สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เขียนในพันทิพย์ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยค่ะ
เริ่มเรื่องเลย คือ ดิฉัน มีพี่น้อง 4 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด ตัวฉันเองเป็นคนสุดท้อง ที่บ้าน ตอนเด็กๆ ยากจนมากๆ
พี่คนโต ซึ่งเป็นลูกคนละพ่อ ก็ ชอบมีลูก และ เอามาทิ้งให้แม่ดิฉันเลี้ยงตลอด ทำอย่างนี้ จน มีลูก ถึง 4 คน และก็ทิ้งไป
สร้างภาระให้แม่ดิฉัน และพ่อของดิฉันก็ ประสบอุบัติเหตุจากการทำสวนดอกรัก หน้ามืด ล้มและตกสะพาน จนเป็นอัมพาติ
ตอนนั้น ฉันอยู่ ป. 4 แม่ ก็ไม่พาพ่อไปหาหมอ คอยทุบตีพ่อ เพราะพ่อขับถ่ายเลอะไปหมด พี่น้องทุกๆ คนรังเกียจพ่อมากๆ
เพราะพ่อ เคยกินเหล้า แล้วพรำ่บ่น พอพ่อป่วย ทุกคน ก็เลย รังเกียจ บวกทั้ง แม่ชอบเอาพ่อมาประจาน ว่าพ่อ เคยพยายามล่วงเกิน
พี่คนโต ( ลูกคนละพ่อ) ทำให้ พี่ๆ เกลียดพ่อมากๆ ซึ่งฉันก็ไม่รู้หรอกว่าจริงหรือไม่ แต่ที่รู้ๆ คือ พี่คนโตคนนี้ ดิฉันเคยรักมากๆ แต่พอเห็น
แก ไปมีแฟน แล้วมีลูก ทำทีมาขอขมาแม่ ลูกตัวแดงๆ แม่เลยให้อภัย พี่ก็มาอยู่บ้าน ไม่กี่เดือน ก็ทิ้งลูกทิ้งผัวไป มีคนใหม่ และก็ทำแบบนี้
มาตลอด 4 ครั้ง พ่อของหลาน นี่คนละพ่อกันหมด แม่ไม่เคยบ่นหรือด่าพี่คนนี้เลย
ฉันโกรธมาก เข้าเรื่องที่พ่อเป็นอัมพาติ พี่คนนี้ มาตีพ่อดิฉัน ทั้งเตะ ทั้งต่อย แม่ก็ไม่ห้ามแถมหัวเราะ
ฉันทนไม่ไหว ตอนนั้น อายุแค่ 9 ขวบ เอง ก็ไปยกมือไหว้ อย่าทำพ่อหนูเลย
จากนั้น ภาระ เช็ดอึ อาบน้ำ ถ่ายกระโถน ทุกคนโยนมาให้ดิฉัน เค้าบอก รักพ่อก็ทำ
ฉัน ก็ทำตลอด พ่อพยายามสอนทำกับข้าวด้วย เพราะ ไม่มีใครทำกับข้าวให้พ่อกิน
ฉันเคยถามพ่อว่า เคยจะข่มขืนพี่สาวฉันจริงๆ เหรอ พ่อก็ยืนยันว่า ไม่เคย ในใจ ฉันไม่สนหรอก เพราะยังไงเค้าก็คือพ่อฉัน
พี่คนโต ก็หนีตามผู้ชายไปแล้ว และ ก็เหลือ พี่ๆ และ ฉัน รวมแม่ด้วย พี่คนที่สอง เรียนจบ ประถม แม่ไม่ยอมให้เรียนต่อ
ให้ไปทำงานโรงงานกับแม่ พี่เค้าร้องไห้หนักมาก ส่วนพี่คนที่ สามเข้าเรียนม.ต้น
ฉันกับพี่คนที่สอง หลังเลิกเรียนทุกวัน ต้องไปรับจ้างทำสวน แ

กรัก แล้วเอาเงินทุกบาทให้แม่
แม่ก็จะเอาเงินนั่น มาจ่ายให้ฉัน ไปโรงเรียน วันละ 10 บาท ส่วน พี่ที่เรียน ม.ต้น ได้ 20 บาท
ส่วนหลานชายที่เกิดจากพี่คนโต ที่เอามาให้แม่ฉันเลี้ยงมีนิสัย ขี้ขโมย มาขโมยเงินค่ารถที่แม่ชอบวางไว้บนตู้เย็นทุกเช้า
จนฉันต้องเดินไปโรงเรียน ไม่มีข้าวกิน พอเอาเรื่องนี้มาพูดให้แม่ฟัง ไอ้หลานคนนี้มันก็โทษว่าพ่อของฉันที่เป็นอัมพฤกษ์ เอาไป ( พ่อเริ่มถัดได้แล้ว แต่เดินไม่ได้ ยืนก็ไม่ได้ ฉันแอบดู ก็เห็นว่ามันเอาไป แต่แม่ก็ยังหูเบาเชื่อหลานอีก แถมมากระทืบพ่อจนฉันร้องห้าม และ แม่ก็โกรธฉันกับพี่คนที่ 3 มาก เลย ไม่ให้เงินไปโรงเรียน เป็นเดือน ตอนนั้น ฉันอยู่ ป 6 พี่คนที่ 3 กำลังขึ้น ม.ปลาย
พี่คนที่สองที่ไปทำงานกับแม่ที่โรงงาน ทนไม่ไหว ที่แม่ยึดเงินเดือนของเค้าหมด ทะเลาะตบตีกัน ฉันเครียดมากๆ ที่ต้องเห็นที่บ้านเป็นอย่างนี้ พ่อก็ปวดตัวทุกวัน ฉันก็ไปบีบไปนวดให้ แม่กลับจากที่ทำงานมาเห็น ด่าฉันใหญ่ ว่าระวังพ่อ จะข่มขืน ฉัน เริ่มโตแล้ว
รู้อะไรผิด อะไรไม่ดีแล้ว ฉัน ไม่เชื่อหรอกว่าพ่อจะคิดอกุศลแบบนั้น ลืมไปว่า ทุกครั้งที่พวกเราพยายามหาเหตุผลมาโต้แย้ง
จะเจอตบ หรือไม่ก็เจอไม้กวาดฟาด และ ไล่ให้พวกเราออกจากบ้านเขาไป ฉันได้แต่ร้องไห้ จนน้ำตามันหายไปหมด เจ็บตัวยังหาย แต่เจ็บที่ใจ มันกรัดกร่อน จนไม่เหลืออะไรเลย แต่ที่ต้องอยู่ เพราะรู้สึกอุ่นใจที่ได้อยู่กับพ่อ และฉันก็ยังเด็กมากๆ
พี่คนที่สอง ทะเลาะกับแม่บ่อยเข้า โดนไล่บ่อยๆ ก็เลย ไปจริงๆ และ อีกไม่กี่ปีถัดมา พี่คนที่สาม ก็ ทนไม่ไหว ออกจากบ้านไป
เหลือฉัน กับพ่อ และหลานๆ ( ลูกของพี่คนโต)
ลำบากมาก แต่สบายใจ เพราะไม่ต้องมาทนเห็นพวกเขาทะเลาะกัน
ผ่านไปไม่กี่ปี พี่คนที่สองก็ท้อง และพาแฟนมากราบแม่ และก็อยู่ด้วยกันทั้งหมด เรื่องอลเวงก็เกิดอีกแล้ว
มีหัวขโมย ขโมย เงิน ของฉันบ้าง ของ พี่เขยบ้าง ของแม่บ้าง
ฉันรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร แต่แม่ก็ยังหาว่าเป็นพ่อฉันอยู่ดี ทะเลาะกันเสียงดังจน คนข้างบ้านเอือม
หลานๆ ลูกพี่คนโต เป็นเด็ก ที่มีปมด้อยมาก ชอบขโมย จนแก้ไม่หาย และแม่ฉันเองที่ไม่เคยอบรมพวกมัน จนมันได้ใจ
มีครั้งนึงที่ฉันไปเป็นพนักงานห้าง ช่วงปิดเทอม ได้เงินเดือน 4,000 บาท ก้อนแรก ดีใจมากๆ แต่พอลงไปอาบน้ำ กลับเข้ามาในห้อง
เงินหายไปแล้ว พอถาม ก็ทะเลาะกัน แม่ก็ตบฉันว่า พูดทำไม ให้อายชาวบ้าน ก็นั่นมันเงินที่ฉันทำงานมาทั้งเดือน
โดนขโมยแบบนี้ แถมยังโดนตบอีก เสียใจมากๆ
พี่คนที่ 2 กับสามีก็เลย ย้ายออก ก็ยังคงเหลือฉัน และหลานๆ จอมแสบ ฉันยังคงต้อง
ดูแลพ่อพิการเช่นเคย หาข้าวให้พ่อกิน เทกระโถน ซักผ้าเปื้อนอุจาระ อาบน้ำให้พ่อ ทำอย่างนี้ก่อนไปโรงเรียนทุกวัน
จนฉันขึ้น ปวส . ต้องเรียน รอบเช้า ประกอบกับ ได้งานร้องเพลงสากลกับวงดนตรีตอนค่ำ และยังคงทำงานห้างช่วง วันเสร์ อาทิตย์
เลยไม่ค่อยได้มีเวลากับพ่อเหมือนเดิม
แม่เอาคนมาสร้างเพิงเล็กๆ หลังบ้าน ที่มีแต่หลังคา ไม่มีกำแพง และให้คนงาน มาอุ้มพ่อเราลงไปไว้ที่เพิงน้ัน
ฉันเจ็บปวดใจมาก ทำไม ทำกับพ่อฉันแบบนี้ ฉันเลยโวยวาย แม่บอกว่า พ่อขี้เหม็น อยู่บนบ้าน ก็ ส่งกลิ่นเหม็นเน่า ตายๆ ไปซะ จะได้หมดเวร หมดกรรม
ฉันได้แต่ร้องไห้ ไม่เข้าใจเลย พ่อไม่เคย พูดให้ร้าย แม่ฉันสักครั้ง แต่พ่อของฉันโดนกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ช่วงนั้น น้ำท่วมสูง ฉัน ต้องเดินลุยน้ำ เอาข้าวไปให้พ่อกิน
พ่อป่วยหนักไข้สูงมาก ฉันเช็ดตัวให้พ่อ และป้อนข้าวให้พ่อ แต่ปรากฏว่ายังมีอาหารที่ฉันป้อนเมื่อคืนยังอยู่ในปากพ่อฉันอยู่เลย
พ่อ ไม่มีแรงแม้กระทั่งจะพูด ฉันต้องรีบไปโรงเรียน เพราะมีสอบ จึงบอกพ่อว่าเดี๋ยวกลับมาจะพาไปหาหมอนะพ่อ อย่าเป็นอะไรไปนะ
ฉันให้เงิน แบงค์ ร้อยกับพ่อ พ่อยกมือ ไหว้ฉัน บอกเอาไปใส่ในห่อยาตั้งให้พ่อด้วย ฉันร้องไห้หนักมาก
พอไปโรงเรียน สอบเสร็จ ฉันจึงปรึกษากับเพื่อน คนหนึ่ง เธอก็ดีกับฉันมาก อุตส่าห์มาช่วยฉันแบก พ่อ เพื่อที่จะไปโรงบาล แม่มาเห็นก็ด่าใหญ่ แต่ก็พากันช่วยอุ้มพ่อขึ้นรถไป โรงบาล พ่อท้องป่องมากๆ พยาบาลกับหมดต้องช่วยกันกดท้อง เอาฉี่ออกมา เป็นสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ
ฉันก็ไปนอน เฝ้าพ่อทุกวัน และมีอยู่วันหนึ่ง น้าผู้ชายที่ป่วยข้างเตียงของพ่อ เสียไปต่อหน้าเรา และ พ่อ แต่เค้าไม่มีเงินค่ายาฉีดศพฟอมาลีน
พ่อเลย เอาเงินที่อยู่ในห่อยาตั้ง ที่เป็นเงินที่ฉันให้ไว้ใช้ พ่อเก็บสะสมเอาไว้ เพราะออกไปซื้ออะไรไม่ได้ และเอาเงินทั้งหมดในนั้น ช่วยค่าฟอมาลีน และค่าทำศพ น้ำตาฉันไหลพรั่งพรู อยากให้พ่ออยู่กับฉันไปนานๆ
และไม่กี่วันพ่อก็ติดเชื้อในกระแสเลือด ต้องย้ายโรงบาล ฉันก็ไปเฝ้าพ่อทุกวัน พ่อไม่ได้สติแล้ว หายใจด้วยเครื่องเท่านั้น
หมอเรียกลูกๆ และ แม่ไป ถามว่าจะให้ถอดเครื่องช่วยหายใจไหม เพราะ พ่อไม่มีทางฟื้น แม่รีบบอก ถอดๆ ไปเถอะ แต่ฉันแย้ง ฉันขอหมอไม่ให้ถอด
แค่ได้เห็นหน้าพ่อ ได้หอมพ่อ ฉันก็อิ่มใจแล้ว
ฉันกระซิบข้างหูพ่อว่า อย่าเพิ่งไปนะพ่อ ให้ฉันสอบเสร็จก่อน
พ่อ อยู่ได้ด้วยเครื่องหายใจ มีแผลกดทับ พวกเราต้องคอยเปลี่ยนท่าให้บ่อยๆ จนกระทั่งฉันสอบเสร็จ
และได้ฝึกงานวันแรก พ่อก็จากไป หัวใจฉันมันแตกสลาย สงสารพ่อมากๆ ที่ตลอดเวลา 10 ปี ไม่ได้ออกไปไหนเหมือนติดคุก
และยังโดนแม่ และพี่ ทำร้ายจิตใจ
ถ้าอยากจะขอพักจากแม่ที่สร้างแต่เรื่องปวดหัว จะบาปไหมคะ
เริ่มเรื่องเลย คือ ดิฉัน มีพี่น้อง 4 คน เป็นผู้หญิงทั้งหมด ตัวฉันเองเป็นคนสุดท้อง ที่บ้าน ตอนเด็กๆ ยากจนมากๆ
พี่คนโต ซึ่งเป็นลูกคนละพ่อ ก็ ชอบมีลูก และ เอามาทิ้งให้แม่ดิฉันเลี้ยงตลอด ทำอย่างนี้ จน มีลูก ถึง 4 คน และก็ทิ้งไป
สร้างภาระให้แม่ดิฉัน และพ่อของดิฉันก็ ประสบอุบัติเหตุจากการทำสวนดอกรัก หน้ามืด ล้มและตกสะพาน จนเป็นอัมพาติ
ตอนนั้น ฉันอยู่ ป. 4 แม่ ก็ไม่พาพ่อไปหาหมอ คอยทุบตีพ่อ เพราะพ่อขับถ่ายเลอะไปหมด พี่น้องทุกๆ คนรังเกียจพ่อมากๆ
เพราะพ่อ เคยกินเหล้า แล้วพรำ่บ่น พอพ่อป่วย ทุกคน ก็เลย รังเกียจ บวกทั้ง แม่ชอบเอาพ่อมาประจาน ว่าพ่อ เคยพยายามล่วงเกิน
พี่คนโต ( ลูกคนละพ่อ) ทำให้ พี่ๆ เกลียดพ่อมากๆ ซึ่งฉันก็ไม่รู้หรอกว่าจริงหรือไม่ แต่ที่รู้ๆ คือ พี่คนโตคนนี้ ดิฉันเคยรักมากๆ แต่พอเห็น
แก ไปมีแฟน แล้วมีลูก ทำทีมาขอขมาแม่ ลูกตัวแดงๆ แม่เลยให้อภัย พี่ก็มาอยู่บ้าน ไม่กี่เดือน ก็ทิ้งลูกทิ้งผัวไป มีคนใหม่ และก็ทำแบบนี้
มาตลอด 4 ครั้ง พ่อของหลาน นี่คนละพ่อกันหมด แม่ไม่เคยบ่นหรือด่าพี่คนนี้เลย
ฉันโกรธมาก เข้าเรื่องที่พ่อเป็นอัมพาติ พี่คนนี้ มาตีพ่อดิฉัน ทั้งเตะ ทั้งต่อย แม่ก็ไม่ห้ามแถมหัวเราะ
ฉันทนไม่ไหว ตอนนั้น อายุแค่ 9 ขวบ เอง ก็ไปยกมือไหว้ อย่าทำพ่อหนูเลย
จากนั้น ภาระ เช็ดอึ อาบน้ำ ถ่ายกระโถน ทุกคนโยนมาให้ดิฉัน เค้าบอก รักพ่อก็ทำ
ฉัน ก็ทำตลอด พ่อพยายามสอนทำกับข้าวด้วย เพราะ ไม่มีใครทำกับข้าวให้พ่อกิน
ฉันเคยถามพ่อว่า เคยจะข่มขืนพี่สาวฉันจริงๆ เหรอ พ่อก็ยืนยันว่า ไม่เคย ในใจ ฉันไม่สนหรอก เพราะยังไงเค้าก็คือพ่อฉัน
พี่คนโต ก็หนีตามผู้ชายไปแล้ว และ ก็เหลือ พี่ๆ และ ฉัน รวมแม่ด้วย พี่คนที่สอง เรียนจบ ประถม แม่ไม่ยอมให้เรียนต่อ
ให้ไปทำงานโรงงานกับแม่ พี่เค้าร้องไห้หนักมาก ส่วนพี่คนที่ สามเข้าเรียนม.ต้น
ฉันกับพี่คนที่สอง หลังเลิกเรียนทุกวัน ต้องไปรับจ้างทำสวน แ
แม่ก็จะเอาเงินนั่น มาจ่ายให้ฉัน ไปโรงเรียน วันละ 10 บาท ส่วน พี่ที่เรียน ม.ต้น ได้ 20 บาท
ส่วนหลานชายที่เกิดจากพี่คนโต ที่เอามาให้แม่ฉันเลี้ยงมีนิสัย ขี้ขโมย มาขโมยเงินค่ารถที่แม่ชอบวางไว้บนตู้เย็นทุกเช้า
จนฉันต้องเดินไปโรงเรียน ไม่มีข้าวกิน พอเอาเรื่องนี้มาพูดให้แม่ฟัง ไอ้หลานคนนี้มันก็โทษว่าพ่อของฉันที่เป็นอัมพฤกษ์ เอาไป ( พ่อเริ่มถัดได้แล้ว แต่เดินไม่ได้ ยืนก็ไม่ได้ ฉันแอบดู ก็เห็นว่ามันเอาไป แต่แม่ก็ยังหูเบาเชื่อหลานอีก แถมมากระทืบพ่อจนฉันร้องห้าม และ แม่ก็โกรธฉันกับพี่คนที่ 3 มาก เลย ไม่ให้เงินไปโรงเรียน เป็นเดือน ตอนนั้น ฉันอยู่ ป 6 พี่คนที่ 3 กำลังขึ้น ม.ปลาย
พี่คนที่สองที่ไปทำงานกับแม่ที่โรงงาน ทนไม่ไหว ที่แม่ยึดเงินเดือนของเค้าหมด ทะเลาะตบตีกัน ฉันเครียดมากๆ ที่ต้องเห็นที่บ้านเป็นอย่างนี้ พ่อก็ปวดตัวทุกวัน ฉันก็ไปบีบไปนวดให้ แม่กลับจากที่ทำงานมาเห็น ด่าฉันใหญ่ ว่าระวังพ่อ จะข่มขืน ฉัน เริ่มโตแล้ว
รู้อะไรผิด อะไรไม่ดีแล้ว ฉัน ไม่เชื่อหรอกว่าพ่อจะคิดอกุศลแบบนั้น ลืมไปว่า ทุกครั้งที่พวกเราพยายามหาเหตุผลมาโต้แย้ง
จะเจอตบ หรือไม่ก็เจอไม้กวาดฟาด และ ไล่ให้พวกเราออกจากบ้านเขาไป ฉันได้แต่ร้องไห้ จนน้ำตามันหายไปหมด เจ็บตัวยังหาย แต่เจ็บที่ใจ มันกรัดกร่อน จนไม่เหลืออะไรเลย แต่ที่ต้องอยู่ เพราะรู้สึกอุ่นใจที่ได้อยู่กับพ่อ และฉันก็ยังเด็กมากๆ
พี่คนที่สอง ทะเลาะกับแม่บ่อยเข้า โดนไล่บ่อยๆ ก็เลย ไปจริงๆ และ อีกไม่กี่ปีถัดมา พี่คนที่สาม ก็ ทนไม่ไหว ออกจากบ้านไป
เหลือฉัน กับพ่อ และหลานๆ ( ลูกของพี่คนโต)
ลำบากมาก แต่สบายใจ เพราะไม่ต้องมาทนเห็นพวกเขาทะเลาะกัน
ผ่านไปไม่กี่ปี พี่คนที่สองก็ท้อง และพาแฟนมากราบแม่ และก็อยู่ด้วยกันทั้งหมด เรื่องอลเวงก็เกิดอีกแล้ว
มีหัวขโมย ขโมย เงิน ของฉันบ้าง ของ พี่เขยบ้าง ของแม่บ้าง
ฉันรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร แต่แม่ก็ยังหาว่าเป็นพ่อฉันอยู่ดี ทะเลาะกันเสียงดังจน คนข้างบ้านเอือม
หลานๆ ลูกพี่คนโต เป็นเด็ก ที่มีปมด้อยมาก ชอบขโมย จนแก้ไม่หาย และแม่ฉันเองที่ไม่เคยอบรมพวกมัน จนมันได้ใจ
มีครั้งนึงที่ฉันไปเป็นพนักงานห้าง ช่วงปิดเทอม ได้เงินเดือน 4,000 บาท ก้อนแรก ดีใจมากๆ แต่พอลงไปอาบน้ำ กลับเข้ามาในห้อง
เงินหายไปแล้ว พอถาม ก็ทะเลาะกัน แม่ก็ตบฉันว่า พูดทำไม ให้อายชาวบ้าน ก็นั่นมันเงินที่ฉันทำงานมาทั้งเดือน
โดนขโมยแบบนี้ แถมยังโดนตบอีก เสียใจมากๆ
พี่คนที่ 2 กับสามีก็เลย ย้ายออก ก็ยังคงเหลือฉัน และหลานๆ จอมแสบ ฉันยังคงต้อง
ดูแลพ่อพิการเช่นเคย หาข้าวให้พ่อกิน เทกระโถน ซักผ้าเปื้อนอุจาระ อาบน้ำให้พ่อ ทำอย่างนี้ก่อนไปโรงเรียนทุกวัน
จนฉันขึ้น ปวส . ต้องเรียน รอบเช้า ประกอบกับ ได้งานร้องเพลงสากลกับวงดนตรีตอนค่ำ และยังคงทำงานห้างช่วง วันเสร์ อาทิตย์
เลยไม่ค่อยได้มีเวลากับพ่อเหมือนเดิม
แม่เอาคนมาสร้างเพิงเล็กๆ หลังบ้าน ที่มีแต่หลังคา ไม่มีกำแพง และให้คนงาน มาอุ้มพ่อเราลงไปไว้ที่เพิงน้ัน
ฉันเจ็บปวดใจมาก ทำไม ทำกับพ่อฉันแบบนี้ ฉันเลยโวยวาย แม่บอกว่า พ่อขี้เหม็น อยู่บนบ้าน ก็ ส่งกลิ่นเหม็นเน่า ตายๆ ไปซะ จะได้หมดเวร หมดกรรม
ฉันได้แต่ร้องไห้ ไม่เข้าใจเลย พ่อไม่เคย พูดให้ร้าย แม่ฉันสักครั้ง แต่พ่อของฉันโดนกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ช่วงนั้น น้ำท่วมสูง ฉัน ต้องเดินลุยน้ำ เอาข้าวไปให้พ่อกิน
พ่อป่วยหนักไข้สูงมาก ฉันเช็ดตัวให้พ่อ และป้อนข้าวให้พ่อ แต่ปรากฏว่ายังมีอาหารที่ฉันป้อนเมื่อคืนยังอยู่ในปากพ่อฉันอยู่เลย
พ่อ ไม่มีแรงแม้กระทั่งจะพูด ฉันต้องรีบไปโรงเรียน เพราะมีสอบ จึงบอกพ่อว่าเดี๋ยวกลับมาจะพาไปหาหมอนะพ่อ อย่าเป็นอะไรไปนะ
ฉันให้เงิน แบงค์ ร้อยกับพ่อ พ่อยกมือ ไหว้ฉัน บอกเอาไปใส่ในห่อยาตั้งให้พ่อด้วย ฉันร้องไห้หนักมาก
พอไปโรงเรียน สอบเสร็จ ฉันจึงปรึกษากับเพื่อน คนหนึ่ง เธอก็ดีกับฉันมาก อุตส่าห์มาช่วยฉันแบก พ่อ เพื่อที่จะไปโรงบาล แม่มาเห็นก็ด่าใหญ่ แต่ก็พากันช่วยอุ้มพ่อขึ้นรถไป โรงบาล พ่อท้องป่องมากๆ พยาบาลกับหมดต้องช่วยกันกดท้อง เอาฉี่ออกมา เป็นสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ
ฉันก็ไปนอน เฝ้าพ่อทุกวัน และมีอยู่วันหนึ่ง น้าผู้ชายที่ป่วยข้างเตียงของพ่อ เสียไปต่อหน้าเรา และ พ่อ แต่เค้าไม่มีเงินค่ายาฉีดศพฟอมาลีน
พ่อเลย เอาเงินที่อยู่ในห่อยาตั้ง ที่เป็นเงินที่ฉันให้ไว้ใช้ พ่อเก็บสะสมเอาไว้ เพราะออกไปซื้ออะไรไม่ได้ และเอาเงินทั้งหมดในนั้น ช่วยค่าฟอมาลีน และค่าทำศพ น้ำตาฉันไหลพรั่งพรู อยากให้พ่ออยู่กับฉันไปนานๆ
และไม่กี่วันพ่อก็ติดเชื้อในกระแสเลือด ต้องย้ายโรงบาล ฉันก็ไปเฝ้าพ่อทุกวัน พ่อไม่ได้สติแล้ว หายใจด้วยเครื่องเท่านั้น
หมอเรียกลูกๆ และ แม่ไป ถามว่าจะให้ถอดเครื่องช่วยหายใจไหม เพราะ พ่อไม่มีทางฟื้น แม่รีบบอก ถอดๆ ไปเถอะ แต่ฉันแย้ง ฉันขอหมอไม่ให้ถอด
แค่ได้เห็นหน้าพ่อ ได้หอมพ่อ ฉันก็อิ่มใจแล้ว
ฉันกระซิบข้างหูพ่อว่า อย่าเพิ่งไปนะพ่อ ให้ฉันสอบเสร็จก่อน
พ่อ อยู่ได้ด้วยเครื่องหายใจ มีแผลกดทับ พวกเราต้องคอยเปลี่ยนท่าให้บ่อยๆ จนกระทั่งฉันสอบเสร็จ
และได้ฝึกงานวันแรก พ่อก็จากไป หัวใจฉันมันแตกสลาย สงสารพ่อมากๆ ที่ตลอดเวลา 10 ปี ไม่ได้ออกไปไหนเหมือนติดคุก
และยังโดนแม่ และพี่ ทำร้ายจิตใจ