“อนุสรณ์” ชี้คำพูด”บิ๊กแดง”ขวางปรองดองต้องแก้รธน.
https://www.innnews.co.th/politics/news_510456/
นาย
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.
อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. บรรยายพิเศษในหัวข้อ “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” จนทำให้เกิดบรรยากาศที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง ว่า
พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ออกมาชวนให้ทุกฝ่ายเลิกทะเลาะเบาะแว้งกัน เพื่อเดินหน้าปฏิรูปการเมือง ซึ่งถ้าทำได้อย่างที่พูด ประเทศไทยคงไม่เดินมาถึงจุดนี้ 5 ปีที่ผ่านมา ประชาชนตัดสินใจได้ว่า พล.อ.
ประยุทธ์ มีความจริงใจแค่ไหน ในการที่จะสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ สิ่งที่พล.อ.
อภิรัชต์ พูดไม่มีอะไรใหม่ ยังคงจมปลักอยู่ในชุดความคิดเดิมๆ ผูกขาดความรักชาติไว้แต่เพียงฝ่ายเดียว ผลักผู้เห็นต่างไปเป็นพวกชังชาติ ใครเป็นผู้ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ความขัดแย้งในรอบหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2514 ถึงปี 2563 เวลา 49 ปี แต่มีรัฐประหาร ถึง 6 ครั้ง เฉลี่ย 8 ปี มี 1 ครั้ง แทบทุกครั้งเริ่มมาจากการสร้างความหวาดระแวง สร้างภาพให้ผู้เห็นต่างเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ
นาย
อนุสรณ์ กล่าวต่ออีกว่า การออกมาประกาศกร้าวแสดงจุดยืนทางการเมืองแบบเลือกข้างของพล.อ.
อภิรัชต์ จึงเป็นเพียงสิ่งบ่งชี้หนึ่ง เหมือนยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำให้เห็น ลึกลงไปใต้ผิวน้ำยังมีรากของเครือข่ายเหล่านี้ขวางกั้นการปรองดองสมานฉันท์เต็มไปหมด สิ่งที่พรรคเพื่อไทย พยายามเร่งรัดผลักดันคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งย้ำมาโดยตลอดว่าไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 เพราะหากปล่อยประเทศให้เดินหน้าไปตามกติกานี้ ไม่มีใครรู้ว่าการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน แม้แต่พรรคร่วมรัฐบาล แม้วันนี้อาจได้ประโยชน์อยู่บ้าง แต่ที่สุดแล้วระบบที่วางเอาไว้ ประชาชนจะถูกกันนอกไปนอกวง เป็นรัฐราชการที่สมบูรณ์แบบ
JJNY : “อนุสรณ์” ชี้คำพูด”บิ๊กแดง”ขวางปรองดองต้องแก้รธน./ชง 5 ทิศทาง จัดงบฯ 63 แนะหยุดแจกหยุดหว่าน
https://www.innnews.co.th/politics/news_510456/
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ออกมาชวนให้ทุกฝ่ายเลิกทะเลาะเบาะแว้งกัน เพื่อเดินหน้าปฏิรูปการเมือง ซึ่งถ้าทำได้อย่างที่พูด ประเทศไทยคงไม่เดินมาถึงจุดนี้ 5 ปีที่ผ่านมา ประชาชนตัดสินใจได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความจริงใจแค่ไหน ในการที่จะสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ สิ่งที่พล.อ.อภิรัชต์ พูดไม่มีอะไรใหม่ ยังคงจมปลักอยู่ในชุดความคิดเดิมๆ ผูกขาดความรักชาติไว้แต่เพียงฝ่ายเดียว ผลักผู้เห็นต่างไปเป็นพวกชังชาติ ใครเป็นผู้ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ความขัดแย้งในรอบหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2514 ถึงปี 2563 เวลา 49 ปี แต่มีรัฐประหาร ถึง 6 ครั้ง เฉลี่ย 8 ปี มี 1 ครั้ง แทบทุกครั้งเริ่มมาจากการสร้างความหวาดระแวง สร้างภาพให้ผู้เห็นต่างเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ
นายอนุสรณ์ กล่าวต่ออีกว่า การออกมาประกาศกร้าวแสดงจุดยืนทางการเมืองแบบเลือกข้างของพล.อ.อภิรัชต์ จึงเป็นเพียงสิ่งบ่งชี้หนึ่ง เหมือนยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำให้เห็น ลึกลงไปใต้ผิวน้ำยังมีรากของเครือข่ายเหล่านี้ขวางกั้นการปรองดองสมานฉันท์เต็มไปหมด สิ่งที่พรรคเพื่อไทย พยายามเร่งรัดผลักดันคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งย้ำมาโดยตลอดว่าไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 เพราะหากปล่อยประเทศให้เดินหน้าไปตามกติกานี้ ไม่มีใครรู้ว่าการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน แม้แต่พรรคร่วมรัฐบาล แม้วันนี้อาจได้ประโยชน์อยู่บ้าง แต่ที่สุดแล้วระบบที่วางเอาไว้ ประชาชนจะถูกกันนอกไปนอกวง เป็นรัฐราชการที่สมบูรณ์แบบ