ทุกท่านเห็นด้วยหรือไม่ว่าการสอนแนวทางการปฏิบัติฝึกจิตหรือการภาวนาให้คนต่างชาติต่างศาสนาเป็นบททดสอบพรหมวิหารที่ดีแบบนึง?

อยากถามความคิดเห็นทุกๆท่านเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันว่าทุกท่านเห็นด้วยหรือไม่ว่าการที่พระภิกษุ​สงฆ์หรือฆราวาสในพระพุทธศาสนา​เราได้ทำการจัดอบรมหรือสอนการปฏิบัติทางพระพุทธศาสนา​ที่เป็นแก่นของศาสนาอย่างการฝึกฝนจิตใจที่เรียกว่าการภาวนา(หรือบางแหล่งเรียกปฏิบัติ​พระกรรมฐานหรือฝึกสมาธิ)​ทั้งสติ​ สมาธิและวิปัสสนาให้กับคนต่างชาต้ต่างศาสนาที่บางคนอาจเคร่งศาสนาเดิมหรืออาจไม่เอาศาสนาก็ได้​ เป็นการสอนการให้การไม่คาดหวังให้เขาเปลี่ยนศาสนา(ชาวพุทธบางคนยังคาดหวังอยู่เลย)​ ทุกท่านเห็นด้วยหรือไม่ว่าการไม่สอนโดยไม่หวังให้เขาเปลี่ยนศาสนาแบบนี้เป็นบททดสอบในการฝึกหลักพรหมวิหาร4ที่ดีที่สุดอย่างนึง​ คือการฝึกรักแบบคนใจกว้างโดยไม่หวังผลตอบแทน​ คือเมตตาปราถนาดีคอยร่วมทุกข์​ร่วมสุขโดยไม่หวังผลตอบแทนเขาไม่ได้ดั่งใจก็ปล่อยวางวางใจเฉยๆที่เรียกว่าอุเบกขาได้

ปล.อย่างที่เรารู้กันดีแหละครับว่าทุกวันนี้วงการพุทธองค์กรพุทธเราทั้งพระวิปัสสนาจารย์หรือพระภิกษุ​สงฆ์​ที่มีหน้าที่สอนการปฏิบัติภาวนารวมทั้งฆราวาสที่ฝึกฝนมาดีระดับนึงทั่งฝ่ายเถรวาท(มีพระวิปัสสนาจารย์พม่าเอย​ สายหลวงพ่อชา​ ท่านอาจารย์​พุทธทาสเอย​ สาย.. เอย) และเซน(พระเซนทางญี่ปุ่น​ ทางเวียดนามที่มีชื่อเสียงอย่างหลวงปู่ติชนัทฮันห์​ จากจีนเอย​ และฏราวาสที่ฝึกฝนมาดีระดับนึง​ เป็นต้น)​ ตลอดจนสายทอเบต(อย่างบรรดาลูกศิษย์​ลูกหาขององค์ทาไลลามะ)​ทำหน้าที่สอนหลักปฏิบัติให้แด่คนต่างเชื้อชาติและศาสนาอย่างเมตตาและใจกว้างฌเยไม่คาดหวังให้เบาเปลี่ยนศาสนา​ ขอแค่เขามีสุขภาพจิตมีภูมิคุ้มกัน​ทางจิตใจที่ดีก็พอ

ปล.2พรหมวิหาร4คือหลักความรักที่บริสุทธิ์​ที่ไม่มีเงื่อนไขไม่มีความคาดหวังสินะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่