สวัสดีจ้าา เพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนนน วันนี้เราจะมาพูดถึงตัว La Mer The Treatment Lotion จ้าาาาา เป็น ลาแมร์ตัวเดียวที่มีอยู่ในกรุเพราะเป็นราคาที่จับต้องได้สุดแล้ว 555555
โดยทางแบรนด์ได้เคลมว่า : เป็นโลชั่นบำรุงผิวสูตรน้ำ เนื้อนุ่มชุ่มชื้น ที่มอบการดูแลผิวด้วย Liquid Energy ช่วยให้ผิวรู้สึกมีชีวิตชีวา ประกอบด้วยสารสกัด The Revitalizing Ferment ที่มี
สาหร่าย Marine Algae (ที่เป็นสูตรลับเฉพาะของทางลาแมร์ด้วยจ้า) และแร่ธาตุจากท้องทะเล ช่วยฟื้นบำรุงผิว มอบความชุ่มชื้นและปรับสภาพผิวให้สมดุล พร้อมปลอบประโลมผิว เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
เนื้อสัมผัส : เนื้อโลชั่นตัวนี้จะมีความสีใส และมีความหนืดเล็กน้อย แต่เมื่อทาลงบนผิวแล้วสามารถซึมลงผิวได้ค่อนข้างดี ไม่ทำให้ผิวมันด้วยจ้า
ความรู้สึกหลังใช้ : ตัวนี้ตอนใช้แรกๆแล้วรู้สึกคันๆหน้า สิวผดก็ขึ้น ตอนแรกตกใจมากคิดว่าตัวเองแพ้ เลยหยุดใช้ไป 3 วัน แต่ว่ารู้สึกเสียดายเพราะน้องนางนั้นแพงเหลือเกิ๊นนน ก็เลยลองเอามาใช้อีกรอบ ซึ่งรอบหลังไม่มีอาการคันใดๆทั้งสิ้น และหลังจากใช้ไป 1 อาิทตย์พบว่ารอยสิวต่างๆบนหน้าเริ่มจางลง หน้าดูฟูๆเหมือนคนพักผ่อนเพียงพอ ทั้งๆที่แทบไม่ได้นอน ก็เลยใช้นางต่อมาเรื่อยๆ ซึ่งผิวหน้าก็ดีตามลำดับจ้า
ซึ่งตัว The Treatment Lotion นี้ก็สามารถใช้ได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น
1. การเทใส่สำลีเพื่อใช้แทนโทนเนอร์ ซึ่งเป็นการทำความสะอาดผิวอีกขั้น และบำรุงผิวก่อนที่จะลงสกินแคร์ตัวอื่น
2. การเทลงบนมือ แล้วตบลงบนผิวเลย เพื่อเป็นการเตรียมผิวและปรับสภาพของผิวหน้าเรา
3. การเทลงบนสำลีให้ชุ่ม แล้วนำมาโป๊ะหน้าแทนการใช้มาร์กเพื่อการบำรุงที่ล้ำลึกมากขึ้น แถมประหยัดเงินในกระเป๋าเราอีกด้วยจ้าาาา

ซึ่งแต่ละวิธีก็จะทำให้ความรู้สึกหลังใช้แตกต่างกันไป ดังนี้
1.
เช็ด : การเทใส่สำลีแล้วเช็ดลงบนหน้าจะทำให้สิ่งสกปรกที่ตกค้างบนหน้าของเราถูกกำจัดออกไป เราจะใช้วิธีเช็ดตามแนวรูขุมขน ทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น และลดการอุดตันของสิวด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังทำให้สิวผดของเราลดลงด้วยค่ะ ซึ่งวิธีนี้เราจะทำตอนเย็นหลังจากล้างหน้าแล้ว ซึ่งตัวสัมผัสของโลชั่นจะมีความหนืดหน่อยๆ จึงช่วยลดแรงเสียดสีกับผิวได้ด้วยค่ะ
2.
ตบ : การเทลงบนมือแล้วตบลงบนผิวเลย เป็นขั้นตอนที่ใช้เวลาน้อยที่สุด สะดวกรวดเร็วมากกก ซึ่งเราจะใช้การตบในตอนเช้าก่อน ที่จะลงสกินแคร์ตัวอื่นๆ ซึ่งจะทำให้สกินแคร์ตัวต่อไปที่ลงสามารถซึมลงสู่ผิวได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
3.
มาส์ก : การเทใส่สำลีแล้วมาส์ก วิธีการนี้เราจะทำในวันที่เราว่าง หรือรู้สึกว่าเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะวิธีการนี้จะช่วยเติมความชุ่มชื่นให้แก่ผิว และทำให้ผ่อนคลายจากกลิ่นเฉพาะของลาแมร์ที่ใช้แล้วรู้สึกแพงมากก 555 นอกจากนี้วันไหนที่จะต้องไปงานต่างๆเราก็จะใช้ตัวนี้มาส์กหน้าก่อนแต่งหน้า5-10นาที ซึ่งจะทำให้เครื่องสำอางค์ติดทนมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
สรุปผลลัพธ์ที่ได้จากตัว The Treatment Lotion
1. สิ่งที่เห็นผลชัดๆเลยคือผิวฟูมากขึ้น ผิวดูอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี ดูเป็นคนพักผ่อนเพียงพอ หน้าไม่เหนื่อย 555
2. ผิวชึ่มชื่นมากขึ้น แต่ไม่ทำให้ผิวมันเยิ้มซึ่งสาวผิวมันอย่างเราใช้แล้วรอด ใช้แล้วรักเลยจ้า ถ้าช่วยไหนผิวแห้งกร้านมากๆ หรือลอกใช้ตัวนี้เทใส่สำลีแล้วโป๊ะลงบนผิวคือช่วยได้เยอะมากกก ผิวนุ่มมากขึ้น รอยลอกหายไป
3. ช่วยในเรื่องของรูขุมขนที่กระชับมากขึ้น และรูขุมขนดูเล็กลง ทำให้ผิวดูเนียนละเอียดมากขึ้น
4. รอยดำ รอยแดงจากสิวต่างๆก็ช่วยได้เยอะ รอยจางลงไว้มาก สิวไม่ค่อยขึ้นด้วยค่ะ
5. ในส่วนของริ้วรอยนั้นเห็นได้ไม่ชัดมาก เนื่องจากตอนนี้เรายังไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องริ้วรอย แต่ถ้าเป็นริ้วรอยจากการขาดความชุ่มชื่นอย่างตรงหน้าผากและร่องแก้ม พบว่าริ้วรอยตรงนี้ดูตึงและกระชับมากขึ้นมากๆ ผิวดูดีสุดๆ รักผิวตัวเองตอนนี้มากจ้าาาา
6. และสิ่งสุดท้ายที่ชอบมากๆคือ เมื่อเราผิวหน้าดีแล้ว ทำให้เราลดขั้นตอนในการลงรองพื้นหนาๆ ทำให้ชีวิตที่เร่งรีบในตอนเช้าง่ายขึ้นไปอีกจาก และเมื่อเราไม่ต้องต้องโบกหน้าหนาๆ หน้าเราก็จะไม่อุดตัน สิวก็จะไม่ขึ้นด้วยจ้า หรือบางทีก็หน้าสดไปเลยจ้าาา ทาแป้งฝุ่น ปัดแก้มนิดนึง เขียนคิ้วหน่อยๆ ทาปากเล็กน้อย หน้าก็ดูดีแล้วจ้าาา เห็นมั้ยว่ามันเริ่ดสุดๆไปเลยจ้าาา
นี่คือสภาพผิวหน้าที่ No make up!! No Filter!! ใดๆก็แล้วแต่ วอนทุกคนอย่าตกกะใจ๊หน้าสดดิฉันเลยนะคะ

ส่วน The Hydrating Treatment Lotion Mask

ทางแบรนด์เคลมว่า เป็นนวัตกรรมมาส์กชนิดแผ่นที่ชุ่มฉ่ำและอุดมด้วยสูตรล้ำค่าของ The Treatment Lotion กว่า 30 ml.!!!!
ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้กลับชุ่มชื้น เปล่งประกาย ก้าวล้ำด้วยเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเพื่อผิวของชาวเอเชียโดยเฉพาะ ทำให้แผ่นมาส์กยึดเกาะกับผิวได้อย่างอ่อนโยน ด้วยเส้นใยไมโครไฟเบอร์นับล้าน ที่นำพาความชุ่มชื้นเข้มข้นตรงเข้าสู่ผิวอย่างล้ำลึก ให้ผิวแลดูฉ่ำน้ำ ดูเปล่งประกายอ่อนเยาว์ในเพียงไม่กี่นาที
ซึ่งส่วนตัวยังไม่ได้ลอง ขอลองในโอกาสสำคัญๆจริงๆ ถ้าได้ลองแล้วจะกลับมารีวิวนะคะ
[SR] la mer the treatment lotion นั้นดียังไง ไปดูกันนนนนนนน
โดยทางแบรนด์ได้เคลมว่า : เป็นโลชั่นบำรุงผิวสูตรน้ำ เนื้อนุ่มชุ่มชื้น ที่มอบการดูแลผิวด้วย Liquid Energy ช่วยให้ผิวรู้สึกมีชีวิตชีวา ประกอบด้วยสารสกัด The Revitalizing Ferment ที่มีสาหร่าย Marine Algae (ที่เป็นสูตรลับเฉพาะของทางลาแมร์ด้วยจ้า) และแร่ธาตุจากท้องทะเล ช่วยฟื้นบำรุงผิว มอบความชุ่มชื้นและปรับสภาพผิวให้สมดุล พร้อมปลอบประโลมผิว เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
เนื้อสัมผัส : เนื้อโลชั่นตัวนี้จะมีความสีใส และมีความหนืดเล็กน้อย แต่เมื่อทาลงบนผิวแล้วสามารถซึมลงผิวได้ค่อนข้างดี ไม่ทำให้ผิวมันด้วยจ้า
ความรู้สึกหลังใช้ : ตัวนี้ตอนใช้แรกๆแล้วรู้สึกคันๆหน้า สิวผดก็ขึ้น ตอนแรกตกใจมากคิดว่าตัวเองแพ้ เลยหยุดใช้ไป 3 วัน แต่ว่ารู้สึกเสียดายเพราะน้องนางนั้นแพงเหลือเกิ๊นนน ก็เลยลองเอามาใช้อีกรอบ ซึ่งรอบหลังไม่มีอาการคันใดๆทั้งสิ้น และหลังจากใช้ไป 1 อาิทตย์พบว่ารอยสิวต่างๆบนหน้าเริ่มจางลง หน้าดูฟูๆเหมือนคนพักผ่อนเพียงพอ ทั้งๆที่แทบไม่ได้นอน ก็เลยใช้นางต่อมาเรื่อยๆ ซึ่งผิวหน้าก็ดีตามลำดับจ้า
ซึ่งตัว The Treatment Lotion นี้ก็สามารถใช้ได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น
1. การเทใส่สำลีเพื่อใช้แทนโทนเนอร์ ซึ่งเป็นการทำความสะอาดผิวอีกขั้น และบำรุงผิวก่อนที่จะลงสกินแคร์ตัวอื่น
2. การเทลงบนมือ แล้วตบลงบนผิวเลย เพื่อเป็นการเตรียมผิวและปรับสภาพของผิวหน้าเรา
3. การเทลงบนสำลีให้ชุ่ม แล้วนำมาโป๊ะหน้าแทนการใช้มาร์กเพื่อการบำรุงที่ล้ำลึกมากขึ้น แถมประหยัดเงินในกระเป๋าเราอีกด้วยจ้าาาา
ซึ่งแต่ละวิธีก็จะทำให้ความรู้สึกหลังใช้แตกต่างกันไป ดังนี้
1. เช็ด : การเทใส่สำลีแล้วเช็ดลงบนหน้าจะทำให้สิ่งสกปรกที่ตกค้างบนหน้าของเราถูกกำจัดออกไป เราจะใช้วิธีเช็ดตามแนวรูขุมขน ทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น และลดการอุดตันของสิวด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังทำให้สิวผดของเราลดลงด้วยค่ะ ซึ่งวิธีนี้เราจะทำตอนเย็นหลังจากล้างหน้าแล้ว ซึ่งตัวสัมผัสของโลชั่นจะมีความหนืดหน่อยๆ จึงช่วยลดแรงเสียดสีกับผิวได้ด้วยค่ะ
2. ตบ : การเทลงบนมือแล้วตบลงบนผิวเลย เป็นขั้นตอนที่ใช้เวลาน้อยที่สุด สะดวกรวดเร็วมากกก ซึ่งเราจะใช้การตบในตอนเช้าก่อน ที่จะลงสกินแคร์ตัวอื่นๆ ซึ่งจะทำให้สกินแคร์ตัวต่อไปที่ลงสามารถซึมลงสู่ผิวได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
3. มาส์ก : การเทใส่สำลีแล้วมาส์ก วิธีการนี้เราจะทำในวันที่เราว่าง หรือรู้สึกว่าเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะวิธีการนี้จะช่วยเติมความชุ่มชื่นให้แก่ผิว และทำให้ผ่อนคลายจากกลิ่นเฉพาะของลาแมร์ที่ใช้แล้วรู้สึกแพงมากก 555 นอกจากนี้วันไหนที่จะต้องไปงานต่างๆเราก็จะใช้ตัวนี้มาส์กหน้าก่อนแต่งหน้า5-10นาที ซึ่งจะทำให้เครื่องสำอางค์ติดทนมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
สรุปผลลัพธ์ที่ได้จากตัว The Treatment Lotion
1. สิ่งที่เห็นผลชัดๆเลยคือผิวฟูมากขึ้น ผิวดูอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี ดูเป็นคนพักผ่อนเพียงพอ หน้าไม่เหนื่อย 555
2. ผิวชึ่มชื่นมากขึ้น แต่ไม่ทำให้ผิวมันเยิ้มซึ่งสาวผิวมันอย่างเราใช้แล้วรอด ใช้แล้วรักเลยจ้า ถ้าช่วยไหนผิวแห้งกร้านมากๆ หรือลอกใช้ตัวนี้เทใส่สำลีแล้วโป๊ะลงบนผิวคือช่วยได้เยอะมากกก ผิวนุ่มมากขึ้น รอยลอกหายไป
3. ช่วยในเรื่องของรูขุมขนที่กระชับมากขึ้น และรูขุมขนดูเล็กลง ทำให้ผิวดูเนียนละเอียดมากขึ้น
4. รอยดำ รอยแดงจากสิวต่างๆก็ช่วยได้เยอะ รอยจางลงไว้มาก สิวไม่ค่อยขึ้นด้วยค่ะ
5. ในส่วนของริ้วรอยนั้นเห็นได้ไม่ชัดมาก เนื่องจากตอนนี้เรายังไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องริ้วรอย แต่ถ้าเป็นริ้วรอยจากการขาดความชุ่มชื่นอย่างตรงหน้าผากและร่องแก้ม พบว่าริ้วรอยตรงนี้ดูตึงและกระชับมากขึ้นมากๆ ผิวดูดีสุดๆ รักผิวตัวเองตอนนี้มากจ้าาาา
6. และสิ่งสุดท้ายที่ชอบมากๆคือ เมื่อเราผิวหน้าดีแล้ว ทำให้เราลดขั้นตอนในการลงรองพื้นหนาๆ ทำให้ชีวิตที่เร่งรีบในตอนเช้าง่ายขึ้นไปอีกจาก และเมื่อเราไม่ต้องต้องโบกหน้าหนาๆ หน้าเราก็จะไม่อุดตัน สิวก็จะไม่ขึ้นด้วยจ้า หรือบางทีก็หน้าสดไปเลยจ้าาา ทาแป้งฝุ่น ปัดแก้มนิดนึง เขียนคิ้วหน่อยๆ ทาปากเล็กน้อย หน้าก็ดูดีแล้วจ้าาา เห็นมั้ยว่ามันเริ่ดสุดๆไปเลยจ้าาา
นี่คือสภาพผิวหน้าที่ No make up!! No Filter!! ใดๆก็แล้วแต่ วอนทุกคนอย่าตกกะใจ๊หน้าสดดิฉันเลยนะคะ
ส่วน The Hydrating Treatment Lotion Mask
ทางแบรนด์เคลมว่า เป็นนวัตกรรมมาส์กชนิดแผ่นที่ชุ่มฉ่ำและอุดมด้วยสูตรล้ำค่าของ The Treatment Lotion กว่า 30 ml.!!!!
ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้กลับชุ่มชื้น เปล่งประกาย ก้าวล้ำด้วยเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเพื่อผิวของชาวเอเชียโดยเฉพาะ ทำให้แผ่นมาส์กยึดเกาะกับผิวได้อย่างอ่อนโยน ด้วยเส้นใยไมโครไฟเบอร์นับล้าน ที่นำพาความชุ่มชื้นเข้มข้นตรงเข้าสู่ผิวอย่างล้ำลึก ให้ผิวแลดูฉ่ำน้ำ ดูเปล่งประกายอ่อนเยาว์ในเพียงไม่กี่นาที
ซึ่งส่วนตัวยังไม่ได้ลอง ขอลองในโอกาสสำคัญๆจริงๆ ถ้าได้ลองแล้วจะกลับมารีวิวนะคะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้