ธุรกิจสมมติ ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง มีหุ้นส่วน 20 คน สมมติเก็บเงินทุนคนละ 10000 ร้านเปิดมาร่วม 10 กว่าปี กำไรขาดทุนเปอเซ็นเท่ากันหมด มีสมาชิกหุ้นส่วนชื่อ A เป็นคนทำแก้วน้ำมาขายให้ร้าน แก้วละ 20 บาท ราคาขายออกที่ร้านแก้วละ 50 สมาชิกหุ้นส่วนชื่อ B เป็นคนเก็บเงิน ซื้อแก้ว วัตถุดิบอื่นๆ ที่ใช้ในการขายต่างๆ การออกไปซื้อของ กำไรแต่ละเดือนจะทำร่วมกับ A พอสรุปแต่ละเดือนแล้ว B เป็นคนเก็บเงินไว้แล้วจะไปเข้าบัญชี A จะได้เปอเซ็นจากกำไร ทุกเดือนเป็นค่าตอบแทนทำบัญชี ส่วน B ได้เงินสมมติเดือน 1000 มีพนักงาน 4 คนที่อยู่หน้าร้าน ไม่มีข้อเกี่ยวข้องในหุ้นส่วน สมมติจ้างเป็นรายวัน 300 ต่อวัน ส่วนสมาชิกคนอื่น อีก 18 คน ก็รอกำไรเยอะพอแบ่งได้ ก็เอาไปแบ่งกัน ไม่เคยมีการขอทุนเพิ่มอีกเลย ประชุมทุกเดือนมีแค่ A กับ B ที่ทำ จะมีบางครั้งที่เรียกทั้งหมด การทำบัญชีทุกคนรับรู้ มาตลอด เขียนบัญชียังไง สรุปยังไง เคยทำมายังไง มีหุ้นส่วนส่วนใหญ่รับรู้มา และเคยจะเจ๊งไปรอบนึงแต่ก็ไม่มีการเก็บเพิ่ม เรียกประชุมและเริ่มใหม่ ในการทำงานทุกวัน พนักงานคนที่ 1 จะจดแก้ว ว่าวันนี้ขายได้กี่แก้ว ได้เงินกี่บาท ใครมาทำงาน แล้วมาส่งให้กับ B ทำมาซักพัก ล่าสุดสมาชิกหุ้นส่วนชื่อ C ไม่เคยเข้าร่วมประชุม วันนึงให้พนักงาน ถ่ายบิล จดเงินที่ได้รายวัน ส่งไปให้ ส่งเสร็จพนักงานก็จะเอาเงินมาส่ง B ตามเดิม ทำมา 5-6 เดือน แล้วมาเรียกประชุม ทุกคนมากันครบ เอาบัญชีของ C มาเปิด แล้วดูบัญชีคู่กับ B ปรากฏว่า บัญชีแต่ละเดือนของ C 5-6 เดือนนั้น เยอะกว่า B ทุกเดือน ทำให้เกิดข้อครหา B บอกว่า สรุปไว้ทุกเดือน เดือนนึงได้กี่บาท ขายแก้วไปกี่แก้ว บัญชีแก้วของ Aกับ บัญชีเงินของ B ตรงกัน C ก็จะเค้นให้ยอมรับให้ได้ ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ AและBก็ยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง ทำบัญชีมาแบบนี้ สมาชิกหุ้นส่วนคนอื่นรับรู้ เกิดข้อสงสัยมาทางฝ่าย ABมากขึ้น แต่เรื่องยังไม่จบ ไม่รู้จะทำยังไงกันต่อ เป็นบทความเนิ่นๆ ที่ไม่ได้เจาะลึกถึงตัวละครแต่ละคน อยากให้ลองพิจารณา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สมาชิกในหุ้นส่วน มีความสัมพันกันอยู่ ยุ่งเหยิง
เรื่องเล่าเกี่ยวกับการทำธุรกิจ อยากให้ช่วยกันวิเคราะห์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้