มีปัญหาอยากให้แฟนช่วยคิดแต่แฟนกลับชวนไปบูชาพระ

เริ่มต้นเรื่องเลยนะคะ คือ ดิฉัน ปกติขายของอยู่แล้วคะ  แต่ไม่มีหน้าร้าน และขายดีมากก็เลยคิดอยากจะเปิดร้าน  แล้วแฟนของดิฉันก็ทีเพื่อน ที่เปิดร้านอยู่แล้วเค้าเลยมาชวนหุ้นแบ่งร้านกันขายของคะ คือแฟนก็ปรึกษาอะไรก็ไม่ค่อยเวิร์คอยู่แล้ว  เราก็โอเคเนาะเห็ยเป็นเพื่อนแฟน  ก็เลยตกลงไปคะ แล้วพอถึงเวลาเริ่มขาย ก็ขายไม่ค่อยดีคะ เริ่มเสียเวลากับจุดนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มีเวลาไปดูแลลูกค้าที่เค้าสั่งซื้อออนไลน์ ตอนที่เราไม่มีหน้าร้านเพราะเราต้องมาขายหน้าร้าน เย็นยันเช้า และก็ไม่อยู่บ้าน และหน้าร้านพอเราไปเห็นสินค้าที่เราขายนั้นดูไม่เป็นที่ต้องการกับคนที่เดินแถวนั้นด้วย  ก้จะมีขายได้อยุ่อย่างสองอย่าง เพื่อนของแฟนก็บอกให้เราเอาแบบที่ขายได้มาลงเพิ่ม. นับวันไป เราก่เข้าทุนเสียเวลา เสียเงิน เริ่มแย่ แต่ต้องจ่ายค่าเช่าเราก้เริ่มเครียดคะ เราเริ่มไม่อนากจ่ายค่าเช่าเพราะเราขายไม่ได้ แต่คนที่หุ้นกันขายได้คะ เราเลยจึงคุยพุดกับเค้าไปตรงๆ เค้าไม่สนใจคะจะให้เรารับผิดชอบจ่ายทั้งหมด (ตั้งแต่เราตกลงหุ้นกับเค้าคือเราไม่เคยเห็นสัญญาหรือเซ็น หรือ มีบัตรประชาชนเอกสารที่เกี่ยวกับเราเช่า) 
เราจึงไปปรึกษาแฟนเรื่องนี้ เพราะเรามองแล้วว่า เราเป็นคนเสียเงินค่าเช่า ค่ามัดจำในราคานี้ แต่พื้นที่ โดยรวมแล้ว มันไม่น่าจะราคานี้ อีกอย่างเราไม่เคยได้รับเอกสาร หรือเซ็นอะไรเลย มีแต่เพื่อนเค้าไปจัดการ ตอนแรกทางนั้นก็ไม่ยอมบอกมีสัญญาจะให้เราเสียเป็นปีๆจะขายไม่ขาย ข้อสรุป ที่ได้คือแฟนไม่คิด หรือพุดกับเพื่อนแฟนให้เลยคะ แต่มาพุดปลอบใจเรา ให้ว่าไปเช่าพระ ... กันไหม  แบบนี้เราควรคบต่อไหมคะ 
ตอนนี้ ปัญหาเราจบแล้วด้วยการที่เราต้องกลับไปปรึกษาที่บ้าน ว่าควรพุดยังไง เพราะท้าวความเรารุ้หมดแล้วว่า เรื่องมันเป็นยังไงแต่เราไม่มีวิธีพูด ที่วอฟ เพื่อให้จบแบบสวยงามคะ สุดท้ายก็คือ แล้วเสียแค่มัดจำ กับล่วงหน้า คิดง่ายๆก็เหมือนห้องเช่าถ้าไม่มีจ่ายก็โดนยึดมัดจำ จนตอนนี้มาถึงปัญหาของเค้า เรารอที่จะช่วยแก้ หาทางออกให้เค้าคิดออกเสมอแต่เค้าก็ชอบเบี่ยง ไปทางตัวเอง เข้าใจนะว่ามีความคิดเป็นของตัวเอง แล้วพอเบี่ยง ตัวเองแล้วไปไม่รอดโทษฟ้าโทษดิน แล้วก็ไปหาเช่าพระอีกละเราก็เริ่มรุ้สึกไม่โอเคละคะ อีกใจก็สงสาร เป็นเพื่อนๆคิดว่ายังไงบ้างคะ