ชวนคุย : คุณพ่อนักรบแห่งแสง & Joker ความรู้สึกสองขั้วอารมณ์หลังดู

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวพันทิพ หายไปทำงานมาพักใหญ่ แต่งานอดิเรกดูหนัง ดูซีรี่ส์ ก็ยังมีไม่ขาดค่ะ อิอิ

วันนี้ วันที่ 10 เดือน 10 ที่โรงหนังต่างๆ พากันลดราคาตั๋วเป็นพิเศษ ซึ่งวันนี้มีหนังใหม่เข้าวันแรกด้วย ตอนเย็นว่าจะไปเก็บมาอีกสักเรื่องค่ะ แต่ขอมารีวิวหนังของสัปดาห์ที่แล้วก่อนเนอะ เผื่อใครอยากจะดูก่อนจะลาจอกันไป

ยิ้ม คุณพ่อนักรบแห่งแสง Final Fantasy XIV
--------------------------------------------------
เรื่องนี้รีวิวเลทไปสักหน่อย เราไปดูมาในรอบพิเศษ วันเสาร์ที่ 21 ก.ย. ที่สกาล่าค่ะ ด้วยความที่เราเล่นเกมนี้อยู่แล้ว และได้ดูเวอร์ชั่นซีรี่ส์มาก่อนอีกต่างหาก ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะไม่ไปดู เพราะคิดว่าเนื้อหาคงไม่ต่างไปจากเดิม และคุณพ่อของฉบับซีรี่ส์ก็แสดงได้ดีมาก (เสียใจที่เขาเสียชีวิตไปแล้วค่ะ)

แต่หลังจากไปดูมาแล้วก็ต้องบอกว่าดีใจที่ไม่ได้พลาดเวอร์ชั่นนี้ไป ทุกอย่างละมุนกลมกล่อม ไม่คิดว่าทีมงานจะหยิบประเด็นนางเอกประจำเรื่องมาทำเพิ่มเติม ส่วนน้องสาวของพระเอกก็มาขยายความรู้สึกในหลายประเด็น

คุณพ่อของเวอร์ชั่นนี้ ก็แสดงได้ดีมากค่ะ ถึงคุณจะรู้อยู่แล้วว่าต้องมีฉากนี้เรียกน้ำตา แต่ฉากเรียกน้ำตานั้นก็ยังเรียกน้ำตาได้อยู่ดี ในอารมณ์ที่อิ่มเอมใจกับความสัมพันธ์ของตัวละครค่ะ

พระเอกนั้นก็หล่อ น่ารัก แสดงได้น่ารักดีค่ะ อิอิ อันนี้ของเขาดีจริง

ความรู้สึกของคนที่เล่นเกมนี้มาก่อน ก็จั้กจี้ฉากประกอบจากเกมในหลายๆ ฉาก ว่าอิหยังวะ อยู่เหมือนกัน แต่ถ้ามองในมุมคนไม่เคยเล่น มันก็เป็นส่วนเสริมที่ดีค่ะ

ณ วันนี้ อาจจะเหลือรอบน้อย มากๆ แล้ว แต่ก็ยังพอมีอยู่บ้างนะคะ ใครสนใจลองหารอบไปดูกันได้นะคะ

ยิ้ม Joker
----------------------------------------------
เป็นหนังอีกเรื่องที่ตอนแรกคิดว่าจะไม่ไปดูแล้ว เพราะอ่านรีวิว บวกกับคำเตือนจากเพจต่างๆ ว่าไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า แต่สุดท้ายด้วยความที่ชอบหนังแนวชีวิตอะไรแบบนี้ ที่จะหาเพื่อนดูด้วยก็ยาก ประกอบกับวันพุธหนังลดราคาพอดี ก็เลยลองเข้าไปดูค่ะ

ช่วงแรกของหนัง ทำให้เราอึดอัด จนหายใจลำบากนิดนึงค่ะ แต่เพราะเตรียมใจมาแล้วว่า "ดูหนังให้เป็นดูหนัง" ก็เลยทำให้ดูจนจบมาได้

โดยรวมในเรื่องนี้ มีประเด็นที่จะโดนใจคนที่กำลังประสบปัญหา ล้มเหลว สิ้นหวังในชีวิต ประมาณนึงเลยค่ะ ถ้าหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ เป็นหนังที่สร้างพลังใจ สร้างแรงฮึดสู้ชีวิต มีความหวังในอนาคต หนังเรื่องนี้จะเป็นโทนตรงกันข้ามค่ะ

บางคนคิดว่าดูโจ๊กเกอร์มาก็หลายเวอร์ชั่น พอๆ กับดูไอ้แมงมุมที่มีหลายภาค เนื้อหาคงไม่ได้มีอะไรแปลกแตกต่างนักหรอก คงต้องบอกว่าประเด็นที่เวอร์ชั่นนี้หยิบมานั้น เขานำเสนอในประเด็นต่างๆ ได้ดีค่ะ

นักแสดงที่แสดงเป็นโจ็กเกอร์นั้น ก็แสดงได้ดีมาก ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกได้ถึงแก่น เสียงหัวเราะของเขาที่ทำให้เราต้องมามองว่านี่หัวเราะด้วยอารมณ์ไหนกัน แล้วความเป็นเหตุเป็นผล โดยเฉพาะประเด็นครอบครัว ที่สุดท้ายทำไมเขาถึงได้กลายเป็นโจ็กเกอร์ ที่เราก็เผลอเข้าใจไปได้ซะอย่างนั้น

ในชีวิตจริง ในช่วงชีวิตที่คนเราต้องเจอเรื่องร้ายๆ วูบนึงเราคงคิดที่อยากจะทำแบบโจ็กเกอร์กันบ้าง แต่ความยับยั้งชั่งใจ การแยกแยะอารมณ์กับความเป็นจริง ระดับศีลธรรมในใจ คนรอบข้างที่รักเรา หรือแม้กระทั่งแมวตัวนึงที่เราเลี้ยงไว้ด้วยความรัก ก็ทำให้เราก้าวข้ามเรื่องแย่ๆ เหล่านั้นมาได้ ส่วนโจ็กเกอร์ที่ "ไม่มีอะไรจะเสีย" จึงขอให้เป็นการแสดงออกที่มีเฉพาะในหนังก็พอค่ะ

ในอีกมุมหนึ่ง หนังเรื่องนี้จะกลายเป็นหนังน่าเบื่อ ชวนง่วงไปเลย ถ้าคุณไม่ได้ดูแล้วอินไปกับตัวละคร (จากการพูดคุยกับเพื่อนๆ ที่ไปดูกันมาแล้ว)

สำหรับใครที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกอิน เริ่มด่าความล้มเหลวในระบบสังคมต่างๆ นาๆ ขอให้ตั้งสติ แล้วไปหาอะไรทำให้ผ่อนคลายนะคะ เราผ่านหนังสะท้อนสังคมแนวนี้มาหลายเรื่องแล้วเนอะ

แล้วเพื่อนๆ ละคะ หลังจากดูหนังทั้งสองเรื่องนี้มาแล้ว รู้สึกยังไงกันบ้าง มาแบ่งปันความรู้สึกกันค่ะ (ถ้าใครกล่าวถึงเนื้อเรื่องที่อาจจะสปอย รบกวนใส่กันสปอยเผื่อคนที่ยังไม่ได้ดูด้วยนะคะ)

ขอบคุณที่อ่านจนจบ และขอบคุณสำหรับการแวะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะคะ

เม่าอ่าน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่