JJNY : ว่างงานก.ย.62 ตกงานพุ่งป.ตรีอื้อเกือบ 2แสนคน!ฯ/ไทยรั้งอันดับ75สมาร์ทซิตี้โลก 62ฯ/World Bank หั่น GDPไทยเหลือ2.7%ฯ

เผย คนว่างงาน ก.ย.62 ตัวเลขฟ้อง ตกงานพุ่ง ป.ตรีอื้อ เกือบ 2 แสนคน!
https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_2961673

วันที่ 10 ต.ค. นายภุชพงค์ โนดไธสง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยผลสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 พบว่า จำนวนผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป 56.64 ล้านคน เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงานหรือผู้ที่พร้อมจะทำงาน 37.72 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วยผู้มีงานทำ 37.21 ล้านคน ผู้ว่างงาน 3.85 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล 1.2 แสนคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงานหรือผู้ที่ไม่พร้อมทำงาน 18.92 ล้านคน ได้แก่ แม่บ้าน นักเรียน คนชรา เป็นต้น

สำหรับผู้ว่างงาน 3.85 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 1.0 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 1.2 หมื่นคน และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 3.0 พันคน

เมื่อพิจารณาอัตราการว่างงานตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มวัยเยาวชนหรือผู้มีอายุ 15-24 ปี มีอัตราการว่างงานร้อยละ 6.5 ซึ่งปกติในกลุ่มนี้ อัตราการว่างงานจะสูง ส่วนกลุ่มวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) มีอัตราการว่างงานร้อยละ 0.4 และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 กลุ่มวัยเยาวชนมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 5.1 เป็นร้อยละ 6.5
 
เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ว่างงาน จำแนกตามระดับการศึกษาที่สำเร็จ พบว่า ผู้ว่างงานที่สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษามีจำนวนสูงสุดคือ 1.73 แสนคน (อัตราการว่างงานร้อยละ 2.2) รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า 8.4 หมื่นคน (ร้อยละ 1.3) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 7.7 หมื่นคน (ร้อยละ 1.2) ระดับประถมศึกษา 4.2 หมื่นคน (ร้อยละ 0.5) และไม่มีการศึกษา และต่ำกว่าประถมศึกษา 9.0 พันคน (ร้อยละ 0.1) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 พบว่า ผู้ว่างงานระดับมัธยมศึกษาตอนต้นลดลง 2.0 หมื่นคน ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษาลดลง 3.0 พันคน ในขณะที่ระดับอุดมศึกษาเพิ่มขึ้น 2.8 หมื่นคน ระดับประถมศึกษาเพิ่มขึ้น 4.0 พันคน และระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าเพิ่มขึ้น 3.0 พันคน

รายงานการว่างงาน
http://www.nso.go.th/sites/2014/DocLib13/ด้านสังคม/สาขาแรงงาน/ภาวะการทำงานของประชากร/2562/Report_09-62.pdf



ไทยรั้งอันดับ 75 ดัชนีสมาร์ทซิตี้โลกปี 2562
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/850355

ยุทธศาสตร์การสร้างสมาร์ทซิตี้ทั่วโลกพอจะสรุปความสำคัญได้ 3 ประการ คือ 

1. เป็นเมืองที่พลเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสมดุลทางสังคม
2. เป็นเมืองที่มีการพัฒนาและมีการใช้เทคโนโลยี รวมทั้งมีนวัตกรรมที่นำมาใช้อย่างเกิดประสิทธิผล รวมทั้งมีการสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ และ 3. เป็นเมืองที่มีการอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างเคร่งครัด

สถาบันจัดอันดับขีดความสามารถด้านการแข่งขันโลก (ไอเอ็มดี) ได้เผยแพร่ดัชนีสมาร์ทซิตี้โลกปี 2562 ที่ประกอบด้วยเมืองและประเทศต่างๆ 102 แห่ง โดย10 เมืองหรือ10ประเทศที่ได้คะแนนสูงสุดในปีนี้ เริ่มจากอันดับ 
1. สิงคโปร์ ได้คะแนน AAA 
2. เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้คะแนน AAA 
3. กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ได้คะแนน AA 

อันดับ4. นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้คะแนน AA 
อันดับ5. กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ได้คะแนน AA
อันดับ 6. โอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ได้คะแนนA 
อันดับ7. กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน ได้คะแนน A 
อันดับ8. กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ได้คะแนน A อันดับ9. บิลเบา ประเทศสเปน ได้คะแนน A อันดับ10 ดุสเซลดอล์ฟได้คะแนน A 

ส่วนไทยปีนี้ติดอันดับที่ 75 ได้คะแนน CCC

ไทยหลุดท็อป10 มาหลายสิบอันดับแบบนี้ เห็นทีรัฐบาลคงต้องเร่งเครื่องโครงการต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกเสียแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่