สวัสดีค่ะ (ปกติต้องเริ่มยังไงนะคะ เอาเป็นว่า…) ก่อนอื่นเลยจขกท.ไม่ได้มีเจตนาที่จะมาเล่าเรื่องที่ไม่ดีในครอบครัวของตัวเองเพื่อที่จะให้คนในครอบครัวโดนตำหนินะคะ แค่อยากระบายมากกว่า อยากให้พ่อแม่ทุกคนทราบและเข้าใจลูกที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นด้วย ที่เลือกจะมาเล่าในนี้ก็เพราะไม่อยากให้คนรู้จักทราบแต่จขกทก็รู้สึกอยากได้กำลังใจ ทั้งนี้ทั้งนั้นจขกท.รู้สึกว่าอยากให้คุณพ่อคุณแม่หรือคนที่อยู่ในช่วงวัยผู้ใหญ่แล้วหันมาใส่ใจและสนใจลูกที่เป็นวัยรุ่นด้วย แต่มันก็เป็นแค่ในมุมมองของจขกท.จริงๆก็เข้าใกล้วัยผู้ใหญ่แล้วเหมือนกันแต่ทุกคนชอบบอกว่าเหมือนจขกท.เองโดนหยุดไว้ที่ช่วงวัยเด็กเลยอาจจะมีความคิดเด็กๆติดมาเยอะหน่อย มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่จขกท.เข้ามัธยมปีแรกค่ะ(นานมากเลยอะ) คือจขกท.สอบได้รร.ดังที่ตจว.เลยต้องไปอยู่หอกลับบ้านทีก็พ่อกับแม่ก็จะทะเลาะกันตลอดว่าใครจะมารับ พอมาถึงบ้านก็ไม่ได้สังเกตนะคะว่าฝุ่นมันเยอะมาก ทั้งๆที่จขกท.เป็นภูมิแพ้แล้วจามบ่อยแต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร จนกระทั่งปิดเทอมถึงรู้ว่าพ่อกับแม่แยกกันอยู่ตั้งแต่ที่ไปเรียนเดือนแรกแล้ว แม่ไม่ได้อยู่บ้านแต่ไปอยู่บ้านน้าของคุณแม่(บ้านตา) พ่อก็ไม่ค่อยกลับบ้านมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทำให้ไม่มีคนอยู่บ้านเลยช่วงที่ไปเรียน ก่อนจะเปิดเทอมย่าก็มาหาที่บ้านและทำให้ได้รู้ความจริงเกือบทั้งหมด แต่บอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าตอนนั้นก็ดูออกว่าพ่อเป็นคนขอให้ย่ามาเพราะถ้าพ่อพูดเองจขกท.คงเดินหนีไปแล้ว(ส่วนเหตุผลที่เดินหนีเดี๋ยวจะเล่าต่อจากนี้นะคะ) เรื่องที่ย่ามาเล่าให้ฟังก็คือ พ่อสงสัยแม่ที่เห็นว่ากลับดึกบ้านทั้งๆที่แม่ทำงานราชการเลยตามสืบเรื่องแม่มาตลอด และรวบรวมจนเป็นรูปเป็นร่างตอนจขกท.ไปอยู่ตจว.พอดี เรื่องก็คือแม่ไปมีสามีใหม่ตั้งแต่จขกท.อยู่อนุบาลสอง(จริงๆคิดว่าน่าจะป.สองไม่รู้ว่าฟังผิดหรือจำผิดไม่แน่ใจตอนนั้นสติหลุด แล้วเรื่องมันก็นานแล้วจำรายละเอียดไม่ค่อยได้มันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยอยากจดจำ) ผู้ชายคนนั้นทำงานที่เดียวกับแม่ แม่มีบ้านอีกหลังที่เอาไว้อยู่กับผช.คนนั้น แล้วช่วงที่จขกท.ไปเรียนแม่ไม่ได้อยู่บ้านตาแต่ไปอยู่กับผช.คนนั้น ก่อนจะเอามาเล่าให้จขกทฟังแม่ยอมรับและญาติทุกคนรับรู้แล้ว ตอนย่าเล่าจบจำได้ว่าไม่ได้ร้องไห้แต่ว่ามีคนมาปลอบก็เลยน้ำตาไหล ในหัวตอนนั้นคิดว่าควรบอกดีมั้ยนะว่าจริงๆก็รู้อยู่แล้วว่าแม่ไม่ได้มีแค่พ่อ ทุกครั้งที่เจอแม่ แม่ก็จะทะเลาะกับเขาทางทรศ.เพราะเขาก็มีคนอื่นแถมยังมีลูกกับคนอื่นนั่นอีก ทะเลาะกันบ่อยมากๆเรารู้เรื่องเขาเยอะมากจนรู้สึกว่าทำไมต้องไปมีคนอื่นที่ไม่ได้ดีไปกว่าพ่อเลย เขาทำให้แม่เสียใจซ้ำๆ โกรธมากเลยอะ แต่ก็ยังทำเป็นไม่รู้อะไรต่อไป สุดท้ายตอนนั้นก็บอกว่าย่าไปว่ารู้อยู่แล้วแต่ไม่ได้บอกอะไรย่าเพิ่ม
กลับมาที่เหตุผลที่จขกท.ไม่ค่อยฟังสิ่งที่พ่อพูดนะคะ(อันนี้ขอออกตัวก่อนว่าเรื่องดีๆที่พ่อพูดหรือสอนจะรับฟังนะคะแต่ถ้าพอจะรู้ว่าเป็นเรื่องไม่ดีก็ไม่อยากฟัง) คือก่อนที่จะรู้เรื่องนี้จขกทรู้ว่าพ่อมีกิ๊กเยอะมากๆ ใช่ค่ะพ่อเป็นคนเจ้าชู้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม่มักจะพูดใส่จขกทว่าคิดผิดแต่แม่ก็ไมไ่ด้พูดแต่ขอเสียของพ่อให้ฟังนะคะ ข้อดีของพ่อก็มีเยอะ กลับมาที่บอกว่าพ่อมีกิ๊กเยอะนะคะ ตอนแรกจขกท.ก็จะทำใจรับเป็นแม่เลี้ยงค่ะ แต่ทุกครั้งที่ไปเที่ยวผญ.ที่พ่อพามาไม่ใช่คนเดียวกันเลย ตั้งแต่เลิกกับแม่เหมือนพ่อจะคบผญ.คนอื่นแบบเป็นแฟนแต่ก็คบซ้อนในวันนึงพ่อโทรไปหาผญ.หลายคนมาก หลายคนมีลูกติดแต่ก็ไม่แน่ใจนะคะว่าบางคนที่เป็นลูกของเขาเป็นลูกแท้ๆของพ่อรึเปล่า เคยเห็นผญ.ส่งมาบอกพ่อว่าท้องวันต่อมาก็พาผญ.คนนั้นไปฝากท้องเลย ถ้าถามว่ารู้ได้ยังไงบอกเลยนะคะว่าจขกท.เจอแฟนพ่อจนจำหน้าได้ทุกคนแล้วแต่ไม่เคยเจอลูกใครเลย เพราะพ่อคงไม่อยากให้เจอเท่าไหร่อีกเหตุผลที่ไม่ค่อยฟังพ่อนะคะ เพราะพ่อเวลาพูดเรื่องแม่มักจะใส่สีลงไปด้วย
พ่อกับแม่อยากให้จขกท.เลือกว่าจะอยู่กับใคร แต่จขกท.ไม่เลือกเพราะพ่อกับแม่ก็ไม่ยอมหย่ากัน และเรื่องเงินก็เป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน ตอนนั้นรู้สึกเสียใจนะคะที่แม่บอกว่าเงินที่หามาก็เอามาใช้เท่าจำเป็นแล้วให้เราคนเดียวทั้งๆที่แม่หาเงินมาผช.คนนั้นจนตัวเองเป็นหนี้ พ่อเองที่บอกว่าไม่มีเงินให้ทั้งๆที่ซื้อของแบรนด์เนมให้ผญ.คนอื่นตั้งหลายคนแต่ให้เราไม่ได้ทั้งที่เอาไปซื้อของจำเป็นแล้วก็เป็นคนพูดเองว่าอยากได้อะไรบอกพ่อได้เลย จขกท.ไม่ได้ขอเงินมาใช้ฟุ่มเฟือยขนาดนั้นนะคะ เอามาซื้ออาหารและของใช้ไม่ได้ซื้อของแพงอะไรเพราะรู้สึกว่าพ่อกับแม่หมดเงินไปกับคนอื่นเยอะแล้ว แต่รู้สึกเสียใจที่โกหกแล้วก็มักจะทะเลาะกันเรื่องนี้โดยใช้เราเป็นตัวกลางเพราะพ่อกับแม่ไม่คุยกัน มันเจ็บนะคะ
เรื่องผ่านมานานมากๆแล้วตอนนี้ยังคงเหมือนเดิมจขกท.อยู่กับพ่อและแม่ สลับบ้านไปมา พ่อกับแม่ยังคงทะเลาะกันโดยใช้จขกท.เป็นตัวกลาง พ่อกับแม่ตอนนี้ก็ยังคงไม่รู้ค่ะว่าจขกท.รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ยิ่งพ่อนะคะเวลาคุยทรศ.กับกิ๊กแต่ละคน บอกเขาว่าคุยเลยเลยยังไงจขกทก็ไม่อะไรหรอก งงมากเลยค่ะ การที่ไม่พูดนี่คือไม่รู้อย่างเดียวเลยหรอคะ ในสายตาของทุกคนจขกท.ไม่เคยโตเลยค่ะ
รู้สึกว่าแค่นี้ก็เยอะแล้วนะคะ แต่ขอสรุปส่งท้ายให้พ่อแม่ทุกคนได้อ่านเลยคือสนใจลูกด้วย ใส่ใจลูกด้วยนะคะ ถ้าอยากให้มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ก็ไม่ต้องให้มารับรู้กันเลยค่ะ ส่วนตัวจขกท.เองอยากบอกว่าไม่ต้องห่วงค่ะ รู้สึกว่าชินแล้วทั้งๆที่ก็ไม่อยากชินเลย แล้วก็อยากบอกนะคะว่าพ่อแม่และบรรดาพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงอายุก็กำลังจะขึ้นเลข5กันแล้ว ไม่ใช่ระดับวัยรุ่นแต่อย่างใดค่ะ ชีวิตจริงมันยิ่งกว่าละครมากเลยค่ะ จะสู้ต่อไปนะคะ ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านด้วยค่ะ
อยากเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟังค่ะ
สวัสดีค่ะ (ปกติต้องเริ่มยังไงนะคะ เอาเป็นว่า…) ก่อนอื่นเลยจขกท.ไม่ได้มีเจตนาที่จะมาเล่าเรื่องที่ไม่ดีในครอบครัวของตัวเองเพื่อที่จะให้คนในครอบครัวโดนตำหนินะคะ แค่อยากระบายมากกว่า อยากให้พ่อแม่ทุกคนทราบและเข้าใจลูกที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นด้วย ที่เลือกจะมาเล่าในนี้ก็เพราะไม่อยากให้คนรู้จักทราบแต่จขกทก็รู้สึกอยากได้กำลังใจ ทั้งนี้ทั้งนั้นจขกท.รู้สึกว่าอยากให้คุณพ่อคุณแม่หรือคนที่อยู่ในช่วงวัยผู้ใหญ่แล้วหันมาใส่ใจและสนใจลูกที่เป็นวัยรุ่นด้วย แต่มันก็เป็นแค่ในมุมมองของจขกท.จริงๆก็เข้าใกล้วัยผู้ใหญ่แล้วเหมือนกันแต่ทุกคนชอบบอกว่าเหมือนจขกท.เองโดนหยุดไว้ที่ช่วงวัยเด็กเลยอาจจะมีความคิดเด็กๆติดมาเยอะหน่อย มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่จขกท.เข้ามัธยมปีแรกค่ะ(นานมากเลยอะ) คือจขกท.สอบได้รร.ดังที่ตจว.เลยต้องไปอยู่หอกลับบ้านทีก็พ่อกับแม่ก็จะทะเลาะกันตลอดว่าใครจะมารับ พอมาถึงบ้านก็ไม่ได้สังเกตนะคะว่าฝุ่นมันเยอะมาก ทั้งๆที่จขกท.เป็นภูมิแพ้แล้วจามบ่อยแต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร จนกระทั่งปิดเทอมถึงรู้ว่าพ่อกับแม่แยกกันอยู่ตั้งแต่ที่ไปเรียนเดือนแรกแล้ว แม่ไม่ได้อยู่บ้านแต่ไปอยู่บ้านน้าของคุณแม่(บ้านตา) พ่อก็ไม่ค่อยกลับบ้านมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทำให้ไม่มีคนอยู่บ้านเลยช่วงที่ไปเรียน ก่อนจะเปิดเทอมย่าก็มาหาที่บ้านและทำให้ได้รู้ความจริงเกือบทั้งหมด แต่บอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าตอนนั้นก็ดูออกว่าพ่อเป็นคนขอให้ย่ามาเพราะถ้าพ่อพูดเองจขกท.คงเดินหนีไปแล้ว(ส่วนเหตุผลที่เดินหนีเดี๋ยวจะเล่าต่อจากนี้นะคะ) เรื่องที่ย่ามาเล่าให้ฟังก็คือ พ่อสงสัยแม่ที่เห็นว่ากลับดึกบ้านทั้งๆที่แม่ทำงานราชการเลยตามสืบเรื่องแม่มาตลอด และรวบรวมจนเป็นรูปเป็นร่างตอนจขกท.ไปอยู่ตจว.พอดี เรื่องก็คือแม่ไปมีสามีใหม่ตั้งแต่จขกท.อยู่อนุบาลสอง(จริงๆคิดว่าน่าจะป.สองไม่รู้ว่าฟังผิดหรือจำผิดไม่แน่ใจตอนนั้นสติหลุด แล้วเรื่องมันก็นานแล้วจำรายละเอียดไม่ค่อยได้มันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยอยากจดจำ) ผู้ชายคนนั้นทำงานที่เดียวกับแม่ แม่มีบ้านอีกหลังที่เอาไว้อยู่กับผช.คนนั้น แล้วช่วงที่จขกท.ไปเรียนแม่ไม่ได้อยู่บ้านตาแต่ไปอยู่กับผช.คนนั้น ก่อนจะเอามาเล่าให้จขกทฟังแม่ยอมรับและญาติทุกคนรับรู้แล้ว ตอนย่าเล่าจบจำได้ว่าไม่ได้ร้องไห้แต่ว่ามีคนมาปลอบก็เลยน้ำตาไหล ในหัวตอนนั้นคิดว่าควรบอกดีมั้ยนะว่าจริงๆก็รู้อยู่แล้วว่าแม่ไม่ได้มีแค่พ่อ ทุกครั้งที่เจอแม่ แม่ก็จะทะเลาะกับเขาทางทรศ.เพราะเขาก็มีคนอื่นแถมยังมีลูกกับคนอื่นนั่นอีก ทะเลาะกันบ่อยมากๆเรารู้เรื่องเขาเยอะมากจนรู้สึกว่าทำไมต้องไปมีคนอื่นที่ไม่ได้ดีไปกว่าพ่อเลย เขาทำให้แม่เสียใจซ้ำๆ โกรธมากเลยอะ แต่ก็ยังทำเป็นไม่รู้อะไรต่อไป สุดท้ายตอนนั้นก็บอกว่าย่าไปว่ารู้อยู่แล้วแต่ไม่ได้บอกอะไรย่าเพิ่ม
กลับมาที่เหตุผลที่จขกท.ไม่ค่อยฟังสิ่งที่พ่อพูดนะคะ(อันนี้ขอออกตัวก่อนว่าเรื่องดีๆที่พ่อพูดหรือสอนจะรับฟังนะคะแต่ถ้าพอจะรู้ว่าเป็นเรื่องไม่ดีก็ไม่อยากฟัง) คือก่อนที่จะรู้เรื่องนี้จขกทรู้ว่าพ่อมีกิ๊กเยอะมากๆ ใช่ค่ะพ่อเป็นคนเจ้าชู้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม่มักจะพูดใส่จขกทว่าคิดผิดแต่แม่ก็ไมไ่ด้พูดแต่ขอเสียของพ่อให้ฟังนะคะ ข้อดีของพ่อก็มีเยอะ กลับมาที่บอกว่าพ่อมีกิ๊กเยอะนะคะ ตอนแรกจขกท.ก็จะทำใจรับเป็นแม่เลี้ยงค่ะ แต่ทุกครั้งที่ไปเที่ยวผญ.ที่พ่อพามาไม่ใช่คนเดียวกันเลย ตั้งแต่เลิกกับแม่เหมือนพ่อจะคบผญ.คนอื่นแบบเป็นแฟนแต่ก็คบซ้อนในวันนึงพ่อโทรไปหาผญ.หลายคนมาก หลายคนมีลูกติดแต่ก็ไม่แน่ใจนะคะว่าบางคนที่เป็นลูกของเขาเป็นลูกแท้ๆของพ่อรึเปล่า เคยเห็นผญ.ส่งมาบอกพ่อว่าท้องวันต่อมาก็พาผญ.คนนั้นไปฝากท้องเลย ถ้าถามว่ารู้ได้ยังไงบอกเลยนะคะว่าจขกท.เจอแฟนพ่อจนจำหน้าได้ทุกคนแล้วแต่ไม่เคยเจอลูกใครเลย เพราะพ่อคงไม่อยากให้เจอเท่าไหร่อีกเหตุผลที่ไม่ค่อยฟังพ่อนะคะ เพราะพ่อเวลาพูดเรื่องแม่มักจะใส่สีลงไปด้วย
พ่อกับแม่อยากให้จขกท.เลือกว่าจะอยู่กับใคร แต่จขกท.ไม่เลือกเพราะพ่อกับแม่ก็ไม่ยอมหย่ากัน และเรื่องเงินก็เป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน ตอนนั้นรู้สึกเสียใจนะคะที่แม่บอกว่าเงินที่หามาก็เอามาใช้เท่าจำเป็นแล้วให้เราคนเดียวทั้งๆที่แม่หาเงินมาผช.คนนั้นจนตัวเองเป็นหนี้ พ่อเองที่บอกว่าไม่มีเงินให้ทั้งๆที่ซื้อของแบรนด์เนมให้ผญ.คนอื่นตั้งหลายคนแต่ให้เราไม่ได้ทั้งที่เอาไปซื้อของจำเป็นแล้วก็เป็นคนพูดเองว่าอยากได้อะไรบอกพ่อได้เลย จขกท.ไม่ได้ขอเงินมาใช้ฟุ่มเฟือยขนาดนั้นนะคะ เอามาซื้ออาหารและของใช้ไม่ได้ซื้อของแพงอะไรเพราะรู้สึกว่าพ่อกับแม่หมดเงินไปกับคนอื่นเยอะแล้ว แต่รู้สึกเสียใจที่โกหกแล้วก็มักจะทะเลาะกันเรื่องนี้โดยใช้เราเป็นตัวกลางเพราะพ่อกับแม่ไม่คุยกัน มันเจ็บนะคะ
เรื่องผ่านมานานมากๆแล้วตอนนี้ยังคงเหมือนเดิมจขกท.อยู่กับพ่อและแม่ สลับบ้านไปมา พ่อกับแม่ยังคงทะเลาะกันโดยใช้จขกท.เป็นตัวกลาง พ่อกับแม่ตอนนี้ก็ยังคงไม่รู้ค่ะว่าจขกท.รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ยิ่งพ่อนะคะเวลาคุยทรศ.กับกิ๊กแต่ละคน บอกเขาว่าคุยเลยเลยยังไงจขกทก็ไม่อะไรหรอก งงมากเลยค่ะ การที่ไม่พูดนี่คือไม่รู้อย่างเดียวเลยหรอคะ ในสายตาของทุกคนจขกท.ไม่เคยโตเลยค่ะ
รู้สึกว่าแค่นี้ก็เยอะแล้วนะคะ แต่ขอสรุปส่งท้ายให้พ่อแม่ทุกคนได้อ่านเลยคือสนใจลูกด้วย ใส่ใจลูกด้วยนะคะ ถ้าอยากให้มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ก็ไม่ต้องให้มารับรู้กันเลยค่ะ ส่วนตัวจขกท.เองอยากบอกว่าไม่ต้องห่วงค่ะ รู้สึกว่าชินแล้วทั้งๆที่ก็ไม่อยากชินเลย แล้วก็อยากบอกนะคะว่าพ่อแม่และบรรดาพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงอายุก็กำลังจะขึ้นเลข5กันแล้ว ไม่ใช่ระดับวัยรุ่นแต่อย่างใดค่ะ ชีวิตจริงมันยิ่งกว่าละครมากเลยค่ะ จะสู้ต่อไปนะคะ ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านด้วยค่ะ