ฮ่าๆ ชื่อกระทู้แปลกๆใช่มะ
ก็แค่ จขกท ไปเที่ยวมาเล ก็ดันคิดถึงคนที่ไทย แต่สุดท้ายก็ยังเป็นได้แค่ Friend Zone นั่นแหละคะ
ฮ่าๆ หวังว่าคงมีเพื่อนในพันทิป ตกอยู่ใน Friend Zone เหมือนกันนะ
ไป มาเล กันดีกว่าคะ รอบนี้ 4 วันเต็ม
กัวลาลัมเปอร์ - มะละกา - ปูตราจายา
Day 1
Landing KL2 มาถึงเช้าเลยคะ รอบนี้มากับสายการบินที่ ใครๆก็บินได้
ครั้งแรกที่เห็นสนามบินก็ เฮ้ย ดูดีนี่กว่าดูดีกว่าดอนเมืองอีก
มา มาเล พกแค่ passport มาอย่างเดียวก็พอแล้วคะ
ไม่ต้องกรอกข้อมูล ต.ม. เข้าเมืองอะไรทั้งสิ้น
ลงเครื่องปุ๊ปก็จะมีบูธขาย sim โทรศัพท์ปัป ไม่ต้องรอออกจากด่าน ตม.
ไม่ก็ต่อ wifi สนามบินได้เลยคะ แค่ log-in ไม่ต้องสมัครกรอก user อะไรใดใดทั้งสิ้น
สะดวก มากมาย
มาถึงเช้า ก็หิวอะ ขอแวะกิน ไก่ ที่เขาบอกว่าอร่อย กับร้าน Nando's ที่สนามบิน
ส่วนตัวคิดว่า รสชาติก็ใช้ได้นะ ไม่ถึงกับ ว้าว คะ
กินเสร็จก็นั่ง KLIA Express เข้าเมืองกัวลาลัมเปอร์กันเถอะ
เป็น express ที่เร็วและสะอาดมาก
ราคาแพงอยู่นะ ประมาณ 450 บาท แต่แลกกับระยะเวลาเพียง 20 นาที นั่งตรงไป KL Sentral ก็คุ้มคะ
เพราะถ้านั่ง Taxi หรือบัส ก็เป็น ชม. เลย
หลังจากนั่งมาลงที่ KL Sentral ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมแห่งกัวลาลัมเปอร์
แล้วก็เปลี่ยนสายไปนั่งรถไฟฟ้า LRT เพื่อไป check-in ที่โรงแรมกันคะ
รอบนี้ มาพักที่โรงแรม Travelodge แถว Pasar Seni ซึ่งอยู่ติด LRT เลยคะ
รอบๆมี 7-11 กับ Family Mart ซึ่งอยู่แถวๆย่าน Central Market และ China Town
นี่คือสภาพห้องที่โรงแรม ก็สะอาดดีนะ ไม่ได้แย่มาก ขนาดห้องก็ไม่ได้เล็กหรือแคบไป
ราคาตกแค่คืนละ 760 บาทเองคะ แต่ห้องที่ได้ แอร์ไม่ค่อยเย็นเท่าไหร่อะ
หลังจาก Check-in เสร็จ ก็ไปเที่ยวคาเฟ่ใกล้ๆที่พักกันคะ
ระหว่างทางเดินไปคาเฟ่
คาเฟ่รูปเด็ก ร้านนี้ตกแต่งน่ารักดีคะ แต่ไม่ได้เข้าไป งั้นเดินผ่านละกันนะคะ ฮ่าๆ
เดินมาเรื่อยๆ ถ้าเห็นประตูสีเขียว นี่ใช่เลยคะ
ก็คือร้าน Merchant's Lane คาเฟ่ร้านดังของกัวลาลัมเปอร์
ด้วยความเดิมของ Location นี้คือซ่องเก่าในอดีต
ก็ได้เปลี่ยนโฉมมาเป็นคาเฟ่สุดชิคในย่านนี้
เปิดประตูสีเขียวเข้าไปเลย
ระหว่างทางขึ้นบันได จะมีรูปหญิงสาวประดับข้างๆ
ขึ้นมาปุป ก็จะเจอ zone แอร์
เดินเข้ามาอีก จะเจอประตูที่สอง เปิดออกจะเจอ zone outdoor
ไหนๆก็มาถึงร้านแล้ว ก็ต้องลองเมนู signature ก็เลยจัดมา 2 อย่าง ต้องขออภัยที่จำชื่อเมนูไม่ได้ แหะๆ
จานนี้เป็นเมนูสปาเก็ตตี้ รสชาติแปลๆ ไม่ค่อยถูกปาก เหมือนจะเป็นครีมแต่มีกลิ่นเฉพาะตัว มาพร้อมไก่ชุปแป้งทอดและผักทั้งหลายในจาน
จานนี้เป็นของหวาน เป็นแป้งคล้ายๆทองม้วนสดบ้านเรา ปนด้วยชีส โรบด้วยแอลมอลบางๆพร้อมสตอเบอร์รี่ เสริฟพร้อมไอติมวนิลา
จานนี้ใช้ได้คะ แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าไม่มีชีสน่าจะดีกว่านี้อะ
เอาเป็นว่า ถ้ามาร้านนี้ ก็ลองกินเมนูอื่นนะคะ เผื่อจะโดนใจมากกว่า 2 เมนูนี้
ไปกันต่อคะ ร้านคาเฟ่ถัดไป ห่างเพียง 20 ก้าว
กับร้านคาเฟ่ Cho Cha ซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรม Mah Lian
เข้ามาในร้านกันดีกว่า
เข้ามาก็จะเจอแบบนี้คะ ชั้นล่างจะเป็นคาเฟ่แบบที่เห็น ชั้นบนน่าจะเป็นส่วนโรงแรม
เดินเข้าไปอีกจะเจอ Bar และ Zone Outdoor
มาคาเฟ่ร้านนี้สั่งเมนูของหวาน จำชื่อไม่ได้อีกเช่นเคย แหะๆ แต่ที่แน่ๆคือไม่โดนใจอย่างมาก
ไม่ใช่อาหารสาย จขกท แน่เลย
ในถ้วยเป็นมูสโรยด้วยผงชาเขียวและผงขิงผสมอะไรก็ไม่รู้(ถ้าให้เดานะ)
ส่วนในขวดสีน้ำตาลเป็นน้ำเปล่าคะ
สำหรับร้านนี้เมนูจะน้อยกว่าร้านแรก ใครอยากมาลอง ก็ลองสั่งเครื่องดื่มดูนะคะ เผื่อจะว้าว
เดินไปกันต่อที่ย่าน China Town กันคะ
แวะมากินน้ำเต้าหู้ KIM คือดีย์มาก ไม่หวานไปไม่จืดไป ตกแก้วละประมาณ 10 บาท คะ
ไปเดินถนนคนเดินกัสตูรี และ Central Market ต่อคะ
ถนนคนเดินกัสตูรี เป็นถนนสายเล็กๆที่มีของราคาถูกขายคะ
ข้างๆติดกับถนนคนเดินกัสตูรี จะเป็น Central Market มีของ Handmade สวยๆขายเยอะแยะ
มีขนมป็อปคอน Eureka ให้เลือกชิมเลือกซื้อเป็นของฝากด้วยคะ
สายป็อปคอนต้องไม่พลาดนะคะ มีโปรแถมอยู่ตลอดเลยด้วย
เดินย้อนกลับมา เลี้ยวซ้ายไปเรื่อยๆจะเจอ ร้านบะหมี่เนื้อ แสนอร่อย
ฝากท้องมื้อเย็นไว้กับร้านนี้ได้เลย
บะหมี่ลูกชิ้นเนื้อ โรยด้วยผงเนื้อ สายเนื้อต้องมาคะ ร้านนี้การันตีด้วยรางวัลจากนิตยสารมากมาย
เดินเข้ามาในซอยอีกนิด จะเจอร้านเบเกอร์รี่หอมๆ แถมอร่อยซะด้วย แวะกินเป็นขนมกรุบกริบคะ
นี่ไง "มาเล" มา มาเลยังไงก็ได้แค่ Friend zone
เดินเข้ามาในซอยอีกนิด จะเจอร้านเบเกอร์รี่หอมๆ แถมอร่อยซะด้วย แวะกินเป็นขนมกรุบกริบคะ