ทำงานมาหลายสิบปี แต่เงินเดือนไม่ถึงหมื่น?

ก่อนอื่นเราขอบอกเลยว่า แม่ของเราทำงานเป็นแม่บ้านให้ครอบครัวหนึ่งมาหลายสิบปี จริงๆครอบครัวนี้มีบุญคุณกับแม่เรามากนะ ตอนเด็กๆเราก็ไม่ได้อะไรกับงานที่แม่ทำ แม่เป็นแม่บ้านทำงานอยู่ตึกๆหนึ่งที่ครอบครัวนี้เป็นเจ้าของ เขาให้เราและแม่อาศัยอยู่ห้องหนึ่ง ห้องเก่าๆ ไม่คิดค่าน้ำไฟ ซึ่งอันนี้แม่เราก็โอเค จะได้มีเงินให้เราเรียนส่วนหนึ่ง แต่พอเราโตขึ้นๆ พบว่า เงินเดือนแม่เพิ่มแค่ปีละ200 ไม่มีโบนัส ไม่มีแต๊ะเอีย มีครั้งเดียวคือสงกรานต์ ซึ่งปกติโบนัสต้องได้มากกว่าเงินเดือนหรือเปล่า แต่ของแม่เราคือไม่เลย ให้แค่นิดเดียว เงินเดือนปัจจุบันยังไม่แตะหมื่นด้วยซ้ำ บวกกับเราเรียนสูงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ก็จะเรียนจบปริญญาแล้ว แม่เราส่งเสียเราตลอด ค่าเทอมหมื่นกว่าบาท ค่ารายงานค่าอุปกรณ์ ป้าก็ช่วยบ้างถ้าแม่เราขาดเงิน พอเราต้องใช้เงินเรียนเยอะขึ้นๆ เงินเก็บที่แม่เคยมีก็ค่อยๆหายไป เงินจากประกันที่ได้มาก็เริ่มหมด แม่จึงขอเบิกกับเขา เพื่อนำมาจ่ายค่าเทอมค่าต่างๆ แรกๆก็ให้ โดยที่แม่เราจดตลอดว่าเบิกเท่าไหร่ หักเดือนละเท่าไหร่ จุดพีคคือ แม่เบิกมาทั้งหมด30,000แม่จดเอาไว้ และทุกครั้งที่เขาเอาเงินเดือนมาให้แม่ แม่ก็จะให้เขาเซ็นว่าเดือนนี้หักแล้วทุกครั้ง พอมาล่าสุดเดือนสุดท้ายที่จะหักครบ เขากลับบอกว่ายังไม่ครบเหลืออีก10,000 ซึ่งแปลว่ามันจะเป็น40,000ที่แม่เราเบิก ซึ่งแม่เราเบิกแค่30,000เท่านั้นไม่ได้เบิกเพิ่ม จนหักครบหมดเดือนสุดท้าย เค้ามาว่าแม่เราว่าไว้ใจไม่ได้ ไม่ซื่อสัตย์ 10,000นี้ใครจะรับผิดชอบ ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดแม่เราอ่ะ ลูกน้องเขาเบิกแล้วมาลงในชื่อแม่เราไหมก็ไม่รู้ เขาเอาบัญชีให้แม่เราดู เขาเขียนอะไรไม่รู้งงไปหมด แม่เราก็ไม่ยอม แม่เราร้องไห้เถียงกลับเลย เพราะเงิน10,000ก็ถือว่าเยอะมากๆ จนเขาบอกช่างมันถือว่าทำบุญ คือมันเสียความรู้สึกไปเลย ทำงานให้มาหลายสิบปี ตั้งแต่ลูกเขาเล็กๆจนโตจนทำงานหมดแล้ว แม่เราเก็บเงินค่าเช่าห้องให้เขาทุกเดือนไม่เคยขาดไม่เคยโกงมาตลอด แต่มาวันนี้เค้ามาพูดแบบนี้คือเสียความรู้สึกมากๆ แล้วเขาก็เคยพูดว่าทำไมแม่เราไม่มีเงินเก็บ คือแบบเงินเดือนก็ไม่ถึงหมื่นจะเอาเงินเก็บมาจากไหน ดูเศรษฐกิจ ดูสถานการ์ณปัจจุบันด้วย
ก่อนอื่นนะคะ เราเรียนเราใช้เงินอยู่แล้ว ยิ่งมหาลัยยิ่งใช้เงินเยอะ เราคุยกับแม่แล้วว่าไม่ขอกู้เรียน ไม่อยากจบมาแล้วมาทำงานใช้หนี้ อยากจบมาแล้วได้รับเงินเดือนเต็มที่ เพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวค่ะ แม่ก็โอเคจะสู้จะทนส่งเราให้จบ ตัวเราเราก็อยากให้แม่สบายนะ เรียนเราก็คอยขอทุนเพื่อแบ่งเบาภาระอยู่
ปล.เราเรียนหนักนะคะ ไม่ค่อยได้ทำงานพาร์ทไทม์เสริม มันไม่มีเวลาทำจริงๆ อย่าว่าเราในส่วนนี้เลย เราช่วยแม่ประหยัดอยู่แล้วค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
ทำไมอ่านแล้วรู้สึกสงสารแม่ เพราะเรื่องของคุณคือรักสบายไม่ยอมกู้ ให้แม่เหนิ่อยฝ่ายเดียว
ความคิดเห็นที่ 10
เราเข้าใจว่าแม่คุณทำหน้าที่"ผู้จัดการหอพัก"คือเก็บค่าเช่า ทำความสะอาดห้องเวลา"คนย้ายออก" และดูแลทั่วๆไป โดยได้รับเงินเดือนและ"อยู่ห้องฟรี"

คือแม่ยังได้ขึ้นเงินเดือนแต่น้อยมากๆ และได้ที่พักฟรี ซึ่งส่วนนี้คือส่วนหนึ่งของเงินเดือน(คิดตามราคาค่าห้องพักที่คนอื่นๆจ่าย) ถ้านับแล้วเชื่อว่าได้เกินหมื่นแน่นอน อีกอย่างค่าหอพักก็น่าจะขึ้นมาเป็นระยะๆในห้วงยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ซึ่งก็เหมือนแม่ได้ขึ้นเงินเดือนด้วย

มองกันแบบยุติธรรม คุณแม่จบแค่ ป.4 งานที่จะทำได้ก็คืองานใช้แรงงาน ไม่ต้องการทักษะมากนัก ซึ่งงานเฝ้าหอพักก็ไม่ใช่งานที่ต้องทำตลอดเวลาไม่เหมือนงานแม่บ้านตามบ้านที่งานหนักมากกว่าเยอะ ดังนั้นเงินเดือนที่แม่ได้(บวกค่าที่พัก) ในความเห็นของเราถือว่าคุณแม่ได้ผลตอบแทนพอสมควรกับงานที่ทำ และคุณแม่ก็เก็บออมเก่งมากถึงส่งคุณเรียนได้โดยไม่ต้องกู้เงินเรียน

ถ้าจะตำหนิเจ้านายของแม่ก็คงติเรื่องเงินกู้ที่คิดเกินไปหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งเขาก็ยกให้คุณแม่ในที่สุด

การจ้างงานเป็นความพอใจของคนสองฝ่ายที่ตกลงจะทำงานด้วยกัน แม่คุณพอใจกับเงินเดือนและสวัสดิการ(ห้องฟรี)ที่เขาเสนอให้ จึงทำงานกับเขามาตลอดยี่สิบปี ถ้าแม่คิดว่าเจ้านายเอาเปรียบและจะหางานที่ได้เงินเดือนดีกว่านี้ได้ แม่ก็คงลาออกและหางานใหม่นานมากแล้ว อยากให้คุณมองว่านี่คือข้อตกลงที่แม่คุณพอใจและยอมรับได้ ไม่อยากให้มองเจ้านายเป็นคนใจร้าย เพราะเขาก็ไม่ได้กักขังหน่วงเหนี่ยวคุณแม่ไว้ เป็นความเต็มใจของทั้งสองฝ่ายค่ะ
ความคิดเห็นที่ 8
ที่เงินเดือนไม่สูงขึ้นเลย ถึงแม้จะทำงานมาเป็นสิบปี หรือทำตั้งแต่สาวยันแก่ก็ตาม
ก็เพราะตำแหน่ง และ วุฒิการศึกษา  ที่เขาบอกว่าให้เรียนสูงๆ ก็เพราะเหตุนี้ไง
เพราะถ้าไม่มีวุฒิ ตำแหน่งหน้าที่การงาน ไม่ขยับฐานเงินเดือนก็ไม่ขยับ ต่อให้ทำจนชำนาญ มากแค่ไหน ก็ยังเป็นแม่บ้านอยู่ดี
งานหนัก หมายถึงใช้แรงงานหนัก มันเป็นงานพื้นฐานของแม่บ้านทั่วไป  นายจ้างไม่ได้มองว่าทำมากี่ปี อายุเท่าไหร่ มันไม่สำคัญเลย
เพราะถ้าเขาจ้างคนที่เด็กกว่าขยันกว่า ค่าแรงถูกกว่า เขาก็ให้คนเก่าลาออกเมื่อไหร่ก็ได้  มันเป็นสิทธิ์ของนายจ้าง

คนไม่มีความรู้ก็ต้องใช้แรงงานเข้าแลกเงินเดือน มันก็ต้องงานหนักอยู่แล้ว ถ้าไม่อยากทำงานหนัก ก็ต้องใช้ความรู้แลกเงินเดือน
ซึ่งแม่คุณไม่มี ต่อให้เป็นผู้เชียวชาญงานบ้าน เงินเดือนก็ไม่ขึ้น เพราะมันก็ยังอยู่แค่งานระดับปฎิบัติพื้นฐาน ไม่ได้ตำแหน่งพิเศษอะไร
ที่ใช้ความสามารถสูงกว่าคนอื่นเลย จะขยับฐานเงินเดือน เป็นเรื่องยากมาก


วิธีที่จะทำให้แม่คุณสบายก็คือ คุณต้องหางานที่มีเงินเดือนสูง สามารถเลี้ยงดูแม่ของคุณได้ ให้สมกับที่เขาส่งคุณเรียนสูงๆ


เราไม่เข้าข้างคุณ ไม่เห็นใจแม่ของคุณ และไม่เข้าข้างนายจ้างด้วย  เราพูดตามหลักความจริง ที่สังคมทั่วไปเขาทำกัน
ยิ่งแม่คุณแก่แล้ว โอกาสไปหางานที่เงินเดือนสูงๆ เป็นเรื่องยากมาก  จะกลายเป็นว่า นายจ้าง ยังจ้างอยู่ถึงแม้จะแก่แล้ว ก็ด้วยความสงสารเท่านั้นเอง
ไม่มีสิทธิพิเศษใดๆ จะเพิ่มเงินเดือนสูงขึ้นก็เป็นไปได้ยาก  ส่วนเรื่องโดนโกง หรือ ไม่เป็นธรรม นั่นก็เพราะความไม่รู้หนังสือ เรียนน้อยจึงโดนเอาเปรียบ
แพ้ตั้งแต่แรกแล้ว จะไปสู้อะไรคนอื่นได้  คุณจะเรียกร้องความเป็นธรรม คุณอาจจะต้องพยายามมากกว่านี้ เพราะไม่งั้นหาความเป็นธรรมไม่เจอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่