สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เราอยากทำขึ้นเพื่อแบ่งปันเรื่องราวที่เพิ่งพบเจอว่า ตัวเองเป็นกลุ่มอาการ PCOS หรืออาจจะเรียกได้ว่าไม่มีไข่ตก หรือประจำเดือนไม่มาหรือมาไม่ปกตินั่นเอง เผื่อว่าหากมีใครมีอาการคล้ายๆเราแล้ว จะได้ไปปรึกษาหมอเพื่อหาทางรักษาค่ะ
เรื่องเริ่มจาก ประจำเดือนเราไม่มา 6 เดือนติดต่อกัน ครั้งล่าสุดที่มาคือ มีนาคม ปีนี้(2562) ช่วงแรกๆเราเองไม่คิดอะไรมาก เพราะมันมีบางครั้งที่ประจำเดือนจะไม่มาบ้าง 1 เดือน หรือ 2 เดือน แต่พอนานวันเข้าก็เริ่มกังวล จนกระทั่งปลายเดือนกรกฎาคม (ไม่มา 4 เดือนแล้ว) ก็มีประจำเดือนมา ตอนนั้นเราดีใจมาก แต่ประจำเดือนที่มาคือ มาแค่3วันและน้อยมากๆ น้อยจนเราคิดว่า ไม่มาตั้ง 4 เดือน ทำไมมาแค่นี้ล่ะ แต่ก็ยังชะล่าใจปล่อยเลยมา แล้วก็มานั่งคิดได้ว่า สิงหาคมก็ไม่มา รอบกันยายนก็ไม่มาอีก เราเลยตัดสินใจไปหาหมอค่ะ
ในตอนที่เจอหมอ และบอกอาการเบื้องต้น หมอถามกลับมาว่า "ทำไมเพิ่งมา ทำไมรอต้อง6เดือน" ไอ่เราก็ยังเถียงหมอไปว่า "มันมาค่ะ แต่แค่ 3 วัน" จากนั้นหมอจะเริ่มซักถามประวัติค่ะ เราจะเขียนเล่าเป็นเหมือนบทสนทนานะคะ จะได้เข้าใจง่าย
หมอ: ประจำเดือนมาไม่ปกติตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือนเลยมั้ย?
เรา: ใช่ค่ะ รอบของประจำเดือนไม่เท่ากัน บางครั้งน้อยกว่า 28 วัน บางครั้งก็ 45 วัน หรือมาแบบเดือนเว้นเดือน นานสุดที่ไม่มาคือ 2 เดือน หรือมาต้นเดือนที ปลายเดือนมาอีก (ในตอนนั้นเราไม่คิดว่ามันคือความผิดปกติค่ะ เราคิดแค่ว่าประจำเดือนเราอาจจะมีรูปแบบการมาแบบนี้555 คือผิดปกติจนกลายเป็นปกติ)
หมอ: เคยตรวจภายในมั้ย?
เรา: ตรวจค่ะ เพราะว่าช่วง 5 ปีมานี้ ประจำเดือนเริ่มผิดปกติกว่าที่เคยเป็น คือ เริ่มเป็นกะปริดกะปรอย 2 สัปดาห์จนถึง 1 เดือน หรือมา 2 สัปดาห์เว้นสัปดาห์ แล้วมาอีก 2 สัปดาห์ เลยเริ่มไปตรวจภายใน 2 ปีติดกัน คือ ตรวจปี 60 กับ 61 แต่ผลปกติค่ะ
หมอ: ในช่วงปีนี้น้ำหนักขึ้นเท่าไหร่แล้ว?
เรา: (หา! ในใจเบาๆ55) ประมาณ 4 โลค่ะ
หมอ: (หมอมีอมยิ้มเบาๆ) แล้วในรอบ 3 ปี น้ำหนักขึ้นมาเท่าไหร่ ?
เรา: (หา! รอบที่ 2) ประมาณ 10 โลค่ะ
หมอ: โอเค แล้วหมอก็จดโน่นนี่ แล้วก็พูดว่า "หมอจะอธิบายให้ฟังนะ"
หมอ: คนไข้เป็นกลุ่มอาการ PCOS นะ (เรามองหมอแบบ งงๆ) กลุ่มนี้จะมีอาการคือ 1. ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือไม่มา 2. หน้ามัน เป็นสิวโดยเฉพาะบริเวณหนวดเครา ขนขึ้นดก หรือแข็ง ตรงคอจะมีเส้นๆสีดำ (ซึ่งตรงนี้เราเป็นค่ะ เราเป็นสิวบริเวณกรามแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ใข้ยาอะไรก็ไม่หาย มีเส้นๆตรงคอจริงๆ และขนขึ้นเยอะจริง) 3. อ้วน (อันนี้ก็ยอมรับค่ะ 555) เพราะค่า BMI เกิน 25
เรา: แล้วมันเป็นอาการนี้ได้ยังไงคะ?
หมอเริ่มอธิบายถึงการทำงานของรังไข่ การตกไข่ การผลิตฮอร์โมน และการทำงานของระบบสืบพันธุ์ แต่สรุปคือ ประมาณว่า ในรังไข่จะมีถุงไข่เล็กๆเต็มไปหมด แต่ว่าไม่มีถุงไหนเลยที่จะเจริญเติบโตจนถึงตกไข่ได้ ทำไมไม่มีไข่ตกนั่นเอง พอไม่มีไข่ตก ก็จะไม่มีประจำเดือน
เรา: แต่ช่วงกรกฎาคม ประจำเดือนมาอยู่นะคะ
หมอ: นั่นไม่ใช่ประจำเดือนที่เกิดจากการตกไข่ แต่มันคือเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมา (เราก็ทำหน้างงๆ)
หมอเลยอธิบายซ้ำอีกรอบ (เราไปหาอ่านเพิ่มเรื่องฮอร์โมนมา เพราะจำชื่อไม่ได้) ได้ความว่า ก่อนไข่ตก รังไข่จะสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้มดลูกหนาตัว พอไข่ตก ก็จะเปลี่ยนมาสร้างโปรเจสเตอโรนเพื่อให้มดลูกที่หนาขึ้นพร้อมสำหรับฝังตัวอ่อน ถ้าไม่ท้อง ก็จะสลายเป็นประจำเดือน แต่พอไม่มีไข่ตก รังไข่เลยไม่สร้างโปรเจสเตอโรน สร้างแต่เอสโตรเจนเรื่อยๆ มดลูกก็จะหนาเลยๆ ถ้าระดับเอสโตรเจนขึ้นๆลงๆ ก็จะทำให้เยื่อบุหลุดออกมาเป็นช่วงๆ ทำให้มีลักษณะเลือดออกกะปริดกะปรอยไม่แน่นอน
เรา: อ๋อ ค่ะ แล้ววิธีการรักษาต้องทำยังไงคะ?
หมอ: เราอยากมีลูกมั้ย?
เรา: ไม่ค่ะ
หมอ: โอเค เพราะคนที่เป็นกลุ่มนี้ จะมีลูกยาก แต่ในกรณีที่ไม่ต้องการมีลูก หมอแนะนำให้กินยาให้ประจำเดือนมา หรือจะกินยาคุมก็ได้ และลดน้ำหนัก
เรา: ยาคุมต้องกินไปตลอดเลยมั้ยคะ?
หมอ: แล้วแต่เรานะ จะมี 2 แบบคือ ถ้ากินยาคุมทุกเดือน สิ่งที่จะได้คือ หน้าใส ไม่มีสิว แต่ถ้าไม่อยากกินยาตลอด ก็เลือกกินยาที่ทำให้ประจำเดือนมา สมมติประจำเดือนไม่มา 3 เดือน ก็กินยานี้เลย ห้ามรอเกิน 3 เดือนนะ เพราะว่าการที่มดลูกมันหนาตัวมากๆ จะเสี่ยงเป็นมะเร็งมดลูกได้ ดังนั้นห้ามเกิน 3 เดือน
เรา: อ๋อ ค่ะ แล้วน้ำหนักต้องลดเยอะมั้ยคะ?
หมอ: (นั่งคำนวณ BMI ให้) น่าจะต้องลดเหลือประมาณ 50-55 กิโลนะ (ในใจคือ ตายแล้วววว นั่นมันเกือบ 20 โล) ควรต้องให้ค่า BMI อยู่ระหว่างซัก 20-22 นะ แต่ในช่วง 6 เดือนแรกนี้ หมออยากให้ลดได้ซัก 4-6 โลก่อนนะ
เรา: แสดงสีหน้าตกใจและหนักใจ 555
หมอ: ที่หมอให้ลดน้ำหนัก ก็เพราะว่า คนที่เป็นกลุ่มอาการนี้ เสี่ยงเป็นเบาหวานได้ง่ายกว่าคนทั่วไปนะ ถ้าอายุ 35 แล้ว ให้รีบมาตรวจเบาหวานเลยนะ (เราอายุ 29 ปี)
เรา: ทำไมถึงเสี่ยงเป็นง่ายคะ?
หมอ: โดยปกติ คนกลุ่มอาการนี้มักจะตรวจเจอระดับอินซูลินสูงกว่าปกตินะ ดังนั้นอายุ 35 ต้องมาตรวจเลยนะ ถ้าเป็นเบาหวานแล้ว จะนำพาโรคอื่นมาด้วย
เรา: ค่ะ แล้วหนูจะหายเป็นปกติมั้ยคะ?
หมอ: มันจะดีขึ้น แต่ไม่หายขาดนะ ทำใจยอมรับมัน และดูแลตัวเองให้ดี
เรา: -*-
หมอ: เดี๋ยวหมอจะจ่ายยาให้ 2 ตัวนะ เป็นตัวที่ทำให้ประจำเดือนมา กิน7วัน หลังจากกินเม็ดสุดท้าย นับไปอีก 7 วัน ประจำเดือนต้องมาล่ะ ถ้ายังไม่มา ให้กลับมาหาหมอ หมอจะให้ตรวจไทรอยและต่อมใต้สมองเพิ่ม ถ้าตรวจแล้วปกติ หมอก็จะสั่งยาตัวใหม่ให้ ส่วนยาคุม ให้เริ่มกินตอนประจำเดือนมา ถ้าอยากกินยาคุมต่อไปอีก ก็ไปซื้อเองได้ กิน 21 วัน เว้น 7 วันแล้วเริ่มกินใหม่ ไม่ต้องสนว่าประจำเดือนมาหรือไม่มา
เรา: ได้ค่ะ
หมอ: มีคำถามอีกมั้ย?
เรา: ไม่มีค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ
หมอ: ถ้าในอนาคตอยากมีลูก ก็มาปรึกษาหมออีกทีนะ
เรา: ค่ะ
จากนั้นเราก็ออกจากห้องหมอค่ะ ก่อนจะออก หมอก็ยังย้ำอีกว่า ถ้าอายุ 35 ให้มาตรวจเบาหวานนะ
จริงๆ หมอถามละเอียดมากกว่านี้ค่ะ แต่เราจำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เพราะคุยนานมาก ความรู้สึกเราหลังจากเจอหมอ มันบอกไม่ถูกว่าดีใจหรือหนักใจ 555 ดีใจที่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แต่ก็หนักใจที่ว่าไม่สามารถรักษาให้หายขาด และยังเสี่ยงกับการเป็นโรคน่ากลัวอื่นๆ แต่สุดท้ายเราก็ปลอบตัวเองว่า อย่างน้อยก็มีวิธีป้องกันความเสี่ยงได้อยู่ ต้องดูแลตัวเองดีๆ
สุดท้ายนี้ เราหวังว่า เรื่องราวที่เราแชร์จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ ใครที่มีอาการคล้ายเรา แล้วยังไม่ไปหาหมอ เราแนะนำให้ไปหาหมอค่ะ
ปล. ไว้เราจะมาอัพเดตนะคะว่า ผ่านไป7วันหลังกินยาตัวแรกครบแล้ว ประจำเดือนจะมามั้ย หรือเราต้องได้ไปตรวจเพิ่ม
*** ขอคำแนะนำ**
1. เราอยากรู้ว่า อายุ 29 สามารถไปตรวจเบาหวานได้เลยมั้ยคะ เนื่องจากเราอยากรู้ระดับอินซูลินไว้ก่อนค่ะ
2. ถ้ามีใครเป็นอาการแบบเดียวกัน และได้กินยาคุมมาระยะหนึ่งแล้ว เราอยากรู้ว่า พอกินยาคุมทุกเดือน ประจำเดือนจะมาปกติทุกเดือนมั้ยคะ หรือว่ามาบ้างไม่มาบ้าง
ขอบคุณทุกคนค่า^^^^^
เมื่อฉันเป็น PCOS อาการ ความเสี่ยง และการรักษา
เรื่องเริ่มจาก ประจำเดือนเราไม่มา 6 เดือนติดต่อกัน ครั้งล่าสุดที่มาคือ มีนาคม ปีนี้(2562) ช่วงแรกๆเราเองไม่คิดอะไรมาก เพราะมันมีบางครั้งที่ประจำเดือนจะไม่มาบ้าง 1 เดือน หรือ 2 เดือน แต่พอนานวันเข้าก็เริ่มกังวล จนกระทั่งปลายเดือนกรกฎาคม (ไม่มา 4 เดือนแล้ว) ก็มีประจำเดือนมา ตอนนั้นเราดีใจมาก แต่ประจำเดือนที่มาคือ มาแค่3วันและน้อยมากๆ น้อยจนเราคิดว่า ไม่มาตั้ง 4 เดือน ทำไมมาแค่นี้ล่ะ แต่ก็ยังชะล่าใจปล่อยเลยมา แล้วก็มานั่งคิดได้ว่า สิงหาคมก็ไม่มา รอบกันยายนก็ไม่มาอีก เราเลยตัดสินใจไปหาหมอค่ะ
ในตอนที่เจอหมอ และบอกอาการเบื้องต้น หมอถามกลับมาว่า "ทำไมเพิ่งมา ทำไมรอต้อง6เดือน" ไอ่เราก็ยังเถียงหมอไปว่า "มันมาค่ะ แต่แค่ 3 วัน" จากนั้นหมอจะเริ่มซักถามประวัติค่ะ เราจะเขียนเล่าเป็นเหมือนบทสนทนานะคะ จะได้เข้าใจง่าย
หมอ: ประจำเดือนมาไม่ปกติตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือนเลยมั้ย?
เรา: ใช่ค่ะ รอบของประจำเดือนไม่เท่ากัน บางครั้งน้อยกว่า 28 วัน บางครั้งก็ 45 วัน หรือมาแบบเดือนเว้นเดือน นานสุดที่ไม่มาคือ 2 เดือน หรือมาต้นเดือนที ปลายเดือนมาอีก (ในตอนนั้นเราไม่คิดว่ามันคือความผิดปกติค่ะ เราคิดแค่ว่าประจำเดือนเราอาจจะมีรูปแบบการมาแบบนี้555 คือผิดปกติจนกลายเป็นปกติ)
หมอ: เคยตรวจภายในมั้ย?
เรา: ตรวจค่ะ เพราะว่าช่วง 5 ปีมานี้ ประจำเดือนเริ่มผิดปกติกว่าที่เคยเป็น คือ เริ่มเป็นกะปริดกะปรอย 2 สัปดาห์จนถึง 1 เดือน หรือมา 2 สัปดาห์เว้นสัปดาห์ แล้วมาอีก 2 สัปดาห์ เลยเริ่มไปตรวจภายใน 2 ปีติดกัน คือ ตรวจปี 60 กับ 61 แต่ผลปกติค่ะ
หมอ: ในช่วงปีนี้น้ำหนักขึ้นเท่าไหร่แล้ว?
เรา: (หา! ในใจเบาๆ55) ประมาณ 4 โลค่ะ
หมอ: (หมอมีอมยิ้มเบาๆ) แล้วในรอบ 3 ปี น้ำหนักขึ้นมาเท่าไหร่ ?
เรา: (หา! รอบที่ 2) ประมาณ 10 โลค่ะ
หมอ: โอเค แล้วหมอก็จดโน่นนี่ แล้วก็พูดว่า "หมอจะอธิบายให้ฟังนะ"
หมอ: คนไข้เป็นกลุ่มอาการ PCOS นะ (เรามองหมอแบบ งงๆ) กลุ่มนี้จะมีอาการคือ 1. ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือไม่มา 2. หน้ามัน เป็นสิวโดยเฉพาะบริเวณหนวดเครา ขนขึ้นดก หรือแข็ง ตรงคอจะมีเส้นๆสีดำ (ซึ่งตรงนี้เราเป็นค่ะ เราเป็นสิวบริเวณกรามแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ใข้ยาอะไรก็ไม่หาย มีเส้นๆตรงคอจริงๆ และขนขึ้นเยอะจริง) 3. อ้วน (อันนี้ก็ยอมรับค่ะ 555) เพราะค่า BMI เกิน 25
เรา: แล้วมันเป็นอาการนี้ได้ยังไงคะ?
หมอเริ่มอธิบายถึงการทำงานของรังไข่ การตกไข่ การผลิตฮอร์โมน และการทำงานของระบบสืบพันธุ์ แต่สรุปคือ ประมาณว่า ในรังไข่จะมีถุงไข่เล็กๆเต็มไปหมด แต่ว่าไม่มีถุงไหนเลยที่จะเจริญเติบโตจนถึงตกไข่ได้ ทำไมไม่มีไข่ตกนั่นเอง พอไม่มีไข่ตก ก็จะไม่มีประจำเดือน
เรา: แต่ช่วงกรกฎาคม ประจำเดือนมาอยู่นะคะ
หมอ: นั่นไม่ใช่ประจำเดือนที่เกิดจากการตกไข่ แต่มันคือเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมา (เราก็ทำหน้างงๆ)
หมอเลยอธิบายซ้ำอีกรอบ (เราไปหาอ่านเพิ่มเรื่องฮอร์โมนมา เพราะจำชื่อไม่ได้) ได้ความว่า ก่อนไข่ตก รังไข่จะสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้มดลูกหนาตัว พอไข่ตก ก็จะเปลี่ยนมาสร้างโปรเจสเตอโรนเพื่อให้มดลูกที่หนาขึ้นพร้อมสำหรับฝังตัวอ่อน ถ้าไม่ท้อง ก็จะสลายเป็นประจำเดือน แต่พอไม่มีไข่ตก รังไข่เลยไม่สร้างโปรเจสเตอโรน สร้างแต่เอสโตรเจนเรื่อยๆ มดลูกก็จะหนาเลยๆ ถ้าระดับเอสโตรเจนขึ้นๆลงๆ ก็จะทำให้เยื่อบุหลุดออกมาเป็นช่วงๆ ทำให้มีลักษณะเลือดออกกะปริดกะปรอยไม่แน่นอน
เรา: อ๋อ ค่ะ แล้ววิธีการรักษาต้องทำยังไงคะ?
หมอ: เราอยากมีลูกมั้ย?
เรา: ไม่ค่ะ
หมอ: โอเค เพราะคนที่เป็นกลุ่มนี้ จะมีลูกยาก แต่ในกรณีที่ไม่ต้องการมีลูก หมอแนะนำให้กินยาให้ประจำเดือนมา หรือจะกินยาคุมก็ได้ และลดน้ำหนัก
เรา: ยาคุมต้องกินไปตลอดเลยมั้ยคะ?
หมอ: แล้วแต่เรานะ จะมี 2 แบบคือ ถ้ากินยาคุมทุกเดือน สิ่งที่จะได้คือ หน้าใส ไม่มีสิว แต่ถ้าไม่อยากกินยาตลอด ก็เลือกกินยาที่ทำให้ประจำเดือนมา สมมติประจำเดือนไม่มา 3 เดือน ก็กินยานี้เลย ห้ามรอเกิน 3 เดือนนะ เพราะว่าการที่มดลูกมันหนาตัวมากๆ จะเสี่ยงเป็นมะเร็งมดลูกได้ ดังนั้นห้ามเกิน 3 เดือน
เรา: อ๋อ ค่ะ แล้วน้ำหนักต้องลดเยอะมั้ยคะ?
หมอ: (นั่งคำนวณ BMI ให้) น่าจะต้องลดเหลือประมาณ 50-55 กิโลนะ (ในใจคือ ตายแล้วววว นั่นมันเกือบ 20 โล) ควรต้องให้ค่า BMI อยู่ระหว่างซัก 20-22 นะ แต่ในช่วง 6 เดือนแรกนี้ หมออยากให้ลดได้ซัก 4-6 โลก่อนนะ
เรา: แสดงสีหน้าตกใจและหนักใจ 555
หมอ: ที่หมอให้ลดน้ำหนัก ก็เพราะว่า คนที่เป็นกลุ่มอาการนี้ เสี่ยงเป็นเบาหวานได้ง่ายกว่าคนทั่วไปนะ ถ้าอายุ 35 แล้ว ให้รีบมาตรวจเบาหวานเลยนะ (เราอายุ 29 ปี)
เรา: ทำไมถึงเสี่ยงเป็นง่ายคะ?
หมอ: โดยปกติ คนกลุ่มอาการนี้มักจะตรวจเจอระดับอินซูลินสูงกว่าปกตินะ ดังนั้นอายุ 35 ต้องมาตรวจเลยนะ ถ้าเป็นเบาหวานแล้ว จะนำพาโรคอื่นมาด้วย
เรา: ค่ะ แล้วหนูจะหายเป็นปกติมั้ยคะ?
หมอ: มันจะดีขึ้น แต่ไม่หายขาดนะ ทำใจยอมรับมัน และดูแลตัวเองให้ดี
เรา: -*-
หมอ: เดี๋ยวหมอจะจ่ายยาให้ 2 ตัวนะ เป็นตัวที่ทำให้ประจำเดือนมา กิน7วัน หลังจากกินเม็ดสุดท้าย นับไปอีก 7 วัน ประจำเดือนต้องมาล่ะ ถ้ายังไม่มา ให้กลับมาหาหมอ หมอจะให้ตรวจไทรอยและต่อมใต้สมองเพิ่ม ถ้าตรวจแล้วปกติ หมอก็จะสั่งยาตัวใหม่ให้ ส่วนยาคุม ให้เริ่มกินตอนประจำเดือนมา ถ้าอยากกินยาคุมต่อไปอีก ก็ไปซื้อเองได้ กิน 21 วัน เว้น 7 วันแล้วเริ่มกินใหม่ ไม่ต้องสนว่าประจำเดือนมาหรือไม่มา
เรา: ได้ค่ะ
หมอ: มีคำถามอีกมั้ย?
เรา: ไม่มีค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ
หมอ: ถ้าในอนาคตอยากมีลูก ก็มาปรึกษาหมออีกทีนะ
เรา: ค่ะ
จากนั้นเราก็ออกจากห้องหมอค่ะ ก่อนจะออก หมอก็ยังย้ำอีกว่า ถ้าอายุ 35 ให้มาตรวจเบาหวานนะ
จริงๆ หมอถามละเอียดมากกว่านี้ค่ะ แต่เราจำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เพราะคุยนานมาก ความรู้สึกเราหลังจากเจอหมอ มันบอกไม่ถูกว่าดีใจหรือหนักใจ 555 ดีใจที่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แต่ก็หนักใจที่ว่าไม่สามารถรักษาให้หายขาด และยังเสี่ยงกับการเป็นโรคน่ากลัวอื่นๆ แต่สุดท้ายเราก็ปลอบตัวเองว่า อย่างน้อยก็มีวิธีป้องกันความเสี่ยงได้อยู่ ต้องดูแลตัวเองดีๆ
สุดท้ายนี้ เราหวังว่า เรื่องราวที่เราแชร์จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ ใครที่มีอาการคล้ายเรา แล้วยังไม่ไปหาหมอ เราแนะนำให้ไปหาหมอค่ะ
ปล. ไว้เราจะมาอัพเดตนะคะว่า ผ่านไป7วันหลังกินยาตัวแรกครบแล้ว ประจำเดือนจะมามั้ย หรือเราต้องได้ไปตรวจเพิ่ม
*** ขอคำแนะนำ**
1. เราอยากรู้ว่า อายุ 29 สามารถไปตรวจเบาหวานได้เลยมั้ยคะ เนื่องจากเราอยากรู้ระดับอินซูลินไว้ก่อนค่ะ
2. ถ้ามีใครเป็นอาการแบบเดียวกัน และได้กินยาคุมมาระยะหนึ่งแล้ว เราอยากรู้ว่า พอกินยาคุมทุกเดือน ประจำเดือนจะมาปกติทุกเดือนมั้ยคะ หรือว่ามาบ้างไม่มาบ้าง
ขอบคุณทุกคนค่า^^^^^