สวัสดีครับ ขอเกริ่นก่อนพอเป็นพิธี(หากพิมพ์ตกหรือผิดตรงไหนขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วยครับ)
ปีนี้ผมอายุ23ปีครับ เป็นลูกคนโต
คุณแม่ของผมล้มป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ครอบครัวของผมมีทั้งหมด5คน(คุณตา-คุณยาย-แม่ และน้องสาวที่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่2ครับ)
เมื่อช่วงกลางๆเกือบจะ2ปีที่แล้วคุณตาของผมถูกจับ และถูกศาลตัดสินให้จำคุก(ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดตรงนี้เพราะค่อนข้างยาวนะครับ)
มันพอดีมาก มาพร้อมกับตอนที่แม่ของผมล้มป่วย ผมในตอนนั้นซึ่งกำลังจะเรียนต่อต้องหยุดทุกอย่างและกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวทันที
ผมมาทำงานต่างจังหวัด ได้เงินบ้างเล็กน้อยส่งให้ที่บ้านทุกๆเดือนไม่เคยขาด ช่วงหลังมานี้อย่างที่ทราบกันดีว่าเศรษฐกิจเริ่มถดถอย ในบางเดือนผมมีส่งให้ที่บ้านแค่2-3000บาท มันไม่พอครับ
ที่บ้านไม่มีใครที่จะสามารถทำงานได้เลย แม่ผมป่วย น้องยังเล็กอยู่มาก ตาติดคุก ส่วนคุณยายผมท่านแก่มากแล้วครับ ยังต้องคอยดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียง และน้องสาวที่ยังเด็กยังต้องเรียนหนังสือ
ความเครียดของผมคือหนี้สินจากการผ่อนรถของคุณแม่ที่ยังคงค้างยอด และต่อสัญญาผ่อน(เดือนละ7000+) ผ่อนมาจนเหลือปิดยอดราวๆ290,000นิดๆ
ผมหาเงินไม่ทันครับ พูดตรงๆ พยายามอย่างที่สุดมันเครียดและกดดันเป็นอย่างมากที่ต้องแบกรับทุกอย่าง ผมหาทางออกไม่ได้และไม่คิดอยากฆ่าตัวตายเพื่อทิ้งคนข้างหลังผมให้ต้องลำบากด้วย
ผมจบไม่สูง ไม่ได้มีโอกาสอะไรเลย ไขว่คว้าจนมันหมดแรงจะไปต่อ เชื่อว่าถ้าใครเคยเจอเหตุการณ์แบบผมจะเข้าใจ ญาติพี่น้องไม่ช่วยเหลืออะไรซึ่งผมไม่โทษใครนอกจากตัวเองที่ดีไม่พอ
รู้สึกแย่มากเหมือนจะตายแต่ก็ตายไม่ได้ ไม่รู้จริงๆว่าตัวเองจะต้องทำยังไงต่อไป หาทางที่จะขายรถเพราะส่งต่อไปไม่ไหว แต่ถูกกดราคาให้ขายแค่หมื่น-สองหมื่น ผมแบบร้องไห้อะ น้อยใจตัวเอง

เลย
ขอคำแนะนำหน่อยครับ ไม่รู้จะไปปรึกษาใครจริงๆ
ปีนี้ผมอายุ23ปีครับ เป็นลูกคนโต
คุณแม่ของผมล้มป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ครอบครัวของผมมีทั้งหมด5คน(คุณตา-คุณยาย-แม่ และน้องสาวที่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่2ครับ)
เมื่อช่วงกลางๆเกือบจะ2ปีที่แล้วคุณตาของผมถูกจับ และถูกศาลตัดสินให้จำคุก(ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดตรงนี้เพราะค่อนข้างยาวนะครับ)
มันพอดีมาก มาพร้อมกับตอนที่แม่ของผมล้มป่วย ผมในตอนนั้นซึ่งกำลังจะเรียนต่อต้องหยุดทุกอย่างและกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวทันที
ผมมาทำงานต่างจังหวัด ได้เงินบ้างเล็กน้อยส่งให้ที่บ้านทุกๆเดือนไม่เคยขาด ช่วงหลังมานี้อย่างที่ทราบกันดีว่าเศรษฐกิจเริ่มถดถอย ในบางเดือนผมมีส่งให้ที่บ้านแค่2-3000บาท มันไม่พอครับ
ที่บ้านไม่มีใครที่จะสามารถทำงานได้เลย แม่ผมป่วย น้องยังเล็กอยู่มาก ตาติดคุก ส่วนคุณยายผมท่านแก่มากแล้วครับ ยังต้องคอยดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียง และน้องสาวที่ยังเด็กยังต้องเรียนหนังสือ
ความเครียดของผมคือหนี้สินจากการผ่อนรถของคุณแม่ที่ยังคงค้างยอด และต่อสัญญาผ่อน(เดือนละ7000+) ผ่อนมาจนเหลือปิดยอดราวๆ290,000นิดๆ
ผมหาเงินไม่ทันครับ พูดตรงๆ พยายามอย่างที่สุดมันเครียดและกดดันเป็นอย่างมากที่ต้องแบกรับทุกอย่าง ผมหาทางออกไม่ได้และไม่คิดอยากฆ่าตัวตายเพื่อทิ้งคนข้างหลังผมให้ต้องลำบากด้วย
ผมจบไม่สูง ไม่ได้มีโอกาสอะไรเลย ไขว่คว้าจนมันหมดแรงจะไปต่อ เชื่อว่าถ้าใครเคยเจอเหตุการณ์แบบผมจะเข้าใจ ญาติพี่น้องไม่ช่วยเหลืออะไรซึ่งผมไม่โทษใครนอกจากตัวเองที่ดีไม่พอ
รู้สึกแย่มากเหมือนจะตายแต่ก็ตายไม่ได้ ไม่รู้จริงๆว่าตัวเองจะต้องทำยังไงต่อไป หาทางที่จะขายรถเพราะส่งต่อไปไม่ไหว แต่ถูกกดราคาให้ขายแค่หมื่น-สองหมื่น ผมแบบร้องไห้อะ น้อยใจตัวเอง