ทำไมถึงรู้สึกขาดความรักความอบอุ่นขาดคนเข้าใจ
ขาดแม้แต่คนพูดคุยหรือรับฟัง
เรารู้ว่าเราต้องเปิดใจเข้าใจถึงแต่ละตัวบุคคล
และแต่ละครอบครัวว่าเขามีวิธีการกันยังไง
แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันปกติมั้ย
พ่อเราเป็นทหารเมื่อก่อนเราก็ครอบครัวเราก็สุขดี
แต่มีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนความคิดเรา
วัย16 ปีกับการโดนตบบ้องหู2ข้างและกลางหัว1ที
จากผู้ซึ่งเป็นพ่อกลางร้านหมูกระทะ
เพียงเพราะเราเจาะหู2รู
ตั้งแต่วันนั้นทำให้เรารู้ว่า
นี่คือการแก้ปัญหาของเขาแก้ปัญหาโดยการไม่ฟังแม้แต่เหตุผล
ใช้อารมณ์และจบลงที่ความรุนแรง
เราเก็บซ่อนความเจ็บไว้มากมายเพราะเรารู้ว่าเราพูดไปก็เท่านั้น
เขาไม่ฟังและเขาเห็นต่างเขาไม่แม้แต่จะเข้าใจ
เขาบอกเสมอแหละว่าต้องเข้มแข็งอดทน
แต่คนที่บอกไม่คิดจะเปิดใจฟังอะไรลูกบ้างเลย
เขาเป็นคนเจ้าระเบียบเป็นเวลา
และมีอำนาจในครอบครัวสูง
อันไหนไม่ได้ดั่งใจเขาจะตะโกนสั่งและสั่ง
ไม่มีหรอกคำพูดดีๆคือเราต้องทนเอาเองว่างั้น
เราไม่สนิทกับคนในครอบครัวเลยแม้แต่พี่ชายที่อยู่บ้านเดียวกัน
แต่ไม่คุยกันเลยปีหนึ่งนับคำได้มั้ง
เราเลยแอบชอบทำอะไรต่างๆชอบความเจ็บ
ชอบกรีดแขนตอนเด็กๆ เราทนอย่างที่เขาเคยบอก
พอโตมาแอบระเบิดหู แอบเจาะคิ้ว เจาะจมูก แอบสัก
เราขี้กลัวไม่มีความมั่นใจในตัวเองและชอบหนีปัญหา
จนตอนนี้ เวลานี้เราประสบอุบัติเหตุทำให้
ขาหักรอบ2 ซึ่งแน่นอนว่าต้องพักรักษาตัว
ทำให้ต้องอยู่ติดบ้านพ่อแทบไม่ให้เราออกไปไหนนี่ก็เป็นเวลา5เดือนแล้ว
ออกไปแต่ละทีก็ตอนหมอนัด
ขอให้พาไปนั่งรถเล่นก็ไม่พาปฏิเสธคำขอเราทุกอย่าง
ร้ายแรงกว่านั้นแต่ละวันต้องได้ยินเสียงตะโกน
ด่าทอพี่ชายซึ่งนางเป็นโรคทางสมอง
ในหัวเราตอนนี้คือไม่ไหวแล้วจิตใจเริ่มประสาทอ่อนๆ
เรามองดูทุกอย่างทุกความเป็นไปเราอยากพูดกับพ่อนะ
แต่รู้ไหมทุกครั้งที่มีปัญหากันเขาใช้แต่อารมณ์
เราพูดอะไรไม่ออกเพราะน้ำตาเราไหลตลอด
ร้องไห้ต่อหน้าเขาไม่ได้ด้วย“ อย่ามางอแง” คำนี้เราจำฝังใจเรา
โครตอ่อนไหวเรื่องแบบนี้เลยนะมันเกิดคำถามในใจว่าอีกแล้วหรอ แล้วความรู้สึกลูกละ
ใจเย็นแล้วฟังกันไม่ได้หรอ ทำไมวะ
เคยพาแฟนมาบ้าน แฟนก็ตกใจนะเป็นกันขนาดนี้เลยหรอ
แฟนก็ไม่ได้เข้าใจความบกพร่องของครอบครัวเราก็เลิกกันไป
เรารู้ว่าเขารักและห่วงแต่เขาไม่แม้จะจะฟังเหตุผลเราเลย
ปฏิเสธห้ามทุกอย่างเพียงเพราะเราคือลูกและเขาใช้อำนาจต่อเรา
จะไปทางไหนดีละชีวิตในเมื่อเขาตีความคิดเขาเป็นใหญ่
นี่คิดว่าขาหายจะหางานทำก็ไม่รู้จะให้ทำไหม
ไม่ให้ลูกได้ต่อสู้กับโลกภายนอกไม่ให้ลูกแข่งขัน
ใช่นั้นชีวิตพ่อที่ทำงานราชการและได้เงินบำนาญ
ความฝันลูกมันไม่ใช่แค่นั้นไงพ่อลูกอยากสู้ลูกอยากมีประสบการณ์ลูกอยากเก่งไม่ใช่ขี้กลัวไปวันๆ
อีกอย่างคือถ้าขาเริ่มโอเคแล้ว จะหางานทำ มีวิธีพูดกับพ่ออย่างไรบ้างคะ
แต่ในใจก็รู้ ก็เขาคงไม่ให้ เลยคิดว่าจะแอบหนีออกมา
ขอกำลังใจ หรือ วิธีจัดการความคิดกับปัณหานี้ (ปัญหาครอบครัว พ่อซึ่งตัวเองเป็นหลัก)
ขาดแม้แต่คนพูดคุยหรือรับฟัง
เรารู้ว่าเราต้องเปิดใจเข้าใจถึงแต่ละตัวบุคคล
และแต่ละครอบครัวว่าเขามีวิธีการกันยังไง
แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันปกติมั้ย
พ่อเราเป็นทหารเมื่อก่อนเราก็ครอบครัวเราก็สุขดี
แต่มีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนความคิดเรา
วัย16 ปีกับการโดนตบบ้องหู2ข้างและกลางหัว1ที
จากผู้ซึ่งเป็นพ่อกลางร้านหมูกระทะ
เพียงเพราะเราเจาะหู2รู
ตั้งแต่วันนั้นทำให้เรารู้ว่า
นี่คือการแก้ปัญหาของเขาแก้ปัญหาโดยการไม่ฟังแม้แต่เหตุผล
ใช้อารมณ์และจบลงที่ความรุนแรง
เราเก็บซ่อนความเจ็บไว้มากมายเพราะเรารู้ว่าเราพูดไปก็เท่านั้น
เขาบอกเสมอแหละว่าต้องเข้มแข็งอดทน
แต่คนที่บอกไม่คิดจะเปิดใจฟังอะไรลูกบ้างเลย
เขาเป็นคนเจ้าระเบียบเป็นเวลา
และมีอำนาจในครอบครัวสูง
อันไหนไม่ได้ดั่งใจเขาจะตะโกนสั่งและสั่ง
ไม่มีหรอกคำพูดดีๆคือเราต้องทนเอาเองว่างั้น
เราไม่สนิทกับคนในครอบครัวเลยแม้แต่พี่ชายที่อยู่บ้านเดียวกัน
เราเลยแอบชอบทำอะไรต่างๆชอบความเจ็บ
ชอบกรีดแขนตอนเด็กๆ เราทนอย่างที่เขาเคยบอก
พอโตมาแอบระเบิดหู แอบเจาะคิ้ว เจาะจมูก แอบสัก
เราขี้กลัวไม่มีความมั่นใจในตัวเองและชอบหนีปัญหา
จนตอนนี้ เวลานี้เราประสบอุบัติเหตุทำให้
ขาหักรอบ2 ซึ่งแน่นอนว่าต้องพักรักษาตัว
ทำให้ต้องอยู่ติดบ้านพ่อแทบไม่ให้เราออกไปไหนนี่ก็เป็นเวลา5เดือนแล้ว
ออกไปแต่ละทีก็ตอนหมอนัด
ขอให้พาไปนั่งรถเล่นก็ไม่พาปฏิเสธคำขอเราทุกอย่าง
ร้ายแรงกว่านั้นแต่ละวันต้องได้ยินเสียงตะโกน
ด่าทอพี่ชายซึ่งนางเป็นโรคทางสมอง
ในหัวเราตอนนี้คือไม่ไหวแล้วจิตใจเริ่มประสาทอ่อนๆ
เรามองดูทุกอย่างทุกความเป็นไปเราอยากพูดกับพ่อนะ
แต่รู้ไหมทุกครั้งที่มีปัญหากันเขาใช้แต่อารมณ์
เราพูดอะไรไม่ออกเพราะน้ำตาเราไหลตลอด
ร้องไห้ต่อหน้าเขาไม่ได้ด้วย“ อย่ามางอแง” คำนี้เราจำฝังใจเรา
โครตอ่อนไหวเรื่องแบบนี้เลยนะมันเกิดคำถามในใจว่าอีกแล้วหรอ แล้วความรู้สึกลูกละ
ใจเย็นแล้วฟังกันไม่ได้หรอ ทำไมวะ
เคยพาแฟนมาบ้าน แฟนก็ตกใจนะเป็นกันขนาดนี้เลยหรอ
แฟนก็ไม่ได้เข้าใจความบกพร่องของครอบครัวเราก็เลิกกันไป
เรารู้ว่าเขารักและห่วงแต่เขาไม่แม้จะจะฟังเหตุผลเราเลย
ปฏิเสธห้ามทุกอย่างเพียงเพราะเราคือลูกและเขาใช้อำนาจต่อเรา
จะไปทางไหนดีละชีวิตในเมื่อเขาตีความคิดเขาเป็นใหญ่
นี่คิดว่าขาหายจะหางานทำก็ไม่รู้จะให้ทำไหม
ไม่ให้ลูกได้ต่อสู้กับโลกภายนอกไม่ให้ลูกแข่งขัน
ใช่นั้นชีวิตพ่อที่ทำงานราชการและได้เงินบำนาญ
ความฝันลูกมันไม่ใช่แค่นั้นไงพ่อลูกอยากสู้ลูกอยากมีประสบการณ์ลูกอยากเก่งไม่ใช่ขี้กลัวไปวันๆ
อีกอย่างคือถ้าขาเริ่มโอเคแล้ว จะหางานทำ มีวิธีพูดกับพ่ออย่างไรบ้างคะ
แต่ในใจก็รู้ ก็เขาคงไม่ให้ เลยคิดว่าจะแอบหนีออกมา