เรื่องมีอยู่ว่า หน้าทางรถเข้าออกบ้านผม โดนเสาไฟฟ้าขวางอยู่กลางที่ และอยู่ชิดแนวเขต (คือหลังเสาไฟฟ้าเป็นที่ส่วนบุคคลทันที) แต่ก็ต้องจำทนไป เพราะเคยติดต่อการไฟฟ้าไปแล้ว คิดค่าย้ายเสา ถึง
2แสนบาท เราไม่มีปัญญาไปจ่ายไหว ทุกวันนี้อาศัยให้ตัวเองและลูกค้าถอยรถเข้าออกอย่างมีสติ เพื่อไม่ให้ชนโดนเสาต้นนี้ (ทางเข้าออกรถ ทำได้กว้างแค่ 2.5 เมตร) แต่ประเด็นสำคัญที่เริ่มทำให้คิดว่า ไม่เป็นธรรมกับเราขึ้นเรื่อยๆ คือ มีการตั้งกล่องอะไรสักอย่าง ของ บริษัท 3 ขึ้นบนเสาต้นนี้ (และไม่ได้มาก่อนเราซื้อที่แน่นอน) แรกเริ่มที่เรามาอยู่เมื่อ 5-6 ปีก่อน กล่องใบนี้ก็ยังไม่แผลงฤทธิ์ อะไร หลังจากนั้นสักพัก ผลกระทบก็ตามมาครับ แยกเป็น2เรื่องคือ
1.การที่พนักงานต้องมาเซอร์วิสที่กล่องนี้ แทบจะวันเว้นวัน ซึ่งในระหว่างที่มา จะตั้งบันไดพาดขวางทางเข้าออกรถเอาไว้ บางครั้งพาดทิ้งไว้แล้วหายตัวไปเกือบชั่วโมง เป็นแบบนี้ประจำ ซึ่งทำให้ รถลูกค้าไม่สามารถเข้าออกได้ เพราะทางเข้าออกเราติดกับเสาไฟฟ้านี้ เมื่อมีบันไดขวางไปส่วนนึง ก็หมดสิทธิ์เข้าออกทันที(เราตั้งใจซื้อที่จุดนี้ไว้ให้ลูกค้าจอด เพื่อไม่ต้องไปฝ่าฝืน กม จอดบนถนนที่ห้ามจอด) ประเมินไม่ได้ว่าเราเสียลูกค้าใหม่ๆไปเท่าไหร่ จากการที่เอารถเข้ามาจอดทันทีไม่ได้ (ถ้าเป็นลูกค้าเก่าก็จะต้องจอดรอในจุดห้ามจอดไปก่อน) และกรณีล่าสุดคือ มาติดตั้งกันตอนเที่ยงคืน แถมยังส่งเสียงรบกวนชาวบ้านบริเวณนี้ไปทั่ว ทำเหมือนไม่ต้องเกรงใจชาวบ้านใกล้เคียงกันเลย (ปกติถ้าทำงานด้วยระดับเสียงทั่วไป จะไม่มีใครตื่นขี้นมาแน่นอน) และยังอีกหลายกรณียิบย่อยที่เกิดจากกล่องใบนี้ตลอด5-6ปีที่ผ่านมาครับ จุดนี้ก็เป็นจุดสำคัญที่ตัดสินใจขอร้องเรียน
2.สายสื่อสารที่ต่อจากกล่องนี้ เยอะและพะรุงพะรังมาก เริ่มห้อยย้อยต่ำและเพิ่มขึ้นทุกวันอย่างไม่มีท่าทีจะจบ เพราะมันไม่ใช่อะไรที่ทำจบแล้วจบเลย ทั้งที่สายอัดแน่นเต็มทุกช่องในกล่อง แต่มีแก้ไข มีเปลี่ยนใหม่ โดยที่สายเดิมก็ปล่อยมันไปถามยถากรรม ไม่มีการยกออกก่อน อันนี้เป็นเรื่องของความปลอดภัยและทัศนียภาพ ของผู้อาศัยอยู่ด้านหลังอย่างเรา จนล่าสุดทนไม่ไหว ต้องเสี่ยงตาย ปีนขึ้นไปเก็บสายรวมไว้เอง เพราะถ้าไม่ทำ ก็คงไม่มีใครมาสนใจทำให้ แต่แว่บนึงที่ปีนขึ้นไปนั้นรู้สึกว่า ทำไมเราต้องมาทนอยู่แบบนี้ วันแล้ววันเล่า
จากเหตุผลข้างต้น ตัดสินใจ แจ้ง กทม เพื่อขอย้ายกล่องนี้ออกไปครับ เพราะเคยแจ้งเรื่องอื่นแล้ว กทม ดำเนินการเรื่องต่างๆที่เกี่ยวกับ เมือง ได้ค่อนข้างดี แต่รอบนี้ผลกลับไม่เป็นอย่างที่คิดครับ จนท ติดต่อกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่ สิ่งที่ได้รับ คือ กทม ไม่มีอำนาจใดๆในการจัดการ กับสาย กับกล่องที่ สร้างผลกระทบให้กับคน กทม ขอให้ติดต่อไปที่ บ 3 โดยตรง ผมเกิดคำถามรุนแรงขึ้นในใจทันทีครับว่า จากที่เคยอ่านๆ กระทู้มาแล้ว ทำไม พอเป็นเรื่องสายสื่อสาร จนท ทุกภาคส่วน มักโบ้ยให้เอกชนลงมาบริหารจัดการตัวเอง แทนที่จะมีองค์กรรัฐที่มีหน้าที่โดยตรง มาบังคับใช้กฎหมายกับ บ เหล่านั้น ได้อย่างรวดเร็ว สุดท้ายแล้วก็เหมือน ให้เอกชน ต้องมาเผชิญหน้ากันเอง โดยมีรัฐแค่อำนวยความสะดวก(ให้เบอร์โทรมา) ซึ่งแน่นอนครับ เราไม่ได้เป็นแม้แต่ลูกค้าของ บ นี้ ไม่เคยมีส่วนได้ใดๆ มีแต่ส่วนเสียใครจะมาดูแล แต่ผมก็โทรไปครับ เพื่อยืนยันเป็นหลักฐานเอาไว้ ว่าผมได้ทำในสิ่งที่ จนท แนะนำแล้ว ผลก็ตามคาดครับ คือ หลังจากที่ผมแจ้ง บ 3 ไปทันทีหลังจากที่วางสายจาก กทม จนถึงวันนี้ 5เดือนแล้ว แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือ สายเคเบิ้ลอีกคดเป็นวงโอลิมปิค ขยายออกจากกล่องนี้เป็น10 เส้น ออกไปในทิศทางต่างๆ แล้วแต่ช่างของ บ3 ต้องการจะรังสรรค์มันไปในแนวไหน (ผมมองออกว่ามันมาเพิ่มเพราะผมเพิ่งปีนเก็บสายม้วนเองกับมือไปล๊อตนึงครับ) มันอาจจะไม่ได้มีผลว่าอันตรายอย่างเห็นได้ชัด แต่มันคือตรงกับคำว่า “ทัศนอุจาด”ที่ผู้บริหาร กทม เพิ่งออกมาบ่นเลยครับ
ถึงตรงนี้ความรู้สึกผมสับสนมากครับ ประเด็นที่คาใจผมมากคือ
- กล่องนี้ และ กล่องอื่นๆ ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานใดอย่างถูก กม หรือไม่ครับ ถ้ามันไม่ถูกต้องแต่แรก ทำไมพอผมได้รับผลกระทบจากมัน กลับไม่มีใครดำเนินการให้ผมได้ หรือ หากมันได้รับอนุญาต แล้ว จากหน่วยงานได้ก็ตาม หน่วยงานนั้นก็ต้องมาดูแลด้วย ไม่ใช่สักแต่รับค่าธรรมเนียม แล้วนั่งเฉย มีแต่รับกับรับ หรือสุดท้าย มันก็ต้องอยู่สร้างปัญหาให้ผมแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่สามารถขอย้ายตำแหน่งได้เลยหรือดำเนินการใดๆได้เลยหรือครับ เหมือนมันเป็นอะไรที่ผมแตะต้องมันไม่ได้ ทั้งที่มันอยู่ติดกับแนวเขตหน้าบ้านผม ผมคือคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับมัน 24 ชม ความเดือนร้อนอยู่ที่ผมคนเดียว
- มันเหมือนกับว่า ผมไม่มีปัญหาจ่ายค่าย้ายเสา 2แสน บาท ซึ่งตรงนี้ผมยอมรับปัญหาเรื่องการเข้าออกลำบากได้ครับ แต่เรื่องกล่องที่พ่วงมาด้วย ทำไมผมต้องได้รับของแถมนี้ สุดท้ายเหมือนกับว่า ถ้าอยากจบแค่ปัญหากล่องของ บ เอกชน ผมต้องยอมหาเงิน 2 แสนมาจบปัญหานี้ และที่ทำได้ก็แค่ขยับเสาห่างออกไป 1.5เมตร เผลอๆต่อให้ผมหาเงิน2แสนมาย้ายเสาไฟฟ้านี้ได้ แต่ผมก็ยังคงต้องอดทนกับกล่องเจ้าปัญหานี้ต่อไปอยู่ดี
-ถ้าจะให้เราไปคอยบอกช่างแต่ละคนที่มาเป็น สิบรอบ ไม่ซ้ำกันใน1เดือน ว่าให้ทำให้เรียบร้อย ให้ยีนคุมเค้าทำ ให้เค้าคิดถึงคนอื่นมากๆ เราทำไม่ได้หรอกครับ มันเป็นไปไม่ได้เลย และไม่ใช่หน้าที่ของเราที่ต้องไปคอยทำแบบนั้น ให้เกลียดหน้ากันเปล่าๆ ผลกระทบก็จะย้อนมาสู่ตัวเราเอง ที่ผ่านมาก็ออกไปพูดจนท้อแล้ว ทั้งที่การย้ายกล่องไปตำแหน่งอื่นควรจะเป็นสิ่งที่ทำได้ อยู่ที่ตัว บริษัท และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการจริงจังแค่ไหน หรือคิดแต่ว่า ไม่มีใครมีอำนาจพอที่จะสั่งให้เค้าย้ายกล่องได้ แบบนี้ ก็ไม่รู้จะมีหน่วยงานต่างๆไว้ทำไม ถ้าสุดท้าย ให้ บ เอกชน ตัดสินใจด้วยตัวเองว่าต้องย้ายให้หรือไม่ เพราะเค้าก็จะต้องอ้างเหตุผลร้อยแปดที่จะไม่ย้ายให้ เนื่องจากมันมีต้นทุน หรือต้นทุนส่วนนี้ก็ต้องมาเก็บกับผมอีก จึงจะย้ายให้ เหมือนเสาไฟฟ้า ทั้งที่ผมซื้อที่ดินมาก่อนมีกล่องบนเสานี้แน่นอน
ที่เขียนมา อยากทราบแนวทางท่านอื่นที่เคยมีกรณีใกล้เคียงว่าควรทำอย่างไรต่อดีครับ เพื่อจัดการปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะยิ่งอ่านกระทู้เก่าๆมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนประชาชนทั่วไป ยากที่จะจัดการเรื่องนี้ได้เอง ซึ่งผมรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรม ที่แทบจะทุกหน่วยงาน มักปล่อยให้บุคคลธรรมดาทั่วไป ไปคอยสู้รบปรบมือกับ บ ใหญ่ๆ เพียงลำพัง เพียงเพื่อจะได้คุณภาพชีวิตพื้นฐานที่พึงมีกลับคืนมา ถึงตรงนี้เหมือนทางจะมาตันตรงที่ ถ้า บ 3 ไม่ดำเนินการใดๆ ก็คงต้องจบเท่านี้?? กรณีของผมอาจจะเป็นกรณีส่วนน้อย จากลักษณะทำเลบ้านที่อาจจะไม่ปรากฏบ่อยนัก แต่กรณีที่ไม่เกิดบ่อย แต่ผลกระทบมาก ก็ควรได้รับการดูแลอย่างจริงจังเช่นกัน
แล้วผมจะคอยมาอัพเดทให้ เพื่อให้ท่านอื่นๆที่มีความเดือนร้อนใกล้เคียงกันได้เป็นแนวทางต่อไปครับ
ปล. ความเจริญทางเทคโนโลยีนั้นดีครับ แต่ก็ไม่ควรไปทิ้งความเดือดร้อนไว้ให้ผู้ใดผู้นึง จนมันมากเกินไป เข้าข่าย คนใช้ไม่ต้องทน คนต้องทนไม่ได้ใช้ ในรูปซ้ายเมือ 5ปีก่อน รูปขวาคือต้นปีครับ ปัจจุบันอาร์ตกว่านี้ไปพอสมควร ที่มองไม่เห็นหน้าช่างไม่ใช่ตั้งใจเบลอนะครับ ตรงนั้นคือกระจุกสายล้วนๆ
ถ้าอยากร้องเรียนให้ย้ายกล่องสื่อสาร บนเสาไฟฟ้าหน้าทางเข้าออกไปอยู่จุดอื่น ทำอย่างไรให้มีผู้รับผิดชอบอย่างจริงจังดีครับ
1.การที่พนักงานต้องมาเซอร์วิสที่กล่องนี้ แทบจะวันเว้นวัน ซึ่งในระหว่างที่มา จะตั้งบันไดพาดขวางทางเข้าออกรถเอาไว้ บางครั้งพาดทิ้งไว้แล้วหายตัวไปเกือบชั่วโมง เป็นแบบนี้ประจำ ซึ่งทำให้ รถลูกค้าไม่สามารถเข้าออกได้ เพราะทางเข้าออกเราติดกับเสาไฟฟ้านี้ เมื่อมีบันไดขวางไปส่วนนึง ก็หมดสิทธิ์เข้าออกทันที(เราตั้งใจซื้อที่จุดนี้ไว้ให้ลูกค้าจอด เพื่อไม่ต้องไปฝ่าฝืน กม จอดบนถนนที่ห้ามจอด) ประเมินไม่ได้ว่าเราเสียลูกค้าใหม่ๆไปเท่าไหร่ จากการที่เอารถเข้ามาจอดทันทีไม่ได้ (ถ้าเป็นลูกค้าเก่าก็จะต้องจอดรอในจุดห้ามจอดไปก่อน) และกรณีล่าสุดคือ มาติดตั้งกันตอนเที่ยงคืน แถมยังส่งเสียงรบกวนชาวบ้านบริเวณนี้ไปทั่ว ทำเหมือนไม่ต้องเกรงใจชาวบ้านใกล้เคียงกันเลย (ปกติถ้าทำงานด้วยระดับเสียงทั่วไป จะไม่มีใครตื่นขี้นมาแน่นอน) และยังอีกหลายกรณียิบย่อยที่เกิดจากกล่องใบนี้ตลอด5-6ปีที่ผ่านมาครับ จุดนี้ก็เป็นจุดสำคัญที่ตัดสินใจขอร้องเรียน
2.สายสื่อสารที่ต่อจากกล่องนี้ เยอะและพะรุงพะรังมาก เริ่มห้อยย้อยต่ำและเพิ่มขึ้นทุกวันอย่างไม่มีท่าทีจะจบ เพราะมันไม่ใช่อะไรที่ทำจบแล้วจบเลย ทั้งที่สายอัดแน่นเต็มทุกช่องในกล่อง แต่มีแก้ไข มีเปลี่ยนใหม่ โดยที่สายเดิมก็ปล่อยมันไปถามยถากรรม ไม่มีการยกออกก่อน อันนี้เป็นเรื่องของความปลอดภัยและทัศนียภาพ ของผู้อาศัยอยู่ด้านหลังอย่างเรา จนล่าสุดทนไม่ไหว ต้องเสี่ยงตาย ปีนขึ้นไปเก็บสายรวมไว้เอง เพราะถ้าไม่ทำ ก็คงไม่มีใครมาสนใจทำให้ แต่แว่บนึงที่ปีนขึ้นไปนั้นรู้สึกว่า ทำไมเราต้องมาทนอยู่แบบนี้ วันแล้ววันเล่า
จากเหตุผลข้างต้น ตัดสินใจ แจ้ง กทม เพื่อขอย้ายกล่องนี้ออกไปครับ เพราะเคยแจ้งเรื่องอื่นแล้ว กทม ดำเนินการเรื่องต่างๆที่เกี่ยวกับ เมือง ได้ค่อนข้างดี แต่รอบนี้ผลกลับไม่เป็นอย่างที่คิดครับ จนท ติดต่อกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่ สิ่งที่ได้รับ คือ กทม ไม่มีอำนาจใดๆในการจัดการ กับสาย กับกล่องที่ สร้างผลกระทบให้กับคน กทม ขอให้ติดต่อไปที่ บ 3 โดยตรง ผมเกิดคำถามรุนแรงขึ้นในใจทันทีครับว่า จากที่เคยอ่านๆ กระทู้มาแล้ว ทำไม พอเป็นเรื่องสายสื่อสาร จนท ทุกภาคส่วน มักโบ้ยให้เอกชนลงมาบริหารจัดการตัวเอง แทนที่จะมีองค์กรรัฐที่มีหน้าที่โดยตรง มาบังคับใช้กฎหมายกับ บ เหล่านั้น ได้อย่างรวดเร็ว สุดท้ายแล้วก็เหมือน ให้เอกชน ต้องมาเผชิญหน้ากันเอง โดยมีรัฐแค่อำนวยความสะดวก(ให้เบอร์โทรมา) ซึ่งแน่นอนครับ เราไม่ได้เป็นแม้แต่ลูกค้าของ บ นี้ ไม่เคยมีส่วนได้ใดๆ มีแต่ส่วนเสียใครจะมาดูแล แต่ผมก็โทรไปครับ เพื่อยืนยันเป็นหลักฐานเอาไว้ ว่าผมได้ทำในสิ่งที่ จนท แนะนำแล้ว ผลก็ตามคาดครับ คือ หลังจากที่ผมแจ้ง บ 3 ไปทันทีหลังจากที่วางสายจาก กทม จนถึงวันนี้ 5เดือนแล้ว แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือ สายเคเบิ้ลอีกคดเป็นวงโอลิมปิค ขยายออกจากกล่องนี้เป็น10 เส้น ออกไปในทิศทางต่างๆ แล้วแต่ช่างของ บ3 ต้องการจะรังสรรค์มันไปในแนวไหน (ผมมองออกว่ามันมาเพิ่มเพราะผมเพิ่งปีนเก็บสายม้วนเองกับมือไปล๊อตนึงครับ) มันอาจจะไม่ได้มีผลว่าอันตรายอย่างเห็นได้ชัด แต่มันคือตรงกับคำว่า “ทัศนอุจาด”ที่ผู้บริหาร กทม เพิ่งออกมาบ่นเลยครับ
ถึงตรงนี้ความรู้สึกผมสับสนมากครับ ประเด็นที่คาใจผมมากคือ
- กล่องนี้ และ กล่องอื่นๆ ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานใดอย่างถูก กม หรือไม่ครับ ถ้ามันไม่ถูกต้องแต่แรก ทำไมพอผมได้รับผลกระทบจากมัน กลับไม่มีใครดำเนินการให้ผมได้ หรือ หากมันได้รับอนุญาต แล้ว จากหน่วยงานได้ก็ตาม หน่วยงานนั้นก็ต้องมาดูแลด้วย ไม่ใช่สักแต่รับค่าธรรมเนียม แล้วนั่งเฉย มีแต่รับกับรับ หรือสุดท้าย มันก็ต้องอยู่สร้างปัญหาให้ผมแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่สามารถขอย้ายตำแหน่งได้เลยหรือดำเนินการใดๆได้เลยหรือครับ เหมือนมันเป็นอะไรที่ผมแตะต้องมันไม่ได้ ทั้งที่มันอยู่ติดกับแนวเขตหน้าบ้านผม ผมคือคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับมัน 24 ชม ความเดือนร้อนอยู่ที่ผมคนเดียว
- มันเหมือนกับว่า ผมไม่มีปัญหาจ่ายค่าย้ายเสา 2แสน บาท ซึ่งตรงนี้ผมยอมรับปัญหาเรื่องการเข้าออกลำบากได้ครับ แต่เรื่องกล่องที่พ่วงมาด้วย ทำไมผมต้องได้รับของแถมนี้ สุดท้ายเหมือนกับว่า ถ้าอยากจบแค่ปัญหากล่องของ บ เอกชน ผมต้องยอมหาเงิน 2 แสนมาจบปัญหานี้ และที่ทำได้ก็แค่ขยับเสาห่างออกไป 1.5เมตร เผลอๆต่อให้ผมหาเงิน2แสนมาย้ายเสาไฟฟ้านี้ได้ แต่ผมก็ยังคงต้องอดทนกับกล่องเจ้าปัญหานี้ต่อไปอยู่ดี
-ถ้าจะให้เราไปคอยบอกช่างแต่ละคนที่มาเป็น สิบรอบ ไม่ซ้ำกันใน1เดือน ว่าให้ทำให้เรียบร้อย ให้ยีนคุมเค้าทำ ให้เค้าคิดถึงคนอื่นมากๆ เราทำไม่ได้หรอกครับ มันเป็นไปไม่ได้เลย และไม่ใช่หน้าที่ของเราที่ต้องไปคอยทำแบบนั้น ให้เกลียดหน้ากันเปล่าๆ ผลกระทบก็จะย้อนมาสู่ตัวเราเอง ที่ผ่านมาก็ออกไปพูดจนท้อแล้ว ทั้งที่การย้ายกล่องไปตำแหน่งอื่นควรจะเป็นสิ่งที่ทำได้ อยู่ที่ตัว บริษัท และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการจริงจังแค่ไหน หรือคิดแต่ว่า ไม่มีใครมีอำนาจพอที่จะสั่งให้เค้าย้ายกล่องได้ แบบนี้ ก็ไม่รู้จะมีหน่วยงานต่างๆไว้ทำไม ถ้าสุดท้าย ให้ บ เอกชน ตัดสินใจด้วยตัวเองว่าต้องย้ายให้หรือไม่ เพราะเค้าก็จะต้องอ้างเหตุผลร้อยแปดที่จะไม่ย้ายให้ เนื่องจากมันมีต้นทุน หรือต้นทุนส่วนนี้ก็ต้องมาเก็บกับผมอีก จึงจะย้ายให้ เหมือนเสาไฟฟ้า ทั้งที่ผมซื้อที่ดินมาก่อนมีกล่องบนเสานี้แน่นอน
ที่เขียนมา อยากทราบแนวทางท่านอื่นที่เคยมีกรณีใกล้เคียงว่าควรทำอย่างไรต่อดีครับ เพื่อจัดการปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะยิ่งอ่านกระทู้เก่าๆมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนประชาชนทั่วไป ยากที่จะจัดการเรื่องนี้ได้เอง ซึ่งผมรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรม ที่แทบจะทุกหน่วยงาน มักปล่อยให้บุคคลธรรมดาทั่วไป ไปคอยสู้รบปรบมือกับ บ ใหญ่ๆ เพียงลำพัง เพียงเพื่อจะได้คุณภาพชีวิตพื้นฐานที่พึงมีกลับคืนมา ถึงตรงนี้เหมือนทางจะมาตันตรงที่ ถ้า บ 3 ไม่ดำเนินการใดๆ ก็คงต้องจบเท่านี้?? กรณีของผมอาจจะเป็นกรณีส่วนน้อย จากลักษณะทำเลบ้านที่อาจจะไม่ปรากฏบ่อยนัก แต่กรณีที่ไม่เกิดบ่อย แต่ผลกระทบมาก ก็ควรได้รับการดูแลอย่างจริงจังเช่นกัน
แล้วผมจะคอยมาอัพเดทให้ เพื่อให้ท่านอื่นๆที่มีความเดือนร้อนใกล้เคียงกันได้เป็นแนวทางต่อไปครับ
ปล. ความเจริญทางเทคโนโลยีนั้นดีครับ แต่ก็ไม่ควรไปทิ้งความเดือดร้อนไว้ให้ผู้ใดผู้นึง จนมันมากเกินไป เข้าข่าย คนใช้ไม่ต้องทน คนต้องทนไม่ได้ใช้ ในรูปซ้ายเมือ 5ปีก่อน รูปขวาคือต้นปีครับ ปัจจุบันอาร์ตกว่านี้ไปพอสมควร ที่มองไม่เห็นหน้าช่างไม่ใช่ตั้งใจเบลอนะครับ ตรงนั้นคือกระจุกสายล้วนๆ