สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
เราเข้าใจว่าแม่คุณทำหน้าที่"ผู้จัดการหอพัก"คือเก็บค่าเช่า ทำความสะอาดห้องเวลา"คนย้ายออก" และดูแลทั่วๆไป โดยได้รับเงินเดือนและ"อยู่ห้องฟรี"
คือแม่ยังได้ขึ้นเงินเดือนแต่น้อยมากๆ และได้ที่พักฟรี ซึ่งส่วนนี้คือส่วนหนึ่งของเงินเดือน(คิดตามราคาค่าห้องพักที่คนอื่นๆจ่าย) ถ้านับแล้วเชื่อว่าได้เกินหมื่นแน่นอน อีกอย่างค่าหอพักก็น่าจะขึ้นมาเป็นระยะๆในห้วงยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ซึ่งก็เหมือนแม่ได้ขึ้นเงินเดือนด้วย
มองกันแบบยุติธรรม คุณแม่จบแค่ ป.4 งานที่จะทำได้ก็คืองานใช้แรงงาน ไม่ต้องการทักษะมากนัก ซึ่งงานเฝ้าหอพักก็ไม่ใช่งานที่ต้องทำตลอดเวลาไม่เหมือนงานแม่บ้านตามบ้านที่งานหนักมากกว่าเยอะ ดังนั้นเงินเดือนที่แม่ได้(บวกค่าที่พัก) ในความเห็นของเราถือว่าคุณแม่ได้ผลตอบแทนพอสมควรกับงานที่ทำ และคุณแม่ก็เก็บออมเก่งมากถึงส่งคุณเรียนได้โดยไม่ต้องกู้เงินเรียน
ถ้าจะตำหนิเจ้านายของแม่ก็คงติเรื่องเงินกู้ที่คิดเกินไปหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งเขาก็ยกให้คุณแม่ในที่สุด
การจ้างงานเป็นความพอใจของคนสองฝ่ายที่ตกลงจะทำงานด้วยกัน แม่คุณพอใจกับเงินเดือนและสวัสดิการ(ห้องฟรี)ที่เขาเสนอให้ จึงทำงานกับเขามาตลอดยี่สิบปี ถ้าแม่คิดว่าเจ้านายเอาเปรียบและจะหางานที่ได้เงินเดือนดีกว่านี้ได้ แม่ก็คงลาออกและหางานใหม่นานมากแล้ว อยากให้คุณมองว่านี่คือข้อตกลงที่แม่คุณพอใจและยอมรับได้ ไม่อยากให้มองเจ้านายเป็นคนใจร้าย เพราะเขาก็ไม่ได้กักขังหน่วงเหนี่ยวคุณแม่ไว้ เป็นความเต็มใจของทั้งสองฝ่ายค่ะ
คือแม่ยังได้ขึ้นเงินเดือนแต่น้อยมากๆ และได้ที่พักฟรี ซึ่งส่วนนี้คือส่วนหนึ่งของเงินเดือน(คิดตามราคาค่าห้องพักที่คนอื่นๆจ่าย) ถ้านับแล้วเชื่อว่าได้เกินหมื่นแน่นอน อีกอย่างค่าหอพักก็น่าจะขึ้นมาเป็นระยะๆในห้วงยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ซึ่งก็เหมือนแม่ได้ขึ้นเงินเดือนด้วย
มองกันแบบยุติธรรม คุณแม่จบแค่ ป.4 งานที่จะทำได้ก็คืองานใช้แรงงาน ไม่ต้องการทักษะมากนัก ซึ่งงานเฝ้าหอพักก็ไม่ใช่งานที่ต้องทำตลอดเวลาไม่เหมือนงานแม่บ้านตามบ้านที่งานหนักมากกว่าเยอะ ดังนั้นเงินเดือนที่แม่ได้(บวกค่าที่พัก) ในความเห็นของเราถือว่าคุณแม่ได้ผลตอบแทนพอสมควรกับงานที่ทำ และคุณแม่ก็เก็บออมเก่งมากถึงส่งคุณเรียนได้โดยไม่ต้องกู้เงินเรียน
ถ้าจะตำหนิเจ้านายของแม่ก็คงติเรื่องเงินกู้ที่คิดเกินไปหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งเขาก็ยกให้คุณแม่ในที่สุด
การจ้างงานเป็นความพอใจของคนสองฝ่ายที่ตกลงจะทำงานด้วยกัน แม่คุณพอใจกับเงินเดือนและสวัสดิการ(ห้องฟรี)ที่เขาเสนอให้ จึงทำงานกับเขามาตลอดยี่สิบปี ถ้าแม่คิดว่าเจ้านายเอาเปรียบและจะหางานที่ได้เงินเดือนดีกว่านี้ได้ แม่ก็คงลาออกและหางานใหม่นานมากแล้ว อยากให้คุณมองว่านี่คือข้อตกลงที่แม่คุณพอใจและยอมรับได้ ไม่อยากให้มองเจ้านายเป็นคนใจร้าย เพราะเขาก็ไม่ได้กักขังหน่วงเหนี่ยวคุณแม่ไว้ เป็นความเต็มใจของทั้งสองฝ่ายค่ะ
ความคิดเห็นที่ 8
ที่เงินเดือนไม่สูงขึ้นเลย ถึงแม้จะทำงานมาเป็นสิบปี หรือทำตั้งแต่สาวยันแก่ก็ตาม
ก็เพราะตำแหน่ง และ วุฒิการศึกษา ที่เขาบอกว่าให้เรียนสูงๆ ก็เพราะเหตุนี้ไง
เพราะถ้าไม่มีวุฒิ ตำแหน่งหน้าที่การงาน ไม่ขยับฐานเงินเดือนก็ไม่ขยับ ต่อให้ทำจนชำนาญ มากแค่ไหน ก็ยังเป็นแม่บ้านอยู่ดี
งานหนัก หมายถึงใช้แรงงานหนัก มันเป็นงานพื้นฐานของแม่บ้านทั่วไป นายจ้างไม่ได้มองว่าทำมากี่ปี อายุเท่าไหร่ มันไม่สำคัญเลย
เพราะถ้าเขาจ้างคนที่เด็กกว่าขยันกว่า ค่าแรงถูกกว่า เขาก็ให้คนเก่าลาออกเมื่อไหร่ก็ได้ มันเป็นสิทธิ์ของนายจ้าง
คนไม่มีความรู้ก็ต้องใช้แรงงานเข้าแลกเงินเดือน มันก็ต้องงานหนักอยู่แล้ว ถ้าไม่อยากทำงานหนัก ก็ต้องใช้ความรู้แลกเงินเดือน
ซึ่งแม่คุณไม่มี ต่อให้เป็นผู้เชียวชาญงานบ้าน เงินเดือนก็ไม่ขึ้น เพราะมันก็ยังอยู่แค่งานระดับปฎิบัติพื้นฐาน ไม่ได้ตำแหน่งพิเศษอะไร
ที่ใช้ความสามารถสูงกว่าคนอื่นเลย จะขยับฐานเงินเดือน เป็นเรื่องยากมาก
วิธีที่จะทำให้แม่คุณสบายก็คือ คุณต้องหางานที่มีเงินเดือนสูง สามารถเลี้ยงดูแม่ของคุณได้ ให้สมกับที่เขาส่งคุณเรียนสูงๆ
เราไม่เข้าข้างคุณ ไม่เห็นใจแม่ของคุณ และไม่เข้าข้างนายจ้างด้วย เราพูดตามหลักความจริง ที่สังคมทั่วไปเขาทำกัน
ยิ่งแม่คุณแก่แล้ว โอกาสไปหางานที่เงินเดือนสูงๆ เป็นเรื่องยากมาก จะกลายเป็นว่า นายจ้าง ยังจ้างอยู่ถึงแม้จะแก่แล้ว ก็ด้วยความสงสารเท่านั้นเอง
ไม่มีสิทธิพิเศษใดๆ จะเพิ่มเงินเดือนสูงขึ้นก็เป็นไปได้ยาก ส่วนเรื่องโดนโกง หรือ ไม่เป็นธรรม นั่นก็เพราะความไม่รู้หนังสือ เรียนน้อยจึงโดนเอาเปรียบ
แพ้ตั้งแต่แรกแล้ว จะไปสู้อะไรคนอื่นได้ คุณจะเรียกร้องความเป็นธรรม คุณอาจจะต้องพยายามมากกว่านี้ เพราะไม่งั้นหาความเป็นธรรมไม่เจอ
ก็เพราะตำแหน่ง และ วุฒิการศึกษา ที่เขาบอกว่าให้เรียนสูงๆ ก็เพราะเหตุนี้ไง
เพราะถ้าไม่มีวุฒิ ตำแหน่งหน้าที่การงาน ไม่ขยับฐานเงินเดือนก็ไม่ขยับ ต่อให้ทำจนชำนาญ มากแค่ไหน ก็ยังเป็นแม่บ้านอยู่ดี
งานหนัก หมายถึงใช้แรงงานหนัก มันเป็นงานพื้นฐานของแม่บ้านทั่วไป นายจ้างไม่ได้มองว่าทำมากี่ปี อายุเท่าไหร่ มันไม่สำคัญเลย
เพราะถ้าเขาจ้างคนที่เด็กกว่าขยันกว่า ค่าแรงถูกกว่า เขาก็ให้คนเก่าลาออกเมื่อไหร่ก็ได้ มันเป็นสิทธิ์ของนายจ้าง
คนไม่มีความรู้ก็ต้องใช้แรงงานเข้าแลกเงินเดือน มันก็ต้องงานหนักอยู่แล้ว ถ้าไม่อยากทำงานหนัก ก็ต้องใช้ความรู้แลกเงินเดือน
ซึ่งแม่คุณไม่มี ต่อให้เป็นผู้เชียวชาญงานบ้าน เงินเดือนก็ไม่ขึ้น เพราะมันก็ยังอยู่แค่งานระดับปฎิบัติพื้นฐาน ไม่ได้ตำแหน่งพิเศษอะไร
ที่ใช้ความสามารถสูงกว่าคนอื่นเลย จะขยับฐานเงินเดือน เป็นเรื่องยากมาก
วิธีที่จะทำให้แม่คุณสบายก็คือ คุณต้องหางานที่มีเงินเดือนสูง สามารถเลี้ยงดูแม่ของคุณได้ ให้สมกับที่เขาส่งคุณเรียนสูงๆ
เราไม่เข้าข้างคุณ ไม่เห็นใจแม่ของคุณ และไม่เข้าข้างนายจ้างด้วย เราพูดตามหลักความจริง ที่สังคมทั่วไปเขาทำกัน
ยิ่งแม่คุณแก่แล้ว โอกาสไปหางานที่เงินเดือนสูงๆ เป็นเรื่องยากมาก จะกลายเป็นว่า นายจ้าง ยังจ้างอยู่ถึงแม้จะแก่แล้ว ก็ด้วยความสงสารเท่านั้นเอง
ไม่มีสิทธิพิเศษใดๆ จะเพิ่มเงินเดือนสูงขึ้นก็เป็นไปได้ยาก ส่วนเรื่องโดนโกง หรือ ไม่เป็นธรรม นั่นก็เพราะความไม่รู้หนังสือ เรียนน้อยจึงโดนเอาเปรียบ
แพ้ตั้งแต่แรกแล้ว จะไปสู้อะไรคนอื่นได้ คุณจะเรียกร้องความเป็นธรรม คุณอาจจะต้องพยายามมากกว่านี้ เพราะไม่งั้นหาความเป็นธรรมไม่เจอ
แสดงความคิดเห็น
ทำงานมาหลายสิบปี แต่เงินเดือนไม่ถึงหมื่น?
ก่อนอื่นนะคะ เราเรียนเราใช้เงินอยู่แล้ว ยิ่งมหาลัยยิ่งใช้เงินเยอะ เราคุยกับแม่แล้วว่าไม่ขอกู้เรียน ไม่อยากจบมาแล้วมาทำงานใช้หนี้ อยากจบมาแล้วได้รับเงินเดือนเต็มที่ เพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวค่ะ แม่ก็โอเคจะสู้จะทนส่งเราให้จบ ตัวเราเราก็อยากให้แม่สบายนะ เรียนเราก็คอยขอทุนเพื่อแบ่งเบาภาระอยู่
ปล.เราเรียนหนักนะคะ ไม่ค่อยได้ทำงานพาร์ทไทม์เสริม มันไม่มีเวลาทำจริงๆ อย่าว่าเราในส่วนนี้เลย เราช่วยแม่ประหยัดอยู่แล้วค่ะ