สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ ผมขอคำแนะนำกับชีวิตคู่ที่ถูกสาปหน่อยครับ ผมคบกับแฟนมาเกือบ8เดือน ครับตอนนี้ผมเริ่มอึดอัดแล้วเรื่องมีอยู่ว่า
ช่วงเวลา แรกๆ ผมกับแฟนตกลงคบกันนั้นช่วงนั้นแฟนผมทำงานรายได้ก็9000-10000บาท/ด ผมเองก็ทำงานขับรถของบริษททัวรครับ รายได้ต่อวันก็300-500บาท แล้วแต่วันไหนรับงานได้มากหรือน้อยตอนนั้นแฟนผมรายได้ไม่พอรายจ่าย ผมกับแฟนก็คุยกันว่าอย่าไปยื่มใครมาใช้เพื่อให้ชนเดือนเลย เดี๋ยวใช่เงินผมไปก่อนผมให้เขาใช้วันละ100-200ละกัน วันไหนได้เงินจากงานผมมากก็ให้ไป200 แต่ถ้าผมได้ค่างานน้อยก็ใช่ที่เหลือนะ เพราะวันหนึ่งก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว แค่กินข้าวเช้า กับ เที่ยง เย็นเลิกงานมาก็ไปหาอะไรกินด้วยกัน พอเงินออกให้แฟนผมแบ่งใช้หนี ที่เขายืมมาและแบ่งไว้กินต่อวันเหมือนจะไปได้ดีนะครับ แต่แล้วพองานผมเกินได้เงินมาน้อยบ่อยๆเข้า ก็เกิดเรื่องไม่เข้าใจกันจนทำให้ผมต้องหารายได้ที่มากขึ้น ***( ที่ว่าไม่เข้าใจคือ ผมทำงานแต่เงินไม่เหลือ อยากที่บอกครับว่าผมเอารายได้บ้างส่วนให้เข้าใช้ก่อนส่วนตัวผมก็หาใช้เองแต่ละมื้อไปครับ)***ผมเลิกงานจากขับรถกินเปอร์เซนเป็นเช่ารถเองแต่มันก็ยังติดๆขัดๆบางครับระหว่างนั้นแฟนผมเริ่มมีปัญหาเรื่องงานต้องเปลี่ยนงานคบกันมาก็เกื่อบสามเดือนเงินยังไม่มีหรอกครับและยังไม่ได้อยู่ด้วยกัน พอแฟนต้องเปลี่ยนงานผมก็คิดหนักอยู่ เงินเก็บไม่มีมีแต่มือถือแฟนที่ให้เขาไปผ่อนกับเพื่อนมา แต่ยังไม่ตัดสิ้นใจตอนนั้น ผมเลยคุยกับแฟนว่า ลองหางานรอก่อน ถ้าได้งานแล้วค่อยคุยกันระหว่างนี้ผมก็รีบรับงานเยอะขึ้น เพื่อว่าจะได้เงินทันวางห้อง ผมเองไม่เดือดร้อนมากเท่าไรครับ เพราะตอนเริ่มคบกันผมพักอยู่กับพ่อ ส่วนแฟนผม อยู่ที่พักบริษท สุดท้ายผมหาเงินไม่ทัน เหลือทางเลือกเดียวคือเอามือถือไปขายเพื่อวางห้องใหม่ ตอนนั้นยอมรับครับว่าผมรู้สึกแย่ ที่ช่วยเขาไม่ได้ ต้องพาเขามาเจอแบบนี้ ทำไงได้ครับ แฟนผมเองเขาก็เสียใจเพราะเขาไม่เคยต้องลำบากถึงขั้นต้องขายของใช้ แล้วผมกับแฟนก็เปิดห้องเช่าได้ใกล้ที่ทำงานเขาราคาห้องก็แพงอยู่ผม คิดว่าผมทำงานแฟนผมทำงานอยู่ไม่ลำบากหรอระหว่างนี้ตกลงอยู่ด้วยกัน ผมก็พยามทำหน้าที่ผมเต็มที่ เงินไม่พอผมก็ยื่มเขาบ้าง หาเงินมาได้แต่ละวันให้เขาไปวันละ200จนเงินเดือนออก เขาก็จ่ายค่าห้องส่งให้แม่ใช้หนีเขา ผมจ่ายค่าไฟค่านำ้ ค่าห้องบางส่วน แต่พอมาวันหนึ่ง รถผมเสีย เงินไม่พอค่าห้อง โชคดีผมยื่มเพื่อนผมได้ แต่หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็ไม่ดีเลย รถที่ใช้ต้องซ่อมบ่อยทำให้ต้องหารถคันใหม่มาขับ ตัดสินใจ ขอให้แฟนผมช่วยหาเงินให้วางมัดจำรถ ได้รถมาขับไม่กี่วัน เจ้าของรถดันเอารถกลับไปให้คนอื่นเช่า ผมตกงาน หาเงินมาคืนไม่ได้ แฟนผมก็มีท่าที่ไม่เอาผมเลย วันไหนอารมท์ดีก็คุยไม่ดีก็เงียบ แรกๆที่ย้ามมาทำงานที่นี้เขายังไม่รู้จักใคร เราสองคนเข้าใจกันดี พอทำงานไปสักสองถึงสามเดือน เริ่มสนิทกับเพื่อนที่ทำงาน เริ่มที่จะเอาปัญหาภายในบ้านออกไปเล่าให้เพื่อนที่ทำงานฟัง หลังๆมาก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่ฟังผม เริ่มไม่เชื่อมั่นในสิ่งที่ผมทำอยู่ เริ่มว่าผมไม่มีรายได้เข้าบ้านมีแต่รายจ่าย บอกตามตรงครับผมรู้สึกแย่มาก แนะนำหน่อยครับ
ผมเป็นคนช่วยให้เขารอดหรือเป็นตัวซวยในสายตาเขา
ช่วงเวลา แรกๆ ผมกับแฟนตกลงคบกันนั้นช่วงนั้นแฟนผมทำงานรายได้ก็9000-10000บาท/ด ผมเองก็ทำงานขับรถของบริษททัวรครับ รายได้ต่อวันก็300-500บาท แล้วแต่วันไหนรับงานได้มากหรือน้อยตอนนั้นแฟนผมรายได้ไม่พอรายจ่าย ผมกับแฟนก็คุยกันว่าอย่าไปยื่มใครมาใช้เพื่อให้ชนเดือนเลย เดี๋ยวใช่เงินผมไปก่อนผมให้เขาใช้วันละ100-200ละกัน วันไหนได้เงินจากงานผมมากก็ให้ไป200 แต่ถ้าผมได้ค่างานน้อยก็ใช่ที่เหลือนะ เพราะวันหนึ่งก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว แค่กินข้าวเช้า กับ เที่ยง เย็นเลิกงานมาก็ไปหาอะไรกินด้วยกัน พอเงินออกให้แฟนผมแบ่งใช้หนี ที่เขายืมมาและแบ่งไว้กินต่อวันเหมือนจะไปได้ดีนะครับ แต่แล้วพองานผมเกินได้เงินมาน้อยบ่อยๆเข้า ก็เกิดเรื่องไม่เข้าใจกันจนทำให้ผมต้องหารายได้ที่มากขึ้น ***( ที่ว่าไม่เข้าใจคือ ผมทำงานแต่เงินไม่เหลือ อยากที่บอกครับว่าผมเอารายได้บ้างส่วนให้เข้าใช้ก่อนส่วนตัวผมก็หาใช้เองแต่ละมื้อไปครับ)***ผมเลิกงานจากขับรถกินเปอร์เซนเป็นเช่ารถเองแต่มันก็ยังติดๆขัดๆบางครับระหว่างนั้นแฟนผมเริ่มมีปัญหาเรื่องงานต้องเปลี่ยนงานคบกันมาก็เกื่อบสามเดือนเงินยังไม่มีหรอกครับและยังไม่ได้อยู่ด้วยกัน พอแฟนต้องเปลี่ยนงานผมก็คิดหนักอยู่ เงินเก็บไม่มีมีแต่มือถือแฟนที่ให้เขาไปผ่อนกับเพื่อนมา แต่ยังไม่ตัดสิ้นใจตอนนั้น ผมเลยคุยกับแฟนว่า ลองหางานรอก่อน ถ้าได้งานแล้วค่อยคุยกันระหว่างนี้ผมก็รีบรับงานเยอะขึ้น เพื่อว่าจะได้เงินทันวางห้อง ผมเองไม่เดือดร้อนมากเท่าไรครับ เพราะตอนเริ่มคบกันผมพักอยู่กับพ่อ ส่วนแฟนผม อยู่ที่พักบริษท สุดท้ายผมหาเงินไม่ทัน เหลือทางเลือกเดียวคือเอามือถือไปขายเพื่อวางห้องใหม่ ตอนนั้นยอมรับครับว่าผมรู้สึกแย่ ที่ช่วยเขาไม่ได้ ต้องพาเขามาเจอแบบนี้ ทำไงได้ครับ แฟนผมเองเขาก็เสียใจเพราะเขาไม่เคยต้องลำบากถึงขั้นต้องขายของใช้ แล้วผมกับแฟนก็เปิดห้องเช่าได้ใกล้ที่ทำงานเขาราคาห้องก็แพงอยู่ผม คิดว่าผมทำงานแฟนผมทำงานอยู่ไม่ลำบากหรอระหว่างนี้ตกลงอยู่ด้วยกัน ผมก็พยามทำหน้าที่ผมเต็มที่ เงินไม่พอผมก็ยื่มเขาบ้าง หาเงินมาได้แต่ละวันให้เขาไปวันละ200จนเงินเดือนออก เขาก็จ่ายค่าห้องส่งให้แม่ใช้หนีเขา ผมจ่ายค่าไฟค่านำ้ ค่าห้องบางส่วน แต่พอมาวันหนึ่ง รถผมเสีย เงินไม่พอค่าห้อง โชคดีผมยื่มเพื่อนผมได้ แต่หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็ไม่ดีเลย รถที่ใช้ต้องซ่อมบ่อยทำให้ต้องหารถคันใหม่มาขับ ตัดสินใจ ขอให้แฟนผมช่วยหาเงินให้วางมัดจำรถ ได้รถมาขับไม่กี่วัน เจ้าของรถดันเอารถกลับไปให้คนอื่นเช่า ผมตกงาน หาเงินมาคืนไม่ได้ แฟนผมก็มีท่าที่ไม่เอาผมเลย วันไหนอารมท์ดีก็คุยไม่ดีก็เงียบ แรกๆที่ย้ามมาทำงานที่นี้เขายังไม่รู้จักใคร เราสองคนเข้าใจกันดี พอทำงานไปสักสองถึงสามเดือน เริ่มสนิทกับเพื่อนที่ทำงาน เริ่มที่จะเอาปัญหาภายในบ้านออกไปเล่าให้เพื่อนที่ทำงานฟัง หลังๆมาก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่ฟังผม เริ่มไม่เชื่อมั่นในสิ่งที่ผมทำอยู่ เริ่มว่าผมไม่มีรายได้เข้าบ้านมีแต่รายจ่าย บอกตามตรงครับผมรู้สึกแย่มาก แนะนำหน่อยครับ