" อุ้มเด็กลูกครึ่งที่บัวซอนได้ช่วยชีวิตเอาไว้ เข้ามาหาบัวซอน
บัวซอนพยักหน้ารับคำขอบคุณ ครั้นเห็นลูกชายของนวลมณี ทำให้เธอฉุกคิดถึงลูกในท้องขึ้นมาทันใด เธอค่อยๆลากมือไปยังหน้าท้องเพื่อตรวจดูว่าเขายังอยู่กับเธอหรือไม่?
เมื่อมือของเธอสัมผัสบนหน้าท้องที่แบนเรียบเป็นหน้ากลอง ทำให้เธอรู้คำตอบอย่างชัดเจนทันที น้ำตาของแม่ผู้สูญเสีย ไหลออกมาจากสองตาจนนองเต็มหน้า แก้วตาดวงใจที่เธอได้เฝ้าทะนุถนอมมาเป็นเวลา 5เดือน บัดนี้ได้จากเธอไปแล้ว
"เสียใจด้วยนะเรื่องลูก พี่เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ดี คุณหมอบอกว่า ในวินาทีฉุกเฉินยังไงต้องช่วยชีวิตแม่ให้รอดปลอดภัยไว้ก่อน ร้องไห้ให้พอ เผื่อมันจะทำให้หนูได้ระบายความเศร้าเสียใจออกมา ดีกว่าเก็บความทุกข์เอาไว้ในใจ" นวลมณีกุมมือบัวซอนไว้เพื่อปลอบใจ เธอเห็นใจในโชคชะตาอันแสนอาภัพของหญิงสาวคนนี้
"ฟื้นแล้วหรือครับ ไม่ต้องคิดมากนะบัวซอน ผมขอเป็นกำลังใจช่วยอีกแรง" ธานีเปิดประตูเข้ามาในห้อง เขารู้สึกดีใจที่เห็นหญิงสาวฟื้นขึ้นมา หลังจากสลบไปเกือบ 2วัน
"มันช่างบังเอิญจริงเนอะ คนกันเองทั้งนั้น บ้านพี่เป็นลูกค้าประจำร้านของธานี ตอนพี่กลับไปอยู่เมืองนอก บ้านที่กรุงเทพก็ได้ธานีคอยดูแลตัดหญ้าสนามหน้าบ้าน รดน้ำต้นไม้ดอกไม้ให้ เรื่องค่ารักษาพยาบาลไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่จัดการทั้งหมดให้เอง ธานีเล่าเรื่องหนูให้พี่ฟังแล้ว ถ้าหนูหายดี และยังไม่มีที่ไป มาอยู่กับพี่ได้นะ พี่ยินดีเต็มที่ จะได้ช่วยกันดูน้องเนวิน พี่เพิ่งไล่พี่เลี้ยงออกไป โทษฐานสะเพร่าไม่ดูแลน้อง ปล่อยให้วิ่งออกมากลางถนน จนเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา" นวลมณีเสนอแนวทาง เธอรู้สึกถูกชะตากับบัวซอนอย่างมาก
ตลอดระยะเวลาเกือบ 4เดือนที่บัวซอนพักรักษาตัว นอกจากนวลมณีที่คอยดูแล ธานีก็เป็นอีกคนที่แวะเวียนมาดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำให้บัวซอนทุกวันตั้งแต่ตอนอยู่โรงพยาบาล จนกระทั่งย้ายมาพักฟื้นที่บ้านนวลมณี
เวลานี้ธานีได้ย้ายมาเช่าบ้านหลังใหม่ ซึ่งอยู่ตรงปากซอยใกล้กับบ้านนวลมณี อีกทั้งย้ายมาเปิดแผงขายอาหารตามสั่งตรงริมสะพานฟากเดียวกันอีกด้วย
การที่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกันทุกวัน ทำให้ความรู้สึกของธานีที่มีต่อบัวซอนเริ่มไต่ระดับความพิเศษขึ้นไปเรื่อยๆ โดยที่ธานีเองได้แต่เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ในใจคนเดียว เขายังไม่กล้าบอกความลับในใจแก่ฝ่ายหญิง เพราะเกรงว่าหากฝ่ายหญิงปฏิเสธ ตัวเขาเองจะเป็นฝ่ายเจ็บ
อาการป่วยทางร่างกายเริ่มหายดี ส่วนอาการป่วยทางจิตใจนั้น ก็พยายามทำใจปลงเรื่องลูกได้บ้างในระดับหนึ่งแล้ว บัวซอนจึงตัดสินใจอยู่ช่วยเลี้ยงลูกของนวลมณี หลังจากนั้นค่อยไปจัดการเรื่องค้างคาใจที่บ้านเดชศักดา
บัวซอนเข้าไปในตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญหน้าหมู่บ้าน เธอตั้งใจโทรไปหยั่งเชิงดูท่าทีฝั่งโน้น ก่อนจะตัดสินใจเข้าไปพบที่บ้านตัวต่อตัว
"สวัสดีค่ะ บ้านศรีโยธาวัฒน์" เสียงหญิงรับใช้กล่าวทักทาย
"ขอสายคุณเดชค่ะ"
"ไม่ทราบว่าจากไหนค่ะ? และมีธุระอะไร? คือคุณเดชสั่งไว้ ดิฉันต้องทำตามคำสั่ง" หญิงรับใช้ถามไถ่
"บัวซอน.. ฉันเป็นคนรักคุณเดช" บัวซอนบอกสถานะภาพตัวเองตามความจริง
"ใครโทรมา?" เฉลียวศรีวิ่งมากระชากโทรศัพท์จากมือหญิงรับใช้
"นี่มันอะไรกัน? แย่งกันรับโทรศัพท์เหมือนเด็กๆไปได้ แล้วใครโทรมา? จะรู้เรื่องไหมนั่น?" เสียงคุณหญิงทิพย์อาภาเอ็ดใส่คนรับใช้ทั้งสอง เธอเดินมาพร้อมสายนที
"เออ.. เห็นบอกว่า ชื่อบัวซอน เป็นคนรักคุณเดช" หญิงรับใช้ที่รับโทรศัพท์รีบรายงานเจ้านาย ตัดหน้าเฉลียวศรี
"เอามานี่ เดี๋ยวฉันจัดการเอง แล้วไม่ต้องไปเสนอหน้าบอกพ่อเดชละ ไม่งั้นได้เห็นดีแน่" คุณหญิงทิพย์อาภากำชับคนรับใช้ทั้งสอง
"ฮัลโหล ฉันเป็นแม่พ่อเดช หล่อนมีอะไรยะ?"
"สวัสดีค่ะ คุณแม่ ฉันเป็นคนรักคุณเดช ไม่ทราบว่าคุณเดชได้เล่าเรื่องของเราให้คุณแม่กับคุณพ่อฟังหรือยังค่ะ?" บัวซอนแนะนำตัวเอง
"อย่ามาเรียกฉันว่าแม่ ฉันไม่ใช่แม่หล่อน ถ้าพ่อเดชรักหล่อนจริง ป่านนี้เขาคงพูดให้ฉันฟังทั้งวันทั้งคืน หรือไม่ก็รีบคะยั้นคะยอให้ฉันไปเห็นหน้าเห็นตาคนที่เขารัก ขนาดชื่อหล่อนเขายังไม่เอ่ยปากออกมาเลย เพิ่งมาได้ยินก็ตอนรับโทรศัพท์นี่แหละ ฉันเลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังแบเบาะ รู้จักนิสัยเขาดี หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่โทรมาอ้างสิทธิความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ฉันเบื่อและปวดประสาทที่จะรับโทรศัพท์ผู้หญิงใจง่ายพวกนั้นเต็มทน เป็นได้แค่ดอกไม้ริมทาง ไร้คุณค่าไร้ราคา เด็ดมาดมง่ายแสนง่าย พอผู้ชายเชยชมจนเบื่อย่อมทิ้งลงถังขยะเป็นธรรมดา ฉันไม่มีวันยอมให้ลูกชายคว้าผู้หญิงแบบนั้นมาเด็ดขาด เสียชื่อเสียงตระกูลหมด ตอนนี้พ่อเดชมีคู่รักอยู่แล้ว เขาเพิ่งพากันออกไปเที่ยวข้างนอกเมื่อกี้นี้ ทั้งสองเหมาะสมกันด้วยประการทั้งปวง โดยเฉพาะชาติตระกูล อย่าเสียเวลากับพ่อเดชเลย เอาเวลาอันมีค่าของหล่อนไปหาผู้ชายคนใหม่ที่อยู่ระดับเดียวกัน ชาติตระกูลเสมอกันดีกว่า ถ้าอยากได้เงินค่าทำขวัญละก็ อย่าหวังเป็นอันขาด สลึงหนึ่งฉันก็ไม่ให้กระเด็นออกจากกระเป๋าหรอก" คุณหญิงทิพย์อาภารีบสกัดดาวรุ่ง
บัวซอนสติแตกขึ้นมาทันที เธอออกจากตู้โทรศัพท์และเดินไปร้องให้ไปอย่างไม่อายต่อสายตาผู้คนผ่านไปผ่านมาแถวนั้น แก้มทั้งสองข้างเปียกโชกไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาราวฝนตกห่าใหญ่
ณ บัดนี้ เธอสูญสิ้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่างทั้งลูกในท้อง ชายคนรัก และศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง เธอไม่สามารถที่จะต่อลมหายใจสู้กับความจริงอันโหดร้ายของโลกใบนี้ได้
เธอมุ่งตรงมาที่วัดท้ายซอย ผ่านเข้าไปกลางวัด ทะลุออกกำแพงหลังวัด ซึ่งเป็นจุดบรรจบของคลองสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ชาวบ้านละแวกนี้พูดกันว่าเป็นคุ้งน้ำอันตราย เพราะกระแสน้ำเชี่ยวมาก และยังมีน้ำวนอยู่หลายจุด
เธอค่อยๆก้าวเดินจากตลิ่งลงสู่แม่น้ำทีละก้าว จนระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆจากระดับเข่าถึงเอว จากเอวถึงอก ยังไม่ทันที่ระดับน้ำจะสูงถึงคอ ก็มีมือมาคว้าตัวเธอกลับมายังตลิ่งอย่างรวดเร็ว
"ทำไมคิดสั้นแบบนี้ มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องเลย ถ้าคิดสั้นเพราะเรื่องคนบ้านนั้นละก็ ไม่สมควรอย่างยิ่งเลยนะ ตอนแรกพี่จะไม่บอกบัวซอนแล้ว กลัวบัวซอนเสียใจ พอมาเห็นทำแบบนี้ พี่เลยต้องบอก ตอนบัวซอนนอนป่วยอยู่โรงบาล พี่ไปที่บ้านหลังนั้นเพื่อบอกข่าว แต่กลับโดนไล่เหมือนหมูเหมือนหมา อย่าไปให้ค่าคนที่ไม่เคยเห็นคุณค่าความดีของเรา เอาชีวิตเราไปแลกกับคนพันธุ์นั้น มันไม่คุ้ม จำไว้ความทุกข์ในวันนี้ เป็นบทเรียนให้เราเข้มแข็ง เพื่อต่อสู้กับหนทางข้างหน้าอย่างมีสติ " ธานีโอบกอดบัวซอนพร้อมปลอบประโลม
"พี่มาช่วยฉันทำไม ฉันไม่อยากอยู่แล้ว โลกนี้มันช่างโหดร้ายจริงๆ ฉันเสียคนที่ฉันรักไปไม่พอ ยังทำให้คนที่รักฉันมากที่สุดอย่างพ่อต้องเสียใจทุกข์ใจอีก อยู่ไปก็ไร้ค่าเปล่าๆ ปล่อยฉันไปตามทางของฉันเถอะ นึกว่าสงสารฉันนะ" บัวซอนร้องให้คร่ำครวญในโชคชะตาของตน
"ทำไมคิดว่าตัวเองไม่มีค่า สำหรับพี่แล้ว บัวซอนมีค่าเสมอมากกว่าสิ่งอื่นใด ไม่มีบัวซอนแล้วพี่จะอยู่ยังไง? พี่หลงรักบัวซอนตั้งแต่วันแรกที่เราพบกันที่หัวลำโพง แม้ตอนนั้นบัวซอนท้องและมีเจ้าของแล้ว พี่ก็ไม่สามารถหักห้ามความรู้สึกได้ พอมารู้จักตัวตนที่แท้จริงของบัวซอน ยิ่งทำให้พี่หลงรักมากขึ้นไปอีก รู้ไหม?" ธานีสารภาพความในใจทั้งหมดให้ฝ่ายหญิงรับรู้
บัวซอนฟังด้วยอาการนิ่งเงียบ
"ถ้ายังขืนคิดสั้นแบบนี้อีก ไม่ใช่แค่พี่คนเดียวที่เสียใจ ยังมีคุณนวลที่รักบัวซอนเหมือนน้องสาวแท้ๆ น้องเนวินก็รักและติดบัวซอนมาก บัวซอนใจดำทิ้งพวกเขาได้ลงคอเชียวหรือ? ปลายปีนี้คุณนวลจะกลับเมืองนอก ได้ยินว่าจะเอาบัวซอนไปด้วย บัวซอนไปอยู่ที่โน่นต้องดีขึ้นแน่ๆ อย่างน้อยก็ได้เปลี่ยนบรรยากาศ เห็นอะไรแปลกๆใหม่ๆต่างบ้านต่างเมือง อาจทำให้ลืมเรื่องร้ายๆที่เมืองไทย คุณโยเซฟสามีคุณนวล กำลังจะเปิดร้านอาหารไทยปีหน้า เขาติดต่อพี่ไปเป็นพ่อครัว ถ้าบัวซอนให้โอกาสและไม่รังเกียจคนจนอย่างพี่ พี่ขอดูแลบัวซอนตลอดไปได้ไหม? เราไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ผู้ชายไม่ได้แย่เหมือนกันหมดทุกคน ผู้ชายดีๆ รักเดียวใจเดียวก็ยังมีเหลืออยู่ พี่ขอสัญญาว่าจะรักบัวซอนคนเดียว รักตลอดไป ไม่ทอดทิ้งและไม่ทำให้เสียใจเด็ดขาด" ธานีให้ค่ำมั่นสัญญา
บัวซอนตอบรับด้วยการโอบกอดฝ่ายชายไว้แนบแน่น ทั้งสองยืนกอดกันริมฝั่งน้ำโดยมีแสงอาทิตย์ สายน้ำ และต้นไม้ริมตลิ่ง ร่วมเป็นสักขีพยาน
....................................................................................................
ตอนที่ 1
https://pantip.com/topic/39180863
ตอนที่ 2
https://pantip.com/topic/39197402
ตอนที่ 3
https://pantip.com/topic/39233749
ตอนที่ 4
https://pantip.com/topic/39242378
ตอนที่ 5
https://pantip.com/topic/39256352
ตอนที่ 6
https://pantip.com/topic/39262451
ตอนที่ 7
https://pantip.com/topic/39280323
ตอนที่ 8
https://pantip.com/topic/39298074
ตอนที่ 9
https://pantip.com/topic/39357306
รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 10 ทางเลือก
ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
.........................................................................................................
ห้องพักฟื้นส่วนตัวผู้ป่วย ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
บัวซอนค่อยๆลืมตาขึ้นมาทีละนิด อาการเจ็บปวดจากบาดแผลเริ่มสำแดงฤทธิ์อย่างช้าๆ มันระบมไปหมดทั้งตัวจนแทบจะขยับไม่ได้เลย โดยเฉพาะบริเวณ หน้าท้อง แขนขวาและขาซ้ายที่เข้าเฝือก
เธอเห็นผู้หญิงอายุประมาณ 32 ปี ทรงผมบ๊อบเลยใบหู โครงหน้ากลม หน้าผากโหนก คิ้วโค้งสวยได้รูป ตาตี่ชั้นเดียว แก้มยุ้ย ปากนิดจมูกหน่อย จากลักษณะการแต่งตัวดูดีมีฐานะ นั่งเฝ้าอยู่ใกล้หัวเตียง
"เจ็บมากไหมหนู? พี่ชื่อนวล ต้องขอบคุณหนูมาก ที่ช่วยชีวิตลูกชายพี่ไว้ พี่กับลูกเป็นหนี้ชีวิตหนู เนวิน... มาขอบคุณพี่เขาก่อนนะครับ" ผู้หญิงที่ชื่อ "นวล" หรือ "นวลมณี" อุ้มเด็กลูกครึ่งที่บัวซอนได้ช่วยชีวิตเอาไว้ เข้ามาหาบัวซอน
บัวซอนพยักหน้ารับคำขอบคุณ ครั้นเห็นลูกชายของนวลมณี ทำให้เธอฉุกคิดถึงลูกในท้องขึ้นมาทันใด เธอค่อยๆลากมือไปยังหน้าท้องเพื่อตรวจดูว่าเขายังอยู่กับเธอหรือไม่?
เมื่อมือของเธอสัมผัสบนหน้าท้องที่แบนเรียบเป็นหน้ากลอง ทำให้เธอรู้คำตอบอย่างชัดเจนทันที น้ำตาของแม่ผู้สูญเสีย ไหลออกมาจากสองตาจนนองเต็มหน้า แก้วตาดวงใจที่เธอได้เฝ้าทะนุถนอมมาเป็นเวลา 5เดือน บัดนี้ได้จากเธอไปแล้ว
"เสียใจด้วยนะเรื่องลูก พี่เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ดี คุณหมอบอกว่า ในวินาทีฉุกเฉินยังไงต้องช่วยชีวิตแม่ให้รอดปลอดภัยไว้ก่อน ร้องไห้ให้พอ เผื่อมันจะทำให้หนูได้ระบายความเศร้าเสียใจออกมา ดีกว่าเก็บความทุกข์เอาไว้ในใจ" นวลมณีกุมมือบัวซอนไว้เพื่อปลอบใจ เธอเห็นใจในโชคชะตาอันแสนอาภัพของหญิงสาวคนนี้
"ฟื้นแล้วหรือครับ ไม่ต้องคิดมากนะบัวซอน ผมขอเป็นกำลังใจช่วยอีกแรง" ธานีเปิดประตูเข้ามาในห้อง เขารู้สึกดีใจที่เห็นหญิงสาวฟื้นขึ้นมา หลังจากสลบไปเกือบ 2วัน
"มันช่างบังเอิญจริงเนอะ คนกันเองทั้งนั้น บ้านพี่เป็นลูกค้าประจำร้านของธานี ตอนพี่กลับไปอยู่เมืองนอก บ้านที่กรุงเทพก็ได้ธานีคอยดูแลตัดหญ้าสนามหน้าบ้าน รดน้ำต้นไม้ดอกไม้ให้ เรื่องค่ารักษาพยาบาลไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่จัดการทั้งหมดให้เอง ธานีเล่าเรื่องหนูให้พี่ฟังแล้ว ถ้าหนูหายดี และยังไม่มีที่ไป มาอยู่กับพี่ได้นะ พี่ยินดีเต็มที่ จะได้ช่วยกันดูน้องเนวิน พี่เพิ่งไล่พี่เลี้ยงออกไป โทษฐานสะเพร่าไม่ดูแลน้อง ปล่อยให้วิ่งออกมากลางถนน จนเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา" นวลมณีเสนอแนวทาง เธอรู้สึกถูกชะตากับบัวซอนอย่างมาก
ตลอดระยะเวลาเกือบ 4เดือนที่บัวซอนพักรักษาตัว นอกจากนวลมณีที่คอยดูแล ธานีก็เป็นอีกคนที่แวะเวียนมาดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำให้บัวซอนทุกวันตั้งแต่ตอนอยู่โรงพยาบาล จนกระทั่งย้ายมาพักฟื้นที่บ้านนวลมณี
เวลานี้ธานีได้ย้ายมาเช่าบ้านหลังใหม่ ซึ่งอยู่ตรงปากซอยใกล้กับบ้านนวลมณี อีกทั้งย้ายมาเปิดแผงขายอาหารตามสั่งตรงริมสะพานฟากเดียวกันอีกด้วย
การที่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกันทุกวัน ทำให้ความรู้สึกของธานีที่มีต่อบัวซอนเริ่มไต่ระดับความพิเศษขึ้นไปเรื่อยๆ โดยที่ธานีเองได้แต่เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ในใจคนเดียว เขายังไม่กล้าบอกความลับในใจแก่ฝ่ายหญิง เพราะเกรงว่าหากฝ่ายหญิงปฏิเสธ ตัวเขาเองจะเป็นฝ่ายเจ็บ
อาการป่วยทางร่างกายเริ่มหายดี ส่วนอาการป่วยทางจิตใจนั้น ก็พยายามทำใจปลงเรื่องลูกได้บ้างในระดับหนึ่งแล้ว บัวซอนจึงตัดสินใจอยู่ช่วยเลี้ยงลูกของนวลมณี หลังจากนั้นค่อยไปจัดการเรื่องค้างคาใจที่บ้านเดชศักดา
บัวซอนเข้าไปในตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญหน้าหมู่บ้าน เธอตั้งใจโทรไปหยั่งเชิงดูท่าทีฝั่งโน้น ก่อนจะตัดสินใจเข้าไปพบที่บ้านตัวต่อตัว
"สวัสดีค่ะ บ้านศรีโยธาวัฒน์" เสียงหญิงรับใช้กล่าวทักทาย
"ขอสายคุณเดชค่ะ"
"ไม่ทราบว่าจากไหนค่ะ? และมีธุระอะไร? คือคุณเดชสั่งไว้ ดิฉันต้องทำตามคำสั่ง" หญิงรับใช้ถามไถ่
"บัวซอน.. ฉันเป็นคนรักคุณเดช" บัวซอนบอกสถานะภาพตัวเองตามความจริง
"ใครโทรมา?" เฉลียวศรีวิ่งมากระชากโทรศัพท์จากมือหญิงรับใช้
"นี่มันอะไรกัน? แย่งกันรับโทรศัพท์เหมือนเด็กๆไปได้ แล้วใครโทรมา? จะรู้เรื่องไหมนั่น?" เสียงคุณหญิงทิพย์อาภาเอ็ดใส่คนรับใช้ทั้งสอง เธอเดินมาพร้อมสายนที
"เออ.. เห็นบอกว่า ชื่อบัวซอน เป็นคนรักคุณเดช" หญิงรับใช้ที่รับโทรศัพท์รีบรายงานเจ้านาย ตัดหน้าเฉลียวศรี
"เอามานี่ เดี๋ยวฉันจัดการเอง แล้วไม่ต้องไปเสนอหน้าบอกพ่อเดชละ ไม่งั้นได้เห็นดีแน่" คุณหญิงทิพย์อาภากำชับคนรับใช้ทั้งสอง
"ฮัลโหล ฉันเป็นแม่พ่อเดช หล่อนมีอะไรยะ?"
"สวัสดีค่ะ คุณแม่ ฉันเป็นคนรักคุณเดช ไม่ทราบว่าคุณเดชได้เล่าเรื่องของเราให้คุณแม่กับคุณพ่อฟังหรือยังค่ะ?" บัวซอนแนะนำตัวเอง
"อย่ามาเรียกฉันว่าแม่ ฉันไม่ใช่แม่หล่อน ถ้าพ่อเดชรักหล่อนจริง ป่านนี้เขาคงพูดให้ฉันฟังทั้งวันทั้งคืน หรือไม่ก็รีบคะยั้นคะยอให้ฉันไปเห็นหน้าเห็นตาคนที่เขารัก ขนาดชื่อหล่อนเขายังไม่เอ่ยปากออกมาเลย เพิ่งมาได้ยินก็ตอนรับโทรศัพท์นี่แหละ ฉันเลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังแบเบาะ รู้จักนิสัยเขาดี หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่โทรมาอ้างสิทธิความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ฉันเบื่อและปวดประสาทที่จะรับโทรศัพท์ผู้หญิงใจง่ายพวกนั้นเต็มทน เป็นได้แค่ดอกไม้ริมทาง ไร้คุณค่าไร้ราคา เด็ดมาดมง่ายแสนง่าย พอผู้ชายเชยชมจนเบื่อย่อมทิ้งลงถังขยะเป็นธรรมดา ฉันไม่มีวันยอมให้ลูกชายคว้าผู้หญิงแบบนั้นมาเด็ดขาด เสียชื่อเสียงตระกูลหมด ตอนนี้พ่อเดชมีคู่รักอยู่แล้ว เขาเพิ่งพากันออกไปเที่ยวข้างนอกเมื่อกี้นี้ ทั้งสองเหมาะสมกันด้วยประการทั้งปวง โดยเฉพาะชาติตระกูล อย่าเสียเวลากับพ่อเดชเลย เอาเวลาอันมีค่าของหล่อนไปหาผู้ชายคนใหม่ที่อยู่ระดับเดียวกัน ชาติตระกูลเสมอกันดีกว่า ถ้าอยากได้เงินค่าทำขวัญละก็ อย่าหวังเป็นอันขาด สลึงหนึ่งฉันก็ไม่ให้กระเด็นออกจากกระเป๋าหรอก" คุณหญิงทิพย์อาภารีบสกัดดาวรุ่ง
บัวซอนสติแตกขึ้นมาทันที เธอออกจากตู้โทรศัพท์และเดินไปร้องให้ไปอย่างไม่อายต่อสายตาผู้คนผ่านไปผ่านมาแถวนั้น แก้มทั้งสองข้างเปียกโชกไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาราวฝนตกห่าใหญ่
ณ บัดนี้ เธอสูญสิ้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่างทั้งลูกในท้อง ชายคนรัก และศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง เธอไม่สามารถที่จะต่อลมหายใจสู้กับความจริงอันโหดร้ายของโลกใบนี้ได้
เธอมุ่งตรงมาที่วัดท้ายซอย ผ่านเข้าไปกลางวัด ทะลุออกกำแพงหลังวัด ซึ่งเป็นจุดบรรจบของคลองสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ชาวบ้านละแวกนี้พูดกันว่าเป็นคุ้งน้ำอันตราย เพราะกระแสน้ำเชี่ยวมาก และยังมีน้ำวนอยู่หลายจุด
เธอค่อยๆก้าวเดินจากตลิ่งลงสู่แม่น้ำทีละก้าว จนระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆจากระดับเข่าถึงเอว จากเอวถึงอก ยังไม่ทันที่ระดับน้ำจะสูงถึงคอ ก็มีมือมาคว้าตัวเธอกลับมายังตลิ่งอย่างรวดเร็ว
"ทำไมคิดสั้นแบบนี้ มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องเลย ถ้าคิดสั้นเพราะเรื่องคนบ้านนั้นละก็ ไม่สมควรอย่างยิ่งเลยนะ ตอนแรกพี่จะไม่บอกบัวซอนแล้ว กลัวบัวซอนเสียใจ พอมาเห็นทำแบบนี้ พี่เลยต้องบอก ตอนบัวซอนนอนป่วยอยู่โรงบาล พี่ไปที่บ้านหลังนั้นเพื่อบอกข่าว แต่กลับโดนไล่เหมือนหมูเหมือนหมา อย่าไปให้ค่าคนที่ไม่เคยเห็นคุณค่าความดีของเรา เอาชีวิตเราไปแลกกับคนพันธุ์นั้น มันไม่คุ้ม จำไว้ความทุกข์ในวันนี้ เป็นบทเรียนให้เราเข้มแข็ง เพื่อต่อสู้กับหนทางข้างหน้าอย่างมีสติ " ธานีโอบกอดบัวซอนพร้อมปลอบประโลม
"พี่มาช่วยฉันทำไม ฉันไม่อยากอยู่แล้ว โลกนี้มันช่างโหดร้ายจริงๆ ฉันเสียคนที่ฉันรักไปไม่พอ ยังทำให้คนที่รักฉันมากที่สุดอย่างพ่อต้องเสียใจทุกข์ใจอีก อยู่ไปก็ไร้ค่าเปล่าๆ ปล่อยฉันไปตามทางของฉันเถอะ นึกว่าสงสารฉันนะ" บัวซอนร้องให้คร่ำครวญในโชคชะตาของตน
"ทำไมคิดว่าตัวเองไม่มีค่า สำหรับพี่แล้ว บัวซอนมีค่าเสมอมากกว่าสิ่งอื่นใด ไม่มีบัวซอนแล้วพี่จะอยู่ยังไง? พี่หลงรักบัวซอนตั้งแต่วันแรกที่เราพบกันที่หัวลำโพง แม้ตอนนั้นบัวซอนท้องและมีเจ้าของแล้ว พี่ก็ไม่สามารถหักห้ามความรู้สึกได้ พอมารู้จักตัวตนที่แท้จริงของบัวซอน ยิ่งทำให้พี่หลงรักมากขึ้นไปอีก รู้ไหม?" ธานีสารภาพความในใจทั้งหมดให้ฝ่ายหญิงรับรู้
บัวซอนฟังด้วยอาการนิ่งเงียบ
"ถ้ายังขืนคิดสั้นแบบนี้อีก ไม่ใช่แค่พี่คนเดียวที่เสียใจ ยังมีคุณนวลที่รักบัวซอนเหมือนน้องสาวแท้ๆ น้องเนวินก็รักและติดบัวซอนมาก บัวซอนใจดำทิ้งพวกเขาได้ลงคอเชียวหรือ? ปลายปีนี้คุณนวลจะกลับเมืองนอก ได้ยินว่าจะเอาบัวซอนไปด้วย บัวซอนไปอยู่ที่โน่นต้องดีขึ้นแน่ๆ อย่างน้อยก็ได้เปลี่ยนบรรยากาศ เห็นอะไรแปลกๆใหม่ๆต่างบ้านต่างเมือง อาจทำให้ลืมเรื่องร้ายๆที่เมืองไทย คุณโยเซฟสามีคุณนวล กำลังจะเปิดร้านอาหารไทยปีหน้า เขาติดต่อพี่ไปเป็นพ่อครัว ถ้าบัวซอนให้โอกาสและไม่รังเกียจคนจนอย่างพี่ พี่ขอดูแลบัวซอนตลอดไปได้ไหม? เราไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ผู้ชายไม่ได้แย่เหมือนกันหมดทุกคน ผู้ชายดีๆ รักเดียวใจเดียวก็ยังมีเหลืออยู่ พี่ขอสัญญาว่าจะรักบัวซอนคนเดียว รักตลอดไป ไม่ทอดทิ้งและไม่ทำให้เสียใจเด็ดขาด" ธานีให้ค่ำมั่นสัญญา
บัวซอนตอบรับด้วยการโอบกอดฝ่ายชายไว้แนบแน่น ทั้งสองยืนกอดกันริมฝั่งน้ำโดยมีแสงอาทิตย์ สายน้ำ และต้นไม้ริมตลิ่ง ร่วมเป็นสักขีพยาน
....................................................................................................
ตอนที่ 1 https://pantip.com/topic/39180863
ตอนที่ 2 https://pantip.com/topic/39197402
ตอนที่ 3 https://pantip.com/topic/39233749
ตอนที่ 4 https://pantip.com/topic/39242378
ตอนที่ 5 https://pantip.com/topic/39256352
ตอนที่ 6 https://pantip.com/topic/39262451
ตอนที่ 7 https://pantip.com/topic/39280323
ตอนที่ 8 https://pantip.com/topic/39298074
ตอนที่ 9 https://pantip.com/topic/39357306