ขออนุญาตนำประสบการณ์เริ่มทำธุรกิจกับเพื่อนๆ ในแบบออนไลน์ เพื่อเป็นประสบการณ์ให้ผู้ที่สนใจเริ่มทำธุรกิจส่วนตัวจะได้ไม่เดินผิดพลาดเหมือนผม เดิมผมเป็นพนักงานประจำ เงินเดือนก็ไม่ได้เยอะอะไรมากแค่พออยู่ได้ แต่ไม่ได้มีเงินเก็บอะไร เลยอยากหารายได้เสริม และธุรกิจที่อินเทรนด์ที่สุดในขณะนี้ และเหมาะกับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานเต็มเวลา ก็หนีไม่พ้นการทำธุรกิจออนไลน์ครับ เพราะสามารถทำได้ที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ ลงทุนน้อย และไม่ผูกติดกับเวลา ในบทความนี้ก็เลยจะมาแบ่งปันประสบการณ์ พร้อมด้วยข้อดี และข้อเสียครับ
ผมแฃะเพื่อนไม่ได้เป็นคนที่เก่งด้านไอทีนะ เลยชวนเพื่อนไปเข้าคอร์สเรียนการขายของออนไลน์ แต่เพื่อนเรียนแล้วคิดว่าเป็นลู่ทางทำมาหากินได้ เลยไปชวนเพื่อนอีกคนนึง รวมผมด้วย ทั้งหมด 3 คน มาลงขันกันเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ เพื่อนผมรู้จักกับ เจ้าของร้านขายของแห่งหนึ่งย่านจตุจักร ซึ่งมีสินค้า ประเภทของที่ระลึก ของชำร่วย จำนวนมาก มีสาขามากกว่า 5 ร้าน แตนแรกพี่เจ้าของร้านใจดีบอกว่าให้หากเราสนใจร่วมกับเขาทำธุรกิจ เขาจะยกให้เราเป็น agent ขายของทางออนไลน์ให้กับเขาแต่เจ้าเดียว เนื่องจากเขามีหน้าร้านอยู่แล้ว และไม่คิดจะทำแบบออนไลน์ เพราะแค่นี้ก็รวยมากแล้ว
เราสามคนก็เริ่มด้วยการแบ่งหน้าที่ว่าใครจะทำอะไร คนหนึ่งดูแลเรื่องการคุยกับพี่เจ้าของร้านใจดีและการขาย อีกคนดูแลเรื่อง การถ่ายรูป สินค้า ตกแต่งสินค้า ส่วนผมดู IT ทำเว็บ สินค้าที่เตรียมจะเอาไปขึ้นร้านขายออนไลน์นี้ ข้อเช่น จานรองแก้ว ถาดไม้ กล่องผ้าไหม ตามรูปด้านล่างเลยครับ
ชุดผ้าไหม
จานรองแก้ว
ชุดรองจานและตะเกียบ
ตอนแรกก็ดูเหมือนจะไปได้ดี พี่เจ้าของร้านให้สินค้าหลายชนิดมาให้เราถ่ายรูป แต่ก็ทำไปได้ระดับหนึ่งเรา เราขอให้พี่เจ้าของร้านช่วยแจ้งราคาสินค้าที่จะขายให้เราและราคาตั้งขายสุดท้าย ปรากฏว่าเขาไม่ยอมแจ้งครับ เราพยายามอยู่หลายครั้งมาก เข้าไม่ชี้แจง ไลน์และโทรศัพท์ต่างๆนานาก็ไม่ตอบ พี่เขาอ้างว่ายุ่งตลอด ต้องไปสวนไปไร่ สุดท้ายโครงการนี้ก็ล่มไป ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มขายสินค้าอะไรเลย ทุกคนก็เลยงง และเซ้งไปตามๆกันครับ
ประสบการณ์ที่ได้จาก ครั้งนี้คือ เราควรจะต้องมีสินค้าในมือของตัวเอง หรืออย่างน้อย ก็ต้องมี supplier ที่คุยได้ ง่ายๆ เพราะคนเราเปลี่ยนใจได้ง่ายเสมอ ผมไม่ได้โทษพี่เจ้าของร้าน หรือเพื่อนที่ไปแนะนำหรอกนะ ถือว่าเราประมาทเอง และเป็นบทเรียนให้เราเดินหน้าต่อไป
ข้อดีของการร่วมมีหุ้นส่วน และทำงานแบบกลุ่มคือ
1. มีคนช่วยทำงาน
2. มีคนช่วยออกเงิน อันนี้สำคัญมาก เพราะช่วยแบ่งเบาภาระได้มาก
3. ช่วยกันคิด
แต่ก็มีข้อเสียคือ
1. การตัดสินใจอะไรต้องออกความเห็นร่วมกัน บางทีต้องใช้การโหวต ถ้าได้หุ้นส่วนดีก็ดีไป ถ้าได้หุ้นส่วนแย่ก็จะเวียนหัว
2. เรื่องการเงินไม่สามารถไว้ใจใครได้ ทุกคนควรจะดูให้ละเอียดไม่งั้นอาจโดนโกงได้ ผมโชคดีที่ผมดูเรื่องการเงินเอง เลยมั่นใจว่าจะไม่ถูกโกงแน่นอน
3. หากไม่แบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจนตั้งแต่ต้น พอทำๆไปอาจจะทะเลาะกันได้ เพราะบางคนอาจจะคิดว่าทำงานมากกว่าคนอื่น แต่ก็ต้องแบ่งกำไรเท่าๆกัน ซึ่งทำให้บางคนรู้สึกไม่แฟร์เลย
จากประสบการณ์ตรงนี้ผมเลยเห็นว่าการทำงานคนเดียวอาจจะเหนื่อยกว่าแต่ก็สบายใจ เลยออกมาทำการเปิดเว็บขายช้อนส้อมสัมฤทธิ์คนเดียว แม้จะไม่หวือหวาแต่ก็พอได้ค่าขนมบ้างครับ
ช้อนสัมฤทธิ์ (สำริด)
กล่องผ้าไหมใส่ช้อนส้อม
ช้อนส้อมลวดลายต่างๆ
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์แบบนี้ควรทำเองคนเดียว หรือว่าควรมีหุ้นส่วนช่วยดีครับ
แชร์ประสบการณ์การเริ่มทำธุรกิจออนไลน์กับเพื่อน ไว้ใจคนมากไป จะเสียหายได้
ผมแฃะเพื่อนไม่ได้เป็นคนที่เก่งด้านไอทีนะ เลยชวนเพื่อนไปเข้าคอร์สเรียนการขายของออนไลน์ แต่เพื่อนเรียนแล้วคิดว่าเป็นลู่ทางทำมาหากินได้ เลยไปชวนเพื่อนอีกคนนึง รวมผมด้วย ทั้งหมด 3 คน มาลงขันกันเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ เพื่อนผมรู้จักกับ เจ้าของร้านขายของแห่งหนึ่งย่านจตุจักร ซึ่งมีสินค้า ประเภทของที่ระลึก ของชำร่วย จำนวนมาก มีสาขามากกว่า 5 ร้าน แตนแรกพี่เจ้าของร้านใจดีบอกว่าให้หากเราสนใจร่วมกับเขาทำธุรกิจ เขาจะยกให้เราเป็น agent ขายของทางออนไลน์ให้กับเขาแต่เจ้าเดียว เนื่องจากเขามีหน้าร้านอยู่แล้ว และไม่คิดจะทำแบบออนไลน์ เพราะแค่นี้ก็รวยมากแล้ว
เราสามคนก็เริ่มด้วยการแบ่งหน้าที่ว่าใครจะทำอะไร คนหนึ่งดูแลเรื่องการคุยกับพี่เจ้าของร้านใจดีและการขาย อีกคนดูแลเรื่อง การถ่ายรูป สินค้า ตกแต่งสินค้า ส่วนผมดู IT ทำเว็บ สินค้าที่เตรียมจะเอาไปขึ้นร้านขายออนไลน์นี้ ข้อเช่น จานรองแก้ว ถาดไม้ กล่องผ้าไหม ตามรูปด้านล่างเลยครับ
ชุดผ้าไหม
จานรองแก้ว
ชุดรองจานและตะเกียบ
ตอนแรกก็ดูเหมือนจะไปได้ดี พี่เจ้าของร้านให้สินค้าหลายชนิดมาให้เราถ่ายรูป แต่ก็ทำไปได้ระดับหนึ่งเรา เราขอให้พี่เจ้าของร้านช่วยแจ้งราคาสินค้าที่จะขายให้เราและราคาตั้งขายสุดท้าย ปรากฏว่าเขาไม่ยอมแจ้งครับ เราพยายามอยู่หลายครั้งมาก เข้าไม่ชี้แจง ไลน์และโทรศัพท์ต่างๆนานาก็ไม่ตอบ พี่เขาอ้างว่ายุ่งตลอด ต้องไปสวนไปไร่ สุดท้ายโครงการนี้ก็ล่มไป ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มขายสินค้าอะไรเลย ทุกคนก็เลยงง และเซ้งไปตามๆกันครับ
ประสบการณ์ที่ได้จาก ครั้งนี้คือ เราควรจะต้องมีสินค้าในมือของตัวเอง หรืออย่างน้อย ก็ต้องมี supplier ที่คุยได้ ง่ายๆ เพราะคนเราเปลี่ยนใจได้ง่ายเสมอ ผมไม่ได้โทษพี่เจ้าของร้าน หรือเพื่อนที่ไปแนะนำหรอกนะ ถือว่าเราประมาทเอง และเป็นบทเรียนให้เราเดินหน้าต่อไป
ข้อดีของการร่วมมีหุ้นส่วน และทำงานแบบกลุ่มคือ
1. มีคนช่วยทำงาน
2. มีคนช่วยออกเงิน อันนี้สำคัญมาก เพราะช่วยแบ่งเบาภาระได้มาก
3. ช่วยกันคิด
แต่ก็มีข้อเสียคือ
1. การตัดสินใจอะไรต้องออกความเห็นร่วมกัน บางทีต้องใช้การโหวต ถ้าได้หุ้นส่วนดีก็ดีไป ถ้าได้หุ้นส่วนแย่ก็จะเวียนหัว
2. เรื่องการเงินไม่สามารถไว้ใจใครได้ ทุกคนควรจะดูให้ละเอียดไม่งั้นอาจโดนโกงได้ ผมโชคดีที่ผมดูเรื่องการเงินเอง เลยมั่นใจว่าจะไม่ถูกโกงแน่นอน
3. หากไม่แบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจนตั้งแต่ต้น พอทำๆไปอาจจะทะเลาะกันได้ เพราะบางคนอาจจะคิดว่าทำงานมากกว่าคนอื่น แต่ก็ต้องแบ่งกำไรเท่าๆกัน ซึ่งทำให้บางคนรู้สึกไม่แฟร์เลย
จากประสบการณ์ตรงนี้ผมเลยเห็นว่าการทำงานคนเดียวอาจจะเหนื่อยกว่าแต่ก็สบายใจ เลยออกมาทำการเปิดเว็บขายช้อนส้อมสัมฤทธิ์คนเดียว แม้จะไม่หวือหวาแต่ก็พอได้ค่าขนมบ้างครับ
ช้อนสัมฤทธิ์ (สำริด)
กล่องผ้าไหมใส่ช้อนส้อม
ช้อนส้อมลวดลายต่างๆ
เพื่อนๆ พี่ๆ คิดว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์แบบนี้ควรทำเองคนเดียว หรือว่าควรมีหุ้นส่วนช่วยดีครับ