มีพ่อที่แย่มากค่ะ ไม่อยากเกิดมาเป็นลูกพ่อคนนี้เลย ตอนเด็กตั้งแต่จำความได้คือพ่อแทบไม่อยู่บ้าน ติดการพนัน เฝ้าอยู่ที่บ่อน มีแม่คนเดียวเท่านั้นที่ดิ้นรนทำมาหากินเลี้ยงลูก เวลาหนูทำอะไรผิดนิดหน่อย ชอบตบหัว และด่าว่าอี่โง่ พอโตขึ้นมาหน่อยเริ่มเถียงเป็น มักเถียงเวลาพ่อด่าด้วยคำหยาบ พ่อก็จะตบหน้า จนเลือดกำเดาออก และถีบจนกระเด็นชนกำแพง ถ้าไม่มีคนห้ามคงตายไปแล้ว พ่อมักโมโหร้อน ทำลายข้าวของ โมเม้นที่จำได้ดีเลยคือตอนที่แม่ท้องน้องสาว วันหนึ่งพ่อกลับมากินข้าวเย็นที่บ้าน แม่เตรียมอาหารที่พ่อชอบอย่างดี ระหว่างทานข้าวแม่ก็พูดกับพ่อว่าไม่ไปเล่นการพนันแล้วได้ไหม แม่ต้องขายของหาเงินเลี้ยงลูกคนเดียว พ่อก็โมโหกวาดกับข้าวบนโต๊ะทิ้งหมดเลย อีกหลายเหตุการณ์ที่จำฝังใจคือพ่อเอามอเตอร์ไซค์คันเดียวในบ้านไปเล่นการพนัน ไม่มาช่วยแม่เก็บร้าน ฝนตกจนของที่ขายเปียกหมด (ตอนนั้นเราขายเสื้อผ้าข้างถนน ต้องใช้มอเตอร์ไซค์เพื่อลากรถเข็นใส่สินค้ากลับบ้าน) อีกเหตุการณ์คล้ายๆกันคือ พ่อเอามอเตอร์ไซค์แล้วหายไป ช่วงนั้นมันวันหยุดเทศกาล คนจะเยอะ ไม่มีคนมาช่วยแม่ลากสินค้า แม่ทำคนเดียวไม่ไหว แม่ร้องไห้หนักมากต่อหน้าลูกๆ อุ้มน้องชายที่ยังเดินไม่เป็น จูงหนูและน้องสาวเดินไปเป็นกิโล เพื่อตามพ่อกลับบ้าน แม่พาพวกเราไปยืนร้องไห้หน้าบ่อน
.
.
.
วีรกรรมพ่อเยอะมาก เล่ายังไงก็ไม่หมด ถ้าย้อนกลับไปช่วงที่เราย้ายมาไทยแรกๆ (เมื่อก่อนอยู่พม่า) พ่อเคยกระทั่งเอาเงินก้อนสุดท้ายไปเล่นการพนันจนหมด แม่มีติดตัวที่แอบหยอดกระปุกแค่ 5000 บาท เช่าห้องแถวเก่าๆ 2000 ซื้อพวกอุปกรณ์ทำข้าวฟืนอุ่นมือสองมาทำข้าวฟืนขายอีก 1000 เหลือเงินนิดหน่อย ขายข้าวฟืนตามถนนตอนดึกๆ และขยับขยายมาขายเสื้อผ้า จนทุกวันนี้กลายเป็นขายเกาลัด เลี้ยงลูกๆส่งเรียน และคืนหนี้สินจนหมด ประโยชน์ของพ่อมีแค่เป็นคนทำให้เกิดมา เป็นคนไปประชุมให้เวลามีงานโรงเรียน(ซึ่งไปแค่เซ็นส์ชื่อและหนีหาย) ซ่อมของในบ้านบ้างเป็นครั้งๆ ทำเรื่องทางราชการ พาไปสมัครเรียน หลังๆพอแก่ตัวมีช่วยแม่ขายของบ้าง (ตามอารณ์ ส่วนใหญ่ก็แม่ทำเอง) เอาเป็นว่าทุกคนในบ้านต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการใช้ชีวิตอยู่ด้วย
.
.
.
หนูและน้องๆมีแม่เป็นแบบอย่างมาตั้งแต่เด็ก แม่ไม่เคยเรียนหนังสือ แม่เป็นคนเชื้อชาติจีนสัญญาชาติพม่า(เป็นสาเหตุที่ทนอยู่กับพ่อ เพราะลูกๆอยู่ที่ไทย พ่อสัญชาติไทย) แต่แม่ทำทุกอย่างเพื่อเลี้ยงลูกๆ 3 คน เคยขายอะไหล่มอเตอร์ไซค์ ทำซีอิ๊วขาย ทำข้าวฟืนขาย ทำก๋วยเตี๋ยว ข้าวขาหมู ขายเสื้อผ้า สุดท้ายมาลงเอยด้วยขายเกาลัด แม่มักสอนพวกเราให้ค้าขายเป็นตั้งแต่เด็ก วันหยุดหนูจะได้เอากางเกงเลกกิ้งไปปูขายตามแหล่งนักท่องเที่ยว บางทีก็ขายตัวตุ๊กตาติดผนังในตลาดเช้า หลายปีมานี้พ่อดีขึ้น อารมณ์ร้ายกับคนในบ้านน้อยลงมากกก เพราะแม่เก่งขึ้นมากๆ มีสิทธิ์มีเสียงในบ้านมากขึ้น และไม่กลัวพ่อเหมือนเมื่อก่อน ลูกๆก็รักแม่มากกว่า อีกอย่างหนูเรียนจบมาดี และเงินเดือนสูง ไปเรียนเมืองนอกได้แทบไม่ต้องขอเงินที่บ้าน แข่งทักษะวิชาการได้รางวัลบ่อยๆ พ่อให้เกียรติหนูมากขึ้น ไม่ด่าหยาบเหมือนเมื่อก่อน น้องๆก็เรียนเก่งและเชื่อฟังแม่มากๆ
.
.
.
ทุกวันนี้ทำงานมาได้ 2 ปี หนูอุตส่าห์คิดว่าตัวเองให้อภัยได้แล้วนะ หายเกลียดได้แล้วนะ เพราะยังไงเขาก็พ่อ แม่ก็บอกเสมอว่าอย่าไปเกลียดเขา พระเจ้าไม่ชอบแบบนี้ (ครอบครัวเราเป็นคริสเตียนค่ะ ยกเว้นพ่อ) แต่ที่อยู่ๆเกิดมาตั้งกระทู้เพราะ เมื่อกี๊คุยโทรศัพท์กับแม่ แม่บอกว่าวันก่อนพ่อทะเลาะกับแม่อีกแล้ว เนื่องจากเถียงกันนิดหน่อยเรื่องจ่ายค่าเกาลัดที่ไปรับมาคั่วให้ตรงเวลา แม่เป็นคนรักษาคำพูดมากๆค่ะ ถ้าบอกเขาว่าจะจ่ายให้วันนี้ก็คือต้องวันนี้ แต่พ่อมักเป็นคนผลัด แม่เลยคะยั้นคะยอให้ไปจ่าย เพราะแม่ต้องเฝ้าร้าน (จ่ายสดค่ะ เพราะโอนเงินไม่เป็น) พ่อโมโหเพราะรำคาญ จับเครื่องชั่งเกาลัดทุ่มพื้น จนลูกค้าที่เดินผ่านไปมาหน้าร้านต้องเดินหลบไปไกลๆ หอบเสื้อผ้าไป 2-3 ตัวและไปเฝ้าอยู่ที่บ่อนไม่กลับบ้าน ทิ้งแม่ดูแลร้านคนเดียว แต่แม่ก็ชิลๆ นะ ไม่ร้องไห้เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แต่หนูไม่ชอบเลย ทำไมคนๆหนึ่งถึงหน้าด้านได้ขนาดนี้ ? ทำไมถึงทิ้งภาระหน้าที่ทุกอย่างให้ผู้หญิงคนหนึ่งโดยไม่ละอายแก่ใจ ? ทำไม

? ทำไมเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ ?
.
.
.
แม่บอกเสมอว่าผู้หญิงถ้าได้สามีดี เหมือนถูกรางวัลใหญ่นะ หนูก็หวังเสมอว่าจะเจอคนที่โอเคร ถ้าไม่ดีขออยู่คนเดียว ไม่อยากแต่งงานผิด ไม่อยากพลาด ทุกวันนี้เหงามากค่ะ แต่ก็ไม่เจอคนที่ใช่สักที เนื่องจากโตมาแบบอยากได้อะไรจะหาเอง ไม่ค่อยง้อคน เลยทำให้ดูเป็นคนห้าวๆ กระด้างๆ ค่ะ แต่ข้างในอ่อนไหวง่ายนะคะ ผู้ชายที่เห็นว่าเป็นคนดีมากๆมีความรับผิดชอบ มีความเป็นผู้นำ เขามักจะชอบผู้หญิงหวานๆเนอะ ส่วนที่มาจีบก็ไม่โอเครเลย คิดๆดูสงสัยคงเหมาะกับการอยู่เดียวมั้งคะ ถ้าสมมุติพลาดแต่งงานผิด ยังไงก็หย่าค่ะ ไม่ยอมเป็นเหมือนแม่แน่นอน ไม่สนกฏศาสนาอะไรทั้งนั้น(ศาสนาคริสต์ แต่งงานแล้วห้ามหย่าค่ะ นอกจากคู่สมรสทำผิดเรื่องชู้สาว )
.
แค่เข้ามาเล่าๆบ่นๆนะคะ เพราะไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง
ใครจะมาว่าเป็นลูกอกตัญญูก็แล้วแต่นะคะ นี่ก็พยายามทำหน้าที่ลูกอยู่นะ ไม่ว่าจะซื้อมือถือให้ ซื้อเสื้อผ้าดีๆให้ ให้เงินใช้บ้าง ทั้งที่ตั้งแต่จำความได้ไม่เคยได้กินแม้แต่โจ๊กจากเขา ไม่เคยแม้แต่คำพูดให้กำลังใจ สมัยเรียนมหาลัยพ่อไม่เคยโทรหา คุยแค่กับแม่ ทุกวันนี้ทำงานแล้วก็คุยแค่กับแม่ กลับบ้านก็เจอกันน้อยมาก ในใจลึกๆก็คงรักเค้าอยู่มั้ง
เกลียดพ่อจังงงง
.
.
.
วีรกรรมพ่อเยอะมาก เล่ายังไงก็ไม่หมด ถ้าย้อนกลับไปช่วงที่เราย้ายมาไทยแรกๆ (เมื่อก่อนอยู่พม่า) พ่อเคยกระทั่งเอาเงินก้อนสุดท้ายไปเล่นการพนันจนหมด แม่มีติดตัวที่แอบหยอดกระปุกแค่ 5000 บาท เช่าห้องแถวเก่าๆ 2000 ซื้อพวกอุปกรณ์ทำข้าวฟืนอุ่นมือสองมาทำข้าวฟืนขายอีก 1000 เหลือเงินนิดหน่อย ขายข้าวฟืนตามถนนตอนดึกๆ และขยับขยายมาขายเสื้อผ้า จนทุกวันนี้กลายเป็นขายเกาลัด เลี้ยงลูกๆส่งเรียน และคืนหนี้สินจนหมด ประโยชน์ของพ่อมีแค่เป็นคนทำให้เกิดมา เป็นคนไปประชุมให้เวลามีงานโรงเรียน(ซึ่งไปแค่เซ็นส์ชื่อและหนีหาย) ซ่อมของในบ้านบ้างเป็นครั้งๆ ทำเรื่องทางราชการ พาไปสมัครเรียน หลังๆพอแก่ตัวมีช่วยแม่ขายของบ้าง (ตามอารณ์ ส่วนใหญ่ก็แม่ทำเอง) เอาเป็นว่าทุกคนในบ้านต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการใช้ชีวิตอยู่ด้วย
.
.
.
หนูและน้องๆมีแม่เป็นแบบอย่างมาตั้งแต่เด็ก แม่ไม่เคยเรียนหนังสือ แม่เป็นคนเชื้อชาติจีนสัญญาชาติพม่า(เป็นสาเหตุที่ทนอยู่กับพ่อ เพราะลูกๆอยู่ที่ไทย พ่อสัญชาติไทย) แต่แม่ทำทุกอย่างเพื่อเลี้ยงลูกๆ 3 คน เคยขายอะไหล่มอเตอร์ไซค์ ทำซีอิ๊วขาย ทำข้าวฟืนขาย ทำก๋วยเตี๋ยว ข้าวขาหมู ขายเสื้อผ้า สุดท้ายมาลงเอยด้วยขายเกาลัด แม่มักสอนพวกเราให้ค้าขายเป็นตั้งแต่เด็ก วันหยุดหนูจะได้เอากางเกงเลกกิ้งไปปูขายตามแหล่งนักท่องเที่ยว บางทีก็ขายตัวตุ๊กตาติดผนังในตลาดเช้า หลายปีมานี้พ่อดีขึ้น อารมณ์ร้ายกับคนในบ้านน้อยลงมากกก เพราะแม่เก่งขึ้นมากๆ มีสิทธิ์มีเสียงในบ้านมากขึ้น และไม่กลัวพ่อเหมือนเมื่อก่อน ลูกๆก็รักแม่มากกว่า อีกอย่างหนูเรียนจบมาดี และเงินเดือนสูง ไปเรียนเมืองนอกได้แทบไม่ต้องขอเงินที่บ้าน แข่งทักษะวิชาการได้รางวัลบ่อยๆ พ่อให้เกียรติหนูมากขึ้น ไม่ด่าหยาบเหมือนเมื่อก่อน น้องๆก็เรียนเก่งและเชื่อฟังแม่มากๆ
.
.
.
ทุกวันนี้ทำงานมาได้ 2 ปี หนูอุตส่าห์คิดว่าตัวเองให้อภัยได้แล้วนะ หายเกลียดได้แล้วนะ เพราะยังไงเขาก็พ่อ แม่ก็บอกเสมอว่าอย่าไปเกลียดเขา พระเจ้าไม่ชอบแบบนี้ (ครอบครัวเราเป็นคริสเตียนค่ะ ยกเว้นพ่อ) แต่ที่อยู่ๆเกิดมาตั้งกระทู้เพราะ เมื่อกี๊คุยโทรศัพท์กับแม่ แม่บอกว่าวันก่อนพ่อทะเลาะกับแม่อีกแล้ว เนื่องจากเถียงกันนิดหน่อยเรื่องจ่ายค่าเกาลัดที่ไปรับมาคั่วให้ตรงเวลา แม่เป็นคนรักษาคำพูดมากๆค่ะ ถ้าบอกเขาว่าจะจ่ายให้วันนี้ก็คือต้องวันนี้ แต่พ่อมักเป็นคนผลัด แม่เลยคะยั้นคะยอให้ไปจ่าย เพราะแม่ต้องเฝ้าร้าน (จ่ายสดค่ะ เพราะโอนเงินไม่เป็น) พ่อโมโหเพราะรำคาญ จับเครื่องชั่งเกาลัดทุ่มพื้น จนลูกค้าที่เดินผ่านไปมาหน้าร้านต้องเดินหลบไปไกลๆ หอบเสื้อผ้าไป 2-3 ตัวและไปเฝ้าอยู่ที่บ่อนไม่กลับบ้าน ทิ้งแม่ดูแลร้านคนเดียว แต่แม่ก็ชิลๆ นะ ไม่ร้องไห้เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แต่หนูไม่ชอบเลย ทำไมคนๆหนึ่งถึงหน้าด้านได้ขนาดนี้ ? ทำไมถึงทิ้งภาระหน้าที่ทุกอย่างให้ผู้หญิงคนหนึ่งโดยไม่ละอายแก่ใจ ? ทำไม
.
.
.
แม่บอกเสมอว่าผู้หญิงถ้าได้สามีดี เหมือนถูกรางวัลใหญ่นะ หนูก็หวังเสมอว่าจะเจอคนที่โอเคร ถ้าไม่ดีขออยู่คนเดียว ไม่อยากแต่งงานผิด ไม่อยากพลาด ทุกวันนี้เหงามากค่ะ แต่ก็ไม่เจอคนที่ใช่สักที เนื่องจากโตมาแบบอยากได้อะไรจะหาเอง ไม่ค่อยง้อคน เลยทำให้ดูเป็นคนห้าวๆ กระด้างๆ ค่ะ แต่ข้างในอ่อนไหวง่ายนะคะ ผู้ชายที่เห็นว่าเป็นคนดีมากๆมีความรับผิดชอบ มีความเป็นผู้นำ เขามักจะชอบผู้หญิงหวานๆเนอะ ส่วนที่มาจีบก็ไม่โอเครเลย คิดๆดูสงสัยคงเหมาะกับการอยู่เดียวมั้งคะ ถ้าสมมุติพลาดแต่งงานผิด ยังไงก็หย่าค่ะ ไม่ยอมเป็นเหมือนแม่แน่นอน ไม่สนกฏศาสนาอะไรทั้งนั้น(ศาสนาคริสต์ แต่งงานแล้วห้ามหย่าค่ะ นอกจากคู่สมรสทำผิดเรื่องชู้สาว )
.
แค่เข้ามาเล่าๆบ่นๆนะคะ เพราะไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง
ใครจะมาว่าเป็นลูกอกตัญญูก็แล้วแต่นะคะ นี่ก็พยายามทำหน้าที่ลูกอยู่นะ ไม่ว่าจะซื้อมือถือให้ ซื้อเสื้อผ้าดีๆให้ ให้เงินใช้บ้าง ทั้งที่ตั้งแต่จำความได้ไม่เคยได้กินแม้แต่โจ๊กจากเขา ไม่เคยแม้แต่คำพูดให้กำลังใจ สมัยเรียนมหาลัยพ่อไม่เคยโทรหา คุยแค่กับแม่ ทุกวันนี้ทำงานแล้วก็คุยแค่กับแม่ กลับบ้านก็เจอกันน้อยมาก ในใจลึกๆก็คงรักเค้าอยู่มั้ง