เจ้าฟ้ามูรตี :: โดย ด๋ง :: บทที่ 2 สถาปนาเจ้าฟ้า

กระทู้สนทนา
บทที่ 1 ปฐมกาล https://pantip.com/topic/39231578/desktop

☆☆☆☆☆☆☆☆☆

บทที่ 2

         10 ปี ถัดมา...

         "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด !! "

         เสียงกรีดร้องของนางกำนัลดังกึกก้องกังวาลไปทั่วเขตพระราชฐานชั้นใน ภายในพระราชวังหลวงอนันตาอันโออ่าอลังการสุดบรรยาย

         นางกำนัลผู้หนึ่งในชุดห่มสไบสีดอกอัญชัญนุ่งผ้ายาวปล่อยชายระพื้นเป็นแนวยาววิ่งสลับเท้าฉับๆอย่างว่องไวจนชายผ้าสะบัดพริ้วมาตามทางเดินบนพระตำหนักไม้สักทององค์หนึ่งด้วยท่าทีตระหนกราวกับพบปีศาจ

         "อ๊าย...ย  ย อย่าเพคะองค์ชายมูรตี องค์ชายมูรตีอย่าเพคะ"

         นางกรีดร้องพลางวิ่งลัดเลี้ยวไปยังอีกทางหนึ่ง แต่...

         บัดดลกันนั้น พลันปรากฏร่างบุรุษสะโอดสะองสูงใหญ่ในชุดเครื่องทรงชั้นสูงยืนขวางกางกั้นไว้ บุคคลผู้นี้หาใช่ใครอื่น หากเป็น องค์ชายมูรตีผู้องอาจ วัย 19 ปี และงามสง่าดุจเทพยดาบนสรวงสวรรค์ ใบหน้าคมคาย และจมูกโด่งเป็นสันสวยงาม ทรงเป็นโอรสในพระเจ้ากรุงอนันตาผู้ผ่านพิภพ

         โดยพลัน ทรงตวาดไปยังนางกำนัลผู้นั้นว่า...

         " จะหนีข้าไปไหน? "

         " อ๊ะ !... องค์ชายมูรตี "

         นางผู้นั้นสั่นกายระริกทูล

         องค์ชายมูรตีทรงมองไปยังนางด้วยแววตากรุ้มกริ่มจึ่งตรัส

         " บังอาจวิ่งหนีข้า แถมส่งเสียงดังลั่นปราสาท ควรได้รับโทษเช่นไร ไหนจงตอบข้ามาซิ "

         นางในทรุดกายลงทันควันพลางส่ายหน้า

         " มิทราบได้เพคะพระองค์ หม่อมฉันเพิ่งมาอยู่งานใหม่ๆ หาได้รู้แจ้ง หวังใจว่าจะให้พระองค์ทรงชี้แนะ "

         " กระแซะเข้ามาอีกนิดสิ "

         องค์ชายมูรตีทรงยิ้ม

         " เพคะ "

         นางกำนัลปฏิบัติตามพระบัญชา แต่แล้วในบัดดลกันนั้น...

         ฉาด..ด..ด !!

         องค์ชายมูรตีทรงวาดพระหัตถ์ซัดใบหน้านางกำนัลผู้นั้นจนหล่อนกลิ่งไถลไปตามพื้น มวยผมหลุดกระจุยยุ่งเหยิงและเครื่องประดับที่สวมใส่ขาดกระจายเกลื่อน

         นางชูใบหน้าขึ้นมาอีกครา พบว่าโลหิตกลบปากจนแดงฉาน แลฟันหน้าก็หลุดไปหนึ่งซี่

         " อ้า.. "

         นางในผู้นั้นสลบไศลไปพลัน องค์ชายมูรตีทรงหันหน้าหนีแล้วเสด็จจากไปอย่างช้าๆ

         ภายในห้องทรงพระอักษร

         องค์ชายมูรตีเสด็จเข้ามาภายในห้องอย่างหุนหัน ก่อนทรงประทับบนพระเก้าอี้แล้วเปิดตำราบนโต๊ะออกอ่าน

         นางกำนัลผู้หนึ่งได้เชิญเครื่องดื่มเข้ามาภายในห้องเพื่อนำถวาย นางค่อยๆย่อตัวแล้วคลานเข้ามาใกล้อย่างนอบน้อม แตก็่หวาดผวาจนมือที่ถือถาดถ้วยนั้นสั่น นางยกถาดขึ้นสูงพร้อมทูล

         " น้ำผลไม้เพคะองค์ชาย "

         องค์ชายทรงหันมามองนางคราหนึ่งพลางยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัย ก่อนจะทรงยื่นพระหัตถ์ไปหยิบถ้วยน้ำมา

         " น้ำอะไรน่ะ "

         " น้ำทับทิมเพคะ องค์ชาย "

         นางกำนัลทูลจบ องค์ชายทรงยกถ้วยขึ้นจิบ

         แล้วทันใดกันนั้นเอง ทรงเปลี่ยนสีพระพัตร์เป็นดุดันด้วยแววตาเกรี้ยวกราด ก่อนดำรัสลั่นด้วยเสียงอันดัง

         " นี่มันน้ำเปล่าชัดๆ "

         ตรัสจบทรงสาดน้ำในถ้วยใส่นางกำนัลอย่างแรงจนนางตกใจซุกหน้าลงกับพื้นตัวสั่นระทวยพลางทูล

         " ขอพระราชทานอภัยเพคะ หม่อมฉันจะไปเอามาใหม่ "

         " ไม่ต้องแล้ว กินไม่ลง ข้าจะไปนอน "

         กิติศัพท์แห่งความร้ายกาจขององค์ชายมูรตีนั้นเลื่องลือกระฉ่อนไปทั่วอาณาจักรอนันตาและอาณาจักใกล้เคียงราวไฟลามทุ่ง ซึ่งก็ดูราวกับว่าจะรุนแรงขั้นทุกขณะ และผู้ที่ออกจะกลัดกลุ้มมากเป็นพิเศษนั้นก็เห็นจะได้แก่พระราชบิดาขององค์ชายมูรตีนั่นเอง

- - - - - - - - -

         ภายในพระราชอุยาน...

         พระเจ้ากรุงอนันตาเสด็จเคียงคู่มากับพระมเหสี รายล้อมไปด้วยเหล่านางพัดวีและนางกำนัลทั้งมวล พระอยู่หัวเจ้าตรัสขึ้นว่า

         " มูรตีลูกเราก็เจริญวัยได้สิบเก้าชันษาแล้ว หากแต่ยังมีอารมณ์ร้อนและซุกซนราวกับเด็กๆ มิสมกับเป็นขัตติยราชวงศ์เชิดหน้าชูตา จนปัญญาเราที่จะคิดแก้ไข "

         พระมเหสีทรงยิ้มจึ่งตอบ

         " เป็นธรรมดาของเด็กๆ หาควรที่ฝ่าบาทจะทรงกังวลห่วงใยอันใดไม่ หม่อมฉันคิดเห็นว่าเมื่อลูกมูรตีเจริญวัยกว่านี้คงจะทุเลาเบาบางลงไปเอง "

         " พี่ว่า นับวันจะยิ่งหนักหน่วงขึ้นเป็นลำดับ ดูเหล่านางกำนัลนี่สิ แต่ละนางพากันชอกช้ำระกำกายากันเป็นทิวแถว นับวันจะเป็นที่รองรับอารมณ์คุ้มดีดุ้มร้ายอยู่ทุกคืนค่ำ "

         พระอยู่หัวเจ้าตรัสจบ นางกำนัลผู้หนึ่งกราบทูลขึ้นทันควัน

         " จริงแท้แน่เทียวเพคะพระอยู่หัวเจ้า หม่อมฉันเองยังมิพ้นพระบาท ถูกองค์ชายมูรตีสาดน้ำใส่อยู่เนืองๆ "

         " หม่อมฉันก็ด้วยเพคะ ครานั้นหม่อมฉันถูกองค์ชายมูรตีใช้พระหัตถ์อันกำยำซัดพักตร์อันนวลใยใส่ผ่องมิหมองหมางจนร่างลอยคว้างกลิ้งไถลสลบไศลไปถึงสามทิวาราตรีกาลเลยทีเดียวเชียว "

         อีกนางมิพลาดการทูล จนพระเจ้ากรุงอนันตาตรัสขึ้นโดยพลัน

         " นั่นปะไร เห็นไหมมเหสี แล้วเช่นนี้จะมิให้ตั้งข้อกังขากระไรได้ "

         " แล้วเช่นนั้นจะเห็นสมควรเช่นไรดีเพคะ "

         พระมเหสีตรัสจบ นางกำนัลวัยเยาว์ผู้หนึ่งจึ่งทูลขึ้นด้วยปรีดาปราโมทย์ล้นประมาณปานได้ช่อง

         " มิไยพระองค์ไม่ทรงสถาปนาองค์ชายมูรตีขึ้นเป็นสมเด็จเจ้าฟ้ามหาอุปราช เพื่อสนองพระราชอำนาจปกครองไพร่ฟ้าในอนาคตกาล หากแม้นองค์ชายมูรตีทรงเล็งเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยให้รั้งตำแหน่งมหาอุปราชแล้วไซร้ อาจทรงลดพระอารมณ์อันร้อนแรงนั้นลงก็เป็นได้นะเพคะ "

         จบคำกราบทูล วงเครื่องสายที่ลอยลำเรืออยู่กลางสระในอุทยานต่างสานสรรพเสียงบรรเลงประโคมเป็นทำนอง เหล่านางใน พระมเหสี พระเจ้ากรุงอนันตา และนางกำนัลวัยเยาว์ผู้ชาญฉลาด ต่างพากันร่วมขับร้องประสานเสียงเป็นลำดับไป

         " สถาปนาเจ้าฟ้าอุปราช "

         " ชาญฉลาดเหลือหลายจริง "

         " เช่นนี้คงแก้ไขได้ ชื่อเรียงเสียงไรกันหนอเจ้า "

         " ลำดวนดาว เพคะมหาราช "

         พระเจ้ากรุงอนันตาทรงแย้มพระสรวลคราหนึ่งจึ่งตรัส

         " ลำดวนดาว "

         " เพคะพระองค์ "

         " อันสติปัญญาของเจ้าช่างก้าวไกลสุดประมาณ ดูแล้วเหนือชั้นกว่านางกำนัลทั้งมวลในแผ่นดินอนันตา เหมาะยิ่งที่เจ้าจะได้เคียงคู่องค์ชายมูรตีไปทุกหน เช่นนั้น... เมื่อเราได้สถาปนาองค์ชายมูรตีขึ้นเป็นที่สมเด็จเจ้าฟ้ามหาอุปราชแล้ว เจ้าจงสนองพระบาทเป็นนางกำนัลคู่พระหทัยแห่งมูรตีไปตราบชีวีมลายสิ้น "
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่