โลกของเราเต็มไปด้วยความสุดขั้วมากมาย สถานที่ที่สุดขั้ว สัตว์ที่สุดขั้ว แต่สัตว์บางชนิดก็สุดขั้วเหนือไปกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ
และ กระทู้นี้ผมจะพาคุณนับอันดับไปกับ 10 สัตว์ที่มีวิธีที่แปลกพิลึกและดีที่สุด สำหรับการป้องกันตัวเอง
10. อาร์มาดิลโล (Armadillo) - Order Cingulata
มนุษย์เป็นสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บได้อย่างง่ายดาย เพราะสิ่งที่ป้องกันเราจากการโจมตีนั้นมีเพียงแค่ ผิวหนัง และนี่คือเหตุผลที่เราต้องหาอะไรมาปกป้องเพิ่มเติม ในยุคกลาง เราได้หาอะไรที่คล้ายๆกระป๋องดีบุกมาสวมใส่ ซึ่งนั่นก็คือ ชุดหุ้มเกราะ และนี่คือสิ่งเดียวกันกับสิ่งที่ อาร์มาดิลโล สัตว์ในอันดับ 10 ของเราใช้
อาร์มาดิลโล คือภาษาสเปน แปลว่า มนุษย์เสื้อเกราะ และ แผ่นแข็งๆนั้นเป็นการป้องกันตัวที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับ อาร์มาดิลโล 3 แถบอเมริกาใต้ (South American three-banded armadillo) โดยเฉพาะเมื่อหมาที่หิวโหยออกไล่ล่า

แผ่นกระดูกบานพับของมันก็แสดงถึงความภาคภูมิใจของเทคโนโลยีในยุคกลาง
อาร์มาดิลโล ถูกจัดเป็นอันดับ 10 เพราะว่า มันเพียงแค่ป้องกันตัวเองอย่างเดียวเท่านั้น และ แผ่นหุ้มเกราะของมันก็กันอันตรายได้จาก 4 ขา เพียงเท่านั้น สำหรับ 4 ล้อแล้ว ไม่เลย
9. ผีเสื้อม็อท (Moth butterfly) - Liphyra brassolis
ป่าในประเทศออสเตรเลียนั้น แท้จริงแล้วคือสมรภูมิ, สูงขึ้นไปบนต้นไม้ มีกองทัพที่ถูกโจมตี

นี่คือ มดต้นไม้เขียว (Green tree ant) ที่มีกรามอันทรงพลัง และ ไอพ่นกรดฟอร์มิก

ด้วยอาวุธที่ร้ายแรงแบบนี้ มันสามารถสู้กับผู้บุกรุกทุกรูปแบบ ยกเว้นสัตว์อันดับ 9 ของเรา
ไม่มีอะไรที่จะหยุดยั้งสิ้งที่เปรียบเสมือน รถหุ้มเกราะ นี้ได้

ใต้โล่ที่ดูเหมือนหนังนี้คือ หนอนผีเสื้อของผีเสื้อม็อท
มันถูกจัดเป็นอันดับ 9 เพราะว่าสามารถเข้าไปถึงใจกลางรังมดได้อย่างปลอดภัย เพราะ เกราะของมันใหญ่เกินไปที่จะถูกทำให้พลิกคว่ำและหนังก็หนาเกินกว่าจะได้รับอันตรายจากสเปรย์กรดฟอร์มิก ดังนั้นมันเลยเข้าไปกินตัวอ่อนมดได้อย่างไร้ความอันตราย
8. เต่า (Turtle) - Order Testudines
คู่แข่งต่อไปของเรามาในรูปแบบรถถังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการป้องกัน และ เคลื่อนที่ช้า, เต่า
ขอบคุณเกราะกระดองที่สร้างจากกระดูกประมาณ 50 ชิ้น
กระดองนั้นเป็นที่หลบภัยชั้นดีสำหรับผู้เยี่ยมเยือนที่ไม่น่ายินดี รวมไปถึง สิงโตที่หิวโหย ในเต่าบางชนิด กระดองมันสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 200 เท่าของกระดองเอง ซึ่งนั่นก็เหมือนการที่เรามีช้าง 2 ตัวอยู่บนหัว เลยทีเดียว
ตราบนานเท่านานที่หดตัวอยู่ในนั้นมันก้เป็นเพียงก้อนหินที่ไม่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม การแบกบ้านบนหลังก็ทำให้การหลบหนีออกมาเป็นเรื่องยาก
อย่างไรก็ตาม ฉลามเสือ (Tiger shark) ก็สามารถจัดการกับกระดองเต่าได้อย่างชำนาญ
7. กบมะเขือเทศ (Tomato frog) - Dyscophus antongilii
บนเกาะมาดากัสการ์ คู่แข่งอันดับ 7 ของเราบางทีก็เอาตัวเองไปติดอยู่ในสถานการณ์ที่เหนียวเหนอะ โดยเฉพาะเมื่อ งูออกไล่ล่า มันไม่ง่ายเลยที่จะหลบจากงู เมื่อคุณตัวนุ่มนิ่มและเนื้อฉ่ำ อย่าง กบมะเขือเทศ
แต่กบชนิดนี้ก็มีความสามารถพิเศษ, เมื่อจะถูกกินมันจะพองตัวให้โต และถ้านั่นใช้ไม่ได้ผล พอถูกงับมันก็จะหลั่งสารสีขาวน้ำเงินออกมาบนผิวหนัง ซึ่งสารนี้มีความเหนียวเหมือนกาวและสามารถติดค้างในปากงูอยู่แบบนั้นไปหลายวัน ไม่ว่างูจะพยายามสลัดออกด้วยวิธีไหน
6. กิ้งก่าเขา (Horned lizard) - Genus Phrynosoma
จอภาพยนต์ อาจจะเป็นที่เดียวที่คุณเจอ กิ้งก่าหุ้มเกราะขนาดยักษ์ แต่คงไม่มีผู้กำกับคนไหนรู้ถึงการป้องกันตัวของสัตว์เลื้อยคลานมีหนามนั่น ที่คลานเข้าสู่อันดับ 6, กิ้งก่าเขา
มันดูเหมือนรถถังทิ่มแทง ที่มีเกราะหุ้มหนาและถูกแต่งขอบด้วยหนามอันน่ากลัว และถ้าหากมันตัวใหญ่กว่านี้ มันก็อาจเป็นความหวาดกลัวของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ในอเมริกาเลย และนี่ก็คือเหตุผลที่มันขู่มดได้ แต่ไม่ใช่กับสัตว์นักล่าขนาดใหญ่อย่าง โคโยตี
อย่างไรก็ตามมันยังมีกลไกการป้องกันตัวอีกอย่าง นั่นคือ การยิงเลือดออกจากตา

การป้องกันตัวของมันเกิดขึ้นจากการเพิ่มแรงดันในจมูกที่สูงมากจนหลอดเลือดแตกที่ตา ซึ่งก็สามารถยิงขึ้นไปได้สูงถึงมากกว่า 1 เมตรเลยทีเดียว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้*มีคอมเม้นถามครับว่า ยิงเลือดอันตรายมั้ย และ มันช่วยป้องกันตัวยังไง ผมไปหาข้อมูลมา รู้สึกว่าข้อมูลน่าสนใจมาก เลยเอามาแชร์ตรงนี้อีกที่ครับ
กิ้งก่าเขา ไม่ได้รับอันตรายจากการยิงเลือด ส่วนวิธีที่เลือดมันใช้ป้องกันตัวได้ เพราะเลือดที่ยิงออกมามีความเป็นกรดอย่างรุนแรงเลยล่ะ
กิ้งก่าชนิดนี้มีอาหารหลักที่เฉพาะมากๆคือ มดเกษตรกรมารีโคพ่า (Maricopa harvester ant) ซึ่งเป็น 1 ใน มดที่มีพิษรุนแรงที่สุดในโลก, มันมีอวัยวะพิเศษสำหรับเก็บพิษ และจะผสมลงไปในเลือดส่วนที่จะยิงออกจากตา เล็งให้โดนหน้า โดยเฉพาะที่ปาก
5. เม่น (Porcupine)
แม้แต่สิงโตที่หิวโหย ก็ไม่สามารถกินสัตว์ชนิดนี้ได้
เม่นหงอนแอฟริกัน (African crested porcupine) นั้นที่จริงแล้วเป็น มังสวิรัตที่ไร้พิษภัย เว้นเสียแต่ว่ามันรู้สึกถูกคุกคาม มันก็จะกระทืบเท้าหลัง สั่นหางดิ๊กๆ และชูหนามแหลม 30,000 ก้านที่ปกคลุมตัวมัน
หลายคนเข้าใจผิดว่าเม่นยิงหนามได้ แต่แท้จริงแล้วมันวิ่งถอยหลังเพื่อเอาหนามแหลมแทงผู้คุกคาม
สิ่งที่น่ากลัวของขนเม่น แท้จริงแล้วไม่ใช่การถูกแทง แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากถูกแทง
ที่ปลายของหนามเม่นแต่ละอัน มีแถบเล็กๆเป็นร้อย เมื่อแถบเล้กๆนี้เจอความชื้น หรือก็คือใต้ผิวหนัง มันสามารถโดตขึ้นได้ถึงวันละ 2 เซนติเมตร และนั่นก็สามารถแทงอวัยวะและหลอดเลือดจนพรุนได้ในเวลาไม่นาน
4. ทาแรนทูล่า (Tarantula) - Family Theraphosidae
แน่นอนว่าความสยดสยองที่สุดในบรรดาสัตว์ย่องก้าวคลานนั้นคือ ทาแรนทูลา
ขนบนตัวมันอาจจะดูไม่น่าประทับใจเท่ากับหนามแหลมของเม่น แต่ มันก้เกาะติดเราได้เหมือนตะขอเลยล่ะ และ น่ากลัวไปกว่านั้น ทาแรนทูลายังสามารถยิงขนพวกนี้ได้ด้วย
เมื่อหน้าเราสัมผัสขนเหล่านี้ มันจะโจมตี เยื่อบุโพรงจมูก (Nasal membrane) ของเราอย่างรุนแรงและทำให้เราน้ำมูกไหลไม่หยุด
3. หมา (Dog) - Canis lupus familiaris
เพื่อจะเข้าใจในผู้แข่งขันอันดับ 3 เราต้องเจอกันแบบตัวต่อตัวกับ หมาป่า
ฝูงหมาป่ามีการจัดระเบียบด้วยคำสั่งอย่างเป็นลูกโซ่ส่งตรงมาจากจ่าฝูง (Alpha male)
จ่าฝูงนั้นมีสิทธิ์เข้าถึงอาหารที่ดีที่สุด แต่มันก็ต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลฝูงจากผู้บุกรุกเช่นกัน
หมาป่าเป็นสัตว์สังคมที่ฉลาดและดุร้าย แต่ละตัวมีการใช้พฤติกรรมการปกครองด้วยอำนาจและการยอมจำนน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญตามลำดับขั้น

ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ เมื่อประมาณแสนปีที่แล้ว หมาป่าบางกลุ่มตกอยู่ใต้มนตร์คาถาของนักล่าที่เหนือกว่าอีกชนิดหนึ่ง
เมื่อคนเอาหมาป่ามาเลี้ยง เราเปลี่ยนศัตรูในยุคโบราณมาเป็นนักปกป้องอันตรายที่ดุร้ายที่สุดชนิดหนึ่ง
และเมื่อเราเลี้ยงมัน มันก็มองเราเป็นจ่าฝูงของมัน, หมาในปัจจุบันอาจจะต่างกับบรรพบุรุษของมันอย่างสิ้นเชิง แต่มันก็มีพฤติกรรมของการ อ่อนน้อมยอมจำนน และ ก้าวร้าว ที่ใช้กันในฝูงหมาป่า
2. ปลวก (Termite) - Infraorder Isoptera
ในที่ราบของแอฟริกาเราจะเจอตึกสูงมากมาย

มันคือปราสาทที่ภายในนั้นเต็มไปด้วย สงคราม
ยังมีสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่อาละวาดใส่ทุกอย่างที่ขวางทาง นั่นคือ มด
มดโจมตีทุกอย่างแบบไม่เลือก รวมไปถึงสัตว์อันดับ 2 ของเรา, ปลวก

กองทัพบุกรุกเหล่านี้ไม่มีปัญหาในการเจาะกำแพงและฆ่าปลวกงานที่ทำอะไรไม่ได้
แต่ไม่ใช่ว่าปลวกทุกตัวจะไร้อาวุธ และนี่คือ ปลวกทหาร, ผู้ยุติความจลาจลที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบพิเศษสำหรับการปกป้องอาณาจักร

ปลวกทหารมีสัดส่วนประชากรอยู่ที่ 20% ของั้งหมด และพวกมันพร้อมที่จะทำสงคราม
ปลวกถูกจัดเป็นอันดับ 2 เพราะว่านอกจากเขี้ยวที่แหลมคมแล้ว ปลวกทหารระดับสูงยังสามารถพ่นพิษออกจากหน้าผากได้ด้วย และพิษนี้ก็แรงมากถึงขนาดทำให้มดตายได้เลย
1. ผึ้ง (Bee) - Superfamily Apoidea
การจะเจอกับสัตว์อันดับ 1 นี้ คุณต้องระวังตัวเองอย่างมาก
สัตว์ชนิดนี้มีการป้องกันตัวที่ถือว่าดีที่สุด และนั่นก็คือ ผึ้ง
เราชอบน้ำผึ้ง เช่นเดียวกับผึ้ง และนี่คือเหตุผลที่พวกมันปกป้อกรังอย่างที่สุดแม้ว่าผู้บุกรุกจะตัวใหญ่กว่ามันเองถึง ล้านเท่า
รังผึ้ง 1 รังสามารถมีประชากรได้สูงถึง 80,000 ผึ้งงานทุกตัวถูกติดอาวุธเป็นเข็มใต้ผิวหนัง (Hypodermic needle) ที่ก้น

เมื่อผึ้งตัวหนึ่งต่อย มันจะปล่อยฟีโรโมนเตือนภัยออกมาเรียกพวกและกระตุ้นให้ที่เหลือต่อย
แม้ว่าผึ้งตัวหนึ่งจะมีพิษอยู่เพียงแค่ไม่ถึงครึ่งมิลลิกรัม มันก็เป็นการป้องกันตัวที่ทำให้ถึงตายได้เมื่อคุณเภชิญหน้ากับ 30,000 ตัวที่โกรธ
แต่ผึ้งเองก็ตายจากการปกป้องรัง ผึ้งงานอุทิศชีวิตให้กับอาณาจักร เพราะการยิงเหล็กไนครั้งแรก ก็เป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน
ผึ้งตายแทบจะทันทีหลังจากที่มันต่อย

แต่พวกมันก็พร้อมที่จะจบชีวิตลงอย่างไม่ลังเล
และนี่คือเหตุผลที่มันถูกจัดเป็นอันดับ 1
จบคร้าบ เป็นไงกันบ้าง ชอบกันมั้ย คอมเม้นกันได้นะคร้าบ
การใช้คำอาจจะแปลกๆนิดนึงนะครับ เพราะ พยายามแปลให้เหมือนวีดีโอต้นฉบับที่สุด
ถ้าอยากให้ทำอีกก็บอกได้นะครับ แต่ว่า คงจะอีกซักพัก เพราะทำทีใช้เวลาตั้ง 4 ชั่วโมงแหนะ
ลิงค์วีดีโอต้นฉบับ
https://www.youtube.com/watch?v=DwXhoSSRNDs
10 อันดับ สัตว์ที่ป้องกันตัวเองเก่งที่สุดและใช้วิธีที่แปลกที่สุด
และ กระทู้นี้ผมจะพาคุณนับอันดับไปกับ 10 สัตว์ที่มีวิธีที่แปลกพิลึกและดีที่สุด สำหรับการป้องกันตัวเอง
10. อาร์มาดิลโล (Armadillo) - Order Cingulata
มนุษย์เป็นสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บได้อย่างง่ายดาย เพราะสิ่งที่ป้องกันเราจากการโจมตีนั้นมีเพียงแค่ ผิวหนัง และนี่คือเหตุผลที่เราต้องหาอะไรมาปกป้องเพิ่มเติม ในยุคกลาง เราได้หาอะไรที่คล้ายๆกระป๋องดีบุกมาสวมใส่ ซึ่งนั่นก็คือ ชุดหุ้มเกราะ และนี่คือสิ่งเดียวกันกับสิ่งที่ อาร์มาดิลโล สัตว์ในอันดับ 10 ของเราใช้
อาร์มาดิลโล คือภาษาสเปน แปลว่า มนุษย์เสื้อเกราะ และ แผ่นแข็งๆนั้นเป็นการป้องกันตัวที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับ อาร์มาดิลโล 3 แถบอเมริกาใต้ (South American three-banded armadillo) โดยเฉพาะเมื่อหมาที่หิวโหยออกไล่ล่า
แผ่นกระดูกบานพับของมันก็แสดงถึงความภาคภูมิใจของเทคโนโลยีในยุคกลาง
อาร์มาดิลโล ถูกจัดเป็นอันดับ 10 เพราะว่า มันเพียงแค่ป้องกันตัวเองอย่างเดียวเท่านั้น และ แผ่นหุ้มเกราะของมันก็กันอันตรายได้จาก 4 ขา เพียงเท่านั้น สำหรับ 4 ล้อแล้ว ไม่เลย
9. ผีเสื้อม็อท (Moth butterfly) - Liphyra brassolis
ป่าในประเทศออสเตรเลียนั้น แท้จริงแล้วคือสมรภูมิ, สูงขึ้นไปบนต้นไม้ มีกองทัพที่ถูกโจมตี
นี่คือ มดต้นไม้เขียว (Green tree ant) ที่มีกรามอันทรงพลัง และ ไอพ่นกรดฟอร์มิก
ด้วยอาวุธที่ร้ายแรงแบบนี้ มันสามารถสู้กับผู้บุกรุกทุกรูปแบบ ยกเว้นสัตว์อันดับ 9 ของเรา
ไม่มีอะไรที่จะหยุดยั้งสิ้งที่เปรียบเสมือน รถหุ้มเกราะ นี้ได้
ใต้โล่ที่ดูเหมือนหนังนี้คือ หนอนผีเสื้อของผีเสื้อม็อท
มันถูกจัดเป็นอันดับ 9 เพราะว่าสามารถเข้าไปถึงใจกลางรังมดได้อย่างปลอดภัย เพราะ เกราะของมันใหญ่เกินไปที่จะถูกทำให้พลิกคว่ำและหนังก็หนาเกินกว่าจะได้รับอันตรายจากสเปรย์กรดฟอร์มิก ดังนั้นมันเลยเข้าไปกินตัวอ่อนมดได้อย่างไร้ความอันตราย
8. เต่า (Turtle) - Order Testudines
คู่แข่งต่อไปของเรามาในรูปแบบรถถังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการป้องกัน และ เคลื่อนที่ช้า, เต่า
ขอบคุณเกราะกระดองที่สร้างจากกระดูกประมาณ 50 ชิ้น
กระดองนั้นเป็นที่หลบภัยชั้นดีสำหรับผู้เยี่ยมเยือนที่ไม่น่ายินดี รวมไปถึง สิงโตที่หิวโหย ในเต่าบางชนิด กระดองมันสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 200 เท่าของกระดองเอง ซึ่งนั่นก็เหมือนการที่เรามีช้าง 2 ตัวอยู่บนหัว เลยทีเดียว
ตราบนานเท่านานที่หดตัวอยู่ในนั้นมันก้เป็นเพียงก้อนหินที่ไม่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม การแบกบ้านบนหลังก็ทำให้การหลบหนีออกมาเป็นเรื่องยาก
อย่างไรก็ตาม ฉลามเสือ (Tiger shark) ก็สามารถจัดการกับกระดองเต่าได้อย่างชำนาญ
7. กบมะเขือเทศ (Tomato frog) - Dyscophus antongilii
บนเกาะมาดากัสการ์ คู่แข่งอันดับ 7 ของเราบางทีก็เอาตัวเองไปติดอยู่ในสถานการณ์ที่เหนียวเหนอะ โดยเฉพาะเมื่อ งูออกไล่ล่า มันไม่ง่ายเลยที่จะหลบจากงู เมื่อคุณตัวนุ่มนิ่มและเนื้อฉ่ำ อย่าง กบมะเขือเทศ
แต่กบชนิดนี้ก็มีความสามารถพิเศษ, เมื่อจะถูกกินมันจะพองตัวให้โต และถ้านั่นใช้ไม่ได้ผล พอถูกงับมันก็จะหลั่งสารสีขาวน้ำเงินออกมาบนผิวหนัง ซึ่งสารนี้มีความเหนียวเหมือนกาวและสามารถติดค้างในปากงูอยู่แบบนั้นไปหลายวัน ไม่ว่างูจะพยายามสลัดออกด้วยวิธีไหน
6. กิ้งก่าเขา (Horned lizard) - Genus Phrynosoma
จอภาพยนต์ อาจจะเป็นที่เดียวที่คุณเจอ กิ้งก่าหุ้มเกราะขนาดยักษ์ แต่คงไม่มีผู้กำกับคนไหนรู้ถึงการป้องกันตัวของสัตว์เลื้อยคลานมีหนามนั่น ที่คลานเข้าสู่อันดับ 6, กิ้งก่าเขา
มันดูเหมือนรถถังทิ่มแทง ที่มีเกราะหุ้มหนาและถูกแต่งขอบด้วยหนามอันน่ากลัว และถ้าหากมันตัวใหญ่กว่านี้ มันก็อาจเป็นความหวาดกลัวของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ในอเมริกาเลย และนี่ก็คือเหตุผลที่มันขู่มดได้ แต่ไม่ใช่กับสัตว์นักล่าขนาดใหญ่อย่าง โคโยตี
อย่างไรก็ตามมันยังมีกลไกการป้องกันตัวอีกอย่าง นั่นคือ การยิงเลือดออกจากตา
การป้องกันตัวของมันเกิดขึ้นจากการเพิ่มแรงดันในจมูกที่สูงมากจนหลอดเลือดแตกที่ตา ซึ่งก็สามารถยิงขึ้นไปได้สูงถึงมากกว่า 1 เมตรเลยทีเดียว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. เม่น (Porcupine)
แม้แต่สิงโตที่หิวโหย ก็ไม่สามารถกินสัตว์ชนิดนี้ได้
เม่นหงอนแอฟริกัน (African crested porcupine) นั้นที่จริงแล้วเป็น มังสวิรัตที่ไร้พิษภัย เว้นเสียแต่ว่ามันรู้สึกถูกคุกคาม มันก็จะกระทืบเท้าหลัง สั่นหางดิ๊กๆ และชูหนามแหลม 30,000 ก้านที่ปกคลุมตัวมัน
หลายคนเข้าใจผิดว่าเม่นยิงหนามได้ แต่แท้จริงแล้วมันวิ่งถอยหลังเพื่อเอาหนามแหลมแทงผู้คุกคาม
สิ่งที่น่ากลัวของขนเม่น แท้จริงแล้วไม่ใช่การถูกแทง แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากถูกแทง
ที่ปลายของหนามเม่นแต่ละอัน มีแถบเล็กๆเป็นร้อย เมื่อแถบเล้กๆนี้เจอความชื้น หรือก็คือใต้ผิวหนัง มันสามารถโดตขึ้นได้ถึงวันละ 2 เซนติเมตร และนั่นก็สามารถแทงอวัยวะและหลอดเลือดจนพรุนได้ในเวลาไม่นาน
4. ทาแรนทูล่า (Tarantula) - Family Theraphosidae
แน่นอนว่าความสยดสยองที่สุดในบรรดาสัตว์ย่องก้าวคลานนั้นคือ ทาแรนทูลา
ขนบนตัวมันอาจจะดูไม่น่าประทับใจเท่ากับหนามแหลมของเม่น แต่ มันก้เกาะติดเราได้เหมือนตะขอเลยล่ะ และ น่ากลัวไปกว่านั้น ทาแรนทูลายังสามารถยิงขนพวกนี้ได้ด้วย
เมื่อหน้าเราสัมผัสขนเหล่านี้ มันจะโจมตี เยื่อบุโพรงจมูก (Nasal membrane) ของเราอย่างรุนแรงและทำให้เราน้ำมูกไหลไม่หยุด
3. หมา (Dog) - Canis lupus familiaris
เพื่อจะเข้าใจในผู้แข่งขันอันดับ 3 เราต้องเจอกันแบบตัวต่อตัวกับ หมาป่า
ฝูงหมาป่ามีการจัดระเบียบด้วยคำสั่งอย่างเป็นลูกโซ่ส่งตรงมาจากจ่าฝูง (Alpha male)
จ่าฝูงนั้นมีสิทธิ์เข้าถึงอาหารที่ดีที่สุด แต่มันก็ต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลฝูงจากผู้บุกรุกเช่นกัน
หมาป่าเป็นสัตว์สังคมที่ฉลาดและดุร้าย แต่ละตัวมีการใช้พฤติกรรมการปกครองด้วยอำนาจและการยอมจำนน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญตามลำดับขั้น
ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ เมื่อประมาณแสนปีที่แล้ว หมาป่าบางกลุ่มตกอยู่ใต้มนตร์คาถาของนักล่าที่เหนือกว่าอีกชนิดหนึ่ง
เมื่อคนเอาหมาป่ามาเลี้ยง เราเปลี่ยนศัตรูในยุคโบราณมาเป็นนักปกป้องอันตรายที่ดุร้ายที่สุดชนิดหนึ่ง
และเมื่อเราเลี้ยงมัน มันก็มองเราเป็นจ่าฝูงของมัน, หมาในปัจจุบันอาจจะต่างกับบรรพบุรุษของมันอย่างสิ้นเชิง แต่มันก็มีพฤติกรรมของการ อ่อนน้อมยอมจำนน และ ก้าวร้าว ที่ใช้กันในฝูงหมาป่า
2. ปลวก (Termite) - Infraorder Isoptera
ในที่ราบของแอฟริกาเราจะเจอตึกสูงมากมาย
มันคือปราสาทที่ภายในนั้นเต็มไปด้วย สงคราม
ยังมีสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่อาละวาดใส่ทุกอย่างที่ขวางทาง นั่นคือ มด
มดโจมตีทุกอย่างแบบไม่เลือก รวมไปถึงสัตว์อันดับ 2 ของเรา, ปลวก
กองทัพบุกรุกเหล่านี้ไม่มีปัญหาในการเจาะกำแพงและฆ่าปลวกงานที่ทำอะไรไม่ได้
แต่ไม่ใช่ว่าปลวกทุกตัวจะไร้อาวุธ และนี่คือ ปลวกทหาร, ผู้ยุติความจลาจลที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบพิเศษสำหรับการปกป้องอาณาจักร
ปลวกทหารมีสัดส่วนประชากรอยู่ที่ 20% ของั้งหมด และพวกมันพร้อมที่จะทำสงคราม
ปลวกถูกจัดเป็นอันดับ 2 เพราะว่านอกจากเขี้ยวที่แหลมคมแล้ว ปลวกทหารระดับสูงยังสามารถพ่นพิษออกจากหน้าผากได้ด้วย และพิษนี้ก็แรงมากถึงขนาดทำให้มดตายได้เลย
1. ผึ้ง (Bee) - Superfamily Apoidea
การจะเจอกับสัตว์อันดับ 1 นี้ คุณต้องระวังตัวเองอย่างมาก
สัตว์ชนิดนี้มีการป้องกันตัวที่ถือว่าดีที่สุด และนั่นก็คือ ผึ้ง
เราชอบน้ำผึ้ง เช่นเดียวกับผึ้ง และนี่คือเหตุผลที่พวกมันปกป้อกรังอย่างที่สุดแม้ว่าผู้บุกรุกจะตัวใหญ่กว่ามันเองถึง ล้านเท่า
รังผึ้ง 1 รังสามารถมีประชากรได้สูงถึง 80,000 ผึ้งงานทุกตัวถูกติดอาวุธเป็นเข็มใต้ผิวหนัง (Hypodermic needle) ที่ก้น
เมื่อผึ้งตัวหนึ่งต่อย มันจะปล่อยฟีโรโมนเตือนภัยออกมาเรียกพวกและกระตุ้นให้ที่เหลือต่อย
แม้ว่าผึ้งตัวหนึ่งจะมีพิษอยู่เพียงแค่ไม่ถึงครึ่งมิลลิกรัม มันก็เป็นการป้องกันตัวที่ทำให้ถึงตายได้เมื่อคุณเภชิญหน้ากับ 30,000 ตัวที่โกรธ
แต่ผึ้งเองก็ตายจากการปกป้องรัง ผึ้งงานอุทิศชีวิตให้กับอาณาจักร เพราะการยิงเหล็กไนครั้งแรก ก็เป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน
ผึ้งตายแทบจะทันทีหลังจากที่มันต่อย
แต่พวกมันก็พร้อมที่จะจบชีวิตลงอย่างไม่ลังเล
และนี่คือเหตุผลที่มันถูกจัดเป็นอันดับ 1
จบคร้าบ เป็นไงกันบ้าง ชอบกันมั้ย คอมเม้นกันได้นะคร้าบ
การใช้คำอาจจะแปลกๆนิดนึงนะครับ เพราะ พยายามแปลให้เหมือนวีดีโอต้นฉบับที่สุด
ถ้าอยากให้ทำอีกก็บอกได้นะครับ แต่ว่า คงจะอีกซักพัก เพราะทำทีใช้เวลาตั้ง 4 ชั่วโมงแหนะ
ลิงค์วีดีโอต้นฉบับ https://www.youtube.com/watch?v=DwXhoSSRNDs